It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
All blogs
 

บันทึกคติคำคม วันพฤหัส ที่ยี่สิสอง พศ สองห้าหกศูนย์




นักปฏิบัติธรรม
ต้อง
ไม่มีสัตรูในหัวใจ อภัยให้ได้จริง ๆ

...
อิสระ. เสรี
เหมือน
ผีเสื้อยามเช้าโผผินบินไปตามใจชอบ

..........
โทษของการฆ่ากัน
คือ "จองเวร"
คนถูกฆ่าจะจองเวรเป็นวงจรไม่รู้จบสิ้น

............
คนละเรื่องเดียวกัน??
#พศิน อินทรวงค์

ความรู้เป็นสิ่งหาง่าย
สติปัญญาต่างหากเป็นสิ่งคู่ควรกับการแสวงหา
เช่นเดียวกับคำว่า “ขอโทษ” และคำว่า “ไม่เป็นไร”
ที่ใครก็พูดได้
แต่การตระหนักถึงคำว่า “ให้อภัย” และ คำว่า “สำนึกผิด”
ช่างเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

เมื่อกล่าวถึงความรัก
มีคนมากมายพูดคำว่ารัก แต่มันไม่ใช่ความรัก
มีคนมากมายคิดว่าตัวเองกำลังรัก
แต่มันก็ยังไม่ใกล้เคียงความรัก

กูรู กูรู้บอกว่ารักคืออะไร สอนให้คนตามหารักแท้
ช่างห่างไกลกับคำว่ารัก
รักแท้ต้องตามหาด้วยหรือ!
ที่กำลังตามหาไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวที่อ้างนามความรักหรอกหรือ!

หลายสิ่งผิดทิศผิดทาง
หลายสิ่งอยู่ทางซ้ายแต่ผู้คนเดินไปทางขวา
ความสุขนั้นมีอยู่แล้ว ผู้คนกลับวิ่งวุ่นตามหา
ความรักมีอยู่แล้ว
ผู้คนกลับเรียกร้องเหมือนรักไม่ได้อยู่ตรงนี้
ความร่ำรวยที่สุด
หลบซ่อนอยู่ในความไม่มีอะไรแต่คนกลับมองไม่เห็น

ระหว่างภายในและภายนอก
ระหว่างเปลือกและแก่น
มีความเหมือนในความต่าง เหมือนว่าใกล้แต่แสนไกล
เหมือนจะรู้แต่ไม่รู้
เป็นช่องว่างน้อยนิดที่ต้องใช้ความเพียรมหากาฬเพื่อให้บรรจบ
นี่คือข้อแตกต่างระหว่างการศึกษาจากประสบการณ์ของผู้อื่น
และการหยั่งถึงในภาวะนั้นๆ ด้วยตนเอง

อย่าฟังเสียงกวีหรือมหาปราชญ์
อย่าฟังเสียงใครอีกเลย
ยิ่งฟังก็ยิ่งห่าง ยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่
ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องสร้างปัญญาขึ้นมาด้วยตนเอง
พระพุทธเจ้าอยู่ในตัวท่าน
พระเยซูอยู่ในตัวท่าน
ความดีงามทั้งปวงอยู่ในตัวท่าน
จงเงียบ ตั้งสติ
แล้วเรียนรู้ทุกความเคลื่อนไหวในตน
เพราะนั่นคือหนทางเดียวท่านจะเข้าใจความรัก
เข้าใจโลก และเข้าใจตนเอง

ชีวิตเหลือเวลาไม่มากนัก
แต่ทุกเรื่องในโลกที่เคยรับรู้ ช่างห่างไกลความจริง
เป็นเรื่องเดียวกัน แต่คนละเรื่องเดียวกัน...




 

Create Date : 22 มิถุนายน 2560    
Last Update : 22 มิถุนายน 2560 1:02:11 น.
Counter : 656 Pageviews.  

▶▶▶แผนบุกวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอ หรือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ใครจะเดินอยู่บนความเสี่ยง



  ▶▶▶แผนบุกวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอ หรือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ใครจะเดินอยู่บนความเสี่ยง

บัดนี้ความทุกข์เศร้าภายในใจของประชาชนชาวไทยยังไม่คลายแม้แต่น้อย คลื่นมหาชนทั้งหญิงชายนับแสนในเสื้อผ้าชุดสีดำ //winne.ws/n10660



บัดนี้ความทุกข์เศร้าภายในใจของประชาชนชาวไทยยังไม่คลายแม้แต่น้อย คลื่นมหาชนทั้งหญิงชายนับแสนในเสื้อผ้าชุดสีดำสนิทจากทั่วทุกสารทิศต่างมารอเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ ในพระบรมมหาราชวัง อย่างไม่ขาดสาย 

พสกนิกรจำนวนมากได้อาศัยช่วงนี้ในการแสดงความจงรักดี ด้วยการทำดีในรูปแบบต่างๆ อย่างมากมาย หน่วยงานรัฐต่างๆ ต่างสมัครสมานสามัคคีจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช่น การรวมตัวเพื่อจุดเทียนไว้อาลัย แปรอักษร ร้องเพลง ‘สรรเสริญพระบารมี’ หรือการเป็นอาสาสมัครจิตอาสา เป็นต้น เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ 

แต่ช่วงนี้กลับได้ยินข่าวที่คิดว่าคนไทยทั้งประเทศไม่น่าจะเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับกรณีที่ทางดีเอสไอและพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.จะมีการวางแผนในการเข้าปฏิบัติการเข้าวัดพระธรรมกาย เพื่อนำตัวพระธัมมชโยมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่อัยการมีคำสั่ง "ควรสั่งฟ้อง" ซึ่งไม่ทราบได้ว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาอะไรเกิดบ้าง อาจจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะต่างๆ ขึ้น ทั้งเหตุชุลมุน เหตุปะทะ หรืออาจมีการใช้อาวุธ ตลอดจนต้องนำรถพยาบาล รถดับเพลิง รถฉุกเฉิน เพราะบรรดาลูกศิษย์วัดพระธรรมกายมีจำนวนเป็นหมื่นคน 

โดยล่าสุดสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยได้ออกมาแถลงการณ์โดยด่วน โดยรู้สึกวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างใดย่อมไม่เป็นผลดีแก่สังคมไทยในภาพรวม เนื่องจากวัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนา และอำนาจรัฐก็ไปจากรัฐบาลที่ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรีที่เป็นชาวพุทธ ซึ่งเท่ากับพุทธกับพุทธทะเลาะกัน ซึ่งอาจไม่งามนักในสายตาชาวโลก และเป็นห่วงว่า การกระทำครั้งนี้ของรัฐจะเป็นการทำให้เกิดสถาณการณ์ที่ไม่พึงประสงค์อีกหลายสถานการณ์ ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้นในสังคมไทยในเวลานี้ 

ซึ่งทางศิษย์วัดพระธรรมกายหลายคนได้ตั้งข้อสงสัยอยู่ว่า การที่สื่อใหญ่หลายสำนัก บิดเบือนคำพูดอัยการจาก "เห็นควรสั่งฟ้อง เป็น สั่งฟ้อง" นั้น จะเข้าข่ายให้ข้อมูลอันเป็นเท็จแก่ประชาชนหรือไม่???? เพราะเวลานี้คือเวลาแห่งความจงรักภักดีและไว้อาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ความโศกเศร้าในพสกนิกรยังไม่คลายแม้แต่น้อย ประชาชนนับหมื่นยังทยอยเข้าเคารพพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง และจะมีพิธีพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ในวันที่ 1-2 ธันวาคมนี้ แต่การที่สื่อบิดเบือนข้อมูลในช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัยแบบนี้ หรือมีเจตนาจะสร้างประเด็นเพื่อปลุกปั่นให้ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อเหตุวุ่นวายในช่วงเวลานี้หรือ?

ช่างน่าสงสารคนไทยและประเทศไทย ที่เพิ่งเศร้าจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่เคารพรักอย่างสูงสุด ยังไม่ทันหาย คลายโศก ก็มาพบกับสิ่งที่จะรบกวนจิตใจให้วุ่นวายอีกแบบนี้ หรือมีใครอยู่ข้างหลังหรือไม่ เพราะจริง ๆ แล้ว อายุความของคดีมีอยู่ 15 ปี จะขอให้เลย 50 วันหรือ 100 วัน นี้มันไม่ใช่การยากเลย เห็นใจถึงความรู้สึกถึงคนไทยช่วงไว้อาลัยบ้างไหม

สิ่งสำคัญที่สุดที่ทางรัฐควรทำขณะนี้ คือควรรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้มากที่สุด การบุกวัดมาจับพระและผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย

หวังว่าเหตุผลเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่ถ้ายังคงยืนยันที่จะทำอยู่ ผลที่ออกมา ดีเอสไอ หรือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ใครจะเดินอยู่บนความเสี่ยง
--------------------------------
Cr. ไทธนา

------------------------
 ที่มา //winne.ws/n10660




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2559 16:04:29 น.
Counter : 1309 Pageviews.  

ทนายนอกวัด!ขอเป็นทหารเลวฝ่ายธรรมะ เพราะมีเหล่าปีศาจคราบมนุษย์ ไม่รู้หลุดออกมาจากหลุมไหน



 ▶▶▶ ทนายนอกวัด!ขอเป็นทหารเลวฝ่ายธรรมะ เพราะมีเหล่าปีศาจคราบมนุษย์ ไม่รู้หลุดออกมาจากหลุมไหน


ทนายทนเห็นพระดี ๆ ถูกขับไล่ใส่ส่งมาหลายองค์แล้ว แต่ในเวลานั้นทนายยังโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ เลยเชื่อตามข้อมูลเลว ๆ ที่รับจ้างเขียนเวลานี้ทนายผ่านโลกมา ๖๒ ปี ไม่โง่เขลา หลงเชื่อข้อมูลเลว ๆ อีกต่อไป //winne.ws/n10473





ทหารเลวฝ่ายธรรมะ

จริง ๆ แล้ว ทนายเป็นทหารเลวฝ่ายธรรมะ ที่สมัครใจเข้าร่วมรบเพื่อต่อสู้กับฝ่ายอธรรม

ไม่เคยรู้จักแม่ทัพนายกองของฝ่ายธรรมะ แต่เมื่อฝ่ายธรรมะถูกรังแก ก็เลยขอออกศึกเพื่อปกป้องฝ่ายธรรมะ ถ้าตายไปก็เป็นเพียงศพทหารเลวที่ไม่มีใครรู้จัก

แต่สิ่งที่ทนายทำลงไป ทนายทำเพื่อแม่ทัพใหญ่ของฝ่ายธรรมะ ที่ทำให้ศาสนาที่ทนายนับถือ แผ่กว้างไพศาลออกไป แบบชาตินี้หรือชาติไหน ก็จะหาแบบนี้ได้ยาก

นอกจากนั้นทนายรู้เพียงว่า ถ้าไม่ช่วยฝ่ายธรรมะแล้ว ศาสนาอันเป็นที่ศรัทธาของทนายอาจจะสูญสิ้นไป จากประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของทนายก็ได้

ทนายทนเห็นพระดี ๆ ถูกขับไล่ใส่ส่งมาหลายองค์แล้ว แต่ในเวลานั้นทนายยังโง่เขลาเบาปัญญาอยู่ เลยเชื่อตามข้อมูลเลว ๆ ที่รับจ้างเขียน

เวลานี้ทนายผ่านโลกมา ๖๒ ปี ไม่โง่เขลา หลงเชื่อข้อมูลเลว ๆ อีกต่อไป จากทนายที่ว่าความ ก็กลายมาเป็นนักเขียนสมัครเล่น ไปได้อย่างไร ก็งงกับตัวเองอยู่

แต่สิ่งที่ทนายเขียนตั้งแต่วันที่ ๒๓ มิ.ย.๕๙ จนปัจจุบัน ทนายไม่เคยกลับไปอ่าน ผ่านแล้วผ่านเลย และคิดว่า ที่เขียนมาไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ บท ทุก ๆ บนที่่เขียนก็เขียนตามสถานการณ์ในเวลานั้น และเขียนจากใจ จากความเป็นจริง ไม่ได้เขียนเพราะเป็นศรัตรูกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด

แต่เมื่ออีกฝ่ายกระทำการย่ำยีพระผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใด ๆ ทนายคิดแล้วคิดอีก มันไม่เป็นกลางเลย มันเป็นการกลั่นแกล้วทำลายล้างกันมากกว่า

ทนายไม่ใช่ศิษย์วัดธรรมกาย แต่วัดธรรมกายเป็นวัดในศาสนาพุทธมหานิกาย ดังนั้นทนายเป็นชาวพุทธมหานิกาย ถ้าทนายไม่ปกป้องศาสนาของตนเอง มันไม่เสียชาติเกิดหรือครับ

เพื่อศาสนา เลยเปิดหน้าออกมาสู้ และก็จะสู้ไปเรื่อย ๆ ถ้ายังมีแรงเขียนหนังสืออยู่

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล จันทร์ ๒๑ พย.๕๙ ๑๑.๒๐ น.

ที่มา เฟสบุ๊ค ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล 



มาเป็นทีม ปีศาจยังกลัว

หลังจากที่อัยการเลื่อนสั่งคดี หลวงพ่อธัมมชโยออกไปวันที่ ๓๐ พ.ย.นี้

เหล่าปีศาจคราบมนุษย์ ไม่รู้หลุดออกมาจากหลุมไหน ออกมาขย่มอัยการกันใหญ่ เพื่อบีบให้ฟ้องหลวงพ่อฯให้ได้

ยุติธรรม ความถูกต้อง ไม่ต้องถามหา คิดเพียงแต่จะเอาพระชราเข้าคุกเข้าตะรางให้ได้

เวลานี้เหล่ามารเปิดตัว แต่เหล่าศิษย์หลวงพ่อฯกำลังทำอะไรกันอยู่ ไม่มีหลวงพ่อองค์ไหนที่จะพูดให้ศิษย์ลุกขึ้นสู้ ศิษย์ต้องคิดเป็น โดยเฉพาะหลวงพ่อธัมมชโยด้วยแล้ว พูดเป็นเรื่องธรรมะอย่างเดียว

ถ้าทนายเป็นศิษย์ที่มีเพาเวอร์ ทนายจะออกตัวมากกว่านี้ ลูกศิษย์เป็นล้าน ๆ หาผู้นำสักคนหาไม่มีเลย ไม่งงก็ต้องงง

มีคนหลังไมล์มาถามทนายจะช่วยหลวงพ่ออย่างไรดี เออตอบไปเดี๋ยวทนายก็จะถูกโจมตีจากศิษย์หลวงพ่อได้ เพราะการทำการใหญ่มันต้องมีเงิน ทุกวันนี้ทนายเขียนได้ไม่มีต้นทุน แต่จะให้ทนายทำมากกว่านี้ คงไม่ไหวเพราะมีต้นทุนค่าใช้จ่าย

หลายคนจะให้ทนายเข้าไปหาพระผู้ใหญ่ในวัดธรรมกาย ทนายปฎิเสธ กลัวหน้าแตก และทนายต้องการเป็นทนายช่วย หลวงพ่อเพื่อความยุติธรรม ทนายไม่ได้หวังเป็นลูกศิษย์วัดแต่อย่างไร

ทุกวันนี้อยากเขียนอะไร ก็เขียนได้ ไม่มีอิทธิพลอะไรมาบีบคั้นให้ต้องเขียนอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกอย่างที่ทนายเขียน เขียนจาก มโนสำนึก ของความถูกต้อง ความยุติธรรม และสิ่งที่ทนายมองเห็น คิดเอง

ข่าวว่าศิษย์ของวัดรู้จักทนายเกือบทั้งหมด โอ้โห้ นั้นเป็นล้าน ๆ คนเลยนะครับ แต่ทนายรู้จักเห็นหน้าเพียง คนสองคน อีกสามสี่คน เคยโทรคุยกันเท่านั้น

วันนี้ทนายเลยขอเขียนเรื่องส่วนตัวลงไปบ้าง เพื่อให้ทุกคนหายสงสัยว่าทนายมาช่วยหลวงพ่อฯทำไม ทนายขอตอบทนายไม่ได้ช่วยหลวงพ่อฯ ทนายช่วยพุทธศาสนา แต่หลวงพ่อฯ เป็นศิษย์ของตถาคต ที่ทนายเห็นเองว่า เป็นพระอริยสงฆ์ ก็เท่านั้นเอง

ทนายกว่าจะหาเงินซื้อบ้านสักหลัก รถสักคัน ใช้เวลาหลายปี แต่หลวงพ่อแก่กว่าทนายประมาณ ๑๐ ปีเศษ ถ้าไม่เป็นอริยสงฆ์ แล้วจะสร้างศาสนจักรให้ใหญ่โตได้ขนาดนี้หรือ

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล 
อาทิตย์ ๒๐ พย.๕๙ ๑๕.๓๖ น.

ที่มา เฟสบุ๊ค ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล 
______________
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วินนิวส์




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2559 3:13:13 น.
Counter : 1295 Pageviews.  

▶▶▶ ยี่เป็งอินเตอร์ "จากวัฒนธรรมล้านนา สร้างศรัทธาระดับโลก"



ก่อนจะมาเป็นยี่เป็งอินเตอร์นั้น ได้มีวัฒนธรรมท้องถิ่นแห่งล้านนา ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า พันปี ทุกๆปีเมื่อถึงเทศกาลยี่เป็งฯ ชาวล้านนา จะมาสร้างบุญพร้อมกับมีกิจกรรม จุดประทีปบูชาในสิ่งที่ ประเสริฐสุดคือพระรัตนตรัย โดยมีจุดประทีปถวายเป็นพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ในรูปแบบและความเชื่อต่างๆ เช่น การถวายประทีป



บนพื้นดิน :
โดยใช้ผางประทีป (วัสดุเป็นถ้วยดินเผา ใส่เทียนและใส้)จุดตามพื้น หน้าพระเจดีย์ พระพุทธรูป ฯลฯ


บนพื้นน้ำ :
โดยทำเป็นกระทง รูปแบบต่างๆเช่นกระทงธรรม ลอยบนผิวน้ำ ฯลฯ


บนท้องฟ้า :
จุดโคมไฟลอย บูชาพระเขี้ยวแก้ว บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ฯลฯ ซึ่งโคมไฟนี้ เป็นการจุด เพื่อบูชาสิ่งอันเนื่องด้วยพระรันตนตรัย จึงทำด้วยความตั้งใจ ทำอย่างดี จึงเป็นโคมที่ดีเป็นพิเศษ ไปอยู่ที่ไหนก็เป็นสิริมงคล แก่ที่นั้นๆ


ปกติโดยทั่วไป ชาวล้านนาก็จะต่างคนต่างทำ ตามกำลังแห่งความพร้อมในชุมชนนั้นๆ
เมื่อธุดงคสถานล้านนา บุญสถานสร้างคนดี และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น


ได้เกิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2529 ได้เล็งเห็นคุณค่าทางวัฒนธรรมอันดีงาม ของชาวล้านนา สมควรที่จะรักษาให้ลูกหลานและหมู่ชน ได้สืบทอด และประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ จึงได้เชิญหน่วยงานในพื้นที่มาร่วมปรึกษา ร่วมคิดร่วมทำ โดยมีอำเภอสันทราย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โรงเรียนสันทรายวิทยาคม โรงเรียนห้วยเกี๋ยง ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ ศูนย์วิจัยยาสูบ ไร่ประพัฒน์และบุตร กลุ่มแม่บ้านสันทราย กำนันผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์กัลยาณมิตร
ล้านนา และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นมีองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหาร


เทศบาลตำบลแม่โจ้ ฯลฯ ได้เริ่มกันจัดงาน"ยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา"ตั้งแต่ ปี2531 เริ่มจากเล็กๆและมีการพัฒนาขึ้นทุกปี จากผู้ร่วมงานระดับร้อย สู่ระดับพัน ระดับหมื่นและหลายหมื่น 
โดยแต่ละครั้ง จะได้รับความสนใจจากชาวต่างประเทศ มากขึ้นทุกปี สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคคือการสื่อสารในเรื่องภาษา ดังนั้น คณะกรรมการจัดงาน จึงเห็นควร จัดเป็นรอบของชาวไทย 1 รอบ และชาวต่างประเทศ 1 รอบ หลังจากนั้นเป็นต้นมา จึงมีการจัดงานยี่เป็งอินเตอร์ขึ้น ต่อเนื่องมาทุกปี เริ่มจากระดับ ร้อย สู่ระดับพัน ปัจจุบันมามาก กว่า 6,000 คน 


สำหรับการจุดโคมไฟลอย บูชาพระเขี้ยวแก้ว บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ฯลฯ ซึ่งโคมไฟนี้ เป็นการจุด เพื่อบูชาสิ่งอันเนื่องด้วยพระรันตนตรัย จึงทำด้วยความตั้งใจ ทำอย่างดี จึงเป็นโคมที่ดีเป็นพิเศษ ยิ่งโคมที่ใช้ ในงานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา และยี่เป็งอินเตอร์ นับว่าเป็นความโชคดี ที่มีการทำวิจัยทดลอง ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โดยตั้งชื่อว่า"โคมธรรมชัย" โดยทดลองว่าขนาดหรือรูปแบบไหน ที่ปลอดภัย คือขึ้นไปแล้ว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็จะสู่ชั้นบรรยากาศ ก็จะดับเพราะเชื้อเพลิง ซึ่งทำจาก กระดาษม้วนที่ชุบเทียนหมด จึงลอยไปตามแรงลม หากบังเอิญ ไปหล่นที่บริเวณบ้านใครก็แสดงว่าบ้านนั้น มีความเป็นสิริมงคล มีโชคมีลาภ 


ดังนั้นหากเป็นโคมที่ใช้ในงานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชาและยี่เป็งอินเตอร์ จึงเป็นโคมที่มาตรฐาน ในงานจะใช้แต่โคมนี้เท่านั้น ห้ามบุคคล
นำมาจากภายนอก มาจุดกันเอง คือจะมี รปภ.คอยตรวจก่อนเข้างานอย่างเข้มงวด จึงทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยในระดับสูง 
มีแต่สิ่งที่น่าห่วงคือประชาชนทั่วไป ทำและปล่อยกันเอง ตามชุมชนนั้นๆทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย 


ซึ่งคงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องสอดส่องดูแลร่วมกับผู้นำชุมชน


ผลที่ได้จากยี่เป็งอินเตอร์คือ เป็น การเผยแพร่ วัฒนธรรมไทยในดินแดนล้านนา เป็นการสร้างภาพลักษณ์อันดีให้ประเทศไทย เพราะภาพที่เกิดเป็นภาพแห่งความสงบร่มเย็น นำมาซึ่งความสนุกสนานเพลิดเพลิน บันเทิงใจ และมีความสุข จากการได้ดูการละเล่นพื้นเมือง ทานอาหารเมือง ได้นั่งสมาธิ(Meditation) ก่อนลอยโคม นับว่าเป็นการ เผยแพร่ภาพลักษณ์ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ประยัดสุดคือ ไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐ เพราะมีใจของการให้เป็นต้นทุน ประโยชน์สูง คือเมื่อทุกคนมาแล้วมีความสุข ก็อยากมาอีก และไปบอกต่อ จะเห็นได้ว่า ตอนนี้ยอดจองมาร่วมงานเดิมรับแค่3,000 คน แต่ยอดต้องการกว่า6,000 คน ใครจองช้าต้องใช้คำว่าเสียใจ และเสียดาย ข้ามปีเลยทีเดียว 



เป็นที่น่าเสียดาย การที่ภาคเอกชน ทำอะไรดีๆเป็นการช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ ประเทศชาติ ได้อย่างหาศาล แต่ยังไม่สามารถจะทำให้ภาครัฐและบุคคลบางท่าน เข้าใจได้ทั้งหมด จึงเป็นอุปสรรคที่ฉุดรั้ง การเดินไปข้างหน้าระดับหนึ่ง
การทำความดี ทุกคนควรมีสิทธิ์และใช้สิทธิ์บนพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญ 


เมืองไทยเรามีจุดดีหลายอย่าง ที่มีคุณค่า และสามารถเพิ่มมูลค่าให้ประเทศได้เป็นอย่างดี คือเรามีวัฒนาธรรมอันงดงาม ที่มีรากเง้า มาจากพระพุทธศาสนา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันยากที่จะแยกออกจากกันได้ ทำให้ ใครก็ตามเมื่อมาถึงเมืองไทย ต่างได้รับความประทับใจในบุคคล ศิลปะวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า หากรู้จักใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เรียกได้ว่า "ใช้โอกาส สร้างโอกาส"


และ หากใครจะแสดงความรักชาติ จงอย่าพยายาม "ทำโอกาส ให้เป็นวิกฤต"
มาเถิด เรามาช่วยกันสรรสร้างไทย ให้เจริญ เริ่มจากจับดี มีความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมคนดี ใครทำความดีแม้เพียงน้อยนิด ช่วยกันให้กำลังใจให้มาก เพื่อบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักสามัคคีด้วยธรรม เมืองไทยเหมือนครอบครัวใหญ่ หากเราไม่รัก สามัคคีกัน แล้ว จะให้ชาติไหนเขามารักเรา 


ชาติไหนก็ตามหากคนในชาติ แตกความสามัคคี ก็มีแต่ความหายนะ รออยู่ ดังเช่นเป็นข่าวในต่างประเทศ สุดท้ายประเทศล่มจม ไม่มีใครอยู่ได้ เมื่อถึงวันนั้น จะร้องเพลงชาติ ให้ใครฟัง
หากทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือร่วมใจกัน ก็คงสร้างความเจริญให้ประเทศชาติ ได้มากขึ้น ภาครัฐทำโดยหน้าที่ เอกชนทำด้วยใจ หากร่วมมือร่วมใจ ชาติไทยมีแต่เจริญ 
"เอวัง ก็ด้วยประการฉะนี้!"
Cr:Chanjit Boonyopakorn
เส้นทางบุญ
@Pathofboon
______________________
เครดิต Dhammakaya.news




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2559 23:13:36 น.
Counter : 1398 Pageviews.  

▶▶▶ เปิด "ตำนานพญานาค" : อิทธิฤทธิ์พระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้ายปราบนันโทปนันทนาคราช



 เปิดเผยเรื่องราวลี้ลับของ “พญานาค” ตั้งแต่สมัยพุทธกาล จนถึงดินแดนแห่งนาคราช “ลุ่มน้ำโขง” อิทธิฤทธิ์พระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้ายปราบนันโทปนันทนาคราช //winne.ws/n9991



สมัยหนึ่ง  นันโทปนันทนาคราชเกิดความเห็นอันชั่วช้า  เห็นปานนี้ขึ้นว่า  พวกสมณะหัวโล้นเหล่านี้  เข้า ๆ ออก ยังที่อยู่ของพวกเทพดาวดึงส์  โดยทางเบื้องบนที่อยู่ของพวกเรา  คราวนี้  ตั้งแต่บัดนี้ไปเราจะไม่ให้พวกสมณะเหล่านี้โปรยขี้ตีนลงบนหัวของเราแล้วไป จึงลุกขึ้นไปยังเชิงเขาสิเนรุ  ละอัตภาพนั้น  เอาขนดวงรอบเขาสิเนรุ ๗ รอบ แล้วแผ่พังพานข้างบน  เอาพังพานคว่ำลงงำเอาภพดาวดึงส์ไว้  ทำให้มองไม่เห็น.

ลำดับนั้นแล  ท่านพระรัฏฐปาละได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  เมื่อก่อน  ข้าพระองค์ยืนอยู่ตรงประเทศนี้ มองเห็นเขาสิเนรุ  เห็นวงขอบเขาสิเนรุ  เห็นภพดาวดึงส์  เห็นเวชยันตปราสาท  เห็นธงเบื้องบนเวชยันตปราสาท,  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  เหตุอะไรหนอ  ปัจจัยอะไรหนอ  ซึ่งเป็นให้ข้าพระองค์ไม่เห็นภูเขาสิเนรุ ฯลฯ  ไม่เห็นธงเบื้องบนเวชยันตปราสาท  ในบัดนี้. 

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสบอกว่า  รัฏฐปาละ  นาคราชชื่อว่า  นันโทปนันทะนี้  โกรธพวกเธอจึงเอาขนดหางวงรอบเขาสิเนรุ ๗ รอบ เอาพังพานปิดข้างบนกระทำให้มืดมิดอยู่. 

  รัฏฐปาละ  ทูลว่า  ข้าพระองค์ขอทรมานนาคราชตนนั้น  พระเจ้าข้า. 

  พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงอนุญาต. 

ลำดับนั้นแลภิกษุแม้ทั้งหมดก็ลุกขึ้นโดยลำดับ คือ  ท่านพระภัททิยะ ท่านพระราหุล  พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ทรงอนุญาต.

  ในที่สุด  พระมหาโมคคัลลานะเถระ  กราบทูลว่า  ข้าพระองค์ขอทรมานนาคราชนั้น  พระเจ้าข้า. 

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตว่า โมคคัลลานะ  เธอจงทรมาน.  

  พระเถระเปลี่ยนอัตภาพนิรมิตเป็นรูปนาคราชใหญ่  เอาขนดหางวงรอบนันโทปนันทนาคราชแล้ว  กดเข้ากับเขาสิเนรุ. 

    ลำดับนั้น  นาคราชจึงโพลงไฟ.  ฝ่ายพระเถระกล่าวว่า  จะมีแต่ไฟในร่างกายของท่านเท่านั้นก็หาไม่  แม้ของเราก็มี  จึงโพลงไฟ.

ไฟของนาคราชไม่เบียดเบียนพระเถระ  แต่ไฟของพระเถระเบียดเบียนนาคราช.  นาคราชคิดว่า  พระองค์นี้กดเราเข้ากับเข้าสิเนรุ  แล้วบังหวนควันและทำให้ไฟโพลง  จึงสอบถามว่า  ผู้เจริญ  ท่านเป็นใคร. 

  พระเถระตอบว่า  นันทะ  เราแหละคือโมคคัลลานะ. 

    นาคราชกล่าวว่า  ท่านผู้เจริญท่านจงดำรงอยู่โดยภิกขุภาวะของตนเถิด.

  พระเถระจึงเปลี่ยนอัตภาพนั้น  แล้วเข้าไปทางช่องหูขวาของนาคราชนั้น  แล้วออกทางช่องหูซ้าย  เข้าทางช่องหูซ้ายแล้วออกทางช่องหูขวา. 

อนึ่ง  เข้าทางช่องจมูกขวา  ออกทางช่องจมูกซ้าย  เข้าทางช่องจมูกซ้ายแล้วออกทางช่องจมูกขวา  .  ลำดับนั้น  นาคราชได้อ้าปาก.พระเถระจึงเข้าทางปากแล้วเดินจงกรมอยู่ภายในท้อง  ทางด้านทิศตะวันออกบ้าง  ด้านทิศตะวันตกบ้าง. 

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า โมคคัลลานะเธอจงใส่ใจ  นาคมีฤทธิ์มากนะ. 

พระเถระกราบทูลว่า  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  อิทธิบาท ๔ ข้าพระองค์เจริญแล้ว  กระทำให้มากแล้ว  กระทำให้เป็นดุจยาน  กระทำให้เป็นดุจวัตถุที่ตั้ง  ตั้งมั่นแล้ว  สั่งสมไว้แล้ว  ปรารภไว้ดีแล้ว,  นันโทปนันทะจงยกไว้เถิด  พระเจ้าข้า,  นาคราชเช่นกับนันโทปนันทะ  ตั้งร้อยก็ดี  ตั้งพันก็ดี  ข้าพระองค์ก็พึงทรมานได้.

  นาคราชคิดว่า  เมื่อตอนเข้าไป  เราไม่ทันเห็น  ในเวลาออกในบัดนี้  เราจักใส่เขาในระหว่างเขี้ยวแล้วเคี้ยวกินเสีย  ครั้นคิดแล้วจึงกล่าวว่า  ขอท่านจงมาเถิดขอรับ  อย่าเดินไปๆ มาๆ ในภายในท้อง  ทำข้าพเจ้าให้ลำบากเลย.  พระเถระได้ออกไปยืนข้างนอก.  นาคราชเห็นว่านี้คือเขาละ  จึงพ่นลมทางจมูก.  พระเถระเข้าจตุตถฌาน  แม้ขุมขนของพระเถระ  ลมก็ไม่สามารถทำให้ไหวได้.

นัยว่า  ภิกษุทั้งหลายที่เหลือสามารถทำปาฏิหาริย์ทั้งมวลได้  จำเดิมแต่ต้น  แต่พอถึงฐานะนี้  จักไม่สามารถสังเกตได้รวดเร็วอย่างนี้แล้วเข้าสมาบัติ  เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุเหล่านั้นทรมานนาคราช.

  นาคราชคิดว่า  เราไม่สามารถเพื่อจะทำแม้ขุมขนของสมณะนี้ให้ไหวได้ด้วยลมจมูก  สมณะนั้นมีฤิทธิ์มาก,  พระเถระจึงละอัตภาพนิรมิตรูปครุฑ  แสดงลมครุฑไล่ติดตามนาคราชไป,  นาคราชจึงละอัตภาพนั้น  นิรมิตรรูปมาณพน้อยแล้วกล่าวว่า  ท่านผู้เจริญ  กระผมขอถึงท่านเป็นสรณะ  ไหว้เท้าพระเถระ,  พระเถระกล่าวว่า  นันทะ  พระศาสดาเสด็จมาแล้ว  ท่านจงมา  พวกเราจักได้ไป.  ท่านทรมานนาคราชทำให้หมดพยศแล้วได้พาไปยังสำนักของพระศาสดา.  นาคราชถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วกราบทูลว่า 

  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์เป็นสรณะ. 

                พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ท่านจงเป็นสุขเถิดนาคราช ดังนี้แล้ว

อันหมู่ภิกษุห้อมล้อม  ได้เสด็จไปยังนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี.

https://www.facebook.com/notes/chaiwat-krab/พระโมคคัลลานะปราบนันโทปนันทนาคราช/3131282172740/
__________________________________

คลิกชมภาพและอ่านต่อ......




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2559    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2559 3:41:49 น.
Counter : 1476 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.