การเลี้ยงปลาทอง
พื้นฐานทั่วไปของปลาชนิดนี้ มีวงจรชีวิตอยู่ได้ 4-5 ปี หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแล ที่สำคัญอย่าเลี้ยงปลาตากแดด น้ำต้องสะอาด ไม่มีส่วนผสมของคลอรีน อายุ 1-1 ปีครึ่ง ก็วางไข่ได้แล้ว โดยมักวางไข่ และฟักได้ดีในฤดูหนาว หากอยู่ ในสภาวะอากาศที่เหมาะสม สามารถ ฟักเป็นตัวได้ภายใน 2-4 วัน
การเลือกพ่อแม่พันธุ์ปลาทอง
ปลาทองจะเจริญพัฒนาจนกระทั่งมีความสมบูรณ์เพศเมื่อมีอายุประมาณ 6 เดือน น้ำหนัก 30 กรัม ก็สามารถใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้แล้ว แต่แม่ปลาขนาดเล็กจะให้ไข่น้อย และไข่มีขนาดเล็ก การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ ควรตรวจสอบลักษณะรูปร่างให้มีลักษณะ ตรงตามสายพันธุ์ สมบูรณ์แข็งแรง มีครีบตั้งแข็งไม่ฉีกขาด มีเกล็ดเป็นเงางาม และ ตรวจสอบความสมบูรณ์เพศ ดังนี้ปลาเพศผู้ ในฤดูผสมพันธุ์ บริเวณแผ่นปิดเหงือก (operculum) และด้านหน้าของครีบหูจะมี ตุ่มเล็ก ๆ คล้ายเม็ดสิวเรียกว่า pearl organ เกิดขึ้น เวลาสัมผัสจะรู้สึกสากมือ
ปลาเพศเมีย มีรูปร่างกลมและป้อมกว่าเพศผู้ ปลาเพศเมียที่มีไข่แก่เต็มที่พร้อมจะผสมพันธุ์นั้น ส่วนท้องจะอูมใหญ่ และอ่อนนิ่ม บริเวณก้นจะบวมและมีสีแดงเรื่อ ๆ แม่ปลาที่ใช้ไม่ควร มีอายุเกิน 1 1/2 ปี เนื่องจากแม่ปลาที่มีอายุมากเกินไปจะไม่วางไข่
บ่อที่ใช้เลี้ยง
การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาทองสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อซีเมนต์ บ่อดิน ถังไฟเบอร์ ตู้กระจก ฯลฯ ทำเลที่เหมาะสม ในการสร้างบ่อพ่อแม่พันธุ์ปลาทอง คือ บริเวณที่แสงแดด ส่องได้บ้างในเวลาเช้าหรือเย็น หากเป็นที่โล่งแจ้ง ต้องทำหลังคา หรือร่มเงาให้แสงส่องลง ได้เพียง 25-40 % บ่อที่ได้รับแสงแดดที่พอเหมาะ จะทำให้สามารถควบคุมการเจริญเติบโต ของตะไคร่น้ำ และแพลงก์ตอนพืช (Phytoplankton) ให้อยู่ในปริมาณที่พอดี ทำให้น้ำในบ่อใสสะอาดอยู่เสมอ เหมาะกับความเป็นอยู่ของปลา
พื้นที่บ่อไม่จำกัด ใส่น้ำลึก 30-70 เซนติเมตร ขึ้นกับชนิดปลา ถ้าเป็นปลาทองสายพันธุ์หัวสิงห์ ก็จะใส่น้ำตื้น ส่วนพันธุ์ออรันดาสามารถ ใส่น้ำลึกได้ให้อากาศผ่านหัวทรายตลอดเวลา บ่อขนาด 4 ตารางเมตร น้ำลึก 70 เซนติเมตร ใส่หัวทรายให้อากาศแรง ๆ 2-3 หัว ปล่อยพ่อแม่ปลาในอัตราส่วน เพศผู้ : เพศเมีย เท่ากับ 2 : 3 ความหนาแน่น 6 ตัว/ตารางเมตร หรือปริมาตรน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ น้ำหนักรวม 2-2.5 กิโลกรัม
:: อาหารที่ใช้เลี้ยงพ่อแม่พันธุ์
อาหารธรรมชาติ ได้แก่ ลูกน้ำ หนอนแดง ไส้เดือนแดง หรืออาร์ทีเมีย อาหารมีชีวิต เหล่านี้จะทำให้ปลาโตเร็ว และปลากินได้ตลอดเวลา แต่การจัดเตรียมหรือจัดหาอาจมี ความยุ่งยากในบางพื้นที่อาหารสำเร็จรูป ได้แก่ อาหารเม็ดปลากินพืช หรืออาหารเม็ด ปลาดุกเล็ก โดยอาหารเม็ดปลาดุกเล็กจะดีกว่า เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า สามารถเลี้ยงปลาได้ เจริญเติบโตดี และมีสีสันสวยงาม การให้อาหารจะให้วันละ 2-3 % ของน้ำหนักปลา เช่น มีปลาทั้งหมดหนัก 500 กรัม จะให้อาหารเม็ดวันละ 10-15 กรัม โดยแบ่งให้วันละ 2 มื้อ เช้า - เย็นคุณสมบัติของน้ำที่ใช้เลี้ยงพ่อแม่พันธุ์
:: น้ำที่ใช้เลี้ยงปลาทอง
ควรเป็นน้ำสะอาด ใช้น้ำบาดาลน้ำจากแม่น้ำ หรือน้ำประปาที่ใส่ถังเปิดฝา ให้คลอรีนระเหยออกอย่างน้อย 3 วัน มีความเป็นกรด-ด่าง (pH) 6.5-7.5 มีปริมาณออกซิเจน ที่ละลายน้ำไม่ต่ำกว่า 5 มิลลิกรัม/ลิตร จึงจำเป็นต้องมีระบบเพิ่มออกซิเจนในบ่อเลี้ยง พ่อแม่พันธุ์ปลาตลอดเวลา ความกระด้าง (Hardness) 75-100 มิลลิกรัม/ลิตร และความเป็นด่าง (Alkalinty) 75-200 มิลลิกรัม/ลิตร ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำ ไม่ต่ำกว่า 3 มิลลิกรัม/ลิตร มีการดูดตะกอนก้นบ่อออกทุก ๆ 3 วัน แล้วเติมน้ำให้ได้ระดับเดิม
การเลี้ยงปลาทองไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อย เพราะจะทำให้ปลาช้ำและเกิดโรคง่าย จะเปลี่ยน 3 เดือนต่อครั้ง ในปริมาณ 25-50 % ของน้ำทั้งหมด และหากน้ำในบ่อมีคุณภาพไม่ดี ก็ให้ทำการล้างบ่อ นำน้ำเก่าจากบ่ออื่นมาเติมปริมาณ 30 % และใส่น้ำใหม่เพิ่มไปอีก 70 % การไม่เปลี่ยนน้ำนาน ๆ แล้วเปลี่ยนจะเป็นการกระตุ้นให้ปลาวางไข่เป็นอย่างดี
Create Date : 29 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2549 0:52:58 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2728 Pageviews. |
|
|