1. รถที่นำมาให้บริการ จะเป็นรถหรูกว่าแทกซี่ทั่วไป เช่น Toyota Camry, Mercedes-Benz E Class และ Honda Accord2. คนขับรถแต่งตัวดี-ดีมาก เช่น เสื้อซาฟารีไปจนถึงสูท (แต่งตัวดีกว่าอิชั้นเสียอีก) แถมให้บริการด้วยความสุภาพเป็นเลิศ 3. มีน้ำดื่มฟรี 1 ขวด บริการบนรถ (จุดนี้เฉยๆนะ เพราะคงบวกค่าน้ำไปกับค่ารถแล้ว55555 แต่ในด้านความรู้สึกก็ถือว่าดีค่ะ )4. ค่าบริการสูงกว่า แต่จะแพงไม่แพง อยู่ที่ความรู้สึกและความคุ้มในคำจำกัดความของแต่ละคน5. จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต หรือเดบิตที่ใช้จ่ายออนไลน์ได้ ไม่มีการรับเงินสดค่ะ และถ้าจะให้ทิป จะมีให้บวกเป็นเปอร์เซนต์ไว้ในแอป เราเข้าไปตั้งค่าได้เลย
1. เข้าแอป UBER ไอคอนมือถือหน้าตาแบบนี้... 2. Sign in ลงชื่อเข้าใช้งานในแอปบนมือถือหรือแท็บเล็ตของเพื่อนๆ จะเจอกับแผนที่รอบๆที่เราอยู่ มีไอคอนรูปรถสีดำ แสดงตำแหน่งรถ UBER ที่พร้อมเรียกใช้งาน ที่วิ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง ตรงกลางแผนที่จะมีหมุดลอยๆอยู่ ถ้าแถวนั้นมีรถพร้อมให้บริการ บนหมุดจะมีเขียนไว้ว่า มีรถพร้อมให้บริการภายในกี่นาที และให้กำหนดสถานที่รับ แต่ถ้าละแวกนั้นไม่มีรถพร้อมให้บริการ จะขึ้นว่า ไม่มีรถพร้อมใช้งาน
มาถึงขั้นตอนเรียกรถแล้วล่ะ เราสามารถเสิชสถานที่จากช่องข้างบน โดยกดเข้าไปที่ช่องว่าง มันจะเปลี่ยนไปอีกหน้า ให้เราพิมพ์ชื่อสถานที่ที่จะให้รถมารับ แล้วเสิชเลือกสถานที่ใกล้เคียง หรืออีกวิธีกำหนดสถานที่ เราสามารถกำหนดจากตำแหน่ง GPS ที่เราอยู่ ณ ตอนนี้ก็ได้ โดยกลับมาหน้าแผนที่แล้วกดสัญลักษณ์พิกัดที่มุมขวาล่าง หมุดจะลอยมาอยู่ในตำแหน่งตาม GPS เรา แต่ถ้า GPS มันเพี้ยนไปหน่อย เราก็แค่จับขยับไปปักบนตำแหน่งที่เราอยู่จริงๆ แล้วกด "กำหนดสถานที่รับ"พอเรากดแล้วจะขึ้นแถบขาวๆด้านบนเขียนว่า "ยืนยันคนขับรถแล้วและกำลังเดินทางไป" และด้านล่างจะขึ้นรูปคนขับรถ ชื่อ เรทคะแนน พร้อมรายละเอียดรถว่าเป็นรถรุ่นอะไร ทะเบียนอะไร เช่น TOYOTA CAMRY และมุมขวาล่างจะมีปุ่มให้เราสามารถติดต่อคนขับรถได้โดยตรง มีให้เลือกโทรหาหรือส่งข้อความ
หลังจากคอนเฟิร์มแล้วจะมี SMS เข้ามา3อัน สองอันแรกส่งจากธนาคารบัตรเครดิตว่า ใช้จ่ายผ่าน UBER 40 บาท และอีกแป๊บนึงก็มีอีกฉบับตามมาว่ายกเลิกรายการ 40 บาทตะกี้ (คาดว่าเป็นมัดจำในกรณีที่เรายกเลิกการเดินทาง) และอีก SMS ส่งมาจาก UBER ว่า UBER ของคุณกำลังเดินทางไปพร้อมบอกชื่อคนขับและเวลาอีกกี่นาทีไปถึง แล้วเราก็แค่นั่งรอรถมารับแบบสวยๆ ตามสถานที่นัดหมายเอาไว้ บนแผนที่ในแอปตอนนี้ จะมีหมุดบอกเวลา ว่าอีกกี่นาทีรถจะมาถึง และจะโชว์ไอค่อนรูปรถของเรา กำลังวิ่งมาหาเราจุดนี้ดีมากๆค่ะ ทำให้รู้เลยว่า ตอนนี้รถอยู่ไหนแล้ว จะต้องเตรียมเดินลงบันไดมารอหน้าบ้านได้รึยังและถ้าหากเราเกิดเปลี่ยนแผน อยากเปลี่ยนที่นัดหมาย เช่น จะออกไปยืนรอหน้าปากซอย แค่กดโทรหาคนขับโดยตรง แจ้งได้เลยค่ะ หรือถ้าคนขับไม่ชินทาง เค้าจะโทรมาหาเราเอง และสอบถามเส้นทาง พอรถใกล้ถึงเราแล้วจะมีข้อความเตือนขึ้นมาว่า คนขับรถจะมาถึงแล้ว พร้อมมี SMS เข้ามาเตือนด้วย
และในอึดใจเดียวรถ CAMRY คันงามก็มาเทียบถึงหน้าบ้านเลยจ้า อันนี้ดีมากๆสำหรับคนบ้านอยู่ซอยลึกๆ หรือเดินออกมายาก UBER เค้าบริการถึงที่เลยจ้าเราก็แค่เช็คดีๆว่า รถและทะเบียนถูกต้องตามที่แจ้งไว้มั้ย คนขับหน้าตาคนเดียวกันกับในรูปรึเปล่า ถ้าถูกต้องเรียบร้อย ก็ขึ้นรถได้เลย!
ขึ้นไปแล้วก็บอกคนขับได้เลยว่าจะไปไหน เค้าพาไป แถมช่วยคิดด้วยว่าไปทางไหนดีสุดบรรยากาศบนรถเอาเป็นว่าไม่ต้องเทียบกับแทกซี่ปกติ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถโรงแรม รถบ้านคนขับแต่งตัวดีเลยล่ะค่ะ บางทีเจอใส่สูท บางทีก็ชุดคนขับรถแบบในละครหลังข่าว (เว่อร์มะ555)
แอร์เย็นสบาย ขับนิ่ม คนขับใจเย็น สุภาพทุกคน (ทั้ง2ครั้งที่เคยนั่ง มาตรฐานเดียวกันค่ะ)ไม่เคยเจอแบบที่แสดงอารมณ์หงุดหงิด รถติด โวยวาย ต่อรองใดๆ คือดี ดีมากๆค่ะ อ่อ คนขับเค้าจะมีไอแพดประจำตัวด้วยนะคะเค้าจะเปิดแอป UBER เอาไว้ พอรับเราแล้วเค้าก็จะกดในแอปเค้าว่า รับผู้โดยสารแล้ว ในมือถือเราก็จะเตือนว่า รับแล้ว ในแอปจะมีไอค่อนรถที่เรานั่งอยู่วิ่งไปตามเส้นทาง เราสามารถดูได้เลยว่า ขับถึงไหนแล้ว ระหว่างนั่งรถ เค้าจะมีน้ำเปล่าขวดเล็กบริการฟรีด้วยนะคะ หยิบมาดื่มได้เลย
และจุดที่ประทับใจมากคือ ครั้งแรกที่ใช้บริการเจอคุณลุงคนขับใจดีตอนรถติดแดดส่อง คุณลุงคนขับก็คอยปิดม่านบังแดดให้ด้วย เทคแคร์กันดีสุดๆไปเลยเมื่อถึงจุดหมายคนขับจะกดในแอปว่าถึงแล้ว และจะแสดงค่าเดินทางบนแอปในมือถือเรา (บนรถไม่มีมิเตอร์ให้ส่องราคาแบบ Real time นะจ๊ะ ลุ้นราคาทีเดียวตอนจบ55555 ) ถ้าเรามีเครดิตพอสำหรับค่าเดินทาง ค่าเดินทางจะขึ้นเป็น 0.00 บาท แต่ถ้าไม่ได้ใช้ ระบบะจะแจ้งค่าเดินทางจริง และจะหักจากบัตรเครดิตค่ะ และในหน้านั้นจะมีให้เรา ให้คะแนนคนขับรถ เบลล์ให้ไปเลยคะแนนเต็ม!! พอเรากดให้คะแนนเสร็จก็เป็นอันจบพิธี หลังจากส่งถึงที่แล้ว ในหน้าแอบจะกลับไปเป็นแบบตอนแรกเลยค่ะ (รูปขวา)อ่อ ลืมเล่า พี่คนขับเค้าลงมาเปิดประตูให้ด้วยจ้า รู้สึกเป็นคุณหนู1วัน เขินนนนน 555555หลังจากใช้บริการแล้ว จะมีอีเมลใบเสร็จค่าเดินทาง พร้อมรายละเอียดส่งมาและเรายังสามารถเช็คย้อนหลังได้ด้วยว่า เคยใช้บริการเรียกจากไหนไปลงไหน ราคาเท่าไหร่ ใครขับ โดยดูได้จากในเว็บไซท์ UBER.com
สรุปUBER เหมาะกับใคร
คนที่ชอบความสะดวกสบายในการเดินทาง เบื่อแทกซี่ช่างเลือก ยอมจ่ายมากกว่าเพื่อแลกกับความสะดวกที่มากกว่า หรูกว่า คนที่บ้านอยู่ซอยลึก ไม่ค่อยมีแทกซี่ผ่าน หรือเรียกรถยาก คนที่มีสัมภาระในการเดินทาง พะรุงพะรัง หรือแต่งตัวทำผมมาอย่างเป๊ะ กลัวโดนลมพัดหัวยุ่ง กลัวแดดเผาเมคอัพเยิ้ม ต้องการความเป๊ะ จะออกงานต้องเนี๊ยบมากๆ ไม่สะดวกที่จะไปยืนโบกรถแทกซี่ UBER ก็ตอบโจทย์ค่ะ สาวๆที่เดินทางคนเดียว ก็เหมาะ เพราะระบบมีความปลอดภัยพอสมควร สามารถเช็คชื่อคนขับได้ สามารถกดแชร์รายละเอียดการเดินทาง ETA ให้เพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องรับทราบได้เลย ขณะอยู่บนรถ โดยกดแชร์ผ่านแอป ระบบจะคำนวนเวลาที่จะใช้ในการเดินทางและบอกสถานที่จุดหมายให้ด้วย สาวๆสามารถกดแชร์ไปบน Social Network หรือ Email ได้เลย
เมื่อเพื่อนหรือญาติเราคลิกเข้าไปใน link จะเจอกับแผนที่รายละเอียดแบบนี้
แล้ว UBER เหมาะกับใครอีก... คนที่ไม่ชอบพกเงินสด สะดวกจ่ายผ่านบัตรเครดิต คนที่เดินทางหลายคน (ไม่เกิน4คน) และต้องการแชร์ค่าเดินทาง ทำได้เลยโดยผ่านระบบจ่ายเงินในแอป ฟีเจอร์หารค่าโดยสาร เราสามารถเลือกเพื่อนได้จากชื่อหรือเบอร์โทรศัพท์ แต่มีข้อแม้ว่า เพื่อนคนนั้นจะต้องมีแอคเคานท์ UBER ที่ลงทะเบียนบัตรเครดิตไว้แล้วเหมือนกัน และระบบจะค่าธรรมเนียมเพิ่มคนละ 7.80 บาท ส่วนตัวยังไม่เคยลองฟีเจอร์นี้ แต่คิดว่าก็สะดวกดีนะคะ ไม่ต้องมานั่งหารเลขทอนเงิน แต่ถ้าไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม เราก็ให้เพื่อนเลี้ยงไปเลย จบ 55555555555UBER ไม่เหมาะกับใคร คนที่กำลังรีบเร่งเดินทาง ไม่สามารถยืดหยุ่นเวลาได้ ใครที่คิดจะการเดินทางด้วย UBER อาจจะต้องมีการเผื่อเวลา วางแผนการเดินทางเล็กน้อย ไม่เหมาะกับช่วงเวลาเร่งรีบ ปุบปับจะเรียกแล้วไปเลยก็อาจจะไม่สะดวกนัก เพราะจะไม่รู้เลยว่าเวลานั้นจะมีรถว่างรึเปล่า ต้องคอยเช็คจากแอป ณ เวลาที่จะเดินทาง ยังไม่สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ คนที่ไม่มีบัตรเครดิต ไม่สามารถใช้บริการได้นะจ๊ะ ต้องลงทะเบียนเลขบัตรไว้ตอนสมัครค่ะ คนที่ต้องการประหยัดค่าเดินทาง แน่นอนว่าไม่เหมาะกับ UBER เพราะค่าบริการสูงกว่าแทกซี่ทั่วไปค่ะ และมีบางช่วงเวลาคนที่คนเรียกใช้เยอะๆในช่วงเร่งรีบ เค้าจะมีเรทราคาที่สูงกว่าปกติ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็เลี่ยงดีกว่าค่ะ คนที่บ้านใกล้สนามบิน และจะเรียกไปสนามบิน ให้ลองเทียบราคาดูนะคะ เพราะถ้าเราเรียกไปสนามบินจะขึ้นราคาเป็นราคาตายตัว จะใกล้จะไกล ก็ราคาเดียว ใครที่บ้านไกลๆจากสนามบิน คือ คุ้มค่ะ แต่ถ้าบ้านใกล้ล่ะก็ ไม่คุ้มแน่นอนความเห็นส่วนตัว เบลล์ว่า UBER ก็ถือว่าเป็นบริการที่คุ้มเงินที่เสียไปนะ เหมือนแพงแต่ได้มาซึ่งบริการที่ประทับใจ แต่เรียกใช้บ่อยๆก็ไม่ไหว5555 เบลล์จะใช้บริการเฉพาะวันที่มีนัดออกงาน ไปงาน แต่งตัวแต่งหน้าเป๊ะแล้ว ไม่อยากไปยืนสู้แดดรอโบกแทกซี่ให้หน้าเยิ้ม ส่วนวันปกติไปกลับก็คงใช้บริการแทกซี่ปกติกันต่อไปค่ะ เพราะบ้านและที่ทำงานอยู่ในโซนที่เรียกรถไม่ยาก ก็เรียกใช้ตามแต่โอกาสค่ะ