ღ ชีวิตง่ายๆ ในสวีเดน ღ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2567
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 เมษายน 2567
 
All Blogs
 
"ขนมวันเสาร์" Lördagsgodis

 
สวีเดนมีประเพณีกินขนมเฉพาะวันเสาร์
เด็กจะถูกฝึกตั้งแต่เริ่มรู้ความว่า
กินขนมและลูกอมได้หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งก็คือในวันเสาร์
ซึ่งเป็นการฝึกวินัยให้เด็กๆ ในการกินลูกอมและของหวานต่างๆ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องฟันผุ

วันเสาร์คือวันที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอย เพราะพวกเขาจะสามารถซื้อขนมขบเคี้ยว
และกินมันอย่างเพลิดเพลินเจริญใจหลังจากอัดอั้นมาทั้งสัปดาห์ได้ 15

ตามโรงเรียนประถมและมัธยมต้นจะไม่มีขนมขาย
เด็กจะไม่พกค่าขนมไปโรงเรียนเพราะไม่มีอะไรให้ซื้อ
และโรงเรียนไม่อนุญาตให้เด็กออกนอกบริเวณโรงเรียนก่อนเลิกเรียนด้วย

ด้านหน้าโรงเรียนจะไม่มีรถเข็นขายสารพัดอย่างเหมือนที่เมืองไทย
ทางโรงเรียนมีอาหารกลางวันให้เสร็จสรรพ
อยากกินอาหารว่างก็ให้กินผลไม้

ร้านกาแฟซึ่งขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวเล็กๆ น้อยๆ
จะมีเฉพาะในโรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย
เพราะถือว่าโตแล้ว รู้แล้วว่ากินปริมาณแค่ไหนถึงเหมะสม

เด็กมัธยมปลายสามารถออกนอกโรงเรียนได้ช่วงพักเที่ยง
เพื่อไปกินข้าว ซื้อของกินเล่น หรือทำกิจกรรมส่วนตัว
โรงเรียนมีอาหารเที่ยงให้ฟรี แต่เด็กหลายคนไม่ชอบอาหารโรงเรียน
ก็เลยออกไปหาอะไรอร่อยๆ นอกโรงเรียนกิน

 

ขนมหลากสี หลากรสชาติ และหลากรูปแบบ

ขนมเหล่านี้มักจะมีขายในซุปเปอร์มาเก็ต และร้านขายของชำทั่วไป
ร้านในรูปขายขนมเป็นสินค้าหลัก ใหญ่ที่สุดในเมืองเลยก็ว่าได้
มี Snus-ยาสูบที่ใช้เหน็บใต้ริมผีปาก และน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ ด้วย
 
 ราคาของขนมขึ้นอยู่กับน้ำหนัก เราตักเองตามใจชอบ แล้วเอาไปชั่ง
ร้านในรูปขายขีดละ 40 บาท


ซื้อ 3 กิโล จ่ายแค่ 2 ด้วย จอร์จ....

นอกจากขนมหวานๆ แล้วก็ยังมีพวกมันฝรั่งทอด 
และ "ขนมธรรมชาติ Naturgodis" ด้วย
ซึ่งก็คือพวกถั่วคั่วต่างๆ ขายเป็นขีดเหมือนกัน

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบขนมเหล่านี้สักเท่าไหร่ กินได้แค่บางอย่างเท่านั้น
ส่วนใหญ่จะมีรสเปรี้ยว เค็ม หวานแบบมากเกินไป

 



Create Date : 29 เมษายน 2567
Last Update : 29 เมษายน 2567 15:25:52 น. 4 comments
Counter : 248 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณดอยสะเก็ด


 
เด็กๆ สวีเดนเลยไม่รู้ว่า
ความสุขในการกินของหวานเป็นเช่นไรนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 29 เมษายน 2567 เวลา:14:09:01 น.  

 
ถ้าพ่อแม่เคร่ง เด็กๆ สุขภาพปากและฟันดีกันถ้วนหน้าค่ะ
ของหวานๆ ไร้ประโยชน์รอกินตอนโตก็ได้
จะมีแค่หมอกับพยาบาลเท่านั้นที่บ่นเวลาไปตรวจสุขภาพ


โดย: สวยสุดซอย วันที่: 29 เมษายน 2567 เวลา:16:58:54 น.  

 
คลินิกทันตแพทย์ที่สวีเดนเป็นไงบ้างครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 29 เมษายน 2567 เวลา:22:50:16 น.  

 
บางแห่งบริการดี บางแห่งแพงเกินคุณภาพค่ะ
ศูนย์ทัณกรรมรัฐที่มีทัณตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนมากรับแค่เด็กและผู้สูงอายุ และฉุกเฉินเท่านั้น รับจำนวนจำกัดด้วย
ที่เหลือต้องไปเอกชนที่มีสัญญากับรัฐ

ค่าทำฟันแพงมากๆ ค่ะ จะไปขูดหินปูนต้องพบหมอก่อน จ่ายไปเกือบพัน แล้วถึงจะนัดนักสุขทัณกรรมเพื่อขูดหินปูนได้ จ่ายค่าขูดหินปูนอีกรอบอีกเกือบพันโครน
แล้วเวลาขูดไม่ได้ทำทั้งปากทีเดียวนะ แบ่งเป็นงวดๆ ทำทีละห้าหกซี่งี้

ครบหนึ่งปี ต้องพบหมออีก ถ่ายเอกซ์เรย์ จ่ายอีก วนไปแบบนี้ค่ะ
รู้สึกเหมือนโดนขูดรีด เลยไม่ได้พบหมอฟันมาจะสองปีแล้ว

อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้ 1 โครน อยู่ที่ 3 บาทนิดๆ


โดย: สวยสุดซอย วันที่: 30 เมษายน 2567 เวลา:12:53:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สวยสุดซอย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำข้อมูลไปหาผลประโยชน์ในทุกรูปแบบ


free counters

Users Online
Friends' blogs
[Add สวยสุดซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.