เมื่อรักแท้ดูแลไม่ได้.....พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน

giftzy_naa
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมื่อรักแท้ดูแลไม่ได้.....พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add giftzy_naa's blog to your web]
Links
 

 

ที่มาของ Email Address

ที่มาของ Email Address

อีเมลเริ่มใช้กันในปี พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965) โดยใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม ปัจจุบันได้มีการเถียงกันระหว่างเครื่อง SDC's Q32 และ MIT's CTSS ว่าใครเป็นผู้ใช้ระบบอีเมลเป็นเครื่องแรก
ต่อมาพัฒนาให้สามารถส่งอีเมลข้ามระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยระบบแรก ๆ ได้แก่ ระบบ AUTODIN ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (ปีพ.ศ. 2509) และ ระบบ SAGE ซึ่งใช้ตรวจจับเครื่องบินทิ้งระเบิด
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อาร์พาเน็ต (ARPANET) มีส่วนเป็นอย่างมากในการพัฒนาอีเมล มีการทดลองส่งครั้งแรกในเครือข่ายเมื่อปีพ.ศ. 2512 ในปี พ.ศ. 2514 นายเรย์ ทอมลินสัน (Ray Tomlinson) เริ่มใช้เครื่องหมาย @ ในการคั่นระหว่างชื่อผู้ใช้กับชื่อเครื่อง เขายังเขียนโปรแกรมรับส่งอีเมลที่ชื่อ SNDMAIL และ READMAIL อาร์พาเน็ตทำให้อีเมลได้รับความนิยม และอีเมลก็ได้กลายเป็นงานหลักของอาร์พาเน็ต
เมื่อประโยชน์ของอีเมลเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็มีการคิดค้นระบบอีเมลที่ติดต่อโดยช่องทางอื่นสำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ใช้เครือข่ายอาร์พาเน็ต เช่นผ่านเครือข่าย UUCP หรือ VNET ก่อนที่มีการพัฒนาอีเมลที่ค้นหาเส้นทางในการส่งโดยอัตโนมัติ (auto-routing) การส่งผ่านอีเมลข้ามจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบจำเป็นระบุเส้นทางการส่งโดยใช้เครื่องหมาย ! คั่นชื่อเครื่องระหว่างทาง วิธีนี้สามารถเชื่อมอีเมลจาก อาร์พาเน็ต BITNET NSFNET UUCP เข้าด้วยกัน
ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2520 หน่วยงาน IETF ออกแบบและกำหนดโปรโตคอลในการส่งอีเมลที่มีชื่อว่า SMTP หรือ Simple Mail Transfer Protocol ปัจจุบันโปรโตคอลนี้ถือเป็นมาตรฐานในการรับส่งอีเมลบนอินเทอร์เน็ต




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 12:04:21 น.
Counter : 593 Pageviews.  

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
(Introduction to Computer)

คอมพิวเตอร์คืออะไร
คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องมือทางอิเล็คทรอนิคส์ ที่ช่วยผ่อนแรงงานทางด้านสมอง ให้กับมนุษย์
ขนาดของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะแบ่งออกเป็น 3 ขนาดคือ
1. Main Frame Computer (เมนเฟรมคอมพิวเตอร์) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ จุข้อมูลได้มาก ใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ หรือ ทั่วโลก ประสิทธิภาพสูงสุดในการส่งข้อมูลแบบออนไลน์ (On-Line) ราคาแพงมาก (ประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไป) ธุรกิจในประเทศไทย ที่ใช้เครื่อง Main Frame Computer ได้แก่ ธนาคาร , สายการบิน , ตลาดหุ้น เป็นต้น
2. Mini Computer (มินิคอมพิวเตอร์) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง ใช้กับธุรกิจขนาดกลาง เช่น ตามบริษัท , โรงพยาบาล , โรงเรียน , มหาวิทยาลัย ที่มีการออนไลน์ ภายในตัวอาคาร ไม่ไกลมากนัก ราคาเครื่องจะประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป
3. Micro Computer (ไมโครคอมพิวเตอร์) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเครื่อง PC (Personal Computer) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ขนาดเล็ก ใช้เฉพาะ บุคคล (1 คน ต่อ 1 เครื่อง) ราคาถูก ประมาณเครื่องล่ะ 10,000 บาท ขึ้นไป ในปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้กันมาก เกือบทุกธุรกิจ เพราะราคาถูก หาซื้อง่าย และประสิทธิภาพก็ใกล้เคียงกับเครื่องรุ่นใหญ่ สบาย ๆ ในปัจจุบัน ยังมีเครื่องขนาดเล็กอีก คือ เครื่องกระเป๋าหิ้ว หรือที่เรียกว่า Note Book , Lab Top และเครื่องขนาดกระเป๋าเสื้อ หรือ ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่อง ปาลม์ Palm
ระบบของคอมพิวเตอร์ (Computer System) ระบบของคอมพิวเตอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 ระบบคือ
1. Hard Ware (ฮารด์แวร์) คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่เราจับต้องได้ และมองเห็น ดังนั้น อุปกรณ์ที่เป็นคอมพิวเตอร์ หรือ เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ถือว่าเป็น Hard Ware ทั้งสิ้น โดยจะแบ่งอุปกรณ์ Hard Ware ออกเป็น 3 หน้าที่คือ
1.1. Input Unit คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูล ได้แก่ แป้นพิมพ์ Keyboard , เม้าส์ Mouse
1.2. Processing Unit คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ประมวลผล ได้แก่ CPU (Central Processing Unit) ในที่นี้ก็คือ เจ้ากล่องเหล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่นั่นแหละครับ เราเรียก CPU ลักษณะจะเป็น Case คือตัวเครื่อง
1.3. Output Unit คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ออกมา ได้แก่ จอภาพ Monitor , เครื่องพิมพ์ Printer , สแกนเนอร์ Scanner , ลำโพงเสียง Speaker , โปรเจคเตอร์ Projector เครื่องฉายภาพ
ในขณะเดียวกัน ยังมีอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง Input Unit และ Output Unit ได้ด้วย เช่น เครื่องบันทึก/อ่าน แผ่นดิสก์ (Disk Drive) , เครื่องบันทึก/อ่าน แผ่นซีดี (CD Read/Writer) , เครื่องถ่ายภาพระบบดิจิตอล Digital Camera
2. Soft Ware (ซอฟท์แวร์) คือ โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นชุดคำสั่ง ที่ถูกเขียนขึ้นมาจาก ภาษาทางคอมพิวเตอร์ (Computer Language) เพื่อสั่งให้อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ สามารถทำงานได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ Soft Ware แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ
2.1 System Soft Ware คือ โปรแกรมควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (OS = Operating System) เช่น บนเครื่อง Main Frame Computer ก็จะใช้โปรแกรมควบคุมเครื่องที่ชื่อว่า UNIX , บนเครื่อง Mini Computer ก็จะใช้โปรแกรมควบคุมเครื่องที่ชื่อว่า OS/2 , บนเครื่อง Micro Computer หรือ PC ก็จะใช้โปรแกรมควบคุมเครื่องที่ชื่อว่า DOS , หรือในปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้กันมากคือ Microsoft Windows นั่นเอง ซึ่ง โปรแกรมวินโดวส์นี้ ก็มีหลายเวอร์ชั่น (Version) ออกมา เช่น Windows 3.11 , Windows 95 , Windows 98 , Windows 2000 , Windows ME และล่าสุดตอนนี้ก็คือ Windows XP
2.2 Application Soft Ware คือ โปรแกรมประยุกต์ใช้กับงานต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องถูกเขียนขึ้นมาจากภาษาทางคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมสำเร็จรูปทั่ว ๆ ไป ได้แก่
Microsoft Word เป็นโปรแกรมที่ใช้งานสำหรับงานพิมพ์ทั่ว ๆ ไป
Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่ใช้งานสำหรับงานด้านการคำนวณ , ตาราง , สถิติ , กราฟ
Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมที่ใช้งานสำหรับการทำสไลด์ , งานนำเสนอ Presentation
Microsoft Access เป็นโปรแกรมที่ใช้งานสำหรับฐานข้อมูล (Data Base Management)
ปกติโดยทั่วไปเราจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูป 4 ชื่อนี้ในที่ทำงานต่าง ๆ โดยเรียกรวมว่า Microsoft OFFICE
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้งานอีก อาทิ เช่น
Microsoft Publisher เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการทำนามบัตร , ป้ายประกาศต่าง ๆ , การ์ด ต่าง ๆ
AutoCAD เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเขียนแบบ
Photo Shop เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตกแต่งภาพ
3D Studio เป็นโปรแกรมทำภาพเคลื่อนไหว Animation
Page Maker เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับโรงพิมพ์ เป็นต้น
3. People Ware (พีเพิ่ลแวร์) คือ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่ทำงานในงานทางด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งงานทางคอมพิวเตอร์นั้น ก็จะแบ่งหน้าที่ต่าง ๆ กัน สามารถแบ่งบุคลากรทางคอมพิวเตอร์ เป็นตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้
BOSS คือตำแหน่งของผู้บริหารสูงสุด เช่น เจ้าของบริษัท Microsoft คือ Bill Gate เป็นต้น
Admin คือตำแหน่งของผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ เช่น ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโปรแกรม Word เป็นต้น
System Analysis คือตำแหน่งของนักวิเคราะห์ และออกแบบระบบ
Programmer คือตำแหน่งคนเขียนโปรแกรม (ถือว่าตำแหน่งนี้สำคัญที่สุด)
Operator คือตำแหน่งผู้ดูแลระบบเครื่องต่าง ๆ คล้าย ๆ กับช่างคอมพิวเตอร์
Users คือตำแหน่งของผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
Data Entry คือตำแหน่งของผู้ป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 12:05:45 น.
Counter : 328 Pageviews.  

เว็บไซต์ หมายถึง

เว็บไซต์ หมายถึง
• เว็บไซต์ (website, web site, หรือ Web site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์







 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 12:06:50 น.
Counter : 403 Pageviews.  

Link : ลิงค์ คือ

Link : ลิงค์ คือ หัวข้อต่างๆ ที่สามารถโยงหรือว่าคลิก ไปยังเวบไซต์หรือรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ โดยการใช้เมาส์เลื่อนไป คลิก ยังลิงค์ เหล่านี้ โดยส่วนใหญ่ มักจะมีการขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งหากเราเลื่อน ลูกศรเมาส์ ไปอยู่บน ลิงค์ ก็จะปรากฎ เป็นรูปมือที่ยื่น นิ้วชี้ ออกมาบนหัวข้อนั้นๆ



การ Links

การเชื่อมโยง(Links)คืออะไร

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการที่อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางอยู่ทั่วโลกนั่น เป็นผลมาจากความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูล(Links) จากฐานข้อมูล
หนึ่งไปยังฐานข้อมูลหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
ในโลกของ อินเตอร์เน็ต การเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดถ้ามีอินเตอร์เน็ตแต่มันไม่เป็นอิสระและไม่เชื่อมต่อกัน คงไม่ค่อยมีประโยชน์เดิมทีระบบอินเตอร์เน็ตพัฒนามาจากเครือข่ายเตือนภัยระหว่างหน่วยงานเพื่อความมั่นคงของสหรัฐทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อออนไลน์ระวังภัยที่จะคุกคามความมั่นคงของชาติตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตได้ถูกพัฒนายิ่งขึ้น จนกลายเป็นระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงโลกทั้งโลกเข้าด้วยกัน........
และการ Links ก็คือการที่เราต้องการเปิดเว็บเพจไปยังจุดหมายอื่นในเวบเพจเดียวกันหรือไปยังเวบเพจอื่นต้องมีการเขียนคำสั่ง กำหนดเส้นทางที่ต้องการจะไปและผู้ใช้ก็เพียงแค่... คลิกเม้าส์.. ! ที่จุดนั้นเพื่อเข้าไปยังจุดหมายที่กำหนดไว้.. ตัวอย่างง่ายๆ ก็ดูที่ คำสั่งข้างบนที่เขียนว่า "กลับไปหน้าหลัก บทที่ 1 2 3 4 5 " ล้วนแล้วแต่เป็น Links ทั้งนั้น


รูปแบบและวิธีการ Links

1 . การ Links เชื่อมโยงภายใน โฮมเพจ
การ Links คือ ภายใน ไฟล์ .html หรือ .htm เดียวกัน ซึ่งมีขี้น เพื่อความสะดวก ในการหาข้อมูลสำหรับเว็บเพจที่มีความยาวมาก ๆ โดยการเขียนคำสั่งนั้น จะต้องใช้
คำสั่ง 2 คำสั่ง คำสั่งแรก คือ

ข้อความ,หรือ ภาพ ในตำแหน่งที่ต้องการไปถึง

วางคำสั่งนี้ที่จุด B และวางคำสั่งที่ 2 ลงที่ส่วนหัวกระดาษ หรือ ตำแหน่ง ที่เรา ต้องการ

ข้อความหรือภาพที่บ่งบอกถึงจุดหมายปลายทาง


วางคำสั่งนี้ที่จุด A
การเขียนคำสั่งจะเป็นดังนี้
ไปที่จุด B จุดนี้คือจุด A

คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอรี
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
์ีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
Bจุดนี้คือจุด B

ีน่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก

น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก
น่ารัก

2. การเชื่อมโยงภายนอกเว็บไซต์
การ Links เชื่อมโยงไปถายนอก โฮมเพจ หรือไปหน้าเอกสารอื่นในโฮมเพจของเรา ก็คล้ายๆ กับแบบแรก แต่เราจะ Links ไปยังโฮมเพจอื่น หรือ หน้าเอกสารอื่น คำสั่งก
็คล้ายกันแต่มีคำสั่งเดียวคือ
ข้อความ

การเขียนคำสั่งจะเป็นดังนี้

การเชื่อมโยง
        

3. การเชื่อมโยงแบบDownload
ในเว็บเพจในปัจจุบันนี้มักจะนิยมนำเอาข้อมูลต่าง ๆ ลงสู่เว็บเพจเพื่อที่จะทำให้เนื้อหาของเว็บเพจนั้นมีประโยชน์แก่ผู้เยี่ยวชม จึงทำให้มีการจำข้อมูลต่างที่จะทำการเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลที่เป็นไฟล์ Word ไฟล ์Power์ Point และในไฟล์อื่น ๆ อีกมากมาย ในการที่จำนำไฟล์ต่างนี้ลงสู่เว็บเพจนั้นจะต้องทำการ Zip ไฟล์ข้อมูลนั้นลงเพื่อเป็นการง่ายต่อการจะนำไฟล์ไปใช้โดยการDownload ไฟล์นั้น

ข้อความ

เห็นไหม? ง่ายนิดเดียวจริงๆ เมื่อใช้งานจริง ๆ เราสามารถ เอาไปประยุกค์ ใช้ไม่ว่าจะเป็นผสมการ Links รูปเพื่อดาว์โหลด เราอาจจะใช้รูปสวยๆ เขียนว่า Download NOW ! แล้วเมื่อคริ้กแล้วสามารถ ดาว์โหลดได้ทันที

4. ในการสร้างเว็บเพจ ถ้าเราต้องการให้ผู้เยี่ยมชมสามารถติดต่อกับผู้สร้างเว็บเพจโดยที่ผู้ชมเว็บเพจไม่รู้จะติดต่อได้อย่างไร เราก็สามารถให้ผู้เยี่ยมชมติดต่อกับเราได้โดยการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิคหรือที่เรียกว่าEMAIL
ข้อความ,หรือ ภาพ ที่บ่งบอกถึงจุดหมายปลายทาง

การกำหนดสีในการเชื่อมโยง

เราสามารถกำหนดสีของตัวอักษรที่ทำการเชื่อมโยงข้อมูลจากเดิมที่ปกติสีของตัวอักษรในการเชื่อมโยงนั้นจะเป็นตัวอักษรสีน้ำเงิน แต่าสามารถกำหนดสีของตัวอักษรในการเชื่อมโยงได้ โดยเราสามารถกำหนดในคำสั่ง
คำสั่ง Link = คือกำหนดสีตัวอักษร Links ปรกติ ที่ยังไม่เคย Links เข้าไป
คำสั่ง VLink = คือกำหนดสีตัวอักษร Links ที่เคย Links เข้าไปแล้ว
คำสั่ง ALink = คือกำหนดสีตัวอักษร Links เมื่อเรากด เม้าส์เข้าไปดู





 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 21:02:00 น.
Counter : 375 Pageviews.  

ประโยชน์ของ Email Address

ประโยชน์ของ Email Address

ประโยชน์ของ Email Address

1. ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
2. ง่ายต่อการบริหารจัดการขององค์การ
3. สะดวกในการนำข้อมูลมาใช้
4. ประชาสัมพันธ์องค์การให้หน่วยงานอื่นได้ทราบ
5. ประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์การ





 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 21:02:13 น.
Counter : 1022 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.