คุณกาสร ปะทะ  คุณโต

ขอเล่าเรื่องประสบการณ์ส่วนตัวบ้างนะครับ ส่วนใหญ่จะอ่านเจอแต่เรื่องขับรถไปชนหมาทับแมว อะไรทำนองนั้น….. มีแปลกหน่อยก็เรื่องของเพื่อนที่ขับรถไปชนกวางมูส (เดากันเอาเองว่าเป็นกวางมูส เนื่องจากแต่ละคนที่ไปในทริปนั้นน่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องสัตว์ซะเท่าไหร่)

ทริปนั้นผมไม่ได้ไปด้วยจึงฟังเขาเล่าต่อมาอีกทีจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดพักเรียน (แต่ไม่ใช่โดนพักการเรียนนะครับ…) พณ ท่านเพื่อนๆทั้งหลายกำลังเดินทางโดยรถของเพื่อนคนหนึ่งที่ขับเที่ยวกันเองตามประสาวัยรุ่น (ในตอนโน้น………………….)      ขับบนทางหลวง มันก็ต้องขับเร็วนะสิครับ ขณะที่กำลังเอ็นจอยกับธรรมชาติยามโพล้เพล้ริมทาง จู่ๆเจ้ากวางขนาดใหญ่ยักษ์ไม่รู้มันพิศวาสอะไรนักหนากับรถ หรืออยากทำหน้าที่คล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลรถกระบะ มอเตอร์ไซด์ ตามท้องถนนก็มิทราบได้ โดดเข้ามาขวาง เต็มๆนะสิ คนขับไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ไม่ได้เจตนาที่จะชนหรอก แค่ฟังก็พอจะเดาออกแล้วว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ตายคาที่สถานเดียว สงสารมัน ส่วนรถของเพื่อนกระจังหน้ายุบ หม้อน้ำแตกกระจาย กระโปรงเปิด ก็จินตนาการกันเอาเองนะครับว่าความเร็วขนาดไหน ผมก็ต้องใช้จินตนาการเหมือนกัน พอตำรวจมาในที่เกิดเหตุ เขาก็บอกกับเพื่อนๆของผมว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นกวางมูสตัวใหญ่ขนาดนี้เลย เสียดายที่มันต้องมาตายแบบนี้ เพื่อนๆผมก็โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้น ฟาดเคราะห์กันไปโดยที่ต้องแชร์ค่าซ่อมรถให้เพื่อนเจ้าของรถที่เสียหาย รวมทั้งเสียเงินค่าปรับสำหรับการทำให้สัตว์สงวนเสียชีวิต

ทีนี้ก็เป็นเรื่องที่เจอกับผมเองโดยตรงหลายปีมาแล้ว พอดีฟังข่าวเมื่อวานนี้ว่ามีควายคลั่งวิ่งไล่ขวิดคน และรถยนต์ จึงทำให้หวนคิดถึงความหลังครั้งเก่าขึ้นมาได้ ก็เรื่องที่เกี่ยวกับคุณกาสรนี่ละ คุณกาสร ก็คือ ควาย ดีๆนี่เองครับแต่ผมชอบเรียกคุณกาสรมากกว่า ผมว่าน้ำเสียง การอ่านออกเสียง และอักขระมันสละสลวยและงดงามอย่างบอกไม่ถูก เคยนำไปใช้เรียกเพื่อนๆเหมือนกันตอนที่ยังเป็นนิสิตอยู่ แต่เรียกแล้วก็ต้องรู้วิธีเอาตัวรอดนะครับ

กลับมาเรื่องคุณกาสรกับผมต่อดีกว่า ตอนนั้นเป็นช่วงหน้าร้อนเดือนเมษา เวลาประมาณบ่ายโมงเศษเห็นจะได้ ผมขับรถญี่ปุ่นยอดนิยมในบ้านเรายี่ห้อหนึ่ง คงเดาออกตามชื่อเรื่องนะครับ ขับกลับเข้ากรุงเทพโดยใช้เส้นทางพหลโยธินจากสระบุรีลงมา ตอนนั้นขาขึ้นขาล่องแบ่งเป็นคนละส่วนแล้ว มีทางไฮเวย์กับทางคู่ขนานด้วยในช่วงนั้น ส่วนที่ใช้เป็นอาณาเขตแบ่งขาขึ้นขาล่องก็คือร่องรูปตัววีที่มีหญ้าและต้นไม้ปลูกอยู่เป็นช่วงๆเพื่อให้ร่มเงาและความสวยงามบนท้องถนน ถนนก็กว้างขวางพอตัว วิ่งได้สบายๆ แต่ไอ้ที่ว่าสบายๆนี่ล่ะครับ ก็เราขับอยู่ในรถติดแอร์มีเพลงฟังนี่นา ส่วนกลุ่มคุณกาสรริมทางเค้าต้องอยู่กลางแดดร้อนตอนบ่าย ช่วงปีนั้นก็แล้งจัด วันนั้นฝนก็ไม่ตก ผมก็ขับอยู่เลนขวาสุดของช่องไฮเวย์ ใช้ความเร็วพอสมควร (ตอนนั้นยังหนุ่มอยู่…)

สังเกตเห็นคุณกาสรตัวหนึ่งกำลังขวิดต้นไม้ที่อยู่ในร่องแบ่งช่องทางขาขึ้นขาล่องอย่างเมามัน ซ้ายขวา ซ้ายขวา แถมหันข้างมาให้เรา โอ้โห ตัวใหญ่แฮะ ถ้ามันวิ่งกลับขึ้นมาแล้วเราจะหยุดรถทันมั้ยเนี่ย??? ยังไม่ทันหยุดคิดเลย!!! เหลือบตามองไปทางซ้าย ทิศทาง 10 นาฬิกา คุณกาสรอีกตัววิ่งหัวส่าย เขาโง้งยาว เหมือนวิ่งเสียหลักหรือถูกรถคันก่อนหน้าแต่อยู่เลนซ้ายมือของผมชนมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่ทราบ วิ่งเข้ามาในทิศทางตัดหน้ารถที่ผมกำลังขับฟังเพลง แอร์เย็นๆ อย่างสบายใจอยู่ (เนื่องจากกำลังขับกลับไปหากิ๊ก…จึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ) แว่บนั้นแว่บเดียวความฝันต่างๆหยุดอย่างกระทันหัน คิดแบบ finance เลย LEAVE it or TAKE it

เหยียบมิดเลยครับ คันเร่งนะครับ ไม่ใช่เบรก ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องจับพวงมาลัยให้แน่นรักษาทิศทางของรถไว้ให้ได้ เพราะซ้ายก็มีรถ หลังก็มีรถตามมาด้วยความเร็วสูง ขวาก็มีต้นไม้ที่พวกคุณกาสรชอบมาลับเขาอยู่บ่อยๆ ถ้าเหยียบผ่านก็รอด เบรกไม่ได้จริงๆครับ ไม่งั้นวินาศสันตะโรแน่ แต่คุณโตของผมตอบสนองช้าไปหน่อย แต่ก็ยังเร็วพอที่จะให้พ้นหม้อน้ำ ผลของมันก็คือ คุณกาสรตัวนั้นชนเข้ากับด้านซ้ายของรถเข้าอย่างจัง กระจกมองข้างด้านดังกล่าวหลุดกระเด็นออกไปทันที ผมรู้สึกถึงแรงปะทะที่เกิดขึ้นกับรถได้อย่างชัดเจน แรงขนาดไหนน่ะหรือครับ ข้าวของในรถกระจายทั่วในห้องโดยสาร ฝาครอบฟิวส์ยังกระเด็นออกมาที่พื้นรถเลยครับ

มองกระจกหลังเห็นเขาฟุบอยู่ที่พื้น ได้แต่สงสาร พอหยุดรถที่ปั๊มน้ำมันลงมาดูสภาพด้านข้าง แก้มซ้ายของรถเสียหายยุบเหมือนเอาค้อนมาทุบ ทุบ ทุบ ประตูก็เสียหายบางส่วน ฝาครอบกระจกส่องข้างด้านซ้ายห้อยต่องแต่ง ส่วนตัวกระจกก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ากระเด็นหลุดไปตั้งแต่ถูกชนแล้ว พอเอารถไปเคลมประกัน เจ้าหน้าที่ประกันยังถามย้ำถึงสามครั้งสามคราว่า”จริงหรือพี่?” “ควายชนบนทางหลวงเนี่ยน่ะ!!!” “พี่จะให้ผมเชื่อเหรอ???” ผมคิด เอาซะแล้วสิตรู รึจะให้โกหกประกัน เพราะเขาบอกว่าเคยได้ยินมาแต่ขับไปชนควาย ไม่เคยได้ยินมาว่าควายวิ่งชนรถ ยังไงๆผมก็ไม่ยอมโกหก พูดจนเจ้าหน้าที่ประกันยอมทำเคลมเคสนี้ให้

เหนื่อยเลยครับ โง่ขับรถให้ควายชน ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

ขออุทิศส่วนกุศลให้กับคุณกาสรตัวนั้นด้วยครับ ขอให้ได้ไปในที่ดีๆนะครับ

Create Date : 13 ตุลาคม 2552
Last Update : 18 ตุลาคม 2552 15:04:47 น.		2 comments
Counter : 2146 Pageviews.
Share Tweet