It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
All blogs
 

เพลง ตักบาตรบ้านแป้ง คนบ้านเดียวกัน

ตักบาตรบ้านแป้ง คนบ้านเดียวกัน โอ็ย น้อ นอ คนบ้านเฮา คนบ้านเดียวกัน ถ้าบอกบุญกันแปลว่าฮักกันอยู่ รู้กันว่าอยู่ไหน อยู่ไกล้อยู่ไกล ใจก็ยืนหยัดสู้ ไม่เคยท้อเคยถอย




ขอบคุณ ดีเอ็มซี




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2555    
Last Update : 29 มิถุนายน 2556 8:36:47 น.
Counter : 2072 Pageviews.  

How To Build The Habits Of The Children To Be Sincere And Clever (Mai Ngo)#2

loaocat
loaocat
How To Build The Habits Of The Children To Be Sincere And Clever (Mai Ngo)#2

People, after they are born as humans, whether they are a child or an adult, cannot observe who is a good person and who is a bad person because they are not clever (no common sense)

Meditation
Meditation for Beginners

How To Build The Habits Of The Children
To Be Sincere And Clever (Mai Ngo)#2



Teach very strictly from a young age all of the good habits.

When You Respect The Lord Buddha You Are Clever

People, after they are born as humans, whether they are a child or an adult, cannot observe who is a good person and who is a bad person because they are not clever (no common sense). S/he may be a graduate with many a degree such as B.S., M.A. or PhD, but will be unable to tell who is good or bad. If you cannot tell the difference then someone may cheat you or lie to you (hoodwink you) or more than that, you can bring a bad person into your house. The household will then have a problem. The family will lose their good name. They will always have problems and will never stop.

Sometimes one generation will die and the problem still never ends. The younger generation will still feel the repercussions of the problems. You can still see the results often in the present. The reason is because they are not truly sharp to distinguish the good people from the bad.

But for someone to see who is good or who is bad it is necessary to be trained with the two factors:

1} Know the good patterns to use to distinguish the desirable people.
2} Teach very strictly from a young age all of the good habits.

When you complete these two factors, then when you grow up you will know how to pick the good person for a kalyanamitta (good noble friend) and know how to observe the good people from the bad people.

Be able to observe persons and see how they are able to succeed and see how they are able to become very wealthy. Also observe how other persons have become bankrupt. You should be able to separate the reasons and understand the peoples’ behaviors and temperaments. You will be able to know people and predict their next move. You will be able to tell who has wisdom and you will know the deeper reason and the origin of their good and the “measure” of their good.



When You Respect The Lord Buddha You Are Clever


The end result is that they will have guides to think about, before doing or creating anything that will make them assess:

1) What is good, real, and useful and how can I best learn from that example?
2) How do I make the best out of that example?

So this way they will do only good things in their lives, in their jobs, and for their nation.
That is the power of the good deeds and the habits that they try to learn which is to learn only good things.

On the other hand, the children, who have never been taught to have a rule for measuring good people, bad people, boon, kamma, should or should not never got trained to do good deeds and will have to struggle by trying to do right and wrong things by themselves. They will not know how to separate wisdom in terms of bad and good. These children will have a life of trials of right or wrong and will be very unfortunate.

If they have a habit of observing peoples’ bad deeds, it will make their lives worse. It would be like the parents trying to take care of a thief.

A thief might not want to be bad, but s/he acquires a wrong concept that being a thief is good. They think wrongly because they see wrongly so the child keeps on observing others and cannot distinguish the good person. The things that the children see are the misconduct and as a result their minds will be full of bad things. S/he will think that everybody in the world is bad except him/herself.

If this situation happens, the child will be the most unfortunate person. The chance for him/her to be successful will be lessened. S/he will keep on repeating thinking, speaking and doing only bad things all of the time and they have a clouded mind forever. The parents and the family will be suffering from his/her behavior. The parents will be sorry but will be unable to find where they went wrong in teaching their children wisdom so they let their children get away with everything. This is because the parents don’t know how to correct it.


Source www.dmc.tv
Credit:Table lozocat
loaocatloaocat




 

Create Date : 20 ธันวาคม 2554    
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 6:15:14 น.
Counter : 1141 Pageviews.  

อานิสงส์แห่งความยึดมั่นในศีล

ความสุข ความสบายใจ เป็นยอดปรารถนาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะดำรงอยู่ในสถานะใดก็ตาม ล้วนแสวงหาความสุขกันทั้งสิ้น ความสุขในโลกที่เจอะเจอกันอยู่นั้น เป็นความสุขที่มีทุกข์เจือปนทั้งสิ้น เป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืนอะไร เป็นแต่เพียงให้เพลิดเพลินไปวันๆ เท่านั้น แต่ผู้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งเป็นความสุขที่เที่ยงแท้ถาวร ที่เรียกว่าเอกันตบรมสุขนั้น ในอดีตก็มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านเข้าถึงกันมามากมายแล้ว พวกเราก็สามารถเข้าถึงได้ ถ้าหากมีความเพียรพยายามในการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งเป็นประจำสมํ่าเสมอ และก็ปฏิบัติตรงตามร่องรอยคำสอนของพระบรมศาสดา

มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย เถรคาถาว่า

“อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้งอาศัย เป็นประดุจมารดาผู้ให้กำเนิด คุณงามความดีทั้งหลาย เป็นประมุขแห่งกุศลธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้น นรชนพึงชำระศีลของตนให้บริสุทธิ์เถิด”

ผู้มีศีลบริสุทธิ์ แสดงถึงจิตใจที่งดงาม มีความสุข สดชื่นเบิกบาน อาจหาญร่าเริงอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีความกังวลหรือความคิดเบียดเบียนผู้อื่น ย่อมเป็นผู้ที่มนุษย์และเทวดาต่างก็ชื่นชม จะอยู่ในสายตาของชาวสวรรค์ ผู้มีศีลยังได้ชื่อว่าให้ความปลอดภัย แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นผู้มีวาจาที่น่าเชื่อถือเพราะพูดแต่คำจริง เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ ฟังแล้วเป็นมงคลแก่โสตประสาท และไม่ดื่มสุรายาเสพติด ไม่เอาควันพิษเข้าปอด หรือเอาน้ำไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย

ศีลที่บุคคลรักษาไว้ดีแล้ว นอกจากจะให้สมบัติในมนุษย์แล้ว ยังเป็นบันไดก้าวสู่สวรรค์ เป็นที่พึ่งในโลกหน้าได้อีก พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านจึงสรรเสริญศีลว่าเป็นประดุจมารดาแห่งคุณธรรมทุกอย่าง ถ้าปราศจากศีลเสียแล้ว คุณธรรมอย่างอื่นก็เจริญงอกงามได้ยาก ผู้ปรารถนาสวรรค์สมบัติและมีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร ก็ต้องเริ่มจากการสมาทานรักษาศีลให้บริสุทธิ์

* เหมือนดังเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่ท้าวสักกเทวราช จอมเทพแห่งดาวดึงส์ สมัยที่เป็นมนุษย์มีชื่อว่า มฆมาณพ ได้พร้อมใจกับเพื่อนๆ ๓๒ คน ตั้งใจสั่งสมบุญกัน สร้างสาธารณประโยชน์ ศาลาที่พักกลางทางสำหรับคนเดินทางไกล ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งอาหาร ที่พัก และยารักษาโรคเตรียมไว้ครบครัน โดยมฆมาณพกับเพื่อนทั้งหมด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาต้อนรับทำปฏิสันถาร คอยอำนวยความสะดวกสงเคราะห์ผู้มาพัก ทั้งนี้ภรรยาทั้งสามของมฆมาณพก็ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศาลา สระน้ำ และสวนดอกไม้ด้วย มีเพียงแต่ภรรยาคนที่ชื่อว่าสุชาดาเท่านั้น ที่เอาแต่หมกหมุ่นอยู่กับการแต่งตัว เพราะเข้าใจผิดว่ามฆมาณพทำบุญอะไรก็เหมือนนางได้ทำด้วย ซึ่งการสั่งสมบุญนั้น ใครทำคนนั้นก็ได้ จะทำแทนกันก็ไม่ได้ เหมือนการรับประทานอาหาร คนไหนรับประทานคนนั้นก็อิ่มเอง จะอิ่มแทนกันก็ไม่ได้

มฆมาณพและเพื่อน ๓๒ คน ได้ตั้งใจสั่งสมบุญบารมีทุกๆ อย่างจนกระทั่งสิ้นอายุขัย ด้วยผลบุญที่ทำไว้ดีแล้วนั้น ก็ส่งผลให้มฆมาณพได้เป็นท้าวสักกะจอมเทพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อนคนอื่นๆ ได้เป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นเดียวกัน ภรรยาทั้งสามก็มาเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ด้วยกันอีก ส่วนนางสุชาดาเนื่องจากไม่ได้ทำบุญกุศลใดไว้ จึงไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เป็นนางนกยางหากินอยู่ตามซอกเขาและหนองน้ำ

ท้าวสักกะได้ตรวจดูภรรยาทั้ง ๔ คนว่าไปเกิดในที่ใดกันบ้าง ก็เห็นเพียง ๓ คนที่อยู่บนเทวโลก แต่ไม่เจอนางสุชาดา จึงตรวจดูในเมืองมนุษย์ด้วยทิพยจักขุ ก็เจอนางสุชาดาเกิดเป็นนกยาง พระองค์ทรงบังเกิดความสงสารจึงเสด็จลงจากเทวโลกมาพาไปชมสรวงสวรรค์ โดยปล่อยไว้ที่สระน้ำ แต่นางอึดอัดอยู่ไม่ได้เพราะเป็นผู้มีบุญน้อย ขอกลับไปที่ซอกเขาตามเดิม ท้าวสักกะทรงแนะนำว่า ถ้าอยากเกิดบนสวรรค์ก็ให้ตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ แล้วนำกลับไปปล่อยไว้ในโลกมนุษย์ตามเดิม

อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวสักกะตั้งใจจะทดสอบศีลของนางนกยาง จึงแปลงเพศเป็นปลานอนหงายท้องลอยน้ำ ทำทีว่าเป็นปลาตาย นางนกยางเห็นอย่างนั้น คิดว่าปลาตัวนี้ตายแล้ว จึงเอาปากคาบหมายจะกินเป็นอาหาร ปลาก็กระดิกหาง นางจึงรู้ว่าปลายังมีชีวิตอยู่ ด้วยความตั้งใจมั่นในการรักษาศีล แม้ตัวเองอดตายก็ไม่ยอมกินปลาตัวนั้น จึงปล่อยไปตามเดิม ปลาตัวนั้นกลับร่างเป็นท้าวสักกะ แล้วเหาะไปประทับยืนอยู่ในอากาศ กล่าวอนุโมทนาสาธุการและให้กำลังใจให้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ต่อไป นางก็ตั้งใจรักษาศีลไม่ห้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดเป็นลูกสาวของนายช่างหม้อในกรุงพาราณสี

ท้าวสักกะทรงตรวจดูอีก พบว่านางนกยางได้ไปเกิดเป็นลูกสาวนายช่างหม้อ จึงแปลงเป็นชายแก่เอาฟักทองคำบรรทุกใส่รถจนเต็ม เที่ยวป่าวประกาศขาย โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้มาซื้อต้องเป็นคนที่รักษาศีลได้บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะซื้อได้แม้สักคนเดียว เพราะบางคนไม่รู้จักว่าศีลเป็นอย่างไร บางคนรู้จักแต่ก็รักษาได้ไม่ครบถ้วน จนมาถึงสาวน้อยคนนี้มาขอซื้อ ชายชราถามว่า “หนูรักษาศีลหรือเปล่า” เด็กสาวตอบว่า “รักษาศีลห้าครบทุกข้อ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยของคนอื่น ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยพูดโกหก และไม่ดื่มสุรายาเมา”

ชายชราจึงยกฟักทองคำให้ทั้งหมด แล้วจากไป นางก็ตั้งใจรักษาศีล ๕ ยิ่งชีวิต จนตลอดอายุขัย ด้วยผลบุญนั้น ทำให้ไปบังเกิดเป็นธิดาของท้าวเวปจิตติอสูร ซึ่งอยู่ที่บริเวณเชิงเขาพระสุเมรุ เมื่อนางเติบโตเป็นสาว ท้าวเวปจิตติเปิดการประชุมอสูรทั้งหมด เพื่อจะให้ธิดาเลือกคู่ครอง ท้าวสักกะทราบว่านางสุชาดาได้มาเกิดเป็นธิดาอสูร จึงได้เนรมิตกายเป็นอสูรแก่มาร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย

เมื่อถึงพิธีเลือกคู่ ธิดาอสูรเลือกท้าวอสรูแก่ ซึ่งก็คือท้าวสักกะจำแลง เพราะความรักที่เคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงซัดพวงมาลัยเสี่ยงทายไปหาท้าวสักกะ ท้าวสักกะจึงพาธิดาอสูรไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทำให้นางสุชาดาได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ อยู่ในทิพยวิมานอย่างมีความสุข

นี่เป็นผลบุญของนางสุชาดาที่เกิดจากการรักษาศีลอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ว่าแต่เดิมจะเป็นคนประมาท แต่ได้กัลยาณมิตรคือท้าวสักกะมาเตือนสติ แนะนำให้รักษาศีลห้า เมื่อตั้งใจรักษาศีลอย่างสมํ่าเสมอ ศีลนั้นก็มีอานุภาพทำให้ได้เกิดในภพภูมิที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่จากสัตว์เดียรัจฉานก็มาเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อไม่ประมาทยังคงรักษาศีลต่อไปอีก ละโลกแล้ว บุญก็หนุนนำให้ได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ คนที่ประมาทแล้วแต่กลับใจได้ เป็นคนที่น่าคบ น่าชื่นชมอนุโมทนาสาธุการทีเดียว

ดังนั้น อย่ามัวประมาทในชีวิต ให้หมั่นรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ อย่าหลงใหล เพลิดเพลินไปกับกระแสโลก แม้จะเป็นความสุขก็เพียงเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับความสุขในสวรรค์ แม้แต่ความสุขในสรวงสวรรค์เองก็ยังเทียบไม่ได้กับความสุขในอายตนนิพพาน เพราะความสุขเหล่านี้เป็นเพียงเหยื่อล่อให้หลงใหลติดอยู่ในสังสารวัฏ ให้ความสุขแก่เราชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้ถาวร ไม่ช้าก็เสื่อมสลายไป เป็นความสุขที่เจือด้วยความทุกข์ เราจึงควรทำชีวิตให้สมบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ(Meditation) ปัญญา เพื่อจะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต เข้าสู่พระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุข ที่ไม่มีทุกข์เจือปน

ฉะนั้น คนมีปัญญาไม่ควรประมาทในวัย วัยไหนก็ตายได้ทั้งนั้น ไม่ควรคิดว่า เรายังไม่แก่ ไม่เจ็บป่วย เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะเจ็บไข้ได้ป่วย จะประสบอุบัติเหตุเภทภัยเมื่อไร ดังนั้นควรใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า บางคนอาจเคยประมาทพลาดพลั้งไปแล้ว ก็อย่าไปเสียอกเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมา เมื่อมีสติรู้สึกตัวและได้พบกัลยาณมิตรแนะนำตักเตือน ก็ปรับปรุงแก้ไขกันเสียเนิ่นๆ ถ้าช้าจะไม่ทันการณ์

ผู้ที่สำรวมระวังรักษาศีล รักษากาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ จะเป็นที่ตั้งแห่งคุณความดีงามทั้งหลาย และเป็นพื้นฐานที่จะได้พบกับความสุขความบริสุทธิ์ที่ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะความประพฤติสุจริตจะทำให้จิตอ่อนโยนนุ่มนวลควรแก่การงาน เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา แล้วเราจะบรรลุเป้าหมายของชีวิต ได้เข้าถึงพระธรรมกายอย่างง่ายดาย เข้าถึงแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริงภายใน ความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงธรรม เป็นความสุขที่ยิ่งกว่าความสุขอื่นใด เราจะใช้ศีลเป็นสะพานเชื่อมโยง เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกๆ คน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๔๐ หน้า ๓๕๙


●คลิก ชม ราย ละ เอียด ที่ นี่ จ้ะ




 

Create Date : 12 กันยายน 2554    
Last Update : 12 กันยายน 2554 6:44:18 น.
Counter : 825 Pageviews.  

อานิสงส์ถวายน้ำดื่ม ●۩●※※●۩● แด่พระสงฆ์

ดิฉันได้พบพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้รับความลำบากกาย กระหายนํ้าจึงขวนขวายถวายนํ้าดื่มกับท่าน ผู้ใดก็ตามที่ถวายนํ้าดื่มกับภิกษุทั้งหลายผู้กระหายนํ้า แม่นํ้าทิพย์หลายสายที่สวยงาม ดารดาษด้วยดอกไม้อันเป็นทิพย์ มีนํ้าใสเย็นก็จะบังเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ดีแล้วย่อมได้มหาวิมานอันประเสริฐ สง่างาม นี้เป็นผลแห่งกรรมดีที่ดิฉันสร้าง

 การสร้างบารมีเป็นหลักสำคัญของการดำรงชีวิตอยู่ โดยเฉพาะชีวิตของนักสร้างบารมีผู้มีหัวใจที่มุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ก้าวเดินตามเส้นทางที่พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านดำเนินไปนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง พระอริยบุคคลทั้งหลาย ท่านได้ตั้งใจสั่งสมบารมีทุกรูปแบบทั้งทาน ศีลภาวนา ไม่เคยเลยที่จะขาดตกบกพร่องในการสั่งสมบุญ การที่เราทั้งหลายจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตเช่นท่านได้ เราก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนของท่าน ท่านทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น ไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย

มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน ปฐมนาวาวิมานชาดก ความว่า

“ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ
วิมานเสฏฺฐํ ภุสโสภมานํ
ตสฺเสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก
เอตาทิสํ ปุญฺญกตา ลภนฺติ

ผู้ทำบุญไว้แล้ว ย่อมได้วิมานชั้นเยี่ยม ประกอบด้วยภูมิภาคอันงดงามสง่างามหนักหนา นี้เป็นวิบากแห่งกรรมอันดีงาม ผู้ที่ทำบุญไว้แล้ว ย่อมได้ผลเช่นนี้”

บุญ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต ผู้ที่มีบุญมากชีวิตจะพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม การสั่งสมบุญจึงเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เกิดมาแล้วไม่ตั้งใจสั่งสมบุญบารมี การเกิดมาในภพชาตินั้นถือเป็นโมฆะ สูญเปล่า เกิดมาฟรีไม่ได้อะไร ถ้าหากเกิดพลาดพลั้งไปก่อบาปอกุศลถือเป็นความโชคร้ายอย่างยิ่งทีเดียว เพราะทุกข์ในอบายภูมิไม่มีเวลาว่างเว้นจากทัณฑ์ทรมานเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า การสั่งสมบุญเป็นเหตุให้เกิดความสุข ควรที่จะสั่งสมบุญนั้นบ่อยๆ ดังนั้น เราก็ไม่ควรว่างเว้นจากการสร้างบุญสร้างบารมี

เมื่อจิตใจของเราเบิกบานผ่องใส ละเอียดประณีตมีความคิดที่จะทำบุญเกิดขึ้นในจิตใจแล้ว มหานิสงส์จะบังเกิดขึ้นทันทีและเกิดขึ้นเป็นอสงไขยอัปปมาณัง เหมือนเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล ตอนนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี มีภิกษุจำนวน ๑๖ รูป หลังจากที่ได้รับโอวาทจากพระบรมศาสดาแล้ว ท่านได้รวมกลุ่มกันแสวงหาที่หลีกเร้นซึ่งเหมาะสำหรับการบำเพ็ญเพียร ท่านได้เดินทางไปอยู่จำพรรษาที่อาวาสใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพรรษานั้นพระภิกษุทั้ง ๑๖ รูปได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมกันอย่างเต็มที่ เมื่อออกพรรษาภิกษุทั้งหลายอยากเข้าเฝ้าพระศาสดาอีกครั้ง เพื่อรับฟังพระโอวาท ได้พากันเดินทางไกลผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารในฤดูร้อน ถูกแดดแผดเผา เกิดความกระหายนํ้ามาก แม้จะได้รับความยากลำบากเพียงใด ท่านก็ไม่ท้อถอย จิตใจมุ่งตรงต่อพระศาสดา จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ในหมู่บ้านนั้น หญิงคนหนึ่งได้ถือภาชนะใส่นํ้าเดินมุ่งตรงไปที่บ่อนํ้า เพื่อที่จะตักนํ้า พระภิกษุเหล่านั้นมองเห็นหญิงคนนั้นก็พากันคิดว่า เมื่อเดินผ่านไปที่หญิงนั้น พวกเราก็คงได้รับการถวายนํ้าบ้าง เมื่อคิดอย่างนี้ พระคุณเจ้าทั้งหลายก็พากันมุ่งไปที่บ่อนํ้าแล้วยืนอยู่ในที่ไม่ไกลนัก หญิงนั้นเมื่อเห็นกิริยาอาการของพระภิกษุทั้งหลายก็ทราบว่า พระคุณเจ้าคงกำลังกระหายเป็นแน่ วันนี้เป็นบุญลาภที่จะได้มีโอกาสทำบุญกับเนื้อนาบุญเช่นนี้ จึงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ นั่งลงไหว้ด้วยความเคารพแล้วกล่าวนิมนต์ว่า

“ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ ขอนิมนต์ทุกๆ องค์ เป็นเนื้อนาบุญให้แก่ดิฉันด้วยเถิด โปรดรับนํ้าแล้วนิมนต์ฉันเถิด” ภิกษุทั้ง ๑๖ รูปเหล่านั้นก็นำผ้ากรองนํ้าออกจากถุงบาตร กรองนํ้าแล้วก็ดื่มจนเพียงพอกับความต้องการ เอานํ้านั้นลูบที่มือและเท้าให้เกิดความเย็นสบายแก่ร่างกาย แล้วกล่าว ว่า “ดูก่อนอุบาสิกา วันนี้ท่านได้ทำบุญใหญ่ถวายนํ้าดับความกระหาย ขอให้ชีวิตของท่านมีแต่ความสุข สงบร่มเย็นประดุจนํ้าที่เย็นสบายนี้เถิด” ทุกรูปพากันอนุโมทนาในการถวายนํ้าดื่มแก่หญิงนั้นแล้วก็เดินทางมุ่งหน้าไปสู่พระเชตวันต่อไป การถวายนํ้าดื่มในวันนั้น เป็นภาพแห่งความปีติประทับใจที่ติดตาติดใจของนางอยู่ตลอดเวลา ทั้งหลับทั้งตื่นยืนเดินนั่งนอน ทุกอิริยาบถ นางตรึกระลึกถึงบุญที่ได้กระทำในครั้งนั้น มหาปีติและบุญกุศลก็เกิดขึ้นกับนางทุกๆ วัน

เวลาผ่านไปหลายสิบปี เหตุการณ์นี้ก็ยังอยู่ในใจของนาง พอละจากโลกนี้ไปแล้ว ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้ตั้งใจถวายนํ้าในครั้งนั้น ตายไปก็ได้ไปบังเกิดในภพดาวดึงส์ ด้วยอานุภาพแห่งบุญ นางได้มีมหาวิมานบังเกิดขึ้นพร้อมกับต้นกัลปพฤกษ์ แม่นํ้าทิพย์ก็อุบัติขึ้นเช่นกัน แม่นํ้าสายนั้นปูลาดด้วยกองทรายและหาดทรายขาว ประหนึ่งว่าประดับด้วยเงินและแก้วมุกดา สว่างสวยงามมาก ธารนํ้าที่ไหลมารอบๆ วิมานของนางก็เป็นนํ้าที่ใสบริสุทธิ์ เหมือนกับพรายแก้วมณีล้อมรอบมหาวิมาน ตรงสองฝั่งแห่งแม่นํ้าและใกล้ๆ ประตูอุทยาน มีสระโบกขรณีขนาดใหญ่บังเกิดขึ้น

สระนั้นประดับด้วยดอกปทุมทิพย์ทั้งหลาย มีสีสวยงามมากบังเกิดขึ้นพร้อมกับนาวาทอง ดอกบัวทิพย์นี้ มีชั้น ช่อ กลีบและเกสรเป็นสีทองใสมีประกาย ก้านเป็นสีเงิน ใบบัวสำเร็จด้วยรัตนะคือ บุษราคัมงดงามมากทีเดียว เทพธิดาได้เสวยมหาสมบัติอันเป็นทิพย์ในวิมานนั้น เที่ยวพักผ่อนอยู่ในนาวาทอง เมื่อนึกย้อนหลังไปในสมัยที่ตนเอง เคยเกิดเป็นมนุษย์ เห็นบุญที่ตัวเองทำเอาไว้ก็ยิ่งเกิดมหาปีติ ยินดีร่าเริงใจยิ่งนัก ว่าด้วยผลแห่การสร้างบุญของเรานี้ทำให้เราได้มหาสมบัติทิพย์เช่นนี้

ต่อมาวันหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกผู้เลิศด้วยฤทธิ์ ท่านเที่ยวจาริกไปในเทวโลก เห็นเทพธิดาตนนี้กำลังเล่นอยู่ในนาวาทองที่สวยงาม พระเถระมองดูมหาสมบัติของนางแล้ว เห็นสมบัติทิพย์ที่ละเอียดประณีตมากมายก็คิดว่า นางเทพธิดาผู้งดงามนี้ ได้สั่งสมบุญพิเศษอะไรไว้หนอจึงทำให้ได้สมบัติที่พิเศษกว่าผู้อื่นอย่างนี้ จึงถามว่า “ดูก่อนเทพนารี ท่านขึ้นนาวาทองยืนอยู่ วิมานของท่านก็งดงาม เนรมิตเป็นสัดส่วนพอดี มีแสงสว่างแผ่ขยายไปรอบทิศ วรรณะของท่านก็รุ่งเรือง มหาสมบัติใหญ่เกิดขึ้นกับท่านมากมายอย่างนี้ สมัยที่ท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญพิเศษอะไรไว้ถึงได้เสวยทิพยสมบัติเห็นปานนี้”

เทพธิดาเมื่อได้ยินพระเถระถามอย่างนั้นก็ดีใจ นางได้ไหว้พระเถระด้วยอาการนอบน้อมพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ เมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์อยู่ ดิฉันได้พบพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้รับความลำบากกาย กระหายนํ้าจึงขวนขวายถวายนํ้าดื่มกับท่าน ผู้ใดก็ตามที่ถวายนํ้าดื่มกับภิกษุทั้งหลายผู้กระหายนํ้า แม่นํ้าทิพย์หลายสายที่สวยงาม ดารดาษด้วยดอกไม้อันเป็นทิพย์ มีนํ้าใสเย็นก็จะบังเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ดีแล้วย่อมได้มหาวิมานอันประเสริฐ สง่างาม นี้เป็นผลแห่งกรรมดีที่ดิฉันสร้าง พระคุณเจ้าผู้มีอานุภาพมาก ผลแห่งบุญนี้ น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ดิฉันได้เสวยมหาสมบัติใหญ่อย่างนี้ ก็ด้วยผลแห่งกรรมดีแท้ๆ”

พระเถระครั้นได้ฟังเรื่องราวการสร้างบารมีของเทพธิดาก็กล่าวชื่นชมและอนุโมทนาในคุณงามความดี เมื่อเทพธิดากล่าวถึงบุพพกรรมของตนแล้วก็ไหว้พระเถระ หลังจากที่พระมหาโมคคัลลานะจาริกไป เทพธิดานั้นก็เข้าสู่มหานาวาวิมานของตนเอง เสวยทิพยสมบัติที่ละเอียดประณีตอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เราจะเห็นว่า ทานที่ทำด้วยใจที่ผ่องใส ด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างเปี่ยมล้น ผลานิสงส์ที่เกิดขึ้นก็จะเกิดขึ้นมากมายมหาศาล เป็นมหาสมบัติที่ติดตัวไปในภพชาติเบื้องหน้า แม้ว่าจะเป็นการสร้างบุญเพียงถวายนํ้าดื่มเท่านั้น แต่ก็ให้ผลที่น่าอัศจรรย์ การสร้างบารมีของพวกเราทั้งหลาย ที่ได้ตั้งใจทุ่มเทสร้างบุญทุกอย่างเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ สภาธรรมกายสากล และในปัจจุบันที่พวกเรากำลังทำอยู่ คือสร้างมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี นี้เป็นมหากุศลอย่างยิ่ง ผลบุญที่เกิดขึ้นเป็นอสงไขยอัปมาณังทีเดียว ฉะนั้นให้พวกเราปีติในบุญและนึกถึงบุญบ่อยๆ นึกถึงทุกๆ วัน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๔๘ หน้า ๖๓


Source :● //www.dmc.tv/




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2554    
Last Update : 30 สิงหาคม 2554 11:45:52 น.
Counter : 1014 Pageviews.  

อานิสงส์ถวายน้ำดื่ม ●۩●※※●۩● แด่พระพุทธเจ้า



การมุ่งไปสู่อายตนนิพพานเป็นวัตถุประสงค์หลักของทุกๆชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพระราชามหากษัตริย์ พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีหรือยาจกวนิพก รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีวิญญาณครอง ล้วนมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันทั้งนั้น คือ ปรารถนาความสุขความบริสุทธิ์หลุดพ้น

สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ จึงต้องเพียรพยายามทำตนให้บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ มุ่งหน้าสู่อายตนนิพพานให้ได้ การที่จะทำเช่นนี้ได้ก็ต้องหมั่นทำใจหยุดใจนิ่งจนกระทั่งเข้าถึงธรรมกาย จึงจะไปสู่อายตนนิพพานได้

 มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน ตติยนาวาวิมาน ความว่า

“เตน เม ตาทิโส วณฺโณ เตน เม อิธมิชฺฌติ
อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา เย เกจิ มนโส ปิยา

เพราะบุญที่ข้าพเจ้าทำแล้วนั้น วรรณะของข้าพเจ้างดงามเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ความปรารถนาทุกอย่างจึงสำเร็จ และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้า”

ถ้อยคำแห่งความภาคภูมิใจนี้ เปล่งออกจากปากของเทพธิดาตนหนึ่ง ผู้มีใจรักมั่นอยู่ในบุญ และได้ประสบกับผลแห่งบุญอย่างเกินควรเกินคาด เป็นพยานยืนยันว่า ผลแห่งบุญนั้นอำนวยให้เกิดมหาสมบัติอันน่าอัศจรรย์ใจทีเดียว การที่เราได้รับรู้รับทราบเรื่องราวอันเป็นมงคลนี้ เป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่งที่จะตระหนักและรักในการบำเพ็ญบุญ ต้องมีกำลังใจไม่สิ้นสุดในการสั่งสมบุญบารมี เมื่อมหากุศลอันใดก็ตามผ่านเข้ามา เราก็ควรที่จะรีบไขว่คว้าเป็นเจ้าของบุญนั้นให้ได้

* ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จจาริกไปในชนบทพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จไปจนถึงหมู่บ้านของพวกพราหมณ์ชื่อ ถูณะ ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของแคว้นโกศล ข่าวการเสด็จมาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้แพร่สะพัดไปทั่วเขตการปกครองของหมู่บ้านนั้น

ในสมัยนั้นยังเป็นยุคเริ่มต้นของการเผยแผ่ ข่าวที่มีผู้เลื่อมใสแล้วออกบวช ขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ได้กระจายไปทั่วชมพูทวีป พราหมณ์คหบดีชาวถูณะที่เป็นผู้ปกครอง เป็นคนมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีความเลื่อมใสและยังมีความตระหนี่ พอทราบข่าวการเสด็จมาของพระบรมศาสดา แทนที่จะดีอกดีใจกลับคิดว่า พระสมณโคดมเดินทางผ่านหมู่บ้านของเรา ถ้าหากได้พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านของเราสัก ๒ หรือ ๓ วัน ก็จะทำให้ชาวบ้านเชื่อถือถ้อยคำ เมื่อเป็นอย่างนี้ธรรมเนียมประเพณีของพวกเรา ก็จะถูกทำลายเป็นแน่

พอคิดอย่างนี้ก็พากันวางแผนเพื่อที่จะทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้พระศาสดา ประทับอยู่ที่หมู่บ้านของตน ทำการขัดขวางทุกวิถีทาง เช่น พากันนำเรือที่เขาจอดไว้ที่ท่าน้ำออกไปไม่ให้ข้ามฝั่งมา เครื่องอำนวยความสะดวกในเรื่องความเป็นอยู่ก็ถูกเก็บและทำลายจนเกือบหมดสิ้น แม้แต่บ่อน้ำทุกๆ บ่อที่อยู่ในอาณาบริเวณนั้น ก็ถูกถมเหลือไว้เพียงบ่อเดียวเพื่อพวกของตนเอง บ่อที่เหลือก็ช่วยกันเอาหญ้าและฟางถมจนเต็มปากบ่อ ด้วยความตั้งใจว่า จะไม่ให้พระพุทธองค์ได้ดื่มน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว จะได้ไม่ต้องมาอยู่อาศัยที่หมู่บ้านนี้ แม้แต่ในสมัยก่อน ความกลัวว่าตนเองจะสูญเสียผลประโยชน์แล้วสร้างบาปอกุศลอย่างนี้ก็มีเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ทุกยุคทุกสมัย

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความคิดที่วิปริตของคนเหล่านั้น ทรงดำริว่า การที่พวกพราหมณ์เหล่านั้นทำบาปอกุศลอย่างนี้ไม่สมควรเลย เราจะทำให้ทุกๆ คนเป็นสัมมาทิฏฐิ จะได้กลับใจมาสร้างบุญ ทรงเปี่ยมไปด้วยมหากรุณาอันไม่มีประมาณ พร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ทรงเหาะข้ามแม่น้ำเสด็จไปถึงหมู่บ้านถูณะ ทรงแวะประทับนั่งเหนืออาสนะที่จัดไว้ ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง สมัยนั้นหญิงทาสีเป็นจำนวนมากที่เทินหม้อน้ำเดินผ่านพระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลย เนื่องจาก ผู้ปกครองหมู่บ้านได้สั่งเอาไว้ว่า ถ้าเห็นสมณโคดมที่ใดห้ามเข้าไปสักการะ และห้ามถวายสิ่งของทุกๆ อย่าง แม้จะมาถึงประตูเรือนก็ห้ามให้อาหาร ด้วยความที่กลัวต่อการถูกลงโทษจึงไม่มีทาสีคนใดกล้าขัดขืน

นางทาสีคนแล้วคนเล่าเดินผ่านก็ยังไม่เจอใครที่กล้าสวนกระแสมาทำความดี จนกระทั่งมีนางทาสีผู้เป็นภริยาของพราหมณ์คนหนึ่ง เทินหม้อน้ำเดินมาถึงสถานที่นั้น ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสงฆ์ นางคิดว่า พระคุณเจ้าเหล่านี้เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางไกล เมื่อเนื้อนาบุญมาถึงที่แล้ว เราจะนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร แม้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทั้งหมดต่างก็พากันตกลงใจที่จะไม่ให้ของอะไรกับหมู่ภิกษุสงฆ์ แต่โอกาสแห่งการสร้างบุญนี้ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ และเนื้อนาบุญก็มีตั้งมากมาย หากเราไม่รีบตักตวงบุญในวันนี้ก็ไม่รู้ว่า ทั้งชีวิตของเราจะมีโอกาสได้สร้างบุญใหญ่อย่างนี้อีกหรือเปล่า นางตรองด้วยปัญญา เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ตัดใจทันทีว่า

เอาเถิด วันนี้เรายอมตาย แต่จะไม่ยอมปล่อยโอกาสทองนี้ให้หลุดลอยไป หากเราไม่รีบทำบุญในวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ที่พึ่งแก่ตนเอง และหลุดพ้นจากความยากลำบากไปได้ เราจะถวายน้ำดื่มกับพระศาสดาและภิกษุสงฆ์ แม้ว่าชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์เราถึงตายก็ยอม เราขอเอาบุญก่อน อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป เมื่อนางคิดอย่างนี้ก็ลดหม้อน้ำลงจากศีรษะ ประคองวางด้วยมือทั้งสองข้าง เข้าไปหาพระศาสดาถวายบังคมแล้วนิมนต์ให้เสวยน้ำดื่ม

พระบรมศาสดาทรงเห็นจิตที่เลื่อมใสของนาง จึงทรงอนุเคราะห์กรองน้ำล้างพระหัตถ์และพระบาทแล้วเสวยน้ำดื่ม ทันใดก็บังเกิดเหตุอันอัศจรรย์ น้ำในหม้อนั้นไม่พร่องเลยแม้แต่นิดเดียว นางเห็นอย่างนั้นก็ถวายแก่ภิกษุทั้งหลายจนครบทุกรูป น้ำในหม้อของนางก็ยังเต็มเปี่ยมบริบูรณ์เหมือนเดิม

เมื่อภิกษุฉันเสร็จแล้ว นางก็ทูนหม้อน้ำนั้นเดินกลับไปบ้าน สามีทราบข่าวที่นางทำอย่างนั้น รู้สึกโกรธมากจึงทุบตีนางจนสิ้นชีวิต พอละจากโลกนี้ไปแล้ว ด้วยอานิสงส์ที่ทำในครั้งนั้นก็ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีมหาวิมานที่สวยงามมาก ทิพยสมบัติอันโอฬารได้อุบัติขึ้นรองรับทันที

ฝ่ายพระศาสดาตรัสเรียกพระอานนท์มารับสั่งว่า “อานนท์ตักน้ำให้เราหน่อยเถิด” พระเถระกราบทูลว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าบ่อน้ำถูกพวกพราหมณ์ถมหมดแล้วพระเจ้าข้า” แม้กราบทูลอย่างนั้นพระศาสดาก็รับสั่งให้ทำตาม พระเถระจึงถือบาตรของพระศาสดาเดินบ่ายหน้าไปที่บ่อน้ำที่ถูกถมแล้ว ทันใดนั้นเอง น้ำในบ่อก็เอ่อล้นขึ้นมาเอง สิ่งที่อยู่ในบ่อได้หายไป จำนวนน้ำทะลักออกมาเพิ่มขึ้นจนน้ำท่วมหมู่บ้าน

พวกพราหมณ์เห็นเหตุนั้นก็ตกใจ พากันเดินทางมาขอขมาพระบรมศาสดา พอกล่าวคำขอขมาเสร็จ น้ำท่วมนั้นก็หายไปอย่างอัศจรรย์ ยิ่งเกิดความเลื่อมใสจึงพากันจัดแจงถวายมหาทานครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกันเทพธิดาตนนั้น เมื่อพิจารณาเห็นมหาสมบัติของตน จึงลงมาเฝ้าพระศาสดาในวันนั้นเหมือนกัน พระศาสดาจึงสนทนากับเทพธิดา และทรงยกย่องในความกล้าหาญทำความดีของนางท่ามกลางบริษัท ทำให้มหาชนเกิดความปีติและเชื่อมั่นในผลแห่งบุญที่ได้ทำไป

เราจะเห็นว่า คนมีบุญมีปัญญา กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำความดีก่อนใคร จึงได้สมบัติใหญ่ในสุคติโลกสวรรค์ มหานาวาวิมานอันสวยงามวิจิตรและทิพยสมบัติอันไม่มีประมาณก็ได้บังเกิดขึ้น ใครก็ตามที่สร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันอย่างนี้ มหานิสงส์อันใหญ่หลวงก็จะบังเกิดขึ้น

พวกเราก็เช่นกัน จงสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เมื่อเราตั้งใจจะทำความดีอะไรแล้ว จงทำให้เต็มที่ อย่ากลัวต่ออุปสรรค อย่าวิตกกังวล ให้มั่นใจในบุญเต็มเปี่ยม บุญจะได้ติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ เราจะได้เอาสมบัตินี้ไปใช้ในการสร้างบารมีให้ไปถึงที่สุดแห่งธรรมพร้อมๆ กัน


 พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

Source : ● //www.dmc.tv/




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2554    
Last Update : 29 สิงหาคม 2554 6:56:27 น.
Counter : 2022 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.