เงิน 800 บาทกินทั้งเดือน เรื่องเล่าให้กำลังใจคนท้อแท้
บทความให้กำลังใจจาก :กระปุกดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณกบกินกะลา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

งปฏิเสธไม่ได้เลย.ว่าค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นทุกวัน. ทำให้การ.ใช้ชีวิต.ของ.แต่ละคน.ต้องป็นไปอย่างระหยัดมัธยัสถ์ รือบางนก็อจจะไม่อใช้จ่ายรายดือเลยด้วยซ้ำ นกลายเป็นวามท้อแท้ที่ชักน้าไม่ถึงลังแลบื่อชีวิเอาดื้อ ซึ่งถ้าคุณเป็นนึ่งใที่กำลังเนื่อหรืท้อกัเรื่องเงิ ๆ ทง ๆ ลองาอ่านบทความดี ๆ ที่กระปุกดอทคอมได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ จาก คุณกบกินกะลา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ผู้ซึ่งสามารถใช้ชีวิตทั้งเดือนได้ด้วยเงิน 800 บาท ในวันที่เขาหมดหนทางจริง ๆ ลองไปอ่านเพื่อเตือนสติตัวเองให้กลับมาฮึดสู้อีกครั้งกันะคะ ^^

มมีะไรล่าให้ฟั ....กับเงิ 800 บาทกิทั้งเดือน...... สำหรับคนที่ท้อแท้หาางออกกับชีวิตไม่ได้ โดย คุณกกินกะลา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทอม

          จะเล่าอะไให้ฟังนิดหนึ่งครับ พอดีนึกถึงตัวเองตอนมาางานทำที่กทม. เมื่อสองปีที่แล้ว (ทั้งหมดนี่ คือเรื่องจริง 100% ทีเกิดขึ้นกับผม)

ระมาณสองปีก่อน ผมตกงานอยู่ที่ ตจว. ค้างค่าเช่าบ้านเขา (เดือนละ 1,200 บาทก็ยังหาไม่ได้) เลยมาหางานทำที่ กทม. เพราะงานที่ ตจว.ายากมาก ๆ มีเงินติดตัวมาทั้งหมด 2 พันบาทถ้วน (เอามือถือ เอา ram Hdd ไปขาย) โทรศัพท์เอาอันเก่าที่หน้าจอแตก มองอะไรไม่เห็น เอามาใช้ชั่วคราวก่อน เพื่อโทรหาลูก-เมียที่บ้าน หอบเสื้อผ้า กระเป๋า มากทม. นเดียว ลูก-เมีย ทิ้งไว้ที่ จว. เป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่สุดใชีวิตเลย มาเพื่อวัดดงกันเลยจริง ๆ

          นั่งรไฟฟรีตั้งแต่ ตี 4 มาลง ทม. ระมาณ 8 โมงเช้า นั่งรถเมล์ฟรีต่อมายังย่านที่คิดว่า ค่าเช่าห้อง ค่าใช้จ่ายถูก ๆ ที่เล็งไว้ก็คือ ประชาอุทิศ พระระแดง สุขสวัสดิ์ ทุ่งครุ (หาข้อมูลไว้ก่อนแล้วว่าแถวนี้ ค่าเช่าถู โรงงานเยอะน่าจะมีงานให้ทำเอะเช่กัน)

มไปเดินหางานร้านคอมฯ ร้านของชำ โรงงาน ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร คาร์แคร์ ฯลฯ ร้านไหติดป้ายหน้าร้านบอกรับคนงาน พนักงาน ก็เข้าไปสมัครกับเขาเลยไม่อายอะไรทั้งสิ้น ตอนนั้นงานอะไรก็ทำหมด ของานเขาทำ ค่าแรงไม่เกี่ยงเดินหางานอยู่ กือบ 1 วัน ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะส่วนใหญ่ะจ้างผู้หญิง หรือไม่ก็คนอายุน้อย ๆ (ตอนนั้นผม 35 แล้วนะครับ)

          จนได้งานร้านขายคอมฯ เขาจ้างให้เฝ้าร้านและประกอบคอม ค่าแรงวันละ 300 บาท พรุ่งนี้มาทำได้เล ดีใจมาก ผมยังไม่มีห้อพัก เลยหอบกระเป่าเสื้อผ้าไปอนร้านเกมส์ 

          ย้ำว่าไปนอนร้านเกมส์ คือเดินไปเดินมานั่งป้ายรถเมล์จดึก แล้วก็ไปนั่งร้านเกมส์ เช่าคอมฯ เขา (เขามีเหมา 1 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า ที่ 80 บาท) เลยวางของตรงนั้น นั่งเล่นเกมคร่าเวลาไป พอดึกก็นั่งหลับตรงนั้นเลย เงิน 80 บาทถือเป็นค่าที่พักห้องแอร์ มีเกมส์เน็ตให้เล่น 555 พอเช้า ตีห้า ตื่นมาก็หอบกระเป๋าเสื้อผ้า เดิไปปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมไปทำงานวันแรก (แต่ไม่ได้อาบน้ำ ทนเหม็นหน่อยเอาแป้งเด็กทาตัวดับกลิ่นไปก่อน) ไปทำงาน ละตอนพักเที่ยง เดินไปหาหอพักแถว ๆ นั้น (ผมไปอยู่แถว ๆ ม.พระจอมเกล้าฯ บางมด)

          เจห้องพักราคาถูกเดือนละ 1 พันบาทไม่ต้องมัดจำ รวมน้ำไฟแล้ว เลยสนใจมาก เป็นห้องพักเก่า ๆ ตึกอาคารพานิชย์เก่า ๆ แบ่งห้องให้เช่า ในห้องไม่มีอะไร นอกจากพัดลมเพดาน กับเสื่อน้ำมันเก่า ๆ ห้องน้ำรวม ห้องน้ำก็เก่ามาก ๆ ไม่มีฝักบัว มีแต่ก๊อกกับโอ่งดินเก่า ๆ เล็ก ๆ รองน้ำกับขัน 1 ใบ ในตึ มีทั้งหมด 20 ห้อง มีคนอยู่ประมาณ 4 ห้อง ที่เหลือร้างหม ดึก ๆ เหมือนตึกร้างเลย แต่ผมไม่กลัวผีหรอกนะ เลยเอาเงินวางจอง 1 พันบาท หอบเสื้อผ้าไปนอนวันนั้นเลย

          ได้ที่พักแล้ว 1 เดือน ได้งานทำแล้ววันละ 300 บาท ครบองค์ประกอบการรอดชีวิตแล้ว  (ลืมบอกไปว่า ก่อนผมจะมากทม. ผมยืมเงินพี่ข้างบ้านไว้ 1 พันบาท ทิ้งไว้ให้ลูก-เมียกิน ตัวมเอาเงินจากขายของมา 2 พันบาท) เงินเหลือติดตัวทั้งสิ้นประมาณ 800 บาท ณ วันที่ 1 ของเดือน ต้องอยู่ให้ได้ถึงสิ้นเดืนกับเงินสุดท้ายนี้ เพื่อเงินเดือนอกจะได้รอด ผมเดินไปทำงาน เพราะมันไม่ไกลมากประมาณ 3 กิโล ถ้าโชคดีเจอรถเมล์ฟรี ก็โดดขึ้นเลย

          ทำงาน อนเที่ยงไม่ได้กินข้ว กินแต่น้ำเอา

          ตอนเย็นเลิกงาน ไปซื้อข้าวเปล่า 10 บาท กับปลากระป๋อ ยี่ห้อ ซีเล็ครสเผ็ด (กระป๋องเขียว ๆ) ราคา 14 บาท (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ขึ้นราคาหรือยัง) รวมแล้ว 24 บาท (เอาขวดเปล่ากดน้ำตู้ 1 บาทไว้กิน) ผมซื้อปลากระป๋องแทบทุกวัน จนเด็กในร้านจำผมได้ เท่ากับว่าผมใช้ชีวิตอยู่ได้ ด้วยเงินวันละ 25 บาทเท่านั้น 30 วัน x 25 บาท ผมใช้เงินทั้งหมด 750 บา

          ผมกินข้าวกับปลากระป๋อง เกือบทั้เดือน ถ้าเบื่อผมก็เอาเงิน 25 บาทที่เป็นงบค่ากิน ไปซื้อข้าวไข่เจียวกล่องะ 20 บาท + ลูกชิ้น 1 ไม้ 5 บาท หรือหมูปิ้งไม้ละ 5 บาท 3 ไม้ + ข้าวเหนียว 10 บาท ก็สามารถอิ่มได้ มันสนุกที่จะทำไง ให้เงิน 25 บาท ซื้อของกินให้ได้มากที่สุด อิ่มที่สุด

          ผมซื้อปลากระป๋อง เซเว่นทุกวัน จึงเอาเงินสดเติมเข้าบัตร เซเว่นไป 500 บาท แล้วใช้เงินในบัตรซื้อปลากระป๋อง จนได้แต้มมาส่วนหนึ่ง แล้วเอาแต้มนั้นแลกเป็นของอย่างอื่น เช่น มาม่า ขนมปัง นม ฯลฯ แล้วแต่ว่าพอหรือเปล่า

          ผมไม่มีเงินเติมมือถือ รับสายได้อย่างเดียว ตอนนั้นของ true มีบริการยืมเงินค่าโทรได้ 30 บาท ผมก็กยืมเพื่อเอาไว้โทรหาลูกเมียที่บ้าน วันเว้นวัน โทรวันละ 2-3 นาทีก็รีบวาง หรือไม่ก็ให้เมียสมัครโปร 9 บาทโทรฟรี 2 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า โทรมาหาผมแทน

         ยอมรับว่าตอนอยู่คนเดียว คิดถึงลูกมากละเป็นห่วงเมียที่กำลังท้องอยู่ด้วย ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมจะไปช่วยยังไง ลูกป่วยจะทำไง ฯลฯ แต่ก่อนมาก็ฝากพี่ข้างบ้านช่วยดูแลไว้แล้ว คงไม่เป็นไรหรอก คิดแบบนั้นตลอดเวลา

         ลืมบอกสิ่งที่ผมคิดว่า ผมก็ประทับใจตัวผมจนทุกวันนี้ (ชมตัวเองก็เป็น) ที่สุดก็คือทุกวันศุกร์ตอเลิกงานแล้ว ผมจะนั่งรถเมล์ฟรีสาย 21 ไปลงหัวลำโพง และต่อรถไฟฟรีเพื่อกลับไปหาลูกเมียที่ลพบุรี ขึ้นรถเที่ยวสามทุ่ม (ถ้าจำไม่ผิด) ไปถึงลพบุรีประมาณเที่ยงคืน ขอยืมจักรยานของจนท.รถไฟ ขี่ไปหาลูกที่บ้าน (ขอยืมเขา พี่เขาก็ใจดีให้ยืมทุกครั้ง) แล้วอยู่กับลูก-เมียเย็นวันอาทิตย์ ก็นั่งรถไฟฟรีกลับ กทม. มาทำงานตอนเช้าวันจันทร์ต่อ ผมทำแบบนี้ทุกสัปดาห์ เพราะมันอดไม่ได้จริง ๆ ที่ไม่ได้เจอลูก-เมีย

          จนถึงวันที่ 30 ที่เงินเดือนแรกจะออก น้ำหนักมลดไป 5 กิโลกรัม แต่ไม่เป็นไรไม่ป่วยอะไร ผมเหลือเงินติดตัวสุดท้าย 50 บาทในวันสุดท้ายก่อนเงินเดือนออก เย็นนั้นผมเอาเงินนี้ไปซื้อข้าวมันไก่ 30 บาท + น้ำอัดลม 15 บาท

          จำได้จนถึงวันนี้ว่า เป็นมื้อที่ผมมีความสุขที่สุดในโลก เพราะ.....มได้อดทนมาถึงขนาดนี้ได้ ด้วยเงินแค่ 800 บาทอยู่ได้ทั้งเดือน

          หลังจากเงินเดือนออก 9,000 บาท ผมก็เอาเงินไปมัดจำห้องคอนโดเก่า ๆ มีห้อน้ำในตัว เช่าเดือนละ 1,500 บาท แล้วที่เหลือ ผมก็ไปพาลูก-เมียมาอยู่ด้วยกัน (ตอนนั้นเมียกำลังท้องประมาณ 6 เดือน) เหลือเงินจากหักย้ายบ้าน มัดจำคอนโดแล้ว เหลือประมาณ 5 พันบาท ซึ่ง 5 พันบาทนี้สำหรับ 3 ชีวิต และ อีก 1 ชีวิตในท้อง ผมคิดว่ามันเพียงพอแล้ว กินได้อาทิตย์ละ 1 พันเหลือเฟือเลย นั่นแหละครับ ชีวิตที่ต้องเสี่ยงและเดิมพันเพื่อคนอื่น ทุกอย่าง ทุกปัญหามีทางออกครับ เพียงแต่เราต้องใช้สติและปัญญาให้รอบคอบ

         เพิ่มเติมครับสำหรับท่านที่เป็นห่วง เรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องที่เกิดเมื่อ "สองปีที่แล้ว" ก่อลูกคนเล็กจะคลอดครับ ณ วันนี้ ผมก็อยู่ได้เรื่อย ๆ ครับ ไม่ถึงกับรวย แต่ก็ไม่ลำบากมาก สิ่งที่ผมเจอมานั้น อยากจะแชร์ให้ท่านที่คิดว่า ท้อ เหนื่อย เบื่อ เครีย เสียใจ ฯลฯ กับชีวิตที่สิ่งไม่ดีเข้ามาหาเรา

         ผมอยากให้ท่านอย่าถอย จงสู้กับมันครับ สู้ด้วยสติ และพิจารณาทงแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น บางสิ่งเรามองเห็นแต่ไม่ได้สนใจ ทางหลาย ๆ อย่างมันมีทางออกแน่นอน

         - คนตกงาน ขอให้สู้ต่อครับ ผมก็ตกงานเกือครึ่งปีมาก่อน

         - คนเป็นหนี้สิน หาทางสู้ครับ ผมก็เป็นหนี้มากมายก่อนเป็นแสน ๆ 

         - คนมีปัญหาครอบครัว หันหน้าคุยกันครับ มีอะไรจะพูด บอกให้หมดทุกอย่าง ล้ว ช่วยกันเดินไปด้วยกัน ฯลฯ

          ผมเชื่อว่าเราทุกคน ท้อได้ แต่อย่าถอยครับ ถ้าเหนื่อยก็นั่งพัก ให้หายเหนื่อย แล้วลุกขึ้นเดินต่อครับ สักวันหนึ่ง มันต้องเป็นของเรา ช้าได้แต่ขอให้สู้ครับ 



Create Date : 25 กรกฎาคม 2557
Last Update : 25 กรกฎาคม 2557 11:22:41 น.
Counter : 843 Pageviews.

1 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1264954
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



........ ............ ............ ........ ........ ............ ............ ........ ............ ........ ............ .................... ........ ............ .................... ............ .......
กรกฏาคม 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
26
27
 
 
All Blog