All Blog
หน้าใสไร้ริ้วรอย ต้องมีตัวช่วย!

หน้าใสไร้ริ้วรอย ต้องมีตัวช่วย!

ในปัจจุบันคนเราหันมาใส่ใจในเรื่องของความสวยความงามมากขึ้น เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ในวงการความสวยความงามที่มีความทันสมัย และสือโซเชียลมีเดียที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวผู้ที่ทำศัลยกรรมความงาม หรือเปิดเผยเคล็ดลับความงามส่วนตัว เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้สนใจ

วันนี้เราจะมาเผยอีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่องของผิวหน้าใสไร้ริ้วรอย หากคุณคิดว่าดูแลผิวดีอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงยังเกิดริ้วรอยและผิวหมองคล้ำ คุณอาจต้องใช้ตัวช่วยค่ะ!

การกรอผิว

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยในเรื่องของความกระจ่างใสไร้ริ้วรอยคือ การกรอผิว (Microdermabrasion) เป็นวิธีการรักษาผิวหน้าที่หมองคล้ำมีริ้วรอยด้วยการกรอ เพื่อผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ซึ่งการกรอผิวมีด้วยกันหลายวิธีดังนี้

  • กรอผิวด้วยเลเซอร์ (Laser Skin Resurfacing)

เป็นวิธีการกระตุ้นให้ผิวเดิมให้ลอกออกแล้วมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน จะเน้นรักษารอยแผลเป็น แผลจากสิว ริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยย่น รอยตีนกาลึก รอยย่นมุมปาก และรอยย่นตามอายุที่เพิ่มากขึ้น การลอกผิวแบบนี้ไม่สามารถทำให้ผิวสวยใสอย่างสมบูรณ์แบบได้ แต่จะเป็นการรักษาเพื่อเน้นปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้น โดยการรักษาอาจใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง แต่หลังการรักษาจะเกิดการช้ำ แดง ระบม ดังนั้น แพทย์จะให้ทายาหรือครีมในระยะ 7-10 วันแรกหลังการรักษา และผิวจะมีอาการแดง ระคายเคือง ประมาณ 2-4 สัปดาห์ แนะนำให้เลี่ยงแสงแดง ความร้อน การออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออก หากมีอาการคันหรืออื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะ 2 สัปดาห์แล้ว ผิวหน้าจะเป็นสีชมพูแดง ๆ ไม่มีริ้วรอย แล้วจะค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด

  • กรอผิวด้วยสารเคมี  (Chemical Peeling )

การกรอผิวด้วยสารเคมี เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการปรับปรุงสภาพผิวของเรา โดยการใช้สารเคมีที่มีผลทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกและผลัดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ผิวของคุณก็จะนุ่มนวลกว่าเดิม และมีรอยเหี่ยวย่นน้อยลง ซึ่งในบางครั้งที่ผิวหนังอาจมีการอักเสบจากการใช้สารเคมี เพราะในชั้นผิวหนังจะมีการหลั่งสารบางชนิดไปกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ การลอกด้วยสารเคมีอาจเกิดผลแทรกซ้อนหลายอย่าง ได้แก่ ผิวเปลี่ยนสี รอยดำ รอยไหม้ แผลเป็น การติดเชื้อแบคทีเรีย การกำเริบของเริม และผิวแดง โดยมักจางหายไปใน 30-90 วัน แต่ถ้าเป็นมาก แพทย์อาจให้ยาทาสเตียรอยด์อย่างอ่อน เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน ในบางรายมีสิวเห่อหลังลอกหน้า มักเกิดใน 3-9 วัน หลังการลอก และอาจเกิดซีสต์ตุ่มขาวขนาดเล็ก (milia) ดังนั้นหลังลอกหน้า สาว ๆ จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด แต่ถ้าผิวเกิดอาการแพ้ดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ทันที

เป็นการกรอผิวหนังในส่วนของหนังกำพร้าออกไปบางส่วน โดยใช้การพ่นเกร็ดคริสตัล (Crystal) ซึ่งทำด้วยผลึกอลูมิเนียมออกไซต์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดและผ่านการ ฆ่าเชื้อโรคแล้ว หรืออาจใช้เกร็ดของเพชร พร้อมแสง LED มากระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ซึ่งการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีให้ผลดีกว่ากรอหน้าแบบอื่นถึง 3 เท่า ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและขจัดสิ่งตกค้างอุดตันผิวให้หมดไป จึงช่วยรักษาให้รอยหลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับเนียนเรียบ การเกิดสิวลดลง และรอยแผลต่าง ๆ ส่วนรอยด่างดำจากฝ้า กระ และริ้วรอยต่าง ๆ จะจางลงเมื่อรักษาต่อเนื่อง 6-10 ครั้ง แต่หลังการทำ MD อาจมีรอยแดงเกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่ทำ แต่ไม่มีแผล เป็นรอยแดงจะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือเต็มที่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยทั่วไปควรทำทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 6-10 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิว ว่ามีปัญหามากน้อยเพียงใด นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการทายา ไม่ออกไปตากแดดจัด ๆ ตอนกลางวัน และควรหลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางบางประเภท เช่น AHA หรือกรดวิตามินเอในวันแรก ๆ หลังทำ MD ซึ่งสาว ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะดีที่สุดค่ะ

การกรอผิว

เป็นอย่างไรบ้างคะ คราวนี้คุณก็ไม่ต้องความกังวลเรื่องปัญหาผิวหน้าแล้วนะคะ เพราะนอกจากการดูแลตัวเองที่ดีแล้ว เราอาจต้องพึ่งพาตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณสวยใสไร้ริ้วรอยอย่างสมบูรณ์แบบ

คุณสามารถดูรีวิว ค้นหาบริการเสริมความงามใกล้บ้านคุณ และขอคำแนะนำจากเราได้ที่นี่ Bookup.asia Call - Center (095)684-8657

Bookup.asia ระบบนัดหมายสุขภาพความงามและรีวิว -- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนะนำแอพพลิเคชั่น กับไลฟ์สไตล์ทันสมัย ที่ให้บริการฟรี!




Create Date : 08 เมษายน 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 12:30:43 น.
Counter : 612 Pageviews.

0 comments

Beauty Sandy
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เกิดเป็น "เจ๊" แม้จะถึก! แต่ไม่เคยละเลยเรื่อง #ความงาม