Group Blog
review CeraVe PM
เมื่อหลายปีมาแล้วตอนอยู่ที่อเมริกา เจ้า brand CeraVe นี่แทบไม่เคยอยู่ในสายตา
หนึ่งเพราะคิดว่ามันหาง่ายมั้ง คือแค่ออกไปห้างทั่วๆไปก็เจอแล้ว
ราคาก็ไม่แพงอะไร ประมาณ 300 กว่าบาท 

มีอยู่ช่วงนึงกินแกลบ ไม่มีตังค์ใช้ 555 จึงต้องลดความ hiso จากครีมทาผิวของป้าพอลล่า
เป็นอะไรที่ถูกกว่า นั่นก็คือ CeraVe ตอนนั้นซื้อมาทาตัวนะ (คนละตัวกับที่จะรีวิว)

จนกระทั่งกลับมาเมืองไทย แล้วค้นพบว่า เจ้า PM lotion นี่ดังมากนะ
อาจจะเป็นเพราะกระแส bloggers ด้วยกระมัง แต่ส่วนผสมมันก็เลิศอยู่นะเออ 





มาดูส่วนผสมกันหน่อยดีกว่า 
Ingredients: 
Purified Water, Glycerin, Caprylic/Capric Triglycerides, Niacinamide, Behentrimonium Methosulfate, Cetearyl Alcohol, Ceteareth-20, Cetearyl Alcohol
Ceramide 3, Ceramide 6-II, Ceramide 1, Phytosphingosine, Hyaluronic Acid, Cholesterol, Dimethicone, Polyglyceryl-3 Diisostearate, Dipotassium Phosphate
Sodium Lauroyl Lactylate, Disodium EDTA, Methylparaben, Propylparaben, Carbomer, Xanthan Gum





Review ตามส่วนผสม 
เป็น moisturizer ที่ดีมากๆตัวนึงเลยครับ มีสาร skin-identical หลายตัวมากๆ เช่น Ceramide, Hyaluronic Acid
หลักๆแล้วจะออกแนวเติมน้ำให้ผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้น เสริม skin barrier ให้ผิว แล้วก็ยังมีตัว whitening agent เป็น Niacinamide อีกด้วย
เรียกได้ว่าจัดมาครบเลยทีเดียว อ้อ ไม่มีน้ำหอมด้วยนะครับ ข้อเสัียเห็นจะมีอยู่อย่างเดียวคือมีสาร antioxidant  น้อยครับ

Review จากการใช้จริง
เหตุผลหลักจริงๆที่ผมซื้อเจ้าตัวนี้มา เพราะขี้เกียจทาครีมครับ 
ตอนนั้นมองหาอะไรที่แบบ ทาตัวเดียวแล้วเข้านอนได้เลย จบ 
ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจพอสมควร เนื้อครีมตัวนี้ออกเป็นเจลนะครับ ไม่หนักหน้าเลย
ผมใช้ทาตอนกลางคืนอย่างเดียว เพราะถ้าทาตอนเช้าแล้วต่อด้วยกันแดดนี่ไม่ไหวครับ แปปเดียวเยิ้มอย่างแรง (ผมหน้ามันขั้นเทพ)
ทาแล้วผิวชุ่มชื้นดี ส่วนเรื่องความขาวนั้น อย่าไปหวังอะไรมาก 5555
ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เพราะกลับมาขยันทาครีมเหมือนเดิม ส่วนใหญ่จะใช้หลังไปทำพวก laser มาครับ
ตอนรู้สึกว่าหน้าบอบบาง ประมาณนี้

ราคา ที่เมกาประมาณ $12 แต่ผมซื้อเว็บหิ้วเมืองไทย 650 บาทครับ 

ข้อดี
1.ส่วนผสมดีมากครับ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
2.ราคาไม่แพง 
3.คนผิวแห้งหรือผสมหรือขาดน้ำจะชอบครับ

ข้อเสีย
1.ถ้ามีสาร antioxidant อีกซักหน่อย จะแจ่มมาก อิอิ




Create Date : 08 กันยายน 2555
Last Update : 8 กันยายน 2555 0:15:14 น.
Counter : 8105 Pageviews.

1 comment
[CR] สองเซรัมคู่หูจาก Kiehl's
สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวเซรัมสองคู่หูที่เคยใช้จาก Kiehl's นะครับ

เริ่มด้วยตัวแรก





Ingredients:
Propylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Ascorbic Acid, Glycerin, Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Lauroyl Lysine, Acrylates Copolymer, Adenosine

ราคา : $58/50ml (เมืองไทยราคาประมาณ 3000 บาท)
รีวิวตามส่วนผสม

ส่วนผสมโดยทั่วไปแล้ว แทบไม่มีอะไรเลยครับ นอกจากซิลิโคนกับตัวที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ลื่นๆเกลี่ยง่าย (Slip agent) แต่ที่ดูจะเป็นหัวใจของผลิตถัณฑ์นี้คือ Vitamin C ในรูป Ascobic Acid ที่ความเข้มข้นถึง 10.5%

รีวิวจากการใช้งานจริง : ผมใช้เจ้าตัวนี้ไปแค่ 1 ขวด ในเวลาประมาณเกือบๆปี โดยทาตอนเช้าก่อนกันแดด แล้วก็เย็นหลังจากลง BHA ของป้าพอลล่าแล้ว ส่วนตัวไม่เห็นผลเท่าที่ควรครับ รอยแดงก็ดูจางลงบ้าง เพียงแต่ผมคิดว่ามันไม่คุ้มกับราคาที่เสียไป แต่สิ่งที่พอจะเห็นได้จากการใช้ตลอดเกือบๆ 1 ปีคือ สีผิวสม่ำเสมอขึ้นพอสมควร แล้วก็ผิวดูเด้งดีครับ

ข้อดี
1.ไม่มีสารระคายเคือง (เว้นแต่จะเป็นผิว sensitive มากๆ อาจระคายเคืองจาก Ascobic Acid ได้ครับ)
2.Vitamin C อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เสถียร และมีมากถึง 10.5%

ข้อเสีย
1.ราคาเมืองไทยแรงมาก
2.บางรายอาจไวต่อซิลิโคนแล้วอุดตันได้
3.(ส่วนตัว) ไม่ได้ผลชัดเจน




Ingredients:Caprylic/Capric Triglyceride, Dicaprylyl Carbonate, Squalane, Rosa Canina Fruit Oil, Evening Primrose Oil, Jojoba Seed Oil, Coriander Seed Oil, Tocopherol, Lavender Oil, Pelargonium Graveolens Flower Oil, Linalool, Rosemary Leaf Oil, Citronellol, Geraniol, Lavandula Hybrida Oil, Cucumber Fruit Extract, Turmeric Root Extract, Limonene, Citral, Sclareolide, Rose Flower Oil, Jasmine Extract, Sunflower Seed Oil

ราคา $43/30ml (ราคาเมืองไทยน่าจะ 2พันกว่าบาท)

รีวิวตามส่วนผสม: จากส่วนผสมแล้วคนที่ผิวแห้งมากๆน่าจะชอบ (ผมผิวมันขั้นเทพ) เพราะว่ามีส่วนผสมหลายตัวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้งมากๆ แต่ปัญหาคือมันมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยหลายตัวมากๆเช่น Coriander, lavender, rosemary ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งนั่นอาจรวมไปถึงการสลายตัวของคอลาเจนด้วย

รีวิวจากการใช้งานจริง: ผมซื้อมาใช้ช่วงหน้าหนาวตอนสมันเรียนที่อเมริกาครับ เนื้อของเจ้าตัวนี้จะเป็น oil เลย กลิ่นหอมๆ lavender ด้วย ผมไม่ได้หน้าแห้งมากอะไร แม้มันจะหนาวสุดๆก็เถอะ ตอนใช้ที่เมกาใช้ดีมากๆครับ รู้สึกหน้าเด้งดี แต่พอเอากลับมาใช้เมืองไทย กลายเป็นว่าสิวกระจาย


ข้อดี
1.คนผิวแห้งน่าจะชอบ
2.หอมมาก

ข้อเสีย
1.คนเป็นสิวง่ายไม่ควรใช้
2.สารระคายเคืองเยอะ
3.แพง




Create Date : 13 มิถุนายน 2555
Last Update : 7 กันยายน 2555 21:34:47 น.
Counter : 1998 Pageviews.

2 comment

bungofficiel
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]