นกน้อยพาเที่ยว - ญี่ปุ่น 'KAMAKURA 鎌倉' เมืองพระใหญ่ ตอนที่ 1

อิ่มอกอิ่มใจกับธรรมชาติกันอย่างเต็มที่ แต่ก็เรียกได้ว่า ยังไม่พอ


Smiley อ่านตอนที่แล้วได้ที่่นี่ Smiley


อย่างที่บอกกันไว้ตั้งแต่ต้น ว่ารถไฟฉึกฉักสาย Enoden ไปสุดป้ายที่เมือง Kamakura


และใช้ Freepass ที่เรามีอยู่ในมือไปเที่ยวต่อได้เลย ไม่ต้องเสียเพิ่มสักกะเยน อย่างนี้ต้องเอาให้คุ้ม



ใครอยากจะเหมา Enoshima-Kamakura ไว้วันเดียวแบบไปเช้าเย็นกลับ คงต้องรักษาเวลากันพอสมควร


ถ้าอยากจะเที่ยว Kamakura ให้ครบ (แบบเฉพาะไฮไลท์) แล้วละก็ ควรออกเดินทางจากเกาะไม่เกินบ่าย 2 โมง


ไม่อย่างงั้น ประตูวัดอาจจะปิดลงต่อหน้าต่อตา ต้องเดินคอตก พกความเสียดาย กลับโตเกียวเป็นแน่ๆ



 นกน้อยอุ่นใจ ใครนะใจดีทำเสื้อผ้ามาให้นกน้อยได้อบอุ่นยามหนาวด้วย Smiley



ออกมุ่งหน้าสู่อดีตเมืองเก่าอันรุ่งโรจน์ศูนย์กลางของญี่ปุ่น ปู๊นปู๊น~ 



บรรยากาศสบายๆในรถไฟ ต่างกับขบวนแสนวุ่นวายในโตเกียวคนละเรื่องเลย


ไม่แปลกใจทำไมคนญี่ปุ่นแถวนี้ถึงน้ำใจงามขนาด 



วิ่งผ่านเมืองสักพัก รางรถไฟก็ลัดเลาะออกมาริมฝั่ง ให้เราได้ชื่นชมกับบรรยากาศของทะเลสีครามกันอีกครั้ง


นี่แหละน้า ถึงบอกว่ามาเที่ยวแล้วนั่งรถไฟสายนี้ มันให้อารมณ์ที่แตกต่างกันจริงๆ 



 ถึงแม้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็มีวัดและศาลเจ้ารายล้อมกันแน่นขนัด มั่นใจได้ว่าเมืองนี้เค้ามีดี Smiley



"คะมะคุระ"


ตั้งอยู่ในจังหวัด Kanagawa 神奈川県


 เมืองนี้มีความสำคัญกับญี่ปุ่นในอดีตอย่างมาก มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี


ความสำคัญที่ว่านี้คือ บทบาทที่โดดเด่นทางการเมือง เมื่อได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นศูนย์กลางทางการเมืองของญี่ปุ่น


โดยท่านโชกุน Minamoto Yoritomo เมื่อปี 1192 หรือราว 800 กว่าปีมาแล้ว


แม้อำนาจของคณะรัฐบาลคะมะคุระจะลดบทบาทลงในศตวรรษที่ 14


เมืองคะมะคุระแห่งนี้ ยังคงยืนหยัดเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ ให้กับเมืองหลวงอย่างเกียวโตสืบมา


ทุกวันนี้ ถึงแม้จะไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เดิม แต่ยังคงเป็นเมืองที่มีความสำคัญในการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น


ถึงกับขนานนามให้คะมะคุระ เป็นเมืองพี่เมืองน้องของเกียวโต หรือ เกียวโตแห่งญี่ปุ่นตะวันออก อีกด้วย 



จากสถานี Enoshima ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที


* ต้องลงที่สถานี Hase 長谷 ซึ่งจะถึงก่อนป้าย Kamakura ที่เป็นป้ายสุดสาย * 



เมื่อถึงสถานีแล้ว เดินมุ่งหน้าไปตามถนนที่ทอดยาวด้านหน้าสถานีกันเลย 



และเป้าหมายของเราคือ Great Buddha หรือ Daibutsu 大仏 แห่ง Kamakura 


(ป้ายบอกทางน่ารักเชียว Smiley)



บริเวณที่ตั้งของ Daibutsu นั้น เดิมทีเป็นที่ตั้งของวัด Kōtokuin 高徳院


วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1252 แต่ได้เกิดความเสียหายหลายครั้งจากไต้ฝุ่น


และเสียหายมากที่สุดจากเหตุการ์ณซึนามิ เมื่อปี 1495 ทำให้ตัวอาคารวัดนั้นพังทลายหายไป


เหลือเพียงแต่องค์พระ Daibutsu อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง  สร้างความประหลาดใจให้กับชาวญี่ปุ่น


และแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ที่ได้ปกปักรักษาเมืองคะมะคุระตลอดมา 



ค่าเข้าชมคนละ 200 เยน จ่ายเงินแล้วเดินเข้ามาด้านใน ผ่านสวนญี่ปุ่นร่มรื่นย์ตลอดสองข้างทาง


และจะค่อยๆพบกับความยิ่งใหญ่ขององค์พระ Daibutsu ทีละนิดๆ (ตื่นเต้นๆSmiley)



Daibutsu ทำจากทองสำริด มีความสูง 13.35 เมตร หนักถึง 93 ตัน


ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับของญี่ปุ่น รองจากองค์โตที่ วัดโทไดจิ เมืองนาระ



 สามารถเข้าไปด้านในองค์พระได้ (ค่าเข้าชม 20 เยน)



หลังจากสักการะ ขอพรกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลองเดินเล่นชิลล์ๆกับบรรยากาศทั้งภายในและรอบๆวัดกันด้วย รับรองว่าต้องถูกใจชัวร์


พักตอนก่อน ยังไม่หมดเท่านี้แน่นอน เหลือบดูนาฬิกาแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือ 


Smiley เดี๋ยวกลับมาพาเที่ยว คะมะคุระ กันต่อนะครับ Smiley





Create Date : 28 มิถุนายน 2554
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 14:47:44 น.
Counter : 3338 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bird Freedom
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]



All Blog