Group Blog All Blog |
HomeSchoolตามความเข้าใจ ก่อนอื่นต้องขอยืมคำว่า "ทำไมต้องHomeSchool" ของ แม่ส้ม(สมพร พึ่งอุดม) เพราะมันตรงกับใจเราค่ะ แต่เป็นทำไมต้อง HomeSchool ในมุมมองของเราซึ่งคิดว่าสาเหตุคงจะแตกต่างไปแต่ละครอบครัว เรื่องของเรื่องที่มาทำ Blog คือ เสียดายความรู้ค่ะ เรามีลูกคนเดียว ลูกก็โตขึ้นทุกวันเราก็ต้องหาความรู้ตามพัฒนาการและอายุของลูก แต่ทีนี้เสียดายข้อมูลและความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาการเด็กเล็ก(ปฐมวัย) ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลมากนักเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กเล็กและเรื่องการศึกษาทางเลือก ต้องขออกตัวไว้ก่อนก่อนค่ะ เราเพิ่งจะมาศึกษาก็ตอนลูกชายอายุประมาณ 1.3 ขวบ สาเหตุก็เพราะเจ้าลูกชาย พูดไม่หยุด พูดได้เป็นประโยค ทำให้เราเกิดความสงสัยในเรื่องของพัฒนาการทางด้านสมองและการเรียนรู้ของเด็กเล็ก (แต่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย) ก่อนน้านี้ตอนที่ยังตั้งท้อง คิดแค่ว่าลูกโตหน่อยก็ให้เข้าโรงเรียนอนุบาลอย่างที่เค้าทำกัน แต่พอมาศึกษาจริงจังแล้ว จะเห็นได้ว่าช่วงเวลาที่มีค่าของชีวิต คือ ช่วงปฐมวัย(0-6 ขวบ) ที่สำคัญคือทักษะการใช้ชีวิต และ พัฒนาการทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนพรสวรรค์และพรแสวงของลูก ที่พ่อและแม่สามารถสร้างให้กับลูกได้ เราเลยคิดว่าคงไม่สามารถปล่อยให้ลูกไปอยู่ในมือของคนอื่น ที่ไม่ได้มีความเข้าใจและรักลูกเท่ากับเรา หากถามว่าการเริ่มต้นทำHomeSchool ของเราเหนือยไหม อยากจะบอกว่า เหนื่ยและท้อ ขอใช้คำนี้เลยค่ะ เพราะครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่รายล้อมไปด้วยข้าราชการครู พ่อ,แม่ เป็นครู น้าก็ครู ที่สำคัญทุกคนคัดค้านการศึกษาทางเลือก น้าซึ่งสอนอนุบาลบอกวาจะทำให้ลูกไม่มีวินัยและขาดสังคม แม่บอกว่าจะทำได้เหรอ มันต้องลงทุนมากน่ะ(ซึ่งไม่ตรงกับสายที่เราเรียนมา เราจบ ป.ตรี Computer Science) ในที่นี้คือ ลงทุนทั้งเวลาและเงินทุน พ่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะที่HomeSchool ไม่มีใครสนับสนุนและพ่ออายเพื่อนๆ ที่จะบอกว่าหลายไม่ได้เข้าโรงเรียน เราหวังว่า Blog นี้จะเป็นที่ Share ประสบการณ์ทางด้านดารเลี้ยงดูและเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูก เราจะพยายาม Update Blog และหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มาShare ให้พ่อๆแม่ๆ ได้ชมกันน่ะค่ะ สาเหตุที่เราทำHomeSchool มีดังนี้ค่ะ 1.ไม่มีโรงเรียนที่เตรียมความพร้อมเด็กปฐมวัยในพื้นที่ที่เราอยู่ โรงเรียนส่วนใหญ่เกือบ 100% สอนเด็กแบบท่องจำ ให้เขียนหนังสือ อย่างเดียว เด็ก คิดไม่เป็น แก้ปัญหาไม่ได้ 2.ลูกเราไม่ต้องเรียนในสิ่งที่ไม่อยากเรียน 3.ตัวเราสามารถเสริมสร้าง EQ ให้ลูกได้เต็มที่เพราะดูแลลูกคนเดียวไม่เหมือนกับไปโรงเรียน ครู 1 คน เด็ก 40 คน 4.ลูกเรียนรู้ได้เต็มที่ไม่ต้องรอคำตอบจากครูซึ่งบางทีก็ไม่สามารถหาคำตอบมาอธิบายลูกได้ 5.แม่เรียนรู้ตลอดเวลาที่จะหาข้อมูลและสื่อมาสอนให้ตรงกับความสนใจของลูก WEB Link ข้างล่างนี้เราคิดว่าอาจจะมีประโยชน์กับผู้ที่มาเยี่ม Blog นี้ 1.สถาบันวิทยาการการเรียนรู้แบบ Brain-Base Learning////www.nbl.or.th/th/main/index.html 2.HomeSchoolเสรีภาพในการเรียนรู้//www.onec.go.th/publication/4207001/homeschool_chap1.pdf 3.สมาคมบ้านเรียนไทย วันที่ 3 ต.ค. 50 มีอบรมเรื่องการทำแผนการศึกษาของครอบครัวด้วยค่ะ ฟรีค่ะ//www.thaihomeschool.com/ //www.onec.go.th/publication/4207001/homeschool_chap3.pdf
โดย: แม่ลูก1 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:1:04:47 น.
ดูทีวีที่เมกา มีครอบครัวหนึ่ง เขาก็ HomeSchool ค่ะ
เขามีลูกตั้ง 16 คน รวมแฝดด้วย นี่เพิ่งจะคลอดคนสุดท้องไปไม่นาน พ่อ-แม่ยังไม่แก่นะคะ (น่าจะอายุประมาณ 40 เองมั้ง ไม่แน่ใจ) คนเป็นแม่รู้สึกว่าจะเคยเป็นครูมาก่อน นางฟ้าว่าที่จริง HomeSchool ก็น่าสนใจดีดค่ะ โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:2:36:35 น.
เคยตั้งใจไว้ว่า ถ้ามีลูกจะเลี้ยงแบบโฮมสคูลนี่แหละ ยากหน่อย ระบบการศึกษาทั่วไปไม่ได้นำไปสู่การรู้จักตัวเองและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ความมั่นใจในตัวเองและความสามารถในการมีความสุขของเด็ก กำลังถูกระบบการศึกษาปัจจุบันทำลายลงไปเรื่อยๆ
เคยมีนักเรียนคนหนึ่งเป็นนร.อัจฉริยะ เรียนได้เกรดสี่ตลอด บ่นให้ฟังเสมอว่า ตอนเช้าไม่อยากไปโรงเรียน ไม่เห็นความสำคัญของวิชาโน้นวิชานี้ ไม่อยากเรียน ต้องเรียนเพราะเพื่อนๆ ในห้องแข่งกัน ตัวเขาเองก็เลยต้องลงสนามด้วย ไม่งั้นหลุดห้องคิง เสียหน้าพ่อแม่ ตอนนี้กลายเป็นเด็กอมทุกข์ไป ไอคิวสูง แต่สุขภาพจิตกำลังมีปัญหา โดย: ริมยมนา วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:2:54:30 น.
น่าในใจมากทีเดียวค่ะ
เดี๋ยวต้องแอบเข้ามาหาข้อมูลที่นี่มั้งแล้วล่ะค่ะ โดย: YGHarding วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:9:24:06 น.
ครั้งหนึ่ง เคยคิดที่จะทำเหมือนกันคะ ไปนั่งอ่านหลักสูตรต่างๆ แล้วก็มึนตึ๊บ อีกอย่าง ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของดิฉันก็ไม่แน่น พาลูกไปปาร์ค จะสอนต้นไม้ใบหญ้า แมลงแมงหม่อนก็สอนไม่ถูก... ยิ่งพอลูกโตขึ้น เค้าต้องการสังคมมากขึ้นด้วย... ในที่สุด ก็ลองส่งนู๋มรรคเข้าพรีสกูลคะ ให้เรียนๆ เล่นๆ ไปก่อน แหะ แหะ เหมือนพยายามแก้ตัวไงไม่รุแฮะ
โดย: มรรคณิชา วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:12:47:13 น.
เคยคิดจะทำเหมือนกันค่ะ เพราะอ่านหนังสือครูส้ม เคยเข้าเวปครูส้มจนลูก ๆ ครูส้มเข้าโรงเรียนเพราะต้องการให้เด็กมีสังคมในวัยโต โฮมสคูลเป็นสิ่งที่ดีค่ะ ทำให้พ่อแม่เข้าใจลูกว่าลูกต้องการอะไร ควรส่งเสริมอะไร สามารถสอนลูกอย่างที่ต้องการได้มากกว่าไปโรงเรียน โดยเฉพาะในเด็กที่มีความเป็นอัจฉริยะ จะได้รับการส่งเสริมมาก
ถ้ามุ่งมั่นจะทำ ก็ทำเลยค่ะ เด็กไปโรงเรียน บางครั้งเอาสิ่งไม่ดีมาจากการเลียนแบบเพื่อน ลูกเราที่สอนให้เป็นคนดี แต่ก็ถูกคนอื่นเอาเปรียบและรังแกก็มีค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ คุณแม่สู้ ๆ ค่ะ โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:22:41:26 น.
ความจริงที่เมกาเค้าเริ่มนิยมกันมากขึ้นแล้วนะคะ คนข้างบ้านเค้ามีลูกที่เก่งเกินเด็กในชั้นเค้ามาก เค้าเลยต้องเอาลูกออกมาเรียนHome schoolที่บ้าน แต่ที่เมกาเค้ามีเป็นองค์กรที่ดูแลเรื่องนี้ แล้วเค้าจะมีกิจกรรมกับกลุ่มhomeschool kidsคนอื่นๆเยอะด้วย จะได้ไม่เรียนแต่กับที่บ้าน ได้เจอสังคมบ้าง ไม่รู้เมืองไทยจะมีตรงนี้หรือเปล่า ถ้ามีก็ดีเลยค่ะ
โดย: kanu_memphis วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:3:46:15 น.
แล้วจะเข้ามาใหม่นะคะ กำลังจะเม้นท์ ลูกตื่นซะแล้ว โดย: MONROVIA วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:15:58:51 น.
|
แม่ลูก1
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ทำขนมขายที่ร้านกาแฟค่ะ | ||
HomeSchoolเสรีภาพในการเรียนรู้[url]//www.onec.go.th/publication/4207001/homeschool_chap1.pdf[/url]
ใครคือกลุ่มพ่อแม่HomeSchool[url]//www.onec.go.th/publication/4207001/homeschool_chap3.pdf[/url]