สอนวาดเส้น สอนออกแบบ สอนศิลปะ

การเขียนแบบเบื้องต้น dimension

www.pikanesri.com

วิธีการจัดหน้าการเขียนแบบอย่างง่าย
Top หรือการมองภาพจากด้านบน
Front คือภาพด้านหน้า
Side คือภาพด้านข้าง





มองให้ชัดอีกครั้งนะคะ

---------------------------------------------------------------------------------
เส้นบอกขนาด
ชนิดของเส้นที่ใช้ในการเขียนแบบ ดูตามตัวอย่างนะคะ




---------------------------------------------------------------------------------
วิธีการใส่เส้นบอกขนาด อย่าลืมสำรวจขนาดของเส้นดินสอ และหัวปากกาด้วยนะคะ





**หัวลูกศร กว้างประมาณ 2 มม. ยาวประมาณ 4 มม.
**เส้น Extention line หรือเส้นบอกขนาด ห่างจากแบบหรือเส้นจริง ประมาณ 2 มม. (ห้ามเขียนติดกับแบบ)
**ระยะห่างระหว่างเส้นบอกขนาด กับแบบ ห่างกันประมาณ 8-10 มม. จะบอกหน่วยหรือไม่บอกหน่วยก้อได้
**การเขียนตัวเลขกำกับ เขียนด้านบนของเส้น dimension หรือจะเขียนตรงกลางของเส้น dimension ก้อได้
**ความสูงของตัวหน้งสือ ประมาณ 4 มม. แต่ถ้าหากพื้นที่ไม่พอที่จะเขียน ให้ โยงเขียนมาด้านข้างของแบบได้
------------------------------------------------------------------------------

วิธีการบอกองศา ดูตามตัวอย่าง


ตัวอย่างที่ 1

ตัวอย่างที่ 2
--------------------------------------------------------------------------------

วิธีการบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและรัศมีวงกลม


---------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างแสดงการบอกขนาดภาพ ไอโซเมทริค



เริ่มยากขึ้นมาอีก นิดนึงนะคะ ถ้ามีตรงไหนสงสัยเป็นพิเศษ ส่งเมล์มาถามได้นะคะ หรือจะเข้ามาคุยกันใน hi5 (//pikanesri.hi5.com )อีกช่องทางนึง นะคะ

//www.pikanesri.com




 

Create Date : 09 มกราคม 2552    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2552 12:47:08 น.
Counter : 30300 Pageviews.  

ไอ-เดีย-สะ-เก็ต idea sketch

www.pikanesri.com

ไอ-เดีย-สะ-เก็ต idea sketch



การเริ่มต้นฝึกสเก็ตซ์ นักเรียนต้องมีพื้นฐานการเขียนภาพ perspective อย่างชำนาญพอสมควร เข้าใจโครงสร้าง
และสามารถเพิ่มและตัดทอนกล่องได้อย่างคล่องแคล่ว

-------------------------------------------------------------------------------
หลักในการคิดงาน นักเรียนต้องสร้างหัวข้อ หรือ toppic หรือแนวความคิดในการออกแบบ (concept) ซึ่งต้องรู้จักกับ “ 5w 2h ”
1. What =……………………………………………………………………
2. Where =……………………………………………………………......
3. When = ………………………………………………………………….
4. Who =…………………………………………………………………….
5. Why =…………………………………………………………………….
6. How =…………………………………………………………………….
7. How much =...............................................................


(ภาพประกอบเพื่อการศึกษาเท่านั้น )
--------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่าง การทำ idea sketch นักเรียนจะลองลอกตามไปก่อน แล้วค่อยสร้างชิ้นงานของตัวเองภายหลังก้อได้นะคะ แต่ขอเตือนไว้ว่า ต้องลองทำงานของตัวเองด้วยนะ อย่าลอกเพียงอย่างเดียว ไม่ง้านงานของเราอาจจะกลายเป็นงานที่ออกมาจากระบบ copy & development แทนที่จะเป็น research & design center นะคะ

ด้ามไขควงนะ งานใกล้ๆตัว (ฝึกทำอะไรง่ายๆก่อน อย่าเพิ่งไปคิดออกแบบรถยนต์นะคะ ค่อยๆตามกันมานะคะ)


กาน้ำคะ นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งของการทำงานสเก็ต เขียนเพียงภาพด้าน หรือมุมทางด้านใดด้านหนึ่งก่อน ปกติการทำ idea sketch ครูนัทจะให้นักเรียน หรือนักศึกษาทำต่อหัวข้อนะ ไม่น้อยกว่า 60-120 แบบ คิดกันในทุกอิริยาบท อย่าเพิ่งท้อนะคะ ลองดูนะ ดูอีกซักตัวอย่างนะคะ


พอหอมปากหอมคอนะคะ เส้นมันส์ๆ งานมันส์ๆๆ สุ้ๆนะคะ

**สำหรับนักเรียนที่เตรียมตัวเอ็นทรานซ์ หนูควรจะฝึกมากๆนะคะ สำคัญและจำเป็นมาก ในระยะแรก อาจใช้เวลานานซักหน่อย แต่ถ้าหนูทำบ่อยๆ ความเร็ว และความชำนาญจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเองนะคะ ***

//www.pikanesri.com




 

Create Date : 09 มกราคม 2552    
Last Update : 9 มกราคม 2552 14:03:21 น.
Counter : 10868 Pageviews.  

เปอร์..สะเป็กตีบ (perspective)

www.pikanesri.com

1. การเขียน perspective
การเขียนทัศนียภาพหรือการเขียน perspective มีด้วยการ 3 ลักษณะการเขียนคือ การเขียน perspective แบบ 1 จุด หรือ 1 p ,การเขียน perspective แบบ 2 จุด หรือ 2 p , การเขียน perspective แบบ 3 จุด หรือ 3 p โดยแต่ละแบบมีมุมมอง 3 แบบ คือ มุมมองแบบปกติ มุมมองแบบนก และมุมมองแบบหนอน
ขั้นตอนการเขียน Basic 1 point
- เขียนเส้นระดับสายตา horizon line (HL.) แล้วกำหนด จุดสายตา (view point = vp.)

- เขียนกล่องสี่เหลี่ยมไว้ด้านล้างของเส้นระดับสายตา
- เขียนเส้นเส้นร่าง (เขียนเบาๆ) เป็นเส้นตรง จากจุดสายตา ไปยังมุมของกล่องสี่เหลี่ยมทุกมุมตามภาพ
- เขียนเส้นแนวนอน เพื่อให้เกิดฝากล่อง และเส้นแนวตั้ง เพื่อให้เกิดด้านข้างของกล่องดังภาพ
- ลงเส้นร่าง แล้วจะได้กล่องสี่เหลี่ยมแบบ perspective แบบ 1 จุด ตามภาพ


----------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการเขียน Basic 2 point
- เขียนเส้นระดับสายตา horizon line (HL.) แล้วกำหนด จุดสายตา 2 จุด (view point = vp.) เรียกว่า v1. และ v2.
- เริ่มจากมุมมองนก เขียนเส้นแนวตั้งกำหนดความสูง
- เขียนเส้นร่างไปยังเส้นแนวตั้งดังรูป
- กำหนดความกว้างยาวของกล่อง แล้วเขียนเส้นร่างจากจุดสายตามายังเส้นที่กำหนดไว้ให้ตัดกันตามภาพ
- จะได้กล่องสี่เหลี่ยมแบบ perspective แบบ 2 จุด ตามภาพ

----------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการเขียน Basic 3 point
- เขียนเส้นระดับสายตา horizon line (HL.) แล้วกำหนด จุดสายตา 3 จุด (view point = vp.) เรียกว่า v1. และ v2. และ v3.

----------------------------------------------------------------------------------
จากทฤษฏีข้างต้น คงพอทำให้น้องๆ พอที่จะเขียนกล่องอย่างง่ายได้
***ครูขอให้ความสำคัญกับ perspective แบบ 2 จุด มุมมองแบบนกมอง ( bird eye view )
- ขอให้น้องๆ ฝึกเขียนกล่อง อย่างน้อย ซัก 50 กล่องนะคะ


ลองเขียนในมุมต่างๆ กันนะคะ
ที่ให้ฝึกเขียนมุมตานกมากๆ เพราะการสเก็ตงานออกแบบผลิตภัณฑ์ มักจะใช้มุมมองแบบนี้มากที่สุด เอ้า... เขียนให้เยอะๆๆ
//www.pikanesri.com




 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 8 มกราคม 2552 20:13:41 น.
Counter : 21639 Pageviews.  

อุปกรณ์ในการ sketch

เริ่มต้นการเดินทาง........................www.pikanesri.com
ออกแบบๆๆๆๆ ท่องไว้ๆๆ
เริ่มนับ 1.
ครูนัทจะพูดเสมอว่า ไม่มีใครจับปากกาได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่น๊า ดังนั้น หากน้องๆ ยังไม่เคยเริ่มรู้จักศิลปะและการออกแบบเลย จงอย่ากลัวการเริ่มต้นเริ่มซะตรงนี้ อย่าลังเล ไม่ต้องรอพรุ่งนี้ หรือใกล้ๆจะถึงเวลาสอบ เริ่มเลย ตรงนี้แหละ วันนี้เลย เดี๋ยวนี้ ตอนนี้อะ เอาซิ เริ่ม.......
------------------------------------------------------------------------------------
จัดเตรียมอุปกรณ์
1. กระดานอัด ขนาด A2 ราคาประมาณ 20-40 บาท
2. กระดาษ 80 ปอนด์ หรือ 100 ปอนด์

3. ดินสอสำหรับร่างแบบ

(ดินสอไม้ หรือดินสอกด เอาแบบที่ใช้แล้วถนัดๆ ยางลบ ไม้บรรทัดสเกล เอาแบบที่มีสเกลตามนี้ 1:10 1:20 1:25 1:50 1:75 )
4. ไม้สเกล ( 1:10 1:20 1:25 1:50 1:75 1:125) ราคา 190 บาท

5. เคริฟ หรือกระดูกงู(สำหรับเขียนเส้นโค้ง) ชุดละ 180 บาท

6. วงเวียน ( 15 บาท)หรือเพรตวงกลม(ราคาประมาณ 200-400 บาท)
7. สีตามถนัด

a. สีน้ำ(เริ่มฝึกแนะนำสียี่ห้อ ศิลปากร ราคาประมาณ 400 บาท มี 12 สี) จานสี (ราคา 90-300 บาท)

พู่กันอย่างน้อง 3 อัน (เบอร์คู่ หรือคี่ก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง)

ผ้าเช็ดสี กระบอกสำหรับใส่น้ำ

b. สีตลับ ขอเป็นยี่ห้อ คาแลนดาส (ราคาประมาณ 1180 บาท แต่ถ้าซื้อร้านสมใจหน้าเพาะช่าง น่าจะอยู่ที่ 800-900 บาท) จานสี( ราคา 90-300 บาท) พู่กันอย่างน้อง 3 อัน (เบอร์คู่ หรือคี่ก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง) ผ้าเช็ดสี กระบอกสำหรับใส่น้ำ

c. มาร์คเกอร์

i. อย่างถูกก็ สีตราม้า แบบสองหัว 10-12 สี แท่งละประมาณ 13 บาท

ii. แพงมาหน่อยก้อ สีโยเคน มีหลายโทน แต่สำหรับโทนแนะนำคือ P หรือ M กล่องนึงมี 24 แท่ง ราคาประมาณ 1800 บาท ซื้อแยกแท่งราคาประมาณ 80 บาท สามารถเติมได้ โดยใช้น้ำมันรอนสันหรือน้ำมันไฟแช็ค ส่วนสีโทนเทา หรือน้ำตาลทอง กล่องนึงมี 12 แท่ง ราคาประมาณ 900-1100 บาท แยกแท่งก็ ประมาณ แท่งละ 80 บาท
iii. แพงขึ้นมาอีกนิด คือ โคปิค ตกแท่งละ 120 บาท (อันนี้ครูนัทคิดว่า ไว้เอ็นฯให้ติดก่อนแล้วค่อยซื้อยังสาย)

d. สีชอล์ค อย่าเข้าใจว่าเป็นสีชอล์คเขียนกระดาน หรือสีชอล์คน้ำมัน แต่เป็นสีชอล์คแท่ง ชนิดเดียวกับชาร์โคล แต่มีหลายๆสี มีหลายราคา และหลายยี่ห้อ เลือกสีสดๆหน่อย ราคาประมาณ 240-1600 บาท (ขึ้นอยู่กับความมากน้อยของสี และจำนวนสี)

e. สีไม้ แบบถูกและดี สีตราจระเข้เลยน้อง แจ่ม ราคากล่องนึง ประมาณ 70 บาท
f. คัตเตอร์
g. ยางลบอย่างดีหน่อย
--------------------------------------------------------------------------------
พอแค่นี้ก่อน ครูนัทคนแก่ เริ่มตาลายแล้ว ถัดไป เราจะมาเริ่มฝึก sketch กันเลยละกัน


//www.pikanesri.com




 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 8 มกราคม 2552 20:13:19 น.
Counter : 7180 Pageviews.  

ออกแบบผลิตภัณฑ์

ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ ท่องไว้ 3 จบแล้ว ก้มกราบ ๆ .... อย่าเพิ่งงง นี่คือการกำหนดความตั้งใจของตัวเอง เพื่อให้เรียนรู้ ตั้งใจ และหาคำตอบด้วยตนเอง
-------------------------------------------------------------------------------------
//www.pikanesri.com
เอกสารประกอบการสอนของครูนัทคะ
ออกแบบ .. ออกแบบ..ออกแบบ..สู้โว๊ยยยยยยยยยยยยยย

วัฏจักรชีวิตของเราตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมีทั้งผลงานที่เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ
และผลงานจากฝีมือของมนุษย์เราเอง ในการดำรงชีวิตของเราในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งเข้านอนอีกครั้ง จะต้องมีการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผ่านกระบวนการออกแบบ เช่น ใช้แปรงสีฟัน ยาสีฟันอาบน้ำ ล้างหน้าโดยใช้ก๊อกน้ำ ฝักบัว และทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าในตู้หน้ากระจกเงา ใช้อุปกรณ์ในการตกแต่งร่างกายนานาชนิด
เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานวันใหม่ รับประทานอาหารในห้องครัวด้วยจาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำชา กาแฟ จากตู้ ชั้นวาง เดินทางไปทำงานด้วย ยานพาหนะต่างๆ พบเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากมายทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และในระหว่างการเดินทางจนกระทั่งกลับมาพักผ่อนดูทีวี ฟังเพลง เล่นกีฬา อ่านหนังสือและหลับนอนบนเตียงนอน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นผลงาน
การออกแบบของมนุษย์เราด้วยกันเองแทบทั้งสิ้นฉะนั้นการออกแบบ
จึงมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างมากเพราะช่วยให้ได้รับ
ความสะดวกสบายทั้งทางกายและทางใจและมนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียว
ที่มีความสามารถในการออกแบบและได้พัฒนาการออกแบบให้ก้าวหน้า
เปลี่ยนแปลงเรื่อยไปโดยไม่มีการหยุดยั้ง

---------------------------------------------------------------------------------
มารู้จักออกแบบผลิตภัณฑ์คร่าวๆก่อนดีกว่านะ “การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ การคิดเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ สารพัด สารเพ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับพวกเราเหล่ามนุษย์โลก” ว่าแต่ว่า ไอ้ผลิตภัณฑ์ที่ว่านะ มีอะไรบ้าง ครูนัทขอให้น้องๆ ลองเขียนตอบลงบนพื้นที่ว่างด้านล่างนี้นะคะ ว่า ตื่นเช้าจนเข้าในอีกรอบมาน้องเจอผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
->> สำหรับครูนัท ขอเริ่มจาก เตียงนอน บิดขี้เกียจเป็นพิธี เท้าก็บรรจงหารองเท้าผ้าเพื่อที่จะเดินไปหน้าห้องน้ำ ทันใดนั้น มือก็ไปจับลูกบิดประตู เพื่อเข้าไปห้องน้ำสุดหรู จ๊ะเอ๋ กระจก และอ่างล้างหน้า ขณะที่ส่องกระจกไปและยังงัย กับใบหน้าคุ้นๆในกระจกบานนั้น ครูนัทก็เอื้อมไปหยิบแปรงสีฟัน และหลอดยาสีฟันที่ถูกม้วนอย่างดีด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ และแล้ว ก๊อกน้ำก็ต้องทำหน้าที่ของมัน คือปล่อยน้ำมาเพื่อให้ครูนัทแปรงฟัน หุๆๆ นี่แค่ช่วงเวลาตื่นและอยู่ในห้องน้ำ แค่ไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้น ครูนัทก้อพบกับผลิตภัณฑ์ซะหลายอย่างเชียว แล้วน้องๆ ละคะ เจอสิ่งใดบ้าง




--------------------------------------------------------------------------------
หลักการออกแบบโดยหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่นักออกแบบควรคำนึงนั้นมีอยู่ 9 ประการ คือ
• หน้าที่ใช้สอย ( FUNCTION)
• ความปลอดภัย (SAFETY)
• ความแข็งแรง (CONSTRUCTION)
• ความสะดวกสบายในการใช้ (ERGONOMICS)
• ความสวยงาม (AESTHETIES)
• ราคาพอสมควร (COST)
• การซ่อมแซมง่าย (EASE OF MAINTENANCE)
• วัสดุและการผลิต (MATERIALS AND PRODUCTION)
• การขนส่ง (TRANSPORTATION)
(เอาสั้นๆ หัวข้อไปก่อน ไว้สงสัยข้อไหนเป็นพิเศษ ไว้เจอกันหลังไมค์นะคะ)

//www.pikanesri.com




 

Create Date : 07 มกราคม 2552    
Last Update : 8 มกราคม 2552 20:12:56 น.
Counter : 1685 Pageviews.  


peenatha
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add peenatha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.