Group Blog
 
All blogs
 

เคล็ดลับช่วยเผาผลาญเมื่อทานเกินลิมิต

เคล็ดลับช่วยเผาผลาญเมื่อทานเกินลิมิต




     สาวๆ ที่เป็นปาร์ตี้เกิร์ลทั้งหลาย ฟังทางนี้ให้จงดีเลยค่ะ เวลาที่คุณสาวๆต้องไปปาร์ตี้ตามบ้านเพื่อนหรือสถานที่รื่นเริงต่างๆ แน่นอนว่างานไหนงานนั้นเพื่อนสาวตัวดีเป็นต้องชวนหม่ำกันแบบทะลุจอทุกครั้ง ไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ หวังว่าเคล็ดลับนี้จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลย หลังจากที่ทานมาอย่างล้นหลาม





     ดื่มน้ำส้มคั้น เพราะวิตามินซีที่มีมากในน้ำส้มจะช่วยไปดูดซึมสารอาหารที่สำคัญ และถ้าทานทั้งผลก็จะได้เส้นใยธรรมชาติด้วย ทำให้อิ่มท้องเร็ว




     เลือกอาหารพวกธัญพืชไขมันต่ำ เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ จะช่วยย่อยช้าๆ เข้าสูร่างกายทำให้อิ่มท้องนาน




     เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ หรือจะอาศัยเวลาหลังเลิกงานไปเล่นกีฬาที่ชอบสักชั่วโมงก็จะดี เพราะการเคลื่อนไหวเร็วๆ จะสามารถเผาผลาญได้ถึง 140 ในครึ่งชั่วโมง




     ทานอาหารช้า หรือเคี้ยวให้ช้าลง เพราะการรีบทานจะทำให้ทานในปริมาณที่มากแบบไม่รู้ตัว และหลีกเลี่ยงกรทานอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือเวลากลางคืน




     เน้นทานผักผลไม้เยอะๆ โดยเฉพาะผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ เช่น ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ แตงโม แคนตาลูป เป็นต้น



     หลังจากคุณปาร์ตี้เสร็จถ้าไม่อยากให้ความอ้วนถามหาก็ปฏิบัติตามนี้ใน วันถัดๆ นะคะ ปาร์ตี้ครั้งหน้าจะได้พร้อมลุยกันอย่างไม่ต้องยั้งยังไงล่ะคะ..




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2554    
Last Update : 9 ธันวาคม 2554 10:22:27 น.
Counter : 336 Pageviews.  

ความจำแย่แก้ได้ด้วย4วิธี

ความจำแย่แก้ได้ด้วย4วิธี




     วัยที่เพิ่มขึ้นบางครั้งอาจทำให้เริ่มหลงลืม ปัญหานี้บรรเทาได้ด้วยเทคนิค 4 ข้อ แนะวัยทำงานปฏิบัติดี วัยเรียนปฏิบัติเลิศ





     วิธีแรก โฟกัสสายตา โดยนั่งจ้องวัตถุ หรือ เหตุการณ์ตรงหน้า จดจำรายละเอียดให้มากที่สุด นานประมาณ 3 นาที จากนั้น ละสายตา แล้ววาดสิ่งที่เห็นบนกระดาษ เมื่อเสร็จตรวจดูว่ามีสิ่งใดตกหล่นไปหรือไม่ ฝึกสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาความจำระยะสั้น บริหารสมอง และเสริมประสิทธิภาพความจำด้านสายตา




     วิธีต่อมา รับประทานอาหารอุดมวิตามินซี, อี และเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะส้ม องุ่น เบอร์รี ผักสีเขียว ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อสมองจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองเสื่อม ทั้งนี้ ผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า ผู้บริโภควิตามินซีสูง มีผลการทดสอบด้านสมาธิ ความจำ และการคำนวณดีที่สุด




     ตามด้วย การทำกิจกรรมท้าทายความคิด เมื่ออายุเริ่มเข้าเลขสาม สมองจะเริ่มทำงานช้าลง ดังนั้น ควรหางานอดิเรกยามว่างที่สนุกสนานทำ เช่น เต้นแทงโก้ เรียนภาษาใหม่ ต่อจิ๊กซอว์ เกมส์ปริศนาอักษรไขว้ เล่นปิงปอง เป็นต้น ช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของสมอง และความจำได้ดี




     สุดท้าย นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้ และความจำ.




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2554    
Last Update : 8 ธันวาคม 2554 10:06:15 น.
Counter : 307 Pageviews.  

เทรนด์หน้าหนาวที่ควรรู้

เทรนด์หน้าหนาวที่ควรรู้




     ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าดีไซน์เนอร์แต่ละแบรนด์นั้นออกคอลเลคชั่นสำหรับ หน้าหนาวอะไรมาบ้าง เพราะรูปแบบเสื้อผ้าของแต่ละคอลเลคชั่นนั้นจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่โดยทันที พอเราเรียนรู้ถึงเอกลักษณ์ และรูปแบบของเสื้อผ้าแล้ว เราจึงนำสไตล์เหล่านั้นมาใช้กับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่





     สาวๆ ทั้งหลายต้องเข้าใจว่ายุคนี้ไม่มีคำว่า “ตกเทรนด์” เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบบไหน เช่น กางเกงเอวสูง กระโปรงทรงเอ เสื้อแขนยาว เสื้อตัวใหญ่แบบ Oversize เสื้อลายตารางหมากรุกแบบ Cowboy และรองเท้าหัวแหลมที่บรรพบุรุษเราเคยใช้ในสมัยก่อนนั้น มันจะกลับมาวนเวียนบนรันเวย์อีก โดยดีไซน์เนอร์ทั้งหลายนำสไตล์เหล่านั้นมาดัดแปลง เช่น การเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ เปลี่ยนสีและแบบ เพื่อให้เข้ากับยุคปัจจุบันยิ่งขึ้น สาวๆ สามารถมั่นใจได้ว่า ของที่เรามีอยู่ในตู้เสื้อผ้านั้น สามารถนำมาใส่ช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงได้อีกแน่นอน

 



     “We've reached a pass where nothing is less fashionable than being seen in an identifiable runway piece”

 



- hink Colour (Not Back to Black)
     สำหรับหน้าหนาวปีนี้สีดำเห็นทีจะตกเทรนด์ เพราะขณะนี้ลุคแบบ Colour Blocking กำลังมาแรง เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าที่สาวๆ ควรใส่ในช่วงนี้คือเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ถ้าสาวๆ คนไหนไม่กล้าใส่สีฉูดฉาดแล้ว ลองเลือกเฉดสีที่เข้มขึ้นหน่อยก็ได้ เช่น สีเขียวเข้ม สีน้ำตาล และสีนาวี ที่มีส่วนผสมของสีดำอยู่บ้างเล็กน้อย




- There will be Sleeves
     ถือว่าเป็นข่าวดีของสาวๆ ที่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าแกนกุด เพราะหน้าหนาวปีนี้เสื้อแขนยาวเห็นทีจะมาแรง สาวไทยส่วนมากจะไม่ชอบใส่แขนยาว เพราะอากาศร้อน แต่เสื้อแขนยาวเหมาะมากสำหรับสาวๆ ที่ไหล่ตก และอยากจะให้ช่วงบนดูใหญ่ขึ้น ถ้าใส่กับกระโปรงทรงเอที่ยาวระดับเข่าแล้ว ลุคนี้จะทำให้สาวๆ ทั้งหลายดูสูงเพรียวขึ้นมาเลยทีเดียว สำหรับสาวไทยที่ชอบเสื้อแขนยาวล่ะก็ ลองเสื้อแขนยาวลูกไม้แบบ Miu Miu ที่ให้ลุคน่ารักๆ ในหน้าหนาวนี้




- Single out a sweater
     หนาวปีนี้ สาวๆ ลองใส่เสื้อหนาว Oversize ที่มากับสีพื้นๆ ลายจุด หรือลายตารางหมากลุกดูก็ได้ ถ้าใส่กับกระโปรง กางเกงขาเด๊ป และถุงน่องหลากสีแล้วล่ะก็ หน้าวหนาวปีนี้ไม่ตกเทรนด์แน่นอน




- Decoration
     ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าหนาว แต่สาวๆห้ามลืมเรื่องเครื่องประดับโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับเงินและสีทอง ตอนนี้ก็กำลังมาแรง อย่าลืมว่าเครื่องประคับนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็น ต่างหู สร้อยคอหรือ แหวน แต่อาจจะเป็นเข็มขัดเส้นใหญ่ และเข็มกลัดเท่ๆ ก็ได้




- Shoes
     ส่วนรองเท้านั้น ตอนนี้ขอบอกว่ารองเท้าหัวแหลมกำลังมาแรง เพราะรองเท้าหัวแหลมสามารถเข้ากับกางเกง และกระโปรงได้หลายแบบ และที่สำคัญรูปทรงหัวแหลมนี้ทำให้ขาของสาวๆ ดูเพรียวขึ้นมาได้ทันที




- Loud Print
     ทุกๆ ซีซั่นจะต้องมีสไตล์บางอย่างที่จะมาสร้างเทรนด์ หน้าหนาวปีนี้สไตล์ 80’s กำลังมาแรง อย่างเช่นลายเสือ ลายจุด หรืออาจจะเป็น Pattern อย่าง Versace ก็ได้



     เห็นยังงี้แล้ว สาวๆก็ไม่ต้องกลัวตกเทรนด์ค่ะ แล้วอย่าลืม Hot Issue อันใหม่ ที่นำเสนอเรื่อง Colour Blocking มั่นใจได้เลยว่า Alangance จะพาสาวๆ ผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้อย่างสง่างาม




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2554    
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 11:07:29 น.
Counter : 327 Pageviews.  

เมื่อผู้หญิง มีกลิ่นตัว...จะทำอย่างไรดี

เมื่อผู้หญิง มีกลิ่นตัว...จะทำอย่างไรดี




     เมื่อมีกลิ่นตัวแรงทำยัง ไงดี? เป็นคำถามที่เกิดขึ้นได้ทั้งในคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายกันเลยกับเรื่อง กลิ่นตัวแรง ไม่ว่าใครก็ตามก็มักจะต้องมีกลิ่นตัวกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีกลิ่นตัวแรงมากหรือน้อยเท่านั้น

     ถ้าเกิดต้องมี กลิ่นตัวแรง มากคงสร้างความกังวลใจและความไม่มั่นใจอย่างมาก ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วเกิดมี กลิ่นตัวแรง เมื่อต้องไปอยู่ใกล้ใครก็อาจจะเสียความมั่นใจมากๆ เพราะกลัวว่าคนข้างๆ จะได้ กลิ่นตัวเรา






วันนี้เรามีวิธีแก้กลิ่นตัวแรงมาฝากกัน

     ก่อนอื่นเมื่อรู้ตัวว่ามีกลิ่นตัวที่รุนแรง วิธีที่ดีที่สุดก็คือ จะต้องรักษาอนามัยของตัวเอง อาบน้ำให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน ซึ่งเป็นขั้นพื้นฐานที่ต้องกระทำอยู่แล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นขั้นตอนในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัวที่เหมาะสมกับ ตัวเอง ซึ่งวิธีตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คือ




     - น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตที่มักจะเลือกใช้ในการดับกลิ่นตัว แต่รู้หรือไม่ว่าหากร่างกายเรามีเหงื่อมากและไม่ได้รับการชำระล้างก่อนน้ำ หอมนี่แหละที่จะทำให้กลิ่นยิ่งฉุนมากขึ้นอีก



     - ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ จะใช้ทาบริเวณใต้วงแขน รักแร้ หรือบริเวณอับชื้นอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะไปทำลายและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ สาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นตัว



     - ผลิตภัณฑ์ดูดขับกลิ่น หัวใจหลักของผลิตภัณฑ์คือ ต้องสามารถดูดซับกลิ่นฉุนไว้ไม่ให้ระเหยออกมาสู่ภายนอก ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากใช้ได้ผลดีมาก



     - ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ สารระงับการขับเหงื่ออะลูมิเนียมคลอไฮเดรท ซึ่งมีการผลิตออกมาทั้งในรูปแบบของโลชั่น ครีม โรลออน และสเปย์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสามารถพกพาได้



     - ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทนั้นมีวิธีการกำจัดกลิ่นตัวที่แตกต่างกัน ลองพิจารณาสาเหตุการเกิดกลิ่นตัวของเราเองว่าเกิดจากอะไร แล้วจึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัวให้เหมาะสม




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2554    
Last Update : 1 ธันวาคม 2554 10:37:38 น.
Counter : 362 Pageviews.  

“ถุงกันน้ำท่วม“ อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมแทนกระสอบทราย

“ถุงกันน้ำท่วม“ อุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมแทนกระสอบทราย




   ถุงน้ำ ใช้กั้นน้ำท่วมบ้านแทนกระสอบทราย ผมทดลองทำดูแล้วและเห็นว่ามันมีประสิทธิภาพพอๆกับกระสอบทราย ประหยัดกว่า และใช้น้ำแทนทราย โดยอาศัยหลักการเดียวกันกับกระสอบทราย กล่าวคือ

   ทรายเป็นมวลสารที่มีน้ำหนัก กระสอบเป็นภาชนะที่บังคับให้ทรายอยู่ในรูปทรงของกระสอบ จึงทำให้กระสอบทรายมีน้ำหนักมากพอที่จะต้านทานแรงดันของน้ำได้ ยิ่งวางซ้อนกันหลายชั้นและหลายแถวก็จะยิ่งต้านทานแรงดันของน้ำได้มากขึ้นตาม ลำดับ





   ทีนี้ น้ำก็เป็นมวลสารที่เมื่อรวมตัวกันมากๆ ก็จะมีน้ำหนักมากเช่นกัน ถุง จึงเป็นภาชนะที่บังคับให้น้ำอยู่ในรูปทรงของถุง จึงทำให้ถุงน้ำมีน้ำหนักมากพอที่จะต้านทานแรงดันของน้ำได้เช่นเดียวกับ กระสอบทราย ยิ่งวางซ้อนกันหลายชั้นก็จะยิ่งทำให้ต้านทานแรงดันของน้ำได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการวางซ้อนกันหลายชั้นนั้นก็ต้องเพิ่มแถวการวางถุงน้ำลงไปด้วยเพื่อเป็น การถ่ายเทน้ำหนักของถุงน้ำให้กระจายออกไปทำให้ถุงไม่แตกง่าย




อุปกรณ์ที่จะต้องเตรียม

     1. ถุงดำ หรือถุงชนิดที่มีความเหนียว ตามขนาดของความเหมาะสม

     2. สายรัดสายไฟ

     3. น้ำ ทั่วๆ ไป



     วิธีบรรจุ คือ นำถุงดำหรือถุงชนิดที่มีความเหนียวซ้อนกัน 2 ใบ หรืออาจจะมากกว่า เพื่อเพิ่มความทนทานความเหนียวของถุงพลาสติก แล้วใส่น้ำลงไปให้เต็ม เสร็จแล้วรวบปากถุงแล้วใช้สายรัดสายไฟรัดปากถุงให้แน่น เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสามารถนำไปวางเป็นเครื่องกั้นน้ำท่วมบ้านได้แล้ว




     ในกรณีที่น้ำไหลแรง ให้เตรียมถุงน้ำให้เสร็จเรียบร้อยครบหมดก่อนแล้วค่อยนำมาวางเป็นแนวกั้น



ข้อแนะนำ - ให้หาไม้แผ่นกระดานอัดหนาๆ มากั้นระหว่างแถวได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้ถุงน้ำอยู่ทรงมากขึ้นและเพิ่มความแข็งแรง.



- ไม่แนะนำให้ใช้ถุงดำทีมีความบางมาก ให้หาซื้อถุงดำที่ผ่านมาตราฐาน ISO มีความเหนียวทนเท่านั้น




     อนึ่ง...เราสามารถเลือกใช้วัสดุพลาสติกแข็งๆ หรือยืดหยุ่นได้หลายรูปแบบคับ อย่างเช่นถังน้ำ ขวดน้ำ มาทำเป็นเครื่องกั้นน้ำหรือเรียกว่าแท่งน้ำก็ได้ โดยการบรรจุน้ำให้เต็มแล้วปิดฝาให้แน่น หลังจากนั้นนำมาวางเป็นแถวแล้วเรียงซ้อนกันแล้วแต่ความต้องการโดยใช้ผ้าเทป กันน้ำรัดให้รอบอย่างแน่น เท่านี้เราก็จะได้แท่งกั้นน้ำแล้วคับ หรือหาถุงใส่ปลาชนิดหนาแบบของญี่ปุ่น หรือยางในรถสิบล้อ นำมาบรรจุน้ำแล้วปิดให้สนิท ก็ได้เช่นกันคับ เป็นต้น




     แต่ที่ผมเลือกใช้ถุงดำก็เพราะว่าทดสอบแล้ว มีความเหนียวพอสมควรเมื่อใส่ถุงซ้อนกันก็จะสมามารถรับแรงกระแทกได้ดีในระดับ ที่ดี กดทับพื้นผิวได้สนิทซึ่งก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของน้ำตามขนาดของถุง และที่สำคัญชาวบ้านหาซื้ออุปกรณ์ได้ง่าย ราคาถูกไม่แพงเกินไปครับ.




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2554    
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 12:24:58 น.
Counter : 580 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

YangJing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Friends' blogs
[Add YangJing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.