It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
All blogs
 
อานิสงส์แห่งความยึดมั่นในศีล

ความสุข ความสบายใจ เป็นยอดปรารถนาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะดำรงอยู่ในสถานะใดก็ตาม ล้วนแสวงหาความสุขกันทั้งสิ้น ความสุขในโลกที่เจอะเจอกันอยู่นั้น เป็นความสุขที่มีทุกข์เจือปนทั้งสิ้น เป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืนอะไร เป็นแต่เพียงให้เพลิดเพลินไปวันๆ เท่านั้น แต่ผู้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งเป็นความสุขที่เที่ยงแท้ถาวร ที่เรียกว่าเอกันตบรมสุขนั้น ในอดีตก็มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านเข้าถึงกันมามากมายแล้ว พวกเราก็สามารถเข้าถึงได้ ถ้าหากมีความเพียรพยายามในการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งเป็นประจำสมํ่าเสมอ และก็ปฏิบัติตรงตามร่องรอยคำสอนของพระบรมศาสดา

มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย เถรคาถาว่า

“อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้งอาศัย เป็นประดุจมารดาผู้ให้กำเนิด คุณงามความดีทั้งหลาย เป็นประมุขแห่งกุศลธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้น นรชนพึงชำระศีลของตนให้บริสุทธิ์เถิด”

ผู้มีศีลบริสุทธิ์ แสดงถึงจิตใจที่งดงาม มีความสุข สดชื่นเบิกบาน อาจหาญร่าเริงอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีความกังวลหรือความคิดเบียดเบียนผู้อื่น ย่อมเป็นผู้ที่มนุษย์และเทวดาต่างก็ชื่นชม จะอยู่ในสายตาของชาวสวรรค์ ผู้มีศีลยังได้ชื่อว่าให้ความปลอดภัย แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นผู้มีวาจาที่น่าเชื่อถือเพราะพูดแต่คำจริง เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ ฟังแล้วเป็นมงคลแก่โสตประสาท และไม่ดื่มสุรายาเสพติด ไม่เอาควันพิษเข้าปอด หรือเอาน้ำไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย

ศีลที่บุคคลรักษาไว้ดีแล้ว นอกจากจะให้สมบัติในมนุษย์แล้ว ยังเป็นบันไดก้าวสู่สวรรค์ เป็นที่พึ่งในโลกหน้าได้อีก พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านจึงสรรเสริญศีลว่าเป็นประดุจมารดาแห่งคุณธรรมทุกอย่าง ถ้าปราศจากศีลเสียแล้ว คุณธรรมอย่างอื่นก็เจริญงอกงามได้ยาก ผู้ปรารถนาสวรรค์สมบัติและมีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร ก็ต้องเริ่มจากการสมาทานรักษาศีลให้บริสุทธิ์

* เหมือนดังเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่ท้าวสักกเทวราช จอมเทพแห่งดาวดึงส์ สมัยที่เป็นมนุษย์มีชื่อว่า มฆมาณพ ได้พร้อมใจกับเพื่อนๆ ๓๒ คน ตั้งใจสั่งสมบุญกัน สร้างสาธารณประโยชน์ ศาลาที่พักกลางทางสำหรับคนเดินทางไกล ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งอาหาร ที่พัก และยารักษาโรคเตรียมไว้ครบครัน โดยมฆมาณพกับเพื่อนทั้งหมด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาต้อนรับทำปฏิสันถาร คอยอำนวยความสะดวกสงเคราะห์ผู้มาพัก ทั้งนี้ภรรยาทั้งสามของมฆมาณพก็ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศาลา สระน้ำ และสวนดอกไม้ด้วย มีเพียงแต่ภรรยาคนที่ชื่อว่าสุชาดาเท่านั้น ที่เอาแต่หมกหมุ่นอยู่กับการแต่งตัว เพราะเข้าใจผิดว่ามฆมาณพทำบุญอะไรก็เหมือนนางได้ทำด้วย ซึ่งการสั่งสมบุญนั้น ใครทำคนนั้นก็ได้ จะทำแทนกันก็ไม่ได้ เหมือนการรับประทานอาหาร คนไหนรับประทานคนนั้นก็อิ่มเอง จะอิ่มแทนกันก็ไม่ได้

มฆมาณพและเพื่อน ๓๒ คน ได้ตั้งใจสั่งสมบุญบารมีทุกๆ อย่างจนกระทั่งสิ้นอายุขัย ด้วยผลบุญที่ทำไว้ดีแล้วนั้น ก็ส่งผลให้มฆมาณพได้เป็นท้าวสักกะจอมเทพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อนคนอื่นๆ ได้เป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นเดียวกัน ภรรยาทั้งสามก็มาเกิดบนสวรรค์ชั้นนี้ด้วยกันอีก ส่วนนางสุชาดาเนื่องจากไม่ได้ทำบุญกุศลใดไว้ จึงไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เป็นนางนกยางหากินอยู่ตามซอกเขาและหนองน้ำ

ท้าวสักกะได้ตรวจดูภรรยาทั้ง ๔ คนว่าไปเกิดในที่ใดกันบ้าง ก็เห็นเพียง ๓ คนที่อยู่บนเทวโลก แต่ไม่เจอนางสุชาดา จึงตรวจดูในเมืองมนุษย์ด้วยทิพยจักขุ ก็เจอนางสุชาดาเกิดเป็นนกยาง พระองค์ทรงบังเกิดความสงสารจึงเสด็จลงจากเทวโลกมาพาไปชมสรวงสวรรค์ โดยปล่อยไว้ที่สระน้ำ แต่นางอึดอัดอยู่ไม่ได้เพราะเป็นผู้มีบุญน้อย ขอกลับไปที่ซอกเขาตามเดิม ท้าวสักกะทรงแนะนำว่า ถ้าอยากเกิดบนสวรรค์ก็ให้ตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ แล้วนำกลับไปปล่อยไว้ในโลกมนุษย์ตามเดิม

อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวสักกะตั้งใจจะทดสอบศีลของนางนกยาง จึงแปลงเพศเป็นปลานอนหงายท้องลอยน้ำ ทำทีว่าเป็นปลาตาย นางนกยางเห็นอย่างนั้น คิดว่าปลาตัวนี้ตายแล้ว จึงเอาปากคาบหมายจะกินเป็นอาหาร ปลาก็กระดิกหาง นางจึงรู้ว่าปลายังมีชีวิตอยู่ ด้วยความตั้งใจมั่นในการรักษาศีล แม้ตัวเองอดตายก็ไม่ยอมกินปลาตัวนั้น จึงปล่อยไปตามเดิม ปลาตัวนั้นกลับร่างเป็นท้าวสักกะ แล้วเหาะไปประทับยืนอยู่ในอากาศ กล่าวอนุโมทนาสาธุการและให้กำลังใจให้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ต่อไป นางก็ตั้งใจรักษาศีลไม่ห้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดเป็นลูกสาวของนายช่างหม้อในกรุงพาราณสี

ท้าวสักกะทรงตรวจดูอีก พบว่านางนกยางได้ไปเกิดเป็นลูกสาวนายช่างหม้อ จึงแปลงเป็นชายแก่เอาฟักทองคำบรรทุกใส่รถจนเต็ม เที่ยวป่าวประกาศขาย โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้มาซื้อต้องเป็นคนที่รักษาศีลได้บริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะซื้อได้แม้สักคนเดียว เพราะบางคนไม่รู้จักว่าศีลเป็นอย่างไร บางคนรู้จักแต่ก็รักษาได้ไม่ครบถ้วน จนมาถึงสาวน้อยคนนี้มาขอซื้อ ชายชราถามว่า “หนูรักษาศีลหรือเปล่า” เด็กสาวตอบว่า “รักษาศีลห้าครบทุกข้อ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยของคนอื่น ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยพูดโกหก และไม่ดื่มสุรายาเมา”

ชายชราจึงยกฟักทองคำให้ทั้งหมด แล้วจากไป นางก็ตั้งใจรักษาศีล ๕ ยิ่งชีวิต จนตลอดอายุขัย ด้วยผลบุญนั้น ทำให้ไปบังเกิดเป็นธิดาของท้าวเวปจิตติอสูร ซึ่งอยู่ที่บริเวณเชิงเขาพระสุเมรุ เมื่อนางเติบโตเป็นสาว ท้าวเวปจิตติเปิดการประชุมอสูรทั้งหมด เพื่อจะให้ธิดาเลือกคู่ครอง ท้าวสักกะทราบว่านางสุชาดาได้มาเกิดเป็นธิดาอสูร จึงได้เนรมิตกายเป็นอสูรแก่มาร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย

เมื่อถึงพิธีเลือกคู่ ธิดาอสูรเลือกท้าวอสรูแก่ ซึ่งก็คือท้าวสักกะจำแลง เพราะความรักที่เคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงซัดพวงมาลัยเสี่ยงทายไปหาท้าวสักกะ ท้าวสักกะจึงพาธิดาอสูรไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทำให้นางสุชาดาได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ อยู่ในทิพยวิมานอย่างมีความสุข

นี่เป็นผลบุญของนางสุชาดาที่เกิดจากการรักษาศีลอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ว่าแต่เดิมจะเป็นคนประมาท แต่ได้กัลยาณมิตรคือท้าวสักกะมาเตือนสติ แนะนำให้รักษาศีลห้า เมื่อตั้งใจรักษาศีลอย่างสมํ่าเสมอ ศีลนั้นก็มีอานุภาพทำให้ได้เกิดในภพภูมิที่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่จากสัตว์เดียรัจฉานก็มาเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อไม่ประมาทยังคงรักษาศีลต่อไปอีก ละโลกแล้ว บุญก็หนุนนำให้ได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ คนที่ประมาทแล้วแต่กลับใจได้ เป็นคนที่น่าคบ น่าชื่นชมอนุโมทนาสาธุการทีเดียว

ดังนั้น อย่ามัวประมาทในชีวิต ให้หมั่นรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ อย่าหลงใหล เพลิดเพลินไปกับกระแสโลก แม้จะเป็นความสุขก็เพียงเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับความสุขในสวรรค์ แม้แต่ความสุขในสรวงสวรรค์เองก็ยังเทียบไม่ได้กับความสุขในอายตนนิพพาน เพราะความสุขเหล่านี้เป็นเพียงเหยื่อล่อให้หลงใหลติดอยู่ในสังสารวัฏ ให้ความสุขแก่เราชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้ถาวร ไม่ช้าก็เสื่อมสลายไป เป็นความสุขที่เจือด้วยความทุกข์ เราจึงควรทำชีวิตให้สมบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ(Meditation) ปัญญา เพื่อจะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต เข้าสู่พระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุข ที่ไม่มีทุกข์เจือปน

ฉะนั้น คนมีปัญญาไม่ควรประมาทในวัย วัยไหนก็ตายได้ทั้งนั้น ไม่ควรคิดว่า เรายังไม่แก่ ไม่เจ็บป่วย เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะเจ็บไข้ได้ป่วย จะประสบอุบัติเหตุเภทภัยเมื่อไร ดังนั้นควรใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า บางคนอาจเคยประมาทพลาดพลั้งไปแล้ว ก็อย่าไปเสียอกเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมา เมื่อมีสติรู้สึกตัวและได้พบกัลยาณมิตรแนะนำตักเตือน ก็ปรับปรุงแก้ไขกันเสียเนิ่นๆ ถ้าช้าจะไม่ทันการณ์

ผู้ที่สำรวมระวังรักษาศีล รักษากาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ จะเป็นที่ตั้งแห่งคุณความดีงามทั้งหลาย และเป็นพื้นฐานที่จะได้พบกับความสุขความบริสุทธิ์ที่ยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะความประพฤติสุจริตจะทำให้จิตอ่อนโยนนุ่มนวลควรแก่การงาน เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา แล้วเราจะบรรลุเป้าหมายของชีวิต ได้เข้าถึงพระธรรมกายอย่างง่ายดาย เข้าถึงแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริงภายใน ความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงธรรม เป็นความสุขที่ยิ่งกว่าความสุขอื่นใด เราจะใช้ศีลเป็นสะพานเชื่อมโยง เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกๆ คน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๔๐ หน้า ๓๕๙


●คลิก ชม ราย ละ เอียด ที่ นี่ จ้ะ


Create Date : 12 กันยายน 2554
Last Update : 12 กันยายน 2554 6:44:18 น. 1 comments
Counter : 824 Pageviews.

 


โดย: แสตมป์ (เพชรพญานาค ) วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:9:32:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.