• ทั่วไป
• ความจริงในตัวเรา
• แปลหนังสือพระอาจารย์
• Reply น่าบันทึก
• งานเขียน

31 นโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทย เปิด 31 นโยบายหาเสียงพรรคเพื่อไทย วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:44:54 น. 1. ทำเขื่อนกั้นน้ำทะเล ไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ แถวๆ สมุทรสาครและสมุทรปราการ ไม่ต้องกู้ 2. ดึงน้ำจากเขื่อน จากประเทศเพื่อนบ้าน ลาว พม่า เขมร และเชื่อมแม่น้ำด้วยลำคลองใหม่ 3. รถไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 สาย แต่ละสายเก็บ 20 บาท 4. ทุกสถานีรถไฟฟ้า จะสร้างคอนโดราคาประหยัด ให้เช่า 5. ทำรถไฟรางคู่เชื่อมต่อบริเวณชานเมืองกรุงเทพ 6. ทำรถไฟความเร็วสูงไปโคราช ไประยอง จันทบุรี 7. ขยายแอร์พอร์ตลิงส์ ไปพัทยา 8. ภาคใต้ทำแลนด์บริด 9. ปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน 12 เดือน 10. ความยากจนต้องหมดไปภายใน 4 ปี 11. กองทุนหมู่บ้านเพิ่มเงินทุก ตำบลๆ ละ หนึ่งล้านบาท 12. พักหนี้สำหรับผู้ที่มีหนี้ไม่เกิน ห้าแสนบาท ไม่น้อยกว่า 3 ปี 13. สำหรับผู้ที่มีหนี้เกินห้าแสนแต่ไม่เกินหนึ่งล้าน ให้ปรับโครงสร้างหนี้ 14. โครงการ30 บาทรักษาทุกโรค รักษาอย่างมีคุณภาพ 15. ส่งเสริม OTOP ร่วมกับศูนย์ศิลปาชีพ 16. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับเงินเพิ่ม 25 % ไม่ต้องทุจริต 17. ออกเครดิตการ์ดสำหรับเกษตรกร เพื่อนำไปซื้อปุ่ยหรือเมล็ดพันธ์เพื่อการเพาะปลูก 18. ลดภาษีนิติบุคคล จาก 30% เหลือ 23% 19. จบปริญาตรีทำงานมีเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท 20. ปรับเงินเดือนให้ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ 21. คนไทยต้องตั้งตัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี 22. ตั้งกองทุนร่วมทุน แต่ละจังหวัด 23. ต้องกองทุนร่วมทุนในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน โดยมีเงินนักศึกษาที่จบการศึกษากู้ยืม 24. คืนภาษีและเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีให้กับ ผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรก 25. คืนภาษีให้กับผู้ซื้อรถคันแรก และต้องถือครองรถไม่น้อยกว่า 5 ปี 26. สนับสนุนภาครัฐและเอกชน ไปหาสัมปทานพลังงานเช่นน้ำมัน จากทั่วโลก 27. เด็กนักเรียนมีคอมพิวเตอร์ใช้ One Tablet PC Per Chind 28. Free WIFI เล่น Internet ในที่สาธารณะ เช่นสถานศึกษา สถานที่ท่องเที่ยว โรงพยาบาล ฯลฯ 29. ยกเว้นวีซ่า ในกับประเทศแถบตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น 30. ทำสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เป็น HUB 31. ประสานความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอารเบีย ให้กลับมาเหมือนเดิม อีก 4 ปี ผมจะรอดู   Create Date : 06 กรกฎาคม 2554     Last Update : 6 กรกฎาคม 2554 11:35:10 น. Counter : 939 Pageviews.   Share Tweet

การ์ตูนที่น่าสนใจ : ห่วงโซ่แห่งความแค้น ต้องมีใครสักคนตัดมันทิ้ง //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9279500/A9279500.html "เรื่องที่ไร้เหตุผลในโลกนี้ มันยกโทษให้ไม่ได้ เป็นคนน่ะ ยังไงก็ต้องโกรธ แต่ต้องอดทน ห่วงโซ่แห่งความแค้น ต้องมีใครสักคนตัดมันทิ้ง" "ความรู้สึกด้านลบมารวมตัวกัน โลกก็จะตกอยู่ในกระแสด้านลบ แต่ถ้าความรู้สึกด้านบวกมารวมตัว โลกก็จะตกอยู่ในกระแสด้านบวก" วิบากกรรมหนะ มันอธิบายได้อย่างนี้แลครับ ...   Create Date : 22 พฤษภาคม 2553     Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 23:35:54 น. Counter : 473 Pageviews.   Share Tweet

วิธีการนำประเทศออกจากวิกฤติ - อภัยทาน ทางออกเพื่อความไม่เกลียด คงไม่ต้องถามกันมากว่า เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นนั้น รุนแรงอย่างใหญ่หลวง ตึก Central World เสียหาย โรงหนังอย่าง สกาล่าพังทลาย ธนาคารถูก ปล้นและเผาทำลาย ใครผิด ใครถูกนั้น คงไม่ต้องถามอะไรกันอีก ท่านที่เลือกจะเชื่ออย่างไร ก็จะเชื่ออย่างนั้นนั่นแหละครับ มันไม่เปลี่ยนหรอก ผมมานั่งถามตัวเองว่า ทำไม ? เหตุการณ์บ้านเมืองเราถึงเป็นอย่างนี้ คำตอบที่ผมให้กับตัวเองหลังจากวิเคราะห์มา ก็คือ คำตอบง่ายๆ " ก็คนมันเกลียดกัน ไม่อยากอยู่ร่วมโลกเดียวกัน " แค่นั้นเองครับ ที่ทำให้เราฆ่ากันได้ ทำลายกันได้ ไม่ได้ซับซ้อนเลย หลายคนบอกว่า ความเกลียดชังจะมากยิ่งขึ้น แต่อยากให้มองว่า เราจะยอมแพ้ต่อความเกลียดชังนั้น มันยิ่งจะทำให้ปัญหาฝังรากลึกลงไป คลื่นลูกหลังจะสูงกว่าคลื่นลูกแรกเสมอ เหตุการณ์วันนี้แสดงให้เห็นอย่างนั้น หลายคนยอมแพ้ว่า ยังไงก็จะมีปัญหาที่รุนแรงยิ่งขึ้น ความเกลียดมันฝังรากลึกลงไปแล้ว อดีตแก้ไขไม่ได้ครับ แต่เราเปลี่ยนอนาคตได้ ผมเชื่อเรื่อง ปฎิจสมุปบาท หรือวงจรของการเวียนว่ายตายเกิด ในแต่ละช่วงขณะความคิด การเกลียดกันมากยิ่งทำให้เราดำดิ่งลงไปสู่อบายภุมิที่ต่ำลง หรือว่าง่ายๆ คือ ความรุนแรงจะมากยิ่งขึ้น ในทางสังคมก็เช่นเดียวกัน สังคมนั้นจะตกต่ำ ผมไม่ได้ขอให้เรายอมแพ้ต่อการฆ่าฟันกัน ต่อการก่อการร้าย หรือมุ่งทำลายกัน หรือประนีประนอมกับเรื่องแบบนี้ กฏหมายก้คือกฏหมายครับ แต่เราโกรธไป มันก็ไม่ช่วยให้ตัวเป้งๆมันตายเร็วขึ้นหรอกครับ เรานั่นแหละ จะตายเร็วขึ้น สังคมตอนนี้จะ ก้าวไปข้างหน้าได้ก็ต่อเมื่อทุกคน เลือกจะสู้กันด้วยความดีงาม ความสัตย์ หยุดวงจรอุบาทว์ : เกลียด -> ทำลาย -> เกลียดกันมากขึ้น -> ทำลายมากขึ้น ... ? For what ... ? ดังนั้น หากเราจะก้าวออกจากจุดนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การให้อภัย อย่าถือโทษ ปล่อยให้คนที่ต้องทำหน้าที่รักษาบ้านเมืองเขาทำไปครับ "อภัยทานัง อามิสทานัง ชินาติ" - "อภัยทานย่อมชนะเสียซึ่งทานทั้งปวง"   Create Date : 20 พฤษภาคม 2553     Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 7:55:43 น. Counter : 365 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ไฟไหม้บาน VS การเมือง'เมษา 53 ในสถานการณ์แบบนี้ เรื่องที่เป็นประเด็นสุดร้อนกลางเดือนเมษา 53 ของบ้านเรา คงไม่พ้นเรื่องการมุ้ง เอ๊ย การเมือง ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุม การเรียกร้องให้หยุดชุมนุม การสลายการชุมนุม จนมันชักจะชุลมุนเข้าไปทุกทีๆ หลายต่อหลายคนพยายามหลบหนีด้วยการไม่รับข่าวสาร แต่ยอมรับเหอะ คุณหนีไม่พ้นหรอก ไม่งั้นคงไม่คลิ๊กเข้ามาอ่านบทความอันนี้หรอก !! 5 5 5 ก่อนจะว่าด้วยเรื่องหลัก ขอถามคำถามง่ายๆก่อนว่า “ ถ้าไฟกำลังไหม้บ้าน จะทำยังไงดี ? “ คำตอบออกมาได้หลายแนว แต่เชื่อว่า คำตอบแรก คือ เอาตัวรอดก่อน แน่นอน ไม่มีใครอยากกลายเป็นเป็ดย่างอยู่ในกองเพลิงแน่นอนครับ คำตอบต่อมา ก็น่าจะเป็น หาทางดับไฟสิ(วะ)ครับ แต่อย่างหนึ่งที่ผมว่า ยังไม่มีคนทำในขณะที่ไฟกำลังไหม้บ้านอยู่ทำ คือ หาว่า ทำไมไฟมันไหม้บ้าน ผมเชื่อว่า ไม่มีใครหรอกครับ กระโดดกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหาว่า ไฟลัดวงจรหรือเปล่า หรือว่าขบวนการก่อการดีที่ไหนมาเผาบ้านเราเล่น ทั่วไปแล้ว คนด้านบนก็คงคิดราวๆนี้แหละครับ ว่าแต่มันเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร ? การที่พวกท่านทั้งหลาย ได้รับฟังสิ่งต่างๆ มาและเกิดอารมณ์โกรธ อารมณ์เศร้าโศกเสียใจ มันไม่ต่างอะไรกับการที่ไฟมันไหม้บ้านท่านเลยครับ อารมณ์ดังกล่าวจะนำพาจิตใจของท่านไปสู่ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความทั้งหลายที่ กำลังต่อสู้กันทางสื่อของรัฐ ของเอกชน ทั้งหลายเหล่านั้น การหาว่าใครผิดใครถูกในขณะที่ท่านกำลังโกรธ กำลังหลง กำลังเศร้าสร้อย นอกจากมันจะไม่ช่วยให้ท่านสบายใจขึ้นแล้ว มันก็เหมือนกับว่า ท่านกำลังปล่อยให้บ้านท่านไฟไหม้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุงหรือกระทำการให้เหตุต่างๆนั้นหมดสิ้นไป ยิ่งโกรธมาก ยิ่งเสียใจมาก มันเป็นเรื่องสมควรกระนั้นหรือ ? ถ้าโกรธมาก เสียใจมากแล้ว ทำให้คนที่เราอยากให้เขามีชีวิตอื่นๆทั้งหลายทั้งปวงนั้น ยังอยู่ได้ ผมว่า บุคคลเหล่านั้นคงฟื้นแล้วหละครับ ผมเชื่อว่า หลายคน เคยร้องไห้ให้คนที่รักมากกว่าผมหลายๆสิบเท่า สาปแช่งคนที่ชังมากกว่าผมหลายๆร้อยเท่า แต่กระนั้น มันก็เปลี่ยนอะไรมิได้ ไม่ใช่หรือ ? นอกจากการที่ตัวเองเกิดอาการปวดหัว ตัวร้อนหรือกระทั่งไม่สบายขึ้น คนที่ถูกสาปแช่งเหล่านั้นผมก็เห็นยังสมบูรณ์พูลสุขดีอยู่ ดังนั้น สิ่งที่ควรจะทำก่อนเลย คือ การสยบอารมณ์ในจิตใจ พึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธก่อน ในกรณีที่เชื่อว่า บาปกรรม มีจริง ยิ่งไม่สมควรจะด่าเขาเหล่านั้นใหญ่เลยครับ มันคุ้มหรือกับการต้องบาป ต้องตกนรก ปล่อยเขาตกไปฝ่ายเดียวนั่นแหละครับ ดีแล้ว เกลียดกันจะตายอยู่แล้ว ตายไปก็แยกๆกันซะบ้าง ไม่ต้องไปตามด่ากันถึงในนรกหรอกครับ สำหรับท่านที่ไม่เชื่อเรื่องบาปกรรม ก็ลองพิจารณาว่า ใจคุณสุข สงบหรือไม่ สบายใจ หรือไม่ และมันคุ้มหรือไม่กับพวกที่คุณคิดว่า ไม่มีเหตุผลไม่มีน้ำหนักแม้แต่ขนนกในมุมมองของคุณ ผมว่า โคตรขาดทุนเลยครับ   Create Date : 19 เมษายน 2553     Last Update : 19 เมษายน 2553 11:53:13 น. Counter : 351 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ข้อความจาก อดีต นักศึกษาวิชาทหารคนหนึ่ง " ชาติของเรา ดำรงค์อยู่ได้ จนถึงตัวเราคนหนึ่งนี้ เพราะบรรพบุรุษของเรา เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิต และ ความลำบากยากเข็ญ เข้าแลกไว้ เราต้องรักษาชาติ เราต้องสละชีพเพื่อชาติ " เป็นวลี ง่ายๆที่ นศท. หรือว่า นักศึกษาวิชาทหาร (ที่รัก ??) ทุกท่าน สามารถท่องจำได้เป็นอย่างดี การฝึกแถวชิด การฝึกยิงปืน เขาชนไก่และการไม่ได้อาบน้ำ เรื่องพวกนี้ เป็นประสพการณ์ที่ยากจะลบเลือนจริงๆ แต่น่าตลกที่ วลีดังกล่าวข้างต้น กลับสามารถ จำฝังในหัวผมมานานนับสิบปีได้อย่างไม่รู้เลือน จนวันนี้ วลีนี้ถูกสมองของผมนึกย้อนขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการกระทำ ตลกๆ ของ คนที่ผมนับว่า เคยเป็นคนไทย คนหนึ่ง สิ่งที่เขาทำมันเหยียบย่ำ กันมากเกินไป จนเรื่องราวเกินกว่า คำว่า ผมจะสามารถให้อภัยพวกมันได้แล้ว จะผิดจะถูกอย่างไร ก่อนหน้านี้ผมเห็นใจท่านระดับหนึ่ง แต่ ณ วันนี้ ผมเกิดโทสะ ในระดับว่า [b]ขอให้พวกท่านโชคดี ที่จะไม่เจอผมไปตลอดชาติก็แล้วกันครับ[/b]   Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552     Last Update : 6 พฤศจิกายน 2552 15:43:36 น. Counter : 409 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• the_architect
• อัสติสะ
• Webmaster - BlogGang