• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• My Home
• รักษาสิวด้วยตนเองด้วยยาตามท้องตลาด

Review : Pan Acne Whitening Cream (รักษารอยสิว) เนื่องจากเดิมทีฝนใช้ตัว LAX -1 กับ LAX -3 มาโดยตลอด จนยาหมด ก็ได้ฝากคุณแฟนไปซื้อที่ราชเทวีคลินิค แต่ก็มิได้นำพา... เหมือนสั่งขี้มูก ฟึ๊ดๆๆ พอได้ไป กทม. เอง ก็ดันไปแต่ห้างที่ไม่มีคลินิคนี้สะอีก ... 555+ จวบจน 2 อาทิตย์และ ที่หน้าไม่ได้รับการบำรุงจากยาตัวนี้ เวรกรรม.. ทนไม่ไหว อิชั้นไปลุยใน Big C แปดริ้ว มาๆๆๆ ขอลองตัวที่คุณหมอบอกว่ามันสรรพคุณคล้ายๆ กันหน่อย ( คุณหมอบอกมานานและ ไม่ได้ลองเองสะที) ก็เจอตัวไวเทนนิ่งตัวนั้น รูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้ มาอ่านรายละเอียดกันนะคะ ต่อด้วยฉลากข้างกล่อง วันที่ผลิต และวันหมดอายุ (ต้องดูด้วยนะจ๊ะ ห้ามลืม) ก็เห็นๆ ว่ามาจากแหล่งเดียวกับราชเทวีคลินิคตามที่คุณหมอบอก โอเค.. เทสต์ทันที ผลการใช้ ประมาณเกือบ 1 เดือน พบว่า..... โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์นี้ก็รักษารอยสิวตามอาการเหมือนกับที่เคยใช้ LAX-1 ทุกอย่างคล้ายๆ กัน เพียงแต่จะรู้สึกว่ามันเหม็นกว่า กลิ่นคล้าย Tea Tree Oil และสรรพคุณข้างกล่องก็บอกว่ามีส่วนผสมสารกันแดดด้วย สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น ให้ทาบางๆ ย้ำ.. นะ ว่าทาบางๆ ไม่งั้นเยอะไปมันจะแสบยุบยิบ ในผลิตภัณฑ์นี้มี ethylhexyl salicylate 4% แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้นะ ศรีทนได้อยู่ สำหรับกลางคืนก็ทาเหมือนตอนเช้า รวมๆ แล้วให้ 8 เต็ม 10 คะแนนค่ะ เพราะไม่ชอบกลิ่น อีกอย่างถ้าใครเคยใช้ LAX-1 แล้วมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวนี้มันให้ความรู้สึกที่ต่างกัน แต่ผลก็คล้ายๆ กัน คือ ผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ลดเรื่องรอยสิวได้ดีระดับหนึ่ง ในรายละเอียดข้างกล่องระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ... การใช้ผลิตภัณฑ์นี้บางรายที่มีปัญหา Comedone อุดตันที่รูขุมขนอยู่ก่อนแล้ว และไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า การใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงทำให้ Comedone ที่อุดตันอยู่ลอกออก อาจส่งผลให้เกิดสิวขึ้นในช่วงแรกๆ แต่เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ Comedone ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นอย่าไปตกใจที่สิวขึ้น .... "การที่ฝนสิวไม่ขึ้นเพิ่มก็เพราะมั่นดูแลผิวหน้าทุกวันตามอัตถภาพ บำรุงผิวตามความเหมาะสม รักษาสิวเองตามอาการ ในเวลาเช้า-เย็น ช่วงก่อนล้างหน้าก็ทา BP สลับวันกับ Panoxyl ทุกวัน ดังนั้นสิวจึงไม่เพิ่มขึ้นตามคำเตือนนั้นๆ และก็ใช้ได้ต่อเนื่องปกติดีค่ะ ".... คราวนี้จากการไปนั่งค้นคว้ารีวิวต่างๆ แต่ละคนจะมีอาการแพ้ยาตัวนี้ โดยอาการที่พบเห็นส่วนมากจะสิวเห่อ และทนใช้ต่อไม่ไหว บางคนบอกแสบหน้า หน้าแดง หน้าลอก ส่วนตัวใช้แล้วหน้าไม่แห้งนะคะ เพราะฝนเป็นคนผิวผสมแต่ค่อนข้างไปทางมัน ก็ปกติดีค่ะ ^^ นับว่าผ่านกับการทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ถ้าถามว่าจะซื้อใช้ต่อไหม... คงไม่ซื้อใช้ค่ะ จะใช้ยามจำเป็นที่หาซื้อยาประจำไมได้ หรือฉุกเฉินก็คงต้องใช้ ฝนว่าจะกลับไปใช้ LAX-1 กับ LAX-3 อีก เพราะของมันเคยๆ อีกอย่างเรารู้สึกดีกับ 2 ตัวนั้นมาตลอด หากใครที่สนใจอ่านข้อมูลรีวิวนี้แล้ว ใช้วิจารณญาณสักนิดนะคะ บางคนก็แพ้ บางคนก็ถูกกับผลิตภัณฑ์นี้ ราคาอยู่ที่ 290 บาท ถ้าเป็น LAX – 1 กับ LAX -3 ก็ประมาณ 3 ร้อยกว่าๆ จ้า หวังว่าผลการทดสอบนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่สนใจหาตัวรักษารอยสิวบ้างนะคะ   Create Date : 04 มกราคม 2553     Last Update : 4 มกราคม 2553 20:19:17 น. Counter : 3429 Pageviews.   Share Tweet

Review : Zamian Gold Cacao Pack Mask Set มาส์กโกโก้ผสมทองคำ ชื่อจะดูยาวไปนิด แต่ว่าเราจะคุ้นหูกันดีกับชื่อ “มาส์กโกโก้ทองคำ” จริงๆ แล้วอิชั้นใช้มาได้ 2-3 เดือนแล้วค่ะ ชอบมาก ตอนแรกได้แค่ตัวเทสต์ เทสต์ครั้งแรกก็ติดใจทำให้กระหืดกระหอบไปหาที่ กทม.ทันที เมื่อได้มาครอบครองก็ต้องทำการรีวิวสะหน่อย เก็บผลมาตั้งนาน อยากจะนำเสนอ หุหุ สรรพคุณ : Zamian Gold Cacao Pack Mask Set • มาร์คโกโก้ผสมทองคำ99.9% 150G • สบู่โกโก้ 100G • สบู่โอลีฟเวอร์จิ้นออย 100G • โฟมล้างหน้าโกโก้ 180G เป็นเซตสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวโดยเฉพาะ ช่วยจัดการกับสิวหนอง สิวผด รูขุมขนกว้าง ผิวมัน หลุมสิวและรอยแดงบนใบหน้าจากการแกะสิว หรือผิวถูกทำร้ายทำให้หน้าขาวใสไร้รอยสิวขจัดสิวและช่วยให้ผิวขาวสว่างใส เนียบเรียบ ผิวละเอียดขึ้น รูขุมขนกระชับ สิวที่เป็นจะลดน้อยลง พร้อมทั้งจุดด่างดำบนใบหน้าจะค่อย ๆ จางลง ส่วนผสมล้วนแล้วผลิตจากธรรมชาติ เช่นโกโก้ ทองคำ และโคลนพอกหน้า คำโปรยด้านบนเราจะมักเห็นในเวปที่ขายของ Online กล่าวถึงความเจ๋งเป้งของผลิตภัณฑ์แบบนี้จนเป็นฟอร์มมาตรฐาน และเมื่ออิชั้นได้ใช้จริงก็พบว่า.. ... “ผิวมันเนียนเด้งได้หลังใช้ เวลาที่มือได้สัมผัสกับฟองมันนุ่มมือ และเนียนมากมาย ยิ่งกลิ่นนะคะ .. หอมเกินบรรยาย เปิดหลอดดมก็งั้นๆ ต้องลองถูให้แตกฟองบนใบหน้า โอ้ว.. หอมโกโก้เกินบรรยาย”.... งั้นมาชมภาพพร้อมทั้งวิธีใช้กันเลยดีกว่านะ 1. ล้างหน้าด้วยสบู่โกโก้เพื่อขจัดความมัน และชำระล้างสิ่งสกปรกบนผิวหน้าก่อนนะจ๊ะ สบู่หอมมากมาย อยากเอาลิ้นเลีย อุบาทว์จริงๆ เรา ใครที่เคยลองมาแล้วอาจมีอาการคล้ายๆ กัน มันหอมยวนใจ 2. มาร์กหน้าให้ทั่วด้วยมาร์กโกโก้ ทิ้งไว้ประมาณ20นาที หรือจนกว่าจะแห้ง ในขั้นตอนนี้กลิ่นโกโก้ก็แรงหนักเข้าไปอีก ทำให้หิ๊ว หิว ... -*- ภาพที่ 1 ทาด้วยนิ้วมือ ( ภาพนี้ถ่ายตอนไม่สบายจ้า หน้าบวมมาก ดูแต่ผล ความบวมอืดให้มองข้ามไป ฮิฮิ) ภาพที่ 2 ทาด้วยแปรงสำหรับทามาส์ก ( ภาพนี้ถ่ายตอนสบายดี ตาใสแป๋ว ) จะเห็นได้ว่า... ใช้มือดีกว่าค่ะ แปรงไม่ค่อยจะเนียนกริ๊บเลย มันติดในร่องขนแปรงหมดอ่ะ 3. ล้างออกด้วยสบู่โอลีฟเวอร์จิ้นออย สบู่ก็หอมเช่นเคย เรียกได้ว่าจะครบ 4 ขั้นตอนแล้วยังมีความสุขอยู่เลยหล่ะ 4. ทำความสะอาดอีกรอบด้วยโฟมล้างหน้าโกโก้ เพื่อกระชับรูขุมขน มาถึงขั้นตอนนี้อยากบอกว่าเมื่อสัมผัสหน้าหลังจากล้างด้วยโฟมแล้ว ผิวหน้าออกตัวเอี๊ยดได้เลย คือ ผิวจะตึงสุดๆ ใครที่ผิวแห้งอาจไม่ชอบนะจ๊ะ ควรใช้สัปดาห์ละ2-3 ครั้งสำหรับผิวมัน และ1-2 ครั้งสำหรับผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง สำหรับสบู่กับโฟมใช้ได้ทุกวัน ถ้าเป็นมาร์คใช้ทุก ๆ 2 วันค่ะ ความพึงพอใจ : 9 เต็ม 10 เหตุผล : กลิ่นหอมมากกก .. เมื่อสัมผัสผิวหลังใช้จะรู้สึกเนียนได้เห็นๆ แต่หน้าจะตึงไปนิด (นิดเดียว) ฟองนุ่มละมุน เรื่องสิวแห้งก็ดีในระดับ 6 เต็ม 10 ไม่ได้ช่วยให้สิวหายเร็วขนาดนั้น แต่ว่าใช้ได้ในขณะที่มีสิวและสิวก็ไม่เห่อแดง ถามว่าใช้เพื่ออะไร.. ส่วนตัวตอบว่าใช้เพื่อให้ใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลาและบำรุงผิวตามสภาพค่ะ ภาพประกอบความเข้าใจ Credit Blog คุณ satarung //www.bloggang.com/data/satarung/picture/1221001430.jpg ใครรู้สึกชอบไม่ชอบสามารถเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ขอบคุณที่เข้ามารับชมรีวิวหวังว่าคงจะเป็นข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จ้า ปล. ขอบคุณพี่โอ๋ ชฏาแหลมที่ส่งตัวเทสต์มาให้ แต่ฝนชอบมากๆ จึงซื้อชุดใหญ่มาเพลิดเพลินเจริญจิตเลยทีเดียว ถ้าพี่โอ๋ได้ใช้ตัวเต็มทั้งเซ็ตจะปลื้มมากๆ ค่ะ สุดยอดแห่งกลิ่นและมันส์ในอารมณ์หลังใช้ หน้าเป๊ะมาก .. หมายถึงมันผิวเราจะดูเนื้อแน่นๆ ดีแท้   Create Date : 04 มกราคม 2553     Last Update : 4 มกราคม 2553 20:14:44 น. Counter : 2512 Pageviews.   Share Tweet

Review >> Gel Eye Liner << L’oreal VS Maybelline หลังจากที่ไม่ค่อยได้แต่งหน้าบ่อย แต่ยังคงแอบติดการกรีดอายฯ อยู่บ้าง เพราะถ้าหากจะปล่อยให้ใบหน้าไร้เมคอัพก็คงจะดูป่วยมากมาย แต่ทุกครั้งที่ได้ไปถอยอายไลเนอร์มากี่ที อดไม่ได้ที่จะเลือกใช้แบบ “เจล” ฝนจะเป็นคนติดใช้แบบเจล เพราะเขียนง่าย ปาดได้อารมณ์ ไม่หลุด ไม่ร่อน ส่วนใหญ่จะติดค่อนข้างทนดี มาวันนี้จึงขอแชร์ข้อมูลในลักษณะเปรียบเทียบจากผลการใช้ส่วนตัว ________________________________________________________________ L’oreal Super Liner Waterproof (Black) คุณลักษณะเนื้อ : เนียน นิ่ม เขียนง่าย แห้งไว ให้ 9 เต็ม 10 นะจ๊ะ ผลระหว่างวัน : ติดตลอดวัน แต่แอบแพนด้า กันน้ำก็จริง แต่ทำไมใช้แล้วมันมาร่วงที่ขอบตาล่างไม่รู้ งง!! รูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ : กระปุกเล็กๆ น่าใช้ พกพาง่าย กระปุกใส เห็นเนื้อครีมชัดเจน ภาพการทดลอง ... จะเห็นได้ว่าเรียบเนียนดีนะคะ (ขออภัย ขนตารกมาก พยายามจะเสาะให้ชิดขอบตามากแล้วทำได้แค่นี้ เหอๆ) ________________________________________________________________ MAYBELLINE EYESTUDIO LASTING DRAMA (Black) คุณลักษณะเนื้อ : เนียน นิ่ม เขียนง่าย แห้งช้ากว่านิดนึง ปาดบนเปลือกตาแล้วรู้สึกแฉะๆ ให้ 8 เต็ม 10 นะ ผลระหว่างวัน : ติดทนดี แม้ช่วงเย็นๆ จะดูจาง แต่ไม่ร่อนแตกบนเปลือกตา แค่จางๆ ลงเฉยๆ ไม่แพนด้านะ รูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ : กระปุกเล็ก น่าใช้พกพาง่าย สีกระปุกขุ่น คล้ายของ KATE ภาพการทดลอง ... จะเห็นได้ว่าเรียบเนียนดีนะคะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า MAYBELLINE เขียนลื่นกว่า แม้จะแฉะไปนิด แห้งช้าไปหน่อย แต่เทียบกับ BOBBI BROWN เรื่องความกริ๊บของเส้น หมายเหตุ : ใช้แปรงที่แถมมาในสินค้า ไม่ได้ใช้แปรงหัวตัดของ BOBBI BROWN นะคะ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าจากรูปดังกล่าว การวาดเส้นก็คมชัดใช้ได้ค่ะ ปาดเนื้อปุ๊บ เขียนได้ปั๊บ ไม่จำเป็นต้องมาเขียนบนหลังมือเพื่อวอล์มเนื้อเจลก่อนก็ได้ เปรียบเทียบผลหลังทดสอบด้วยการล้างน้ำเปล่าและออกแรงถูเท่าๆ กัน ________________________________________________________________ ข้อแนะนำในการใช้เจลไลเนอร์ เปิดฝาไลเนอร์ และใช้พู่กันไลเนอร์ปาดเนื้อเจลแต่เพียงเล็กน้อยและวาดให้ชิดขอบตาด้วยเนื้อเจลให้สีสวยเข้ม เขียนตามความถนัดให้ได้ความคมชัดเรียบเนียน ปรับแต่งตามความต้องการได้หากชอบเส้นบางหรือหนาตามสไตล์ของแต่ละคน เนื้อเจลที่ดีควรแห้งไวหลังการวาด ข้อควรระวัง ปิดฝาทุกครั้งหลังใช้งาน และเช็ดหัวแปรงด้วยกระดาษทิชชู่ หากเกิดรอยเปื้อนบนแปรงให้ใช้ Makeup Remover มาเช็ดทำความสะอาดและเช็ดตามด้วยกระดาษทิชชู่อีกทีหนึ่ง และปล่อยให้แป้งแห้งเอง ________________________________________________________________   Create Date : 04 มกราคม 2553     Last Update : 4 มกราคม 2553 20:09:36 น. Counter : 1891 Pageviews.   Share Tweet

★ : : : : : Review รักษาสิวด้วยตนเอง >> "กันแดด" ที่เหมาะกับคนเป็นสิว : : : : ★ ครีมกันแดดคืออะไร ครีมกันแดด แปลตรงตัวว่า เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ------------------------------------------------------------------------------------------------ ครีมกันแดด มีสองชนิด คือ 1. Chemical sunscreen มีคุณสมบัติในการดูดซับแสงแดด และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี มีหลายชนิด บางชนิดกันได้แต่ UVB ได้แก่ PABA, Salicylates, Cinnamates แต่บางชนิดก็สามารถกัน UVB และกันUVA ได้บางส่วน เช่น Benzophenones และบางชนิดเช่น Parsol 1789 กันได้แต่ UVA เป็นต้น PABA เป็นสารเคมีที่ใช้กันมานาน แต่ต่อมาพบว่า มีการแพ้ได้บ่อย ทำให้ความนิยมลดลง สารในกลุ่ม Benzophenones ในระยะหลังก็พบการแพ้ได้บ่อยมากขึ้นเช่นกัน 2. Physical sunscreen ออกฤทธิ์โดยการสะท้อนแสงแดด ออกจากผิวหนัง ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc oxide เป็นต้น สารในกลุ่มนี้ ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB และยังถูกดูดซึมเข้าผิวหนังน้อยมาก จึงไม่พบการแพ้ ข้อเสียคือ ทาแล้วจะมองเห็นผิวหน้าเป็นสีขาวเกินไป จึงได้มีการปรับปรุงให้ particle size มีขนาดเล็กลง เมื่อทาแล้วจะเห็นสีขาวน้อยลง แต่พบว่าการออกฤทธิ์เมื่อ particle size เล็กมากๆ จะเปลี่ยนเป็นแบบดูดซับแสง คล้ายกับ chemical sunscreen อย่างไรก็ตาม สารในกลุ่มนี้ค่อนข้าง inert จึงปลอดภัย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแพ้สัมผัส ------------------------------------------------------------------------------------------------ อะไรคือ SPF SPF (Sun Protection Factor) คือตัวเลขที่บอกความสามารถของครีมกันแดด ในการป้องกันแสง UVB ไม่ให้ผิวหนังเกิดการไหม้แดด ตัวเลขของ SPF คือจำนวนเท่าของระยะเวลาที่เราจะอยู่ท่ามกลางแสงแดด ได้โดยไม่เกิดการไหม้แดด เมื่อเทียบกับไม่ใช้ครีมกันแดด โดยผิวหนังที่ทำการทดสอบ จะทาครีมกันแดดในปริมาณ ๒ มก./ตร.ซม. ตัวอย่างเช่น ถ้าในเวลาปกติที่ไม่ใช้ครีมกันแดด ถ้าออกไปอยู่กลางแดด เป็นเวลาประมาณ ๓๐ นาที จะเกิดผิวไหม้ เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 จะสามารถอยู่ได้นานขึ้น ๑๕ เท่า โดยไม่มีอาการไหม้แดด ซึ่งก็เท่ากับ ๗ ชั่วโมง ๓๐ นาที ครีมกันแดดที่มี SPF 15 จะกันแสง UVB ได้ประมาณ ๙๓% SPF 30 จะกันได้ประมาณ ๙๗% และSPF 2 จะกันได้ประมาณ ๕๐%์ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อควรคำนึงเกี่ยวกับ SPF แม้ว่า SPF จะสูงเท่าใด ก็ไม่ได้สามารถกันแสงอุลตราไวโอเลตได้ ๑๐๐% SPF บอกแต่ความสามารถในการป้องกัน UVB เท่านั้น เนื่องจากใช้การไหม้แดดเป็นตัววัด ซึ่งการไหม้แดดเป็นผลจาก UVB ในปัจจุบัน ยังไม่มีตัววัดมาตรฐานสำหรับ UVA ผลของแสงอุลตราไวโอเลตบางอย่างต่อผิวหนัง เช่น การเกิดมะเร็งผิวหนัง การแก่ของผิวหนังก่อนวัย เป็นผลสะสม จากการได้รับแสงอุลตราไวโอเลต ในระยะยาว ในปริมาณแสงที่ต่ำกว่าแสงที่ทำให้เกิดการไหม้แดด และ UVA ก็มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ได้เช่นเดียวกับ UVB ดังนั้นแม้จะใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถป้องกันผลของแสงแดดต่อผิวหนังได้ทุกอย่าง จึงยังคงต้องปกป้องผิว โดยวิธีอื่นร่วมด้วย ดังได้บอกแล้วว่า การวัดค่า SPF นั้น มาตรฐานอยู่ที่ต้องทาครีมกันแดด ในปริมาณ ๒ มก./ตร.ซม. ดังนั้นเวลาทาครีมกันแดด ถ้าทาบางเกินไป จะไม่ได้ SPF ตามที่ระบุไว้ ------------------------------------------------------------------------------------------------ อะไรคือ waterproof และ water-resistant waterproof คือครีมกันแดดที่ยังคงสภาพSPF ที่กำหนด หลังจากทาครีมนี้ และอยู่ในนํ้าเป็นเวลา ๘๐ นาที water-resistant คือครีมกันแดดที่ยังคงสภาพSPF ที่กำหนด หลังจากทาครีมนี้ และอยู่ในนํ้าเป็นเวลา ๔๐ นาที ------------------------------------------------------------------------------------------------ จะเลือกครีมกันแดดอย่างไร เลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และUVB สำหรับผิวคนไทย แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 เป็นอย่างน้อย ทาครีมกันแดดอย่างน้อย ๓๐ นาทีก่อนออกสู่แสงแดด และทาซํ้าทุก ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง ถ้ายังต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดต่อไป เลือกครีมกันแดด waterproof หรือ water-resistant ถ้าจะว่ายนํ้าหรือออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมาก ------------------------------------------------------------------------------------------------ จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันหรือไม่ คำถามนี้ คงไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง คงต้องพิจารณาความเหมาะสมในแต่ละบุคคล ครีมกันแดดหากใช้เป็นประจำทุกวัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง กิจวัตรประจำวัน มีโอกาสสัมผัสแสงแดดมากแค่ไหน ถ้าออกจากบ้านแต่เช้ามืด กลับดึก และอยู่แต่ในตึกตลอดทั้งวัน ก็อาจพิจารณาใช้ครีมกันแดด เฉพาะบางวันที่จำเป็น ข้อควรคำนึงอีกอย่างคือ แสงแดดสามารถสะท้อนพื้นน้ำ พื้นทราย ได้ แม้จะอยู่ในร่มเงาก็ยังมีโอกาสได้รับแสงอุลตราไวโอเลตได้ นอกจากนี้ แสง UVA ผ่านทะลุกระจกได้ การนั่งทำงานในร่ม แต่ใกล้หน้าต่างก็มีโอกาสได้รับแสงเช่นกัน แสง UVA ผ่านทะลุก้อนเมฆได้ และมีปริมาณแสงค่อนข้างคงที่ตลอดเวลาที่มีแสงสว่าง ดังนั้น คำแนะนำที่ให้เลี่ยงแสงแดดในช่วงแดดจ้า ๑๐ โมงเช้า ถึง ๓ โมงเย็นนั้น จึงได้ผลในการป้องกันแสงในช่วง UVB เป็นหลัก ------------------------------------------------------------------------------------------------ อายุที่ควรเริ่มใช้ครีมกันแดด เนื่องจากผลระยะยาวของแสงแดดต่อผิวหนังนั้น เป็นผลสะสมในระยะยาว มีการศึกษาว่า ปริมาณแสงแดด ๘๐% ที่คนเราได้รับ ตลอดทั้งชีวิตนั้น ได้มาตั้งแต่ช่วงอายุ ๑๘ ปีแรกของชีวิต ดังนั้น จึงแนะนำว่าในเด็ก ก็ควรปกป้องผิวหนังจากแสงแดดเช่นเดียวกัน เวลาเด็กไปว่ายน้ำ ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วบริเวณที่อยู่นอกร่มผ้า รวมถึง ใบหน้า ใบหูด้วย และควรทาครีมกันแดดก่อนลงน้ำอย่างน้อย ๓๐ นาที อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดในเด็กที่เล็กมาก เช่นอายุต่ำกว่า ๖ เดือน ควรจะให้เด็กหลีกเลี่ยงแสงแดด การแพ้ครีมกันแดด ครีมกันแดดในปัจจุบัน มักมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิด เนื่องจากยังไม่มีตัวใดที่สามารถป้องกันได้สมบูรณ์ ทั้ง UVA และ UVB จึงทำให้มีโอกาสแพ้สารเคมีในครีมกันแดดได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจแพ้สารตัวอื่นที่ผสมเข้าไปเพื่อเป็น antioxidant, preservative หรือ emulsifier ได้ด้วย โดยทั่วไป สารเคมีในกลุ่ม chemical sunscreen จะพบการแพ้ได้ โดยเฉพาะ PABA และ Benzophenones พบการแพ้ได้บ่อย ส่วน physical sunscreen ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง ------------------------------------------------------------------------------------------------ ผลของครีมกันแดดต่อการสร้างวิตะมินดีในร่างกาย มีคำถามว่า ถ้าใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายขาดวิตะมินดีหรือไม่ สำหรับในประเทศไทย ซึ่งมีแสงแดดตลอดทั้งปี การใช้ครีมกันแดดไม่มีผลให้ร่างกายขาดวิตะมินดี ข้อมูลโดย beautyinsight.cjb.net ------------------------------------------------------------------------------------------------ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า... ฝนใช้ครีมกันแดดอยู่ 2 ยี่ห้อ 1 >> PHYSICAL NON CHEMICAL SUNSCREEN 100% Physical Block ครีมกันเเดดสมูธอีฟิสิคอล นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical Sunscreen) พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปราศจากสารกันแดดชนิดเคมี ที่ก่อให้เกิดอันตราย ปกป้องผิวคุณจากปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย สีผิวคล้ำและไม่สม่ำเสมอ ที่มีสาเหตุ จากรังสี UVA/UVB แม้แต่ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ไวต่อแสงแดด ได้อย่างมีประสิทธิภาพสารสกัดธรรมชาติ ยังอุดมไปด้วย สารสกัดธรรมชาติ 6 ชนิด Sunflower, Chamomile, Coffee Extract, Aloe Vera, Rose Hip, Wheat Germ ที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม สดชื่นในทุกฤดูกาล Non Chemical Sunscreen 100 % จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง หรือสะสมที่ผิวหนัง SPF 52 เป็นค่าการปกป้องที่สูงสุดสำหรับประเภท Non-Chemical Sunscreen (วัดตามค่ามาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ประเทศสหรัฐอเมริกา USFDA) Hypo-Allergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ไม่แสบตา Long Lasting Sunscreen ปกป้องผิวได้ยาวนานตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องทาซ้ำ ไม่เหนอะหนะ ล้างออกง่าย เหมาะสำหรับ -ผู้ที่ต้องการให้ผิวขาวเร็ว โดยไม่มีผิวหมองคล้ำจากแสงแดด -ผู้ที่ต้องการป้องกัน/อยู่ระหว่างการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยจากแสงแดด 2 >> SpectraBAN Facial Sunblock Cream SPF 60 ตัวนี้ฝนชอบรองมาจากสมูธอี ทุกวันนี้ใช้สลับๆ กัน ไม่หนักหน้า ล้างออกง่าย ราคาย่อมเยาว์ ไม่ระคายเคือง คุณสมบัติในการกันแดดใกล้เคียงกับสมูธอีนะจ๊ะ   Create Date : 12 มิถุนายน 2552     Last Update : 4 มกราคม 2553 18:37:28 น. Counter : 7551 Pageviews.   Share Tweet

★ : : : : : Review รักษาสิวด้วยตนเอง >> ยา "สิว 2" : CM ที่เคยผ่านการทดลองใช้มา : : : : ★ ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ CM ฝนจะใช้ CM ทุกวัน เลือกแบบเป็นเจลใส ไม่มีกลิ่นฉุนของแอลกอฮอลล์ เพราะว่าฝนจะเน้นทาทั่วหน้าเป็นส่วนใหญ่ ก็ผิวฝนชอบมีสิวยุบยิบๆ ไปเรื่อย แต่จริงแล้วสรรพคุณมันให้ทาแค่หัวสิว ดังนั้นการลอกเลียนแบบจึงควรใช้วิจารณญาณ ผิวเราไม่เหมือนกัน และถ้าฝนมีสิวอักเสบ จะเลือกใช้ CM แบบน้ำที่มีแอลกอฮอลล์เพราะมันหายเร็วกว่า ..................................................................................................................... CM คือ ยารักษาสิวอักเสบ มันทำงานโดยการกำจัดโปรตีนที่เป็นอาหารของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียตายและไม่สามารถเจริญเติบโตต่อได้ สามารถลดการติดเชื้อที่เกิดจากสิว โดยเวลาทาให้ทาบริเวณที่เป็นสิวอักเสบและข้างเคียงที่เป็นเพื่อป้องกันการลามของเชื้อแบคทีเรีย ถ้าจะให้ได้ผลดีควรใช้คู่กับยารักษาตัวอื่นเช่น Benzoyl peroxide หรือยากิน ..................................................................................................................... ClINDA-GEL ประเมินคุณภาพจากการใช้ให้ 10 คะแนน คือ สามารถทาทั่วหน้าหลังเช็ดด้วยโทนเนอร์ได้เลย ไม่มีอาการแสบ สิวก็ยุบดี ผดผื่นก็ยุบหมด หลอด 1 ใช้นานดีแท้ แต่ข้อบ่งใช้ของมันจริงๆ คือ ให้ทาเฉพาะหัวสิวนะจ๊ะสาวๆ อย่าลืม !! ตัวนี้เป็นยาปฏิชีวนะ (antibiotic) สรรพคุณรักษาสิวอักเสบเหมือน Clinda-M อันลือลั่นทุกประการ ใช้ร่วมกับ Benzoyl Peroxide 2.5 ได้ และเพื่อประสิทธิภาพในการลดการอักเสบได้เร็วขึ้นใช้ CM ตัวนี้ร่วมกับ BP ไม่นานเกิน 10 วันสิวยุบ Clindalin gel ประเมินคุณภาพจากการใช้ให้ 8 คะแนน คือ จะดีมากในตอนที่ผิวหน้าอักเสบ ทาแล้วไม่แสบค่ะ แต่ทำไมไม่รู้ถึงรู้สึกว่ามันเห็นผลช๊า ช้า ทาแล้วก็งั้นๆ ระยะเห็นผลอยู่ราวๆ ประมาณ 1 อาทิตย์ให้หลัง แต่ยอมรับว่าไม่แพ้แน่นอน เพราะมันไม่มีน้ำหอม แทบจะไม่มีกลิ่นด้วยซ้ำ ถ้าคุณไปกดสิวมาแล้วใช้ตัวนี้ทาผิวหลังกด สามารถลดอาการอักเสบในตอนเช้าได้ดี ข้อเสียคือ .. เมื่อเปิดใช้ครั้งแรกอากาศมันมีอยู่ครึ่งหลอด รู้สึกขาดทุนพิลึกๆ วุ้ยเรา Clienda ตัวนี้ไม่ปลื้มเลย ประเมินคุณภาพจากการใช้ให้ 4 คะแนน กลิ่นเหม็น หัวเป็นก้านใช้แต้มไปกับหัวสิว ใช้ไป ใช้มา หัวที่ใช้สัมผัสกับผิวหน้าเรามันก็ดำ ดูสกปรกไม่กล้าจะนำมาจิ้มหน้าในครั้งต่อไป ฝนไม่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อค่ะ ไม่ผ่านสเปคอย่างแรง ใช้แล้วมันไม่หายอ่ะ CLINDA-M ประเมินคุณภาพจากการใช้ให้ 9 คะแนน สิวยุบดีมาก หายไว แต่ข้อเสียคือ สิวที่ยุบมันจะดำ เภสัชบอกว่าเป็นเพราะมันมีแอลกอลฮอลล์ ก็ใช่ซิ๊..... เหม็นสะขนาดนั้น ฉุนกึกกัก อย่าทาทั่วหน้าเชียวเพราะหน้ามันจะแห้งมาก ให้ทาเฉพาะหัวสิวก็พอค่ะ ในตัวยานี้ Clindamycin 1.0 g ส่วน base ที่ผสมมีแอลกอฮอล์อยู่ด้วย Clinda-M นี่ผลิตโดย RPC เป็นบริษัทเดียวกันที่ทำให้ราชเทวีคลินิคและแพน ฉะนั้นใครที่ซื้อของในคลินิคใช้ ตัวนี้มาตราฐานใกล้เคียงที่สุด แต่จะแสบนิดถ้าทาสิวอักเสบ อ้างอิงข้อมูล : //www.Acnethai.com   Create Date : 28 พฤษภาคม 2552     Last Update : 28 พฤษภาคม 2552 9:06:01 น. Counter : 8127 Pageviews.   24 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com