บ้านศิลปินคลองบางหลวง
ชีวิตเรียบง่ายริมน้ำ สร้างแรงบันดาลใจให้หวนคิดถึงอดีตในวัยเรียน กลิ่นสีน้ำมัน หมึกพิมพ์ทำให้ความร้อนรนในใจเรา เบาลงเยอะบ้านศิลปินคลองบางหลวงสร้างความประทับใจมากมายเริ่มตั้งแต่เจดีย์เก่าที่ตั้งอยู่ตรงกลางบ้านมีมุมจิบกาแฟสบายๆภายในบ้านได้กลิ่นหมึกพิมพ์ นึกถึงตอนเรียนขึ้นมาแท่นพิมพ์อันเล็ก ทำให้เกิดกิเลส อยากได้ ประมาณว่าเอาไว้ทำงานศิลปะยามใกล้ฝั่ง เอ... แล้วจะหมุนแท่นพิมพ์ไหวรึเปล่าเรานึกแล้วอยากรีไทร์จากงานก่อนวัยอันควรซะจริงฮี่ๆๆกลับบ้านด้วยความรู้สึก อิ่มใจ ส่งท้ายด้วยพนักงานต้อนรับของที่นี่นะคะ^^
ดอยอินทนนท์
ปางอุ๋ง
ไม่ตั้งใจเที่ยว ตอนนี้ ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า โทษทีคราวนี้ตั้งใจ(อย่างที่สุด)อ่านจบแล้วขอให้ความสวยงามของปางอุ๋งทำให้หัวใจของเพื่อนๆทุกคนมีความสุขและยกโทษให้เราทีเถอะ..เพี้ยงไปเที่ยวเหนือครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ตั้งแต่จบจาก ม.ช. หลังจากที่ผ่านทำงานมาอย่างหนักในรอบปี มีชีวิตที่รีบเร่ง และวุ่นวายทุกวันปีนี้เลยตั้งใจจะไปพักร้อน ในที่หนาวๆบ้างเริ่มเดินทางทริปแรก ไปแม่ฮ่องสอน ในช่วงเดือนมกราคมตั้งใจไปสัมผัสความหนาวเย็นและความงามแบบสวิสเซอแลนด์เมืองไทย ที่ ปางอุ๋งอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริปางตอง2ต้องวัดใจกันที่ 1,543 โค้ง พร้อมทางขึ้นเขาที่ร่ำลือกันว่า โหดสุดๆเมื่อพร้อมแล้ว ทั้งกายและใจ ก็..ลุยเลยก่อนจะเข้าแม่ฮ่องสอน มีอีกความตั้งใจ(ดูเหมือนเที่ยวครั้งนี้จะตั้งใจไปซะทุกอย่าง555)ขอผ่านเข้าไปชมดอกพญาเสือโคร่งที่ผลิดอกบานเต็มดอยให้เต็มๆตาซักครั้งเมื่อถึงหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ อ.แม่แตงต้องว่าจ้างรถโดยสารที่ขับโดยชาวบ้านในท้องที่ให้พาพวกเราดั้นด้นขึ้นไปทางขึ้นไปขุนแม่ยะ เป็นเส้นทางที่ทรหดมาก ทรมานกระเพาะ ตับ ใตดูท่า อาหารเช้าของเราคงไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะแล้วหละถูกกระแทกเข้าไปในลำไส้เล็กหมดพอดี อันที่จริงก็ได้ความมันส์ แบบแอดเวนเจอร์ ไม่เบา (อิอิ ถูกใจคนบ้าพลังแบบเราดี)พอขึ้นถึงด้านบนเจอกับอากาศเย็นสบายเจอฟ้ากว้างๆ พร้อมกับดอกสีชมพูที่บานไปทั่วดอย ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ตั้งใจมา หลายปี ไม่มีโอกาส ครั้งนี้มาช่วงบาน 40%เร็วไปนิด ก็เลยได้ภาพ ชมพู-เขียว ไปก่อนมีโอกาสเหมาะๆซัก 80%เมื่อไหร่เราจะมาอีกแน่นอนเส้นทางไปปางอุ๋ง เป็นทางโค้งและชัน เพราะต้องขึ้นเขาวิบากมากจนอดคิดในใจไม่ได้ว่า ทำไมต้องมาอยู่ในที่ๆมันเข้าออก ลำบากยากเย็นขนาดนี้พอมาถึง ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ที่สดชื่น เย็นสบายจนลืมความวุ่นวายและฝุ่นควันที่เราได้เจอทุกวันๆในเมืองสายหมอกยามเช้าลอยตัวเรี่ยๆกับผิวน้ำอย่างนุ่มนวลเหมือนไม่อยากพรากจากกันเช้านี้ อุณหภูมิเย็นจัดถึง 9 องศาหนาวจนปลายนิ้วเย็นและแข็ง จนแทบจะไม่สามารถกดชัตเตอร์ได้เลยด้วยความที่อยากจะบันทึกความทรงจำไว้ด้วยภาพที่อยู่ต่อหน้าเราสวยงามมากๆ นึกๆแล้ว อยากมาอยู่ซัก 1 อาทิตย์คิดถึงพู่กันและเฟรมขึงผ้าใบจริงๆเสน่ห์อีกอย่างของที่นี่ ยกให้กับความสงบเรียบง่ายของชุมชนบ้านพักที่เป็น โฮมสเตย์ มีอยู่มากก็จริงแต่สร้างขึ้นแบบไม่ให้ทำลายมุมมองและดูกลมกลืนด้วยวัสดุที่เป็นธรรมชาติที่นี่มีต้นกาแฟปลูกอยู่ทั่วไป จำหน่ายกาแฟสด ที่ชาวบ้านปลูกเอง คั่วเองระหว่างทางเดินไปอ่างเก็บน้ำก็จะมีชาวบ้านมาตั้งโต๊ะขายอาหารที่ทำเองที่แปลกสำหรับเราก็คือถั่วทอด แต่หน้าตาเหมือน เฟรนช์ฟรายด์ รสชาดอร่อยเชียวแหละทานตอนร้อนๆหมดไม่รู้ตัวเลยส่วนมื้อหนักๆแนะนำให้ลองชิม ไก่อู๊ป อาหารพื้นบ้านทำจากไก่แล้วเอาไปหมักกับเครื่องเทศสารพัดแล้วเอามาผัดอร่อยดีหอมกลิ่นสมุนไพรมากๆชื่นชมบรรยากาส สูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดแล้วนึกขอบคุณพระเจ้าแผ่นดินของเรา ที่ท่านได้ดำริทำโครงการนี้ขึ้นเราช่างโชคดีที่ได้เกิดและมีชีวิตอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านและขอบคุณธรรมชาติ ที่คงความยากลำบากในการเดินทางมาที่นี่เพราะขึ้นมายาก คนก็อาจจะยังมาเยี่ยมเยือนไม่ได้คราวละมากๆละมั้งถึงทำให้ความเป็นวิถีชาวบ้านยังมีให้เห็นอยู่ทั่ว ทั้งหมู่บ้านเราแอบภูมิใจนะ ที่เอาชนะความยากลำบากจนดั้นด้นมาถึงสถานที่ที่สวยงามแบบนี้ขอให้คงอยู่ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนตลอดไป...
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
งานเขียนครั้งแรก