Welcome to Duxky Cafe!
Group Blog
 
All blogs
 

Umizaru Evolution

ได้ดูเรื่องนี้แล้ว รู้สึกชอบตรงที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ ของคนที่ปฏิบัติหน้าที่ หรือทำงานในหน้าที่ ที่ช่วยเหลือผู้คน ได้เห็นถึงความรับผิดชอบและความเป็น Gentleman ของผู้ชายเหล่านี้ จะว่าไป ทุกหน้าที่ ต่างก็มีความสำคัญแตกต่างกันออกไป น่าจะมีคนทำละครไทยแบบนี้บ้าง สะท้อนให้เห้นถึงคนในอาชีพต่างๆ...



UMIZARU คืออะไร....
ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึง “ลิงทะเล”
ในที่นี้หมายถึงคนหนุ่มที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยกู้ภัยทางน้ำชายฝั่งทะเลประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างทรหดแสนสาหัสไม่น้อยกว่า 2 เดือนเพื่อมาเป็นนักดำน้ำกู้ชีพ .... มีเพียง 1 ใน 100 เท่านั้นที่สามารถผ่านการสอบเป็นนักดำน้ำกู้ชีพ...นี่คือเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นที่จะมาสร้างความประทับใจกับทั้งชีวิตในหน้าที่และชีวิตส่วนตัวของพวกเขา.....ความภาคภูมิใจที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน




ละครเรื่องนี้สร้างจากการ์ตูน และได้รับความนิยมมาแล้วจาก version ภาพยนตร์ โดยมี Hideaki Ito เป็นนักแสดงนำเช่นกัน

และนี่เป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกของญี่ปุ่นที่มีการลงทุนสูงอีกทั้งการถ่ายทำด้วยเทคนิคที่เหมือนภาพยนตร์ ตลอดจน Effect ต่างๆ โดยเฉพาะฉากที่ต้องถ่ายทำใต้น้ำนั้นสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี version ที่เป็นละครสามารถบรรยายเรื่องราวต่างๆและมีรายละเอียดมากกว่า version ภาพยนตร์ซึ่งสร้างความประทับใจและความยิ่งใหญ่ได้มากกว่า



Ito Hideaki as Senzaki Daisuke
Kato Ai as Izawa Kanna
Nakamura Toru as Ikezawa Masaki
Sato Ryuta as Yoshioka Tetsuya
Sato Hitomi as Komori Chika
Suzuki Kazuma as Fuyushiba Kosuke
Ibu Masato as Higo Daisaku
Tokito Saburo as Shimokawa Iwao












หนุ่มหล่อ Daisuke เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยกู้ภัยทางน้ำ ที่ถูกย้ายไปประจำการที่เรือ NAGARE ที่ท่าเรือ Yokohama โดยได้รับการมอบหมายให้เป็นหนึ่งในเจ้าที่ดำน้ำกู้ภัย ซึ่งเขาตื่นเต้นและดีใจมากกับการไปประจำการที่นี่เพราะเขาจะได้อยู่ใกล้กับ “แฟนสาว” ( ซึ่งเขาเหมาเอาเองว่าเป็น) Kanna เป็น fashion designer ที่ทำงานอยู่ที่โตเกียว เธอไม่ได้คิดว่า Daisuke เป็นแฟนแต่เห็นเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนเพราะเธอมีคนที่แอบชอบอยู่เป็นหัวหน้าของเธอนั่นเอง ดังนั้นเธอจึงรำคาญกับ Daisuke และคอยเลี่ยงเขาตลอดเวลา
โลกของเธอและเขาต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะ Daisuke ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนอื่น ทุกๆวันพวกเขาต้องปฏิบัติหน้าและทำงานกันเป็น team work เพื่อช่วยชีวิตทุกชีวิตและแม้กระทั่งคู่หูของพวกเขาเอง พวกเขาต้องรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อให้ภารกิจแต่ละครั้งบรรลุไปด้วยดี
คู่หูของ Daisuke คือ Ikezawa เขาเป็นคนหัวแข็งและกร้าว เป้นคนที่มีความสามารถและประวัติการทำงานดีมาตลอด เขาจึงไม่สนใจกับการมีคู่หู เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเองสูงและคิดว่าเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไม่จะเป็นต้องให้คนอย่าง Daisuke มาช่วย
ทั้งคู่ต่างต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันในการเป็น “คู่หู” กันและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด











 

Create Date : 13 ธันวาคม 2549    
Last Update : 13 ธันวาคม 2549 19:23:40 น.
Counter : 1834 Pageviews.  

Top Caster * สุดยอดนักข่าวสาว

… “เราไม่ต้องการข่าวที่สวยงามเป็นเหมือนสินค้าวางโชว์อยู่ตามตู้ Display, เพราะข่าวเปรียบเสมือน ขุมสมบัติที่ไร้แผนที่ ไม่มีใครรู้ว่าซ่อนอยู่ตรงไหน ซึ่งเราต้องค้นหา”...





นี่เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วชอบเพราะได้ข้อคิดและมุมมองในการทำงานค่ะ ถ้าใครได้ดูเรื่อง News No Onna หรือ Beauty or Beast ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ค่ะ เป็นเรื่องของผู้หญิงแกร่ง ทำงานเก่ง






Producer บอกว่า
นี่เป็นเรื่องราวของทีมงานและเบื้องหลังการทำข่าว ซึ่งเราจะได้เห็นชีวิตของ “คนข่าว” ทั้งในบทบาทการทำงานและเรื่องส่วนตัวของพวกเขาที่ถูกถ่ายทอกออกมาอย่างสนุกสนาน น่าสนใจ
นักแสดงทุกคนที่มาสวมบทบาทต่างก็เป็นที่รุ้จักกันดี ซึ่งทุกท่านต่างก็สวมบทบาทได้อย่างสมจริงที่สุด
ส่วน Script Writer คือคนที่เขียนเรื่องล่าสุด Saiyuki (ไซอิ๋ว) ที่ได้ให้รายละเอียดอย่างน่าทึ่ง และอยากให้ผู้ชมได้สัมผัสความสนุกสนานจากเรื่องนี้…

และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่สดใสในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อยากให้เป็นเพลงที่สนุกสนาน... positive taste และเสียงร้องที่ไพเราะ จึงได้ขอให้ Sowelu ที่กำลังเป็นที่จับตาในวงการเพลงเป็นผู้รับผิดชอบในการทำเพลงประกอบเรื่องนี้ โดยมี Theme ให้คือ “มิตรภาพของผู้หญิง”
ซึ่ง Sowelu ได้กล่าวว่าเธอได้เขียนเพลงที่เกี่ยวกับความผูกพันและมิตรภาพระหว่างเพื่อนหญิงด้วยกัน ซึ่งหลังจากที่เขียนแล้วมาอ่านดู ก็รู้สึกเหมือนเป็นจดหมายถึงเพื่อนเลยตั้งชื่อเพลงว่า Dear Friend…



Haruka Tsubaki เคยเป็นนักข่าวที่มีชื่อเสียงมาก เรียกว่าเป็นตำนานแห่งการทำสกู๊ปข่าวทีเดียว ทว่าด้วยการทำสกู๊ปข่าวหนึ่งที่มีผลกระทบทำให้เธอต้องถูกปลดจากรายการนั้น และไปทำงานเป็นนักข่างอิสระที่อเมริกา
Haruka นักข่าวสาวระดับหัวกะทิของวงการ ถูกเรียกตัวจาก CNB TV จึงต้องบินจาก New York กลับมา Tokyo เพื่อมารับหน้าที่เป็นผู้ประกาศหลักข่าวภาคค่ำของ CNB TV อีกครั้ง
Katsutoshi Shibata, ผู้อำนวยการอาวุโสคือคนที่เชิญ Haruka กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งและบอกว่าให้ทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา และเสนอตัวที่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เธอทำทั้งหมด
เมื่อเธอก้าวย่างกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ว่าจะเป็น Producer, Shokichi Ichiba… Director, Kensuke Kanihara หรือแม้แต่ผู้ประกาศสาวหน้าใมห่อย่าง Mei Nohara และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็ต่างเกรงต่อเจ้าแม่ตำนานคนนี้
เธอปฏิเสธการทำข่าวตามรูปแบบที่ Producer กำหนดไว้และยืนยันว่าจะทำ สกู๊ปข่าวเป็นหลักในรายการข่าวภาคค่ำใหม่นี้ท่ใช้ชื่อว่า “The News”
และที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นคือเธอเลือก Nozomi Asuka ผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศ มาเป็นผู้ช่วยของเธอ เธอบอกกับ Asuka ว่าจะทำงานกับเธอต้องอยู่กับเธอตลอด 24 ชม.และต้องปลุกเธอตอนเช้าทุกวัน
ถึงแม้ Asuka จะยังเต็มไปด้วยความสงสัย และไม่กล้าและไม่มั่นใจ แต่สถานการณ์ก็บังคับให้เธอต้องทำตามและจำต้องย้ายข้าวของไปอยู่อพาร์ทเม้นท์เดียวกับ Haruka…เรื่องราวการทำงานของ 2 สาวจึงเริ่มขึ้นจากตรงนี้...





Cast
Yuki Amami แสดงเป็น Haruka Tsubaki
Akiko Yada แสดงเป็น Nozomi Asuka
Hiroshi Tamaki แสดงเป็น Kensuke Kanihara
Shosuke Tanihara แสดงเป็น Masato Yuuki
Nao Matsushita แสดงเป็น Mei Nohara
Shota Matsuda แสดงเป็น Shunpei Iga
Kiyoshi Kodama แสดงเป็น Katsutoshi Shibata
Risa Sudo แสดงเป็น Rieko Konna
Kenichi Yajima แสดงเป็น Takao Kakutaka
Katsuhisa Namase แสดงเป็น Shokichi Ishiba





























 

Create Date : 08 ธันวาคม 2549    
Last Update : 8 ธันวาคม 2549 9:10:01 น.
Counter : 1603 Pageviews.  

ประโยคซึ้งใจใน *1 Litre of Tears*

หลังจากที่ดูเรื่องนี้จบด้วยความซึ้งใจ
พร้อมกับน้ำตาที่หมดไปหลายลิตร...
พบว่ามีประโยคที่ซาบซึ้งใจอยู่หลายประโยค
เลยอยากรวบรวมและแปลมาให้ได้อ่านกันค่ะ


Impression phrases in each episode of
“1 Litre of Tears”



Eps#1
Aya
“หากเปรียบชีวิตฉันเช่นดอกไม้ที่กำลังรอวันเบ่งบาน
ฉันไม่อยากต้องเสียใจ
และจะให้ความสำคัญกับช่วงชีวิตวัยรุ่นที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น”


Haruto
“ไม่ว่าจะสัตว์ หรือต้นไม้ มันต่างก็รู้ว่ามีช่วงชีวิตของมันเอง
แต่มนุษย์นี่ซิ..กลับโลภมากและโหยหาการที่จะยืดเวลาชีวิตของตัวเอง...”


Eps#2
“แม่คะ...
แม่ที่คอยเชื่อใจหนู อยู่ในใจของหนูตลอด
ต่อจากนี้...ขอความกรุณาด้วยนะคะ...
ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วงบ่อยๆ...”

Eps#3
“บางครั้ง...รู้สึกเหมือนว่าร่างกายของฉันมันไม่ใช่ของฉันยังไงก็ไม่รู้
ฉันจะเป็นยังไงต่อไปนะ....”

“ทำไม..โรคนี้ถึงเลือกฉันนะ...
ฉันรับไม่ได้หรอก กับคำว่า *โชคชะตา* ...”



Eps#4
“ทั้งๆที่ก็รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์เดิมๆ
กับถนนเดิมๆที่เคยผ่านเหมือนเมื่อวาน
แต่โลกของฉันมันกลับเปลี่ยนแปลงไป
ฉันคงหัวเราะไม่ได้เหมือนเดิม
ตัวฉันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้
คงไม่มีอีกต่อไปแล้ว”


Eps#5
Aya มองขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยมี Haruto ยืนอยู่ข้างๆ
เมฆสีขาวที่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปบนท้องฟ้าอันสดใส...
“ฉันจะไม่พูดว่า อยากกลับไปเป็นเหมือนวันเก่าๆอีก...
ฉันจะยอมรับในความเป็นตัวเองและใช้ชีวิตต่อไป”


Eps#6
“ฤดูหนาวค่อยๆย่างก้าวเข้ามาแล้ว
ฉันเองก็อยากจะวิ่งให้ร่างกายอบอุ่นบ้าง
ทว่า...ตอนนี้กลับเดินยากขึ้นกว่าเดิมทีละนิด
แต่ถึงแม้จะไม่สามารถวิ่งได้อย่างเต็มที่ก็ตาม...
และถึงแม้จะเดินได้เพียงช้าๆก็ตาม...
ฉันก็คิดว่าจะต้องมีอะไรสักอย่างที่ฉันทำได้...”


“ก็มีบ้างที่รู้สึกเจ็บกับสายตาที่ไร้ซึ่งหัวใจ
แต่ขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ว่ายังคงมีสายตาที่ห่วงใยกันอยู่บ้างเหมือนกัน”




Eps#7
ย่างเข้าปีใหม่แล้ว
แต่ฉันกลับกลายเป็นต้องให้คนคอยช่วยเหลือมากกว่าเดิม
แต่ว่า ถึงแม้จะต้องเปลี่ยนมานั่งรถเข็นก็ตาม
เพื่อนๆก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย...
“เพื่อน” นี่ดีจัง...อยากอยู่กับเพื่อนๆตลอดไป....
ฉันชอบเสียงลูกบาสเวลาที่ดังก้องโรงยิม...
ชอบความเงียบที่กลับสู่ห้องเรียนอีกครั้งเวลาเลิกเรียน...
ชอบทิวทัศน์ที่มองออกมานอกหน้าต่าง...
ชอบเสียงเอี๊ยดอ๊าดบนพื้นทางเดินหน้าห้อง...
ชอบเสียงพูดคุยใน Homeroom ...ชอบทั้งหมด...
ฉันอาจจะสร้างความเดือดร้อนบ้าง
อาจจะไม่สามารถเป็นประโยชน์กับคนอื่นเท่าไหร่
ถึงกระนั้นฉันก็ยังอยากอยู่ที่นี่...
ก็เพราะว่า..ที่นี่เป็นที่ที่ฉันอยู่




Eps#8
“คิดว่าบางคนคงพอจะรู้แล้ว
ว่าโรคที่ฉันเป็นน่ะไม่สามารถหายได้
เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีทางรักษา
คุณหมอบอกว่าสักวัน ก็จะเริ่มเดินไม่ได้...ยืนไม่ได้ และพูดไม่ได้
ในช่วงเวลา 1 ปีมันค่อยๆทำไม่ได้ทีละอย่าง
ในความฝัน..ฉันเดินไปคุยไปกับเพื่อนๆไป..ฉันเล่นบาสเก็ตบอล
และทั้งๆที่วิ่งได้ดั่งใจคิด แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาบนความจริง
กลับพบกับร่างกายที่ขยับเขยื้อไม่ได้ดังที่คิด
ทุกๆวันของฉันมันเปลี่ยนไป
ฉันคิดว่าจะเดินยังไงไม่ให้ล้ม...ทำยังไงจะทานอาหารได้เร็วๆ
ทำยังไงไม่ให้เป็นที่สะดุดสายตาคนอื่น ฉันต้องอยู่อย่างค่อยๆคิดค่อยๆทำ
สิ่งที่วาดไว้ไม่ว่าจะการเรียนมัธยม..เข้ามหาวิทยาลัย..หรือไปทำงาน อนาคตที่วาดไว้ทั้งหมดเหลือเพียงแค่ศูนย์
ฉันมองไม่เห็นหนทางที่จะเดินต่อไป ...แสงสว่างแห่งความหวังกลับเลือนลาง
บ่อยครั้งที่ฉันคิดว่าเป็นเพราะโรคร้ายนี้ทำให้ชีวิตฉันต้องพังลง......



แต่ว่า..แต่ว่า ถึงจะเศร้าแค่ไหนแต่มันก็เป็นเรื่องจริง
ไม่ว่าจะร้องไห้แค่ไหน มันก็ไม่สามารถหนีไปจากโรคนี้ได้
ไม่ว่าอยากจะย้อนอดีตแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาเวลานั้นกลับคืนมาได้
เพราะฉะนั้น ฉันจึงคิดว่าจะต้องรักตัวเองในแบบที่เป็นตอนนี้ให้ได้
ก็พอร่างกายเป็นแบบนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง
เช่นความรู้สึกซาบซึ้งที่มีครอบครัวคอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอ
มือของเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือนั้นช่างอบอุ่นเหลือเกิน
การมีสุขภาพที่ดีนั้นช่างเป็นเรื่องน่ายินดีแค่ไหน
และรู้ว่าการเจ็บป่วยก็ไม่ได้นำมาซึ่งความสูญเสียแต่เพียงอย่างเดียว
และไม่เพียงแต่ร่างกายของฉัน แม้แต่ฉันเองก็แบกรับคำว่า “อุปสรรค”เอาไว้
แต่มันก็คือตัวฉัน
ฉันคิดว่าอยากจะยืดอกและใช้ชีวิตต่อไป
เพราะฉะนั้น ฉันจึงตัดสินใจเองที่จะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนคนพิการ
ถึงแม้ฉันจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างที่จากพวกเธอ
แต่ว่าฉันจะแสวงหาแสงสว่างเพื่อค่อยๆเดินไปตามทางที่ฉันเป็นคนเลือกเอง
และกว่าจะถึงวันที่ฉันสามารถยิ้มรับและพูดออกมาได้
ก็เสีย “น้ำตาหนึ่งลิตร” เป็นอย่างน้อย...
แต่ถึงแม้ว่าฉันจะต้องจากโรงเรียนนี้ไป
ฉันจะไม่คิดเด็ดขาดว่านี่คือจุดจบ...
ฉันขอบคุณทุกคนมากที่ดีกับฉันมาตลอด ขอบคุณจริงๆ”







Eps#9
Haruto : งั้นให้ฉันพูดความรู้สึกของฉันได้มั๊ย...
ฉันม่รู้หรอกนะว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ว่าถ้าพูดถึงความรู้สึกในตอนนี้ล่ะก็
ฉันรับรองได้ 100% ว่าไม่โกหกแน่ ฉันมั่นใจที่จะพูดออกมา
ฉันน่ะ...หากเธอต้องการจะพูดแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะช้าแค่ไหนฉันก็จะรอฟัง
หากแม้ไม่สามารถพูดทางโทรศัพท์ได้..ฉันก็จะมาหาเธอที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้
ฉันไม่ใช่ปลาโลมา เธอเองก็ไม่ใช่ (ที่จะได้ยินกันแม้จะอยู่ไกล)
หากเธอจะเดิน..ไม่ว่าจะช้าแค่ไหน ฉันก็จะเดินไปพร้อมๆกับเธอ
ถึงแม้ง่าตอนนี้ฉันอาจจะไม่สามารถให้เธอพึ่งพาได้
แต่สักวัน ฉันอยากจะเป็นคนที่มีความหมายสำหรับเธอบ้าง
ไม่จำเป็นต้องเหมือนเมื่อก่อน...เพราะเราสามารถเชื่อมถึงกันได้ด้วยความรู้สึก
ฉันไม่ได้คิดว่าเราอยู่กันคนละโลก
ฉัน...คงจะ...ชอบเธอ...ล่ะมั๊ง...
บางที...คงเป็นเพราะชอบเธอล่ะมั๊ง....

Aya ตอบพลางน้ำตาร่วงด้วยความดีใจ : ขอบคุณนะ....




Eps#9
“หยุดก้าวเดิน แล้วใช้ชีวิตต่อไป...
ถึงแม้ว่าวันนึงจะไม่เหลืออะไร
ความฝันที่ต้องตัดใจไป ก็มอบให้ใครสักคนต่อก็ได้นี่นา...
คนเราน่ะ..อย่ายึดติดกับชีวิตที่ผิดพลั้งในอดีต
แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ”


Eps#10
“ถึง Aso Kun
หากต้องอยู่ตรงหน้า ฉันคงไม่สามารถพูดได้ทั้งหมดจึงได้เขียนจดหมายแทน
ขอบคุณนะ ที่คอยอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด
และขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้ฉันมาตลอด
ฉันรูสึกดีใจมาก ที่ได้เห็นเธอค้นพบความฝันของตัวเอง
และเห็นเธอส่องสว่างสดใส
ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย ได้พบคนหลากหลาย
เธอจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อจากนี้ไปอีกนานเท่านาน
อนาคตของเธอมันไม่มีที่สิ้นสุด
ทว่า สำหรับฉันมันไม่ใช่
อนาคตที่เหลือไว้สำหรับฉัน...
คือต้องทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป
เพียงเท่านั้นเอง
ความแตกต่างตรงนี้มันช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ
ฉันต่อสู้กับตัวเองทุกๆวัน
ทั้งกังวล และทรมาน
และเพียงแค่ต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ ก็เกินกำลังแล้ว...




ฉันบอกตามตรงว่า
เวลาอยู่กับ Aso Kun ฉันทรมาน
เพราะฉันจะอยากทำโน่น และอยากทำนี่
และอดคิดไม่ได้ว่าหากเพียงฉันแข็งแรงฉันคงทำได้ไปแล้ว
เวลาอยู่กับ Aso Kun ฉันอดวาดฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงไม่ได้
แน่นอน นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก
แต่ว่า มันอดอิจฉา และอดเสียใจไม่ได้
มันช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมา
หากเป็นเช่นนั้นฉันคงไม่สามารถเงยหน้าสู้ชีวิตต่อไปได้อีกแน่
ขอบคุณนะ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ขอบคุณนะที่บอกว่าชอบฉัน ทั้งๆที่ฉันเป็นแบบนี้
และขอโทษนะที่ฉันไม่สามารถตอบแทนอะไรเธอได้เลย
ฉัน...คงพบเธอไม่ได้อีกแล้ว”




Eps#11
“แม่ไม่ได้มีโอกาสเจอลูกมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว....
อายะ..ลูกเดินอยู่รึเปล่า...ลูกทานข้าวได้รึเปล่า...
ลูกหัวเราะเสียงดังได้ไหม และพูดคุยได้รึเปล่า...ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้อยู่ข้างๆลูก ลูกสามารถยืนหยัดอยู่ได้ใช่มั๊ยจ๊ะ...แม่เอง...เพียงแค่...เป็นห่วงลูกมากจนไม่เป็นอันทำอะไร
ลูกเคยถามแม่ว่า... “ทำไมโรคร้ายถึงเลือกหนู”... “หนูมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร”....
ลูกทรมาน ทรมานจนร้องไห้และสงสัยว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่...แม่เองก็คิดมาจนถึงทุกวันนี้...และยังใช้ชีวิตอยู่อย่างหาคำตอบไม่ได้...



แต่ว่า Aya จ๊ะ...
เป็นเพราะลูกทำให้ใครหลายคนได้ระลึกถึงการมีชีวิตอยู่
และทำให้พวกเขาคิดได้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในทุกๆวันนั้นมันช่างมีความสุข และมันช่างเป็นความอบอุ่นซะเหลือเกิน และรู้สึกได้ถึงความมีน้ำใจของคนที่อยู่ข้างๆ
และคนที่ทรมานเพราะโรคนี้ ก็คิดได้ว่าเข้าใจว่าแท้ที่จริงเขาไม่ใช่ตัวคนเดียวในโลกนี้เลย
หยาดน้ำตาที่ลูกเสียไปมากมาย กลายเป็นคำพูดที่สามารถสื่อถึงใจหลายๆคนทีเดียว
Aya จ๊ะ...หวังว่าอยู่ที่นั่นลูกคงไม่ร้องไห้แล้วนะ
แม่อยากจะเห็นรอยยิ้มของลูกอีกสักครั้งจัง...”









 

Create Date : 05 ธันวาคม 2549    
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 16:09:45 น.
Counter : 3868 Pageviews.  

Saiyuki * พลิกตำนานไซอิ๋ว eps#1

“ ตอน เมืองอัคนี ”

…




เด็กชายหญิงสองคนถูกปิศาจนก“เก็นโยขุไดโอ”(แสดงโดยนักแสดงรับเชิญ Takuya Kimura)
จับไว้ที่ปราสาท และขณะที่ปิศาจกำลังจะกินเด็ก ก็มีเสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋ง…



คนที่เข้ามา ขัดจังหวะคือ ซึง หงอ คง (Shingo Katori) ซัวเจ๋ง (Teruyoshi Uchimura) ตือโป๊ยก่าย (Atsushi Itoh) และพระถังซำจั๋ง (Eri Fukatsu) เจ้าของเสียงกระดิ่งซึ่งติดอยู่กับไม้เท้า หงองเข้าต่อสู้กับเก็นโยขุ ไดโอ…




เรื่องนี้เกิดขึ้นในยุคที่มังกรยังบินอยู่บนฟ้า พระถังซำจั๋งออกเดินทางไปยังชมพูทวีป เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกที่จะนำสันติสุขมาสู่โลก มีผู้ติดตามทั้งสาม คือซัวเจ๋ง โป๊ยก่าย และหงอคง ลิงจอมอาละวาด หลังจากที่หงอคงได้เป็นผู้ติดตามพระถังซำจั๋งได้ไม่นาน ทุกคนกำลังหิวโหย และเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ไปถึงเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกไฟไหม้ดำเกรียมไปหมด ทุกคนกำลังตกใจกับสภาพของตัวเมือง ก็มีเจ้าสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และมีผู้ชายคนหนึ่งตามมาจับตัวเธอ ในขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น พ่อของเจ้าสาวก็เข้ามา เขาคือจินทัง ซึ่งเคยป็นอาจารย์ของพระถังซำจั๋ง ทุกคนได้รับเชิญไปที่วัดของจินทัง ในขณะที่หงอคง โป๊ยก่าย ซัวเจ๋งกำลัง กินอาหาร พระถังซำจั๋งก็สังเกตเห็นความผิดปรกติของสองพ่อลูก จึงสอบ
ถาม และได้รู้ว่าผู้ที่เผาเมืองคือปิศาจกิวมะโอ ซึ่งอาศัยอยู่บนภูเขาเปลวอัคนี



กิวมะโอตั้งเงื่อนไขไว้ว่า ถ้าไม่อยากให้เมืองถูกเผา ชาวเมืองต้องส่งคนไปให้บูชายัญ และในที่สุดก็ถึงคราวของลูกสาวอาจารย์จินทัง พระถังซำจั๋งตั้งใจว่าจะช่วยอาจารย์ผู้มีพระคุณจึงสัญญาว่าจะปกป้องลูกสาวของจินทัง ด้วยการวางแผนให้พระถังซำจั๋งปลอมตัวเป็นเจ้าสาว แล้วแอบเข้าไปที่ปราสาทเปลวอัคนี แต่หงอคงซึ่งรู้ตัวว่ากระบองวิเศษหายไป บังเอิญไปรู้ความลับลมคมในของพ่อลูก ในขณะที่จะไปเข้าห้องน้ำ หงอคงได้รู้ว่าจินทังไปเข้าข้างปิศาจร้ายซึ่งบอกให้เอาตัวพระถังซำจั๋งไปแลกกับความปลอดภัยของลูกสาวจินทังและตัวเมือง ในขณะที่จะไปบอกเรื่องนี้ให้พระถังซำจั๋งรู้ หงอคงก็ถูกลูกสมุนของปิศาจกิวมะโอ ตีหัวจนหมดสติไป





พระถังซำจั๋งซึ่งปลอมตัวเป็นเจ้าสาวยังไม่รู้เรื่องแผนการร้ายนี้ จึงออกเดินทางไปยังปราสาทของกิวมะโอ พร้อมกับลูกสมุนของกิวมะโอ ซัวเจ๋ง และโป๊ยก่าย เมื่อไปถึง กิวมะโอก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าสาวคือพระถังซำจั๋งที่ปลอมตัวมา และในขณะที่กิวมะโอกำลังจะเริ่มงานเลี้ยงฉลอง หงอคง ก็ปรากฏตัวขึ้น หงอคงขอให้เอาตัวพระถังซำจั๋งมาแลกกับจินทังและลูกสาว แต่กิวมะโอไม่ยอม พระถังซำจั๋งดุว่าหงอคง ซึ่งพากันหนีออกไปได้โดยปล่อยเคียวขะ ลูกสาวของ
จินทังไว้กับปิศาจร้าย

เมื่อกลับไปที่วัดของจินทัง หงอคงเล่าเรื่องที่ได้ยินมาให้พระถังซำจั๋งฟัง แต่พระถังซำจั๋งไม่เชื่อ เพราะไม่คิดว่าจินทังจะทำเช่นนั้น และถึงกับตบหน้าหงอคง หงอคงโกรธจึงฟาดไม้เท้าของพระถังซำจั๋งกับพื้น ทำให้กระดิ่งหลุดไปหนึ่งอัน พระถังซำจั๋งจึงออกปากขับไล่หงอคง หงอคงขอร้องเพราะไม่มี ที่ไป แต่พระถังซำจั๋งยืนยันหนักแน่น หงอคงจึงจำต้องจากไป และขว้างก้อนหินใส่พระถังซำจั๋ง
หงอคงวิ่งฝ่าฝนไฟไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ จึงได้พบรินรินและเล่าเรื่องที่พระถังซำจั๋งช่วยตนไว้ ทำให้รินรินเห็นใจ แต่ในขณะที่หงอคงกำลังปกป้องรินรินจากลูกไฟ ก็ได้พบกระบองวิเศษที่หายไป ทำให้รู้ว่ารินรินเข้าไปขโมยของในวัด เมื่อรินรินหนีไปแล้ว หงอคงก็กลับไปที่บ้านเดิมบนภูเขาฮวยก๊วยซัว

พระถังซำจั๋ง ซัวเจ๋ง โป๊ยก่าย และจินทัง แอบกลับไปที่ปราสาทของกิวมะโออีก และครั้งนี้ก็เป็นกับดักอีกเช่นกัน คราวนี้พระถังซำจั๋งถูกจับขังกรงไว้
ซัวเจ๋งกับโป๊ยก่ายหนีออกมาโดยสัญญาว่าจะกลับไปช่วยพระถังซำจั๋ง จินทังกับลูกสาวถูกกิวมะโอจับตัวไว้ด้วย จินทังสารภาพความจริง พระถังซำจั๋งจึงรู้ว่าหงอคงพูดถูกแล้ว

ซัวเจ๋งกับโป๊ยก่ายไปส่งข่าวเรื่องพระถังซำจั๋งถูกจับให้หงอคงรู้ที่ภูเขาฮวยก๊วยซัว แต่หงอคงยังโกรธที่พระถังซำจั๋งไม่ยอมเชื่อคำพูดของตน ซัวเจ๋งจึงวางกระดิ่งที่หงอคงทำหลุดจากไม้เท้าของอาจารย์ทิ้งไว้แล้วจากไป และบอกว่าเป็นกระดิ่งที่อาจารย์ติดไว้เพื่ออธิษฐานให้ลูกศิษย์ทั้งสามปลอดภัย

พระถังซำจั๋งซึ่งถูกคุมขังอยู่มองดูก้อนหินที่หงอคงขว้งใส่…และหงอคงก็มองดูกระดิ่งพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อพบพระถังซำจั๋งเป็นครั้งแรก ... ก่อนหน้านั้นไม่นาน หงอคงถูกฝังอยู่ในก้อนหินที่ภูเขาฮวยก๊วยซัวเป็นเวลานานถึงห้าร้อยปี และผู้ไปช่วยให้เขาออกมาสู่อิสรภาพก็คือพระถังซำจั๋ง ซึ่งให้ก้อนหินเย็น ๆ ให้หงอคง แล้วชวนออกเดินทางไปหาหัวใจที่เข้มแข็งด้วยกัน และเมื่อหงอคงสัมผัสมือที่อบอุ่นของพระถังซำจั๋ง ก้อนหินที่ฝังเขาไว้ก็แตกออก ทำให้หงอคงได้รับอิสรภาพ เขาได้พบกับเพื่อนใหม่คือซัวเจ๋งและโป๊ยก่ายด้วย

หงอคงเรียกเมฆวิเศษมารับและรับออกไปช่วยพระถังซำจั๋ง ซึ่งกำลังคิดเสียใจ ที่ไม่เชื่อลูกศิษย์ของตน แต่กิวมะโอก็ให้ลูกน้องพาออกจากกรงขังไปที่หน้าบ่อลาว่าที่กำลังเดือดพล่าน กิวมะโอปรากฏตัวออกมาจะผลักพระถังซำจั๋งลงไปในบ่อ…แต่พระถังซำจั๋งกลับได้ยินเสียงกระซิบเรียกว่า “พระอาจารย์” ความจริงแล้วกิวมะโอตัวนี้คือหงอคงที่แปลงกายมานั่นเอง

หงอคงบอกให้พระถังซำจั๋งผลักเขาลงไปในบ่อ เพื่อเบนความสนใจของลูกสมุนกิวมะโอ แล้วให้รีบหนีไป ทีแรกพระถังซำจั๋งลังเลใจ แต่เมื่อหงอคงบอกว่า “ไม่เป็นไร” พระถังซำจั๋งจึงตัดสินใจได้

พระถังซำจั๋งผลักหงอคงที่แปลงกายเป็นกิวมะโอลงไปในบ่อ และวิ่งหนีออกไปพบซัวเจ๋งกับโป๊ยก่ายที่นอกปราสาท ลูกสมุนของกิวมะโอแตกตื่นที่เห็นนายถูกผลักตกบ่อลาว่า แต่ปรากฏว่าเจ้านายตัวจริงเพิ่งตื่นออกมา กิวมะโอจึงบอกว่าจะกินลูกสาวของจินทังแทน
พระถังซำจั๋งหนีเข้าไปที่ร้านอาหารในเมือง ด้วยความเป็นห่วงหงอคง แต่ซัวเจ๋งชี้ให้ดูตัวแมลงเล็ก ๆ ที่เกาะอยู่ที่หลังพระถังซำจั๋ง หงอคงปลอมเป็นแมลงบินหนีมาได้อย่างหวุดหวิดนั่นเอง

ที่ปราสาทของกิวมะโอ ในขณะที่เคียวขะกำลังจะถูกบูชายัญ พระถังซำจั๋งและลูกศิษย์ก็เข้ามาช่วย หงอคงเข้าต่อสู้กับลูกสมุนของกิวมะโอ โดยบอกว่าไม่สามารถให้อภัยผู้ที่ใช้ประโยชน์จากหัวใจของผู้อื่น การต่อสู้เป็นไปอย่างยาวนาน พระถังซำจั๋งไปช่วยจินทังและลูกสาวออกมาได้ ในที่สุดฝ่ายศัตรูก็เหลือแต่กิวมะโอ ซึ่งถูกหงอคงตีด้วยกระบองวิเศษล้มลงไป
และเมื่อหงอคงจะฆ่ากิวมะโอ พระถังซำจั๋งก็ห้ามไว้และสอนว่าการฆ่าคนไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องตามปรัชญาของพุทธศาสนา

เล่าจื๊อมานำตัวกิวมะโอไป จินทังขอโทษพระถังซำจั๋ง ทั้งสี่จึงออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเพื่อมุ่งสู่ชมพูทวีปต่อไป
หงอคงดีใจที่พระถังซำจั๋งรับกลับมาเป็นลูกศิษย์อีกครั้ง แต่เมื่อออกจากเมืองไม่ทันไร ก็ได้พบรินรินซึ่งเป็นหัวขโมยจึงจะไล่ทำร้าย ก่อนหน้านั้นพระถังซำจั๋งให้มงกุฏ ซึ่งซัวเจ๋งและโป๊ยก่ายหลอกให้หงอคงใส่ไว้ แต่ความจริงสิ่งนั้นเป็นเครื่องมือปราบหงอคงจอมอาละวาดให้สงบลงได้เพราะถ้าทำผิด พระถังซำจั๋งจะร่ายมนตร์ให้มงกุฏรัดหัวจนเจ็บต้องเชื่อฟัง คราวนี้ทั้งหมดคงเดินทางต่อไปอย่างสงบสุขเสียที หรือจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้าอีก....




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2549    
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2549 10:15:59 น.
Counter : 2067 Pageviews.  

Densha Otoko (Chat รักหนุ่มรถไฟ) -Finale-

Train Man # 11
Saori เข้าไปอ่านข้อความที่ Tsuyoshi เขียนถึงเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ที่ได้พบกันครั้งแรกจนถึงปัจจุบันในเวปบอร์ดหนุ่มโสดศาลาคนเศร้า ในเวปบอร์ดนั้นมีตั้งแต่เรื่องที่ Saori โดนลุงขี้เมาลวนลาม ได้ไปทานอาหารกันครั้งแรก เรื่องที่ Saori เข้าใจผิดคิดว่า Tsuyoshi ชอบเล่น Wind Surf หรือแม้แต่เรื่องที่ Tsuyoshi ช่วย Saori ไว้จาก Stalker ตอนแรก Saori ยังคงกลัวจึงไม่กล้าอ่านข้อความในเวปบอร์ด แต่หลังจากที่เพื่อนๆ ทั้ง Kaho และ Yuko ได้บอกให้ Saori ลองเข้าไปอ่านในเวปบอร์ดดู ในที่สุด Saori จึงได้ตัดสินเข้าไปดูในเวปบอร์ด หลังจากที่ Saori เข้าไปอ่าน จึงทำให้รู้ว่าคนในเวปบอร์ดมีแต่คนดีที่คอยช่วยเหลือ Tsuyoshi มาตลอด
Saori อ่านข้อความที่ Tsuyoshi เขียนไว้ตั้งแต่ประโยคแรกจนประโยคสุดท้าย ในข้อความท้าย Tsuyoshi เขียนถึงเพื่อนๆ ในเวปบอร์ดว่าหากไม่มีกำลังใจจากทุกคนในเวปบอร์ดแล้วก็จะไม่มีวันนี้ วันที่เขามีความกล้าหาญจะทลายกำแพงแห่งความรู้สึกเข้าไปหา Saori ทันทีที่ Saori ได้อ่านประโยคจึงได้รีบออกจากห้องไปทันที
ขณะเดียวกัน Tsuyoshi นั้น ก็ได้มาคอย Saori อยู่บนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นก็คือสถานที่แห่งความลับที่รู้กันเฉพาะ Tsuyoshi กับ Saori ขณะที่ Tsuyoshi กำลังรอการมาของ Saori อยู่นั้น ทั้ง Matsunaga Kawamoto และMisuzu ได้โทรเข้ามาหา แต่ Tsuyoshi ก็ปฏิเสธที่จะไปเจอคนทั้งสามอย่างช่วยไม่ได้ ขณะนั้นเอง Sakurai ได้โทรมาหลอก Tsuyoshi ว่า Saori ล้มป่วยและถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทำให้ Tsuyoshi รีบไปยังโรงพยาบาลในทันที...

ref : ITV




 

Create Date : 27 กันยายน 2549    
Last Update : 1 ตุลาคม 2549 19:31:49 น.
Counter : 553 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

duxky
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to *Duxky's World*
Friends' blogs
[Add duxky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.