Bloggang.com : vodca : จากกรุงเทพ กว่าจะถึงชะอำ Part 2 : Hotel de la Paix , Porto Chino ยามค่ำคืน

จากกรุงเทพ กว่าจะถึงชะอำ Part 2 : Hotel de la Paix , Porto Chino ยามค่ำคืน

Traveling
Blog นี่เป็นภาคต่อของ จากกรุงเทพกว่าจะถึงชะอำ Part 1 หลังจากที่ออกจากศาลพันท้ายนรสิงห์แล้ว เราก็พุ่งตัวไปยัง Hotel de la Paix ชะอำ ใช้ เวลาอีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ ด้วยspeedรวดเร็ว มาถึงเชคอินแล้วนอนตีพุงเล่น มาครั้งนี้มาพักผ่อนไม่เน้นเที่ยวออกไปไหนต่อไหนเท่าไหร่ค่ะ
เพื่อนๆคงเห็นรีวิวโรงแรมนี่จนเบื่อแล้ว เพราะใครๆก็ไป เนื่องจากเค้าเป็น Design Hotel ที่เมื่อก่อนใช้ Chain ของ Alila (อดีตAlila Cha-am ที่โด่งดังไปทั่วโลก) แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Hotel de La Paix ซะแล้ว มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างดิชั้นไม่อาจทราบได้ ที่แน่ๆราคาตอนนี้พุ่งทะยานมาก ช่วงhigh season คืนศุกร์เสาร์นี่ 5พันบาทกว่าๆต่อคืนเข้าไปแล้ว

สิ่งที่ชอบที่นี่มาก คือ Chill Pool- สระว่ายน้ำในCourtที่ไม่ติด ทะเล รายล้อมด้วยผนังหิน ว่ายน้ำบ่ายๆเย็นๆหรือเอาหนังสือไปอ่านริมสระ ชิลล์มากก และได้ความรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัวอย่างแรงค่ะ รู้สึกเค้าจะไม่ให้เด็กเล่นสระนี้นะคะ หรืออาจจะเล่นได้แต่ต้องเงียบๆไม่ส่งเสียงดัง เจี๊ยวจ๊าว

แม้ว่าราคาห้องพักจะแรงในช่วงหน้าhighแต่ก็ให้อภัยได้ เพราะว่าทั้งโรงแรมมีแค่ 79ห้อง แล้วก็ห้องแต่ละห้องนั้นใหญ่มาก ประมาณ 60ตร ม เราได้ห้องพักชั้น 3 ค่ะ เรียกว่านอนเล่น ชมฟ้า ชมนก ชมไม้ ห้องใหญ่ สงบเป็นส่วนตัวได้ทั้งวัน
ห้องน้ำก็เป็นที่ประทับใจของพิ้งค์ตามคาด (และของใครหลายๆคนแน่ๆ) เนื่องจาก Rain Shower อันใหญ่กลางห้องทำให้เหมือนเวลาเรายืนอาบน้ำ เหมือนเราตากฝนจริงๆ มีอ่างอาบน้ำลงได้ 2 คนพอดิบพอดีแบบแคบๆหน่อย แต่ขอติกลิ่นแชมพู สบู่ ครีมนวดที่ให้มา กลิ่นออกแนวธรรมชาติไปหน่อย
Mini Bar ที่เค้าวางไว้ในห้องพักฟรีทุกอย่างนะคะ เท่าที่จำได้มีน้ำอัดลมให้ น้ำขวด ขนมนิดหน่อย และเบียร์สิงห์ 2 ขวด อีกอย่างที่น่ารักเอาใจคอกาแฟอีกแล้ว คือมีกาแฟแบบพิเศษให้กินในห้อง พร้อมที่ชงแบบpressค่ะ

อาหารเช้าที่นี่ทานที่ห้อง Motion สิ่งที่ชอบชอบคืออาหารเช้าของที่นี่ พิเศษกว่าที่อื่น คือมีปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ กรอบนอก อร่อยเหาะไปเลย กินคู่กับน้ำเต้าหู้ เค้ามีกาแฟespresso, cappuccinoให้สั่งด้วย (คอกาแฟแบบเราชอบมากก)

ที่อยากติที่นี่ก็มีเช่น ห้องอาหาร Cloud Loft (ห้องนี้เค้าเปิดเฉพาะมื้อเย็น) มืดมากและยุงเยอะมาก เมนูอาหารที่ลองสั่งมาทานไม่อร่อยอย่างแรงค่ะ และselectionก้ไม่หลากหลาย ถ้าใครอยากมานั่งชิลล์ที่ห้องนี้ แนะนำให้ทานอาหารให้เสร็จที่ห้องMotionติดแอร์ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปทาน Cocktailที่ Cloud Loft
นั่งกิน นอนกิน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ว่ายน้ำอยู่ที่นี่ 2 คืนก็ได้เวลากลับ

ขากลับมีแวะทานอะไรเล็กๆน้อยๆ เดินเล่นที่ อัมพวาด้วยค่ะ แต่ไม่ค่อยประทับใจเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา ถ้าใครอยากอ่านเรื่องอัมพวาที่พิ้งค์เคยเขียนไว้ click >>อัมพวา ลั๊ลลา

ขับรถเรื่อยๆมา บ่ายๆเย็นๆก็กลับรถมาแวะที่ Porto Chino อีกรอบค่ะ มาทานอาหารเย็นร้านถูกและดี ใน Foodland พร้อมเดินเล่นอีกนิดหน่อยแล้วก็กลับบ้าน

ร้านใหญ่ที่นี่ McDonald’s, MK , Foodland

บรรยากาศข้างในcourtกลาง

ใครที่เป็นแม่บ้านชอบทำอาหาร Foodlandนี่น่าจะเป็น Supermarket ในดวงใจใครหลายคน เพราะมีของหายากที่ตามsuperทั่วไปไม่มีนะ ในนี้มีธนาคารที่เห็นก็ SCB KBANK และก็ร้านหนังสือ รวมทั้งBoots หรือ Watsonด้วย

ข้างใน CourtกลางของPorto Chino มีที่ให้นั่งพักเยอะ เหมาะกับการมาช๊อปสบายๆแล้วนั่งพักที่ชอบมากคือมีต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เล็กมาปลูกกลางcourtด้วย ร้านกาแฟ ขนม ด้านในก็มี Coffee world กับ Do Petite (cup cakeร้านนี้อร่อยดีนะ เราลองซื้อRed Velvetมากิน)

ร้านอาหาร ขนมอื่นๆ

ร้านอาหาร หรือร้านขนมของที่นี่ทั้งการตกแต่งร้านก็มี conceptที่สวยงามทุกร้านค่ะ ซาลาเปาวราภรณ์ก็มา wine connection ก็มี, umm milk, The deli house, Spiceo,ปังสยาม, Dunkin Donuts หรือแม้แต่ไอติมMaru หรือนม Hokkaido ก็มีมาตั้งที่ Porto Chinoค่ะ
ร้านของหนักก็อย่าง Yee Loa Tang Joa Lee, Mama do by Ter, Tohkai, Kin Buffet, The Pizza Company
นอกนั้นชั้น 2 นี่จะมีพวกspa , beauty clinic , ร้านdaiso ก็มีนะ

โซนfashion ร้านเล็กร้านน้อยอยู่ด้านหน้าเต็มไปหมด แบ่งเป็น 5 Pier สาวๆอยากช๊อปปิ้งเล็กๆน้อยๆก่อนไปเที่ยวก็แวะช๊อปนิดๆหน่อยกันได้

Porto Chino in Twilight
คาดว่า ช่วงคริสมาสต์
คงมีของให้ถ่ายรูปเล่นเยอะขึ้นนะ

ปิดท้ายหลายๆ element น่ารัก กุ๊กกิ๊กไปหมด ทั้งประภาคารหน้าห้าง ทางเข้าห้าง มุมถ่ายรูปกะต้นคริสมาสต์ เอาใจสาวก Instagram และ Social network กันเต็มที่

ทานอาหารเสร็จแล้วถ่ายรูปเยอะมากมายแล้วก็หมดแรงกลับบ้าน แฮ่กกกกกก