Street Hypnotherapist นักสะกดจิตบำบัดข้างถนน ^^
 

การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ (Hypnobirth)

Hypnobirth หรือ การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการสะกดจิตบำบัดที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือคุณแม่ทั้งหลายให้สามารถคลอดลูกเองโดยวิธีธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องตื่นกลัวหรือเจ็บปวดแต่อย่างใด โปรแกรม hypnobirth ถูกออกแบบมาเพื่อมอบคำแนะนำให้กับจิตใต้สำนึกของเหล่าคุณแม่ให้เชื่อมั่นในวิถีของธรรมชาติ เมื่อความเชื่อมั่นเกิดขึ้นร่างกายและจิตใจก็จะสามารถผ่อนคลายได้แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เจ้าตัวน้อยกำลังจะออกมาสู่โลกใบนี้ โปรแกรมนี้สามารถช่วยให้คุณแม่คลอดลูกตามวิธีธรรมชาติได้ด้วยความภาคภูมิใจ สงบ ผ่อนคลาย อบอุ่น และสามารถควบคุมตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พวกเธอได้ดื่มด่ำกับรางวัลที่ธรรมชาติได้มอบให้อย่างเต็มที่ จดจำช่วงเวลาที่แสนจะน่าประทับใจได้ในทุก ๆ วินาทีโดยไม่ต้องผ่านการกรีดร้องอย่างเจ็บปวดอีกต่อไป


ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา การทำ hypnobirth หรือการสะกดจิตบำบัดเพื่อคลอดลูกกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คุณแม่ทั้งหลายที่ประเทศอังกฤษ แม้กระทั่งเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัลเองก็ใช้โปรแกรม hypnobirth เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอดเช่นกัน
แม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirth นี้ จะสามารถคลอดลูกเองแบบธรรมชาติโดยเจ็บปวดน้อยที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับความปวดใด ๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่หลาย ๆ คนแทบจะไม่มีความเจ็บปวดเลยด้วยซ้ำ โปรแกรมนี้ช่วยให้พวกเธอสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเธอ (และร่างกายของเธอ) กำลังจะต้องเจอ  พวกเธอจะสามารถเอาชนะความหวาดกลัว ความวิตกกังวลต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง  สิ่งเหล่านี้จึงช่วยให้บรรดาคุณแม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirthสามารถผ่านประสบการณ์อันสวยงามที่สุดที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างมาให้กับพวกเธออย่างสงบ ผ่อนคลาย และปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโปรแกรม hypnobirth ไม่ได้อยู่ที่การทำให้คุณแม่สามารถคลอดลูกเองโดยไม่ต้องเจ็บปวด แต่ความน่าทึ่งของมันอยู่ที่ลูกน้อยของพวกเธอต่างหาก เมื่อการคลอดเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับคุณแม่ นั่นก็หมายถึงมันย่อมเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับเจ้าตัวน้อยของพวกเธอเช่นกัน  การคลอดเป็นประสบการณ์แรกของทารกทุก ๆ คน และประสบการณ์แรกนี้ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของพวกเขาในอนาคต เมื่อการคลอดเป็นไปอย่างสงบ มันจึงทำให้เหล่าทารกมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย สงบ พัฒนาการไว หลับง่าย และโตเร็ว
โปรแกรมนี้ได้พิสูจน์ตัวเองหลายต่อหลายครั้งแล้วว่ามันสามารถช่วยให้คุณแม่ทั้งหลายสามารถมีประสบการณ์คลอดตามธรรมชาติได้อย่างสงบ เหมาะสม และยอดเยี่ยมที่สุด




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2557    
Last Update : 21 มิถุนายน 2557 10:53:32 น.
Counter : 791 Pageviews.  

Hypnosis and Neuro Science

ถ้ามองในมุมมองของประสาทวิทยา (Neuro Science) เมื่อสมองของเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มันจะสร้างสารสื่อประสาทหรือนิวรอนขึ้นมาบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ เมื่อสมองของเราทำงานมันจะเรียกข้อมูลต่างๆ กลับมาใช้ใหม่จากบรรดานิวรอนนับล้านๆ ตัวที่เราได้สะสมเอาไว้ (ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทำอะไรก็ตามที่เรายังไม่เคยรู้ได้) 

ถ้าเราได้เรียนรู้เรื่องนั้นซ้ำๆ หรือมีการใช้งานข้อมูลเรื่องนั้นบ่อยๆนิวรอนที่บรรจุข้อมูลนั้นเอาไว้ก็จะเจริญเติบโตขึ้นตามจำนวนครั้งที่มันถูกใช้งานหรือได้รับการบันทึกซ้ำ

ในที่สุดเมื่อนิวรอนตัวนั้นเจริญเติบโตจนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติ ทำงานอย่างรวดเร็ว ก่อนและเหนื่อนิวรอนตัวอื่นๆ

นั่นคือจุดที่เกิดสิ่งที่เรียกว่าจิตใต้สำนึก

สำหรับกระบวนการ Hypnosis มันว่าด้วยเรื่องของการสร้างนิวรอนตัวหนึ่งขึ้นมา และเลี้ยงมันให้โตที่สุดด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยผ่านเงื่อนไขกระบวนการต่างๆ ที่เราทำในระหว่างทำ Hypnosis ครับ




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2557    
Last Update : 21 มิถุนายน 2557 10:53:01 น.
Counter : 381 Pageviews.  

ความมั่นใจ

หลักสำคัญประการหนึ่งที่นักสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapist) ทั่วโลกส่วนมากมักจะเห็นพ้องต้องกันก็คือ “การบำบัดไม่ควรที่จะทำเกินหนึ่งหัวข้อในเวลาเดียวกัน” เช่น หากต้องการจะบำบัดเรื่องเลิกบุหรี่ เลิกเหล้า ลดน้ำหนัก เพิ่มศักยภาพการกีฬา หรือแม้กระทั่งบำบัดอาการกลัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ (Phobia) ก็ควรที่จะทำทีละเรื่อง ๆ ไป ด้วยเหตุผลที่ว่าสมองของมนุษย์เรานั้นสามารถเรียนได้ดีที่สุดเพียงครั้งละหนึ่งเรื่องเท่านั้น


ลองนึกถึงว่ามันจะยุ่งยากขนาดไหนถ้าเราพยามเรียนวิชาเลขไปพร้อมๆ กับวิชาภาษาอังกฤษ?

แต่ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนไม่มีสิ่งใดตายตัวหรอกครับ

ข้อยกเว้นในกรณีนี้ก็คือ ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตามที ผู้บำบัดสามารถเพิ่มเติมในส่วนของเรื่อง “ความมั่นใจ” (Self Confident) ในตัวเองให้กับผู้เข้ารับการบำบัดได้

ตลอดระยะเวลาการทำงานด้านสะกดจิตบำบัดมาร่วม 5 ปี ผู้บำบัดยังไม่เคยเจอใครที่ไม่ต้องการให้ผู้บำบัดเพิ่มเติมในส่วนของความมั่นใจในตนเองเลยสักคน ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นระดับ CEO ขององค์กรระดับสูง หรือแม้กระทั่งนักเรียนมัธยมก็ตามที คนทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการความมั่นใจในตนเองเพิ่มมากขึ้นทั้งนั้น

ความมั่นใจเป็นดุจดั่งพรวิเศษที่จะช่วยให้คน ๆ นึงสามารถก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเจอในแต่ละวันได้อย่างยอดเยี่ยม มีแต่คนที่มีความมั่นเท่านั้นจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างไม่ย่อท้อ ในทางตรงกันข้ามการขาดซึ่งความมั่นใจก็เปรียบเสมือนกับกำแพงหนามสูงท่วมหัวที่ขวางเราไม่ให้สามารถก้าวข้ามไปสู่การประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนา เพื่อที่จะให้เราสามารถที่จะพูดได้อย่างมั่นใจ ยิ้มได้อย่างมั่นใจ ต่อรองได้อย่างมั่นใจ พรีเซนต์งานได้อย่างมั่นใจ แม้กระทั่งจีบสาวได้อย่างมั่นใจนั้น ความมั่นใจมันจำเป็นที่จะต้องออกมาจากภายในส่วนลึกของจิตใจเสียก่อน

แหล่งผลิตความมั่นใจนั้นก็คือการทำงานของสมองในส่วนที่เรียกว่าจิตใต้สำนึก (Subconscious)

จะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้จิตใต้สำนึกเรียนรู้ที่จะผลิตการตอบสนองที่เรียกว่าความมั่นใจขึ้นมาได้ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ และเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองยอดอย่างเยี่ยมมากที่สุด

จงจดจำไว้ว่า “ความมั่นใจเป็นบันไดก้าวแรกสู่ความสำเร็จ” 

และการสะกดจิตบำบัดก็เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมตัวนึงที่จะสามารถมอบสิ่งนี้ให้กับคุณได้ดังที่คุณต้องการ




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2557    
Last Update : 21 มิถุนายน 2557 10:38:04 น.
Counter : 546 Pageviews.  

พลังจิตที่แท้จริง

เหตุเกิดในคลาสเรียนสะกดจิต (Hypnosis) แห่งหนึ่ง หลังจากที่ผ่านการเรียนและฝึกการสะกดจิตมาอย่างเข้มข้นแล้ว อาจารย์ที่สอนก็ให้นักเรียนเอาเก้าอี้มานั่งล้อมวงกัน จากนั้นก็จุดเทียนขึ้นหนึ่งเล่มแล้วบอกว่า

"พวกเธอได้เรียนรู้ถึงเคล็ดลับในการสะกดจิต รวมไปถึงได้เรียนรู้ถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของจิตใต้สำนึกอย่างเต็มที่นี้แล้ว ในท้ายที่สุดนี้จะเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของอำนาจจิตของพวกเธอทุกคน โดยการให้พวกเราทุกคนร่วมกันใช้พลังจิตที่เข้มแข็งดับเปลวไฟจากเทียนนี้ให้จงได้"

แค่ฟังโจทย์เท่านั้นนักเรียนทุกคนก็ตาลุกวาว ต่างตั้งหน้าตั้งตาเพ่งกันไปที่เปลวเทียนนี้กันเป็นการใหญ่ แน่นอนทุกคนต้องการให้เทียนดับให้จงได้ เพื่อการนี้บางคนก็พยามเค้นพลังอำนาจจิตของตนเสียจนหน้าแดงน้ำตาไหล บางคนก็พนายามดิ่งเข้าสู่ห้วงภวังค์ลึกเพื่อดึงเอาอำนาจจิตใต้สำนึกของตนเองออกมาให้ได้มากที่สุด

แต่ทว่า .......

ผ่านไปหลายสิบนาทีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลยแม้แต่น้อยนิด บางคนเริ่มมองหน้ากัน บางคนเริ่มรู้สึกลำบากใจ

พลังจิตของพวกเรายังไม่เพียงพออย่างนั้นหรือ?

ในที่สุดก็มีนักเรียนคนหนึ่ง ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไปที่หน้าห้อง สิ่งที่เขาทำได้ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง นั่นก็คือ

เขาเป่าเทียนให้มันดับลง!!!

ทันใดนั้นเอง อาจารย์ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า .....

.
.
.

" เธอผ่านการทดสอบแล้ว!!!!! "

นิทานเรื่องนี้ (ความจริงแล้วอิงมาจากเรื่องจิง) สอนให้รู้ว่า ..... พลังอำนาจจิตที่ยิ่งใหญ่สำแดงเดชออกมาได้ด้วยการลงมือทำเสมอ!!!!!!

Think and Do it Now!!!!!




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2557    
Last Update : 21 มิถุนายน 2557 10:36:23 น.
Counter : 1037 Pageviews.  

การสะกดจิตลบความทรงจำ? (Q&A)

Q : เราสามารถใช้ NLP หรือ Hypnosis (สะกดจิต) ลบความทรงจำแย่ๆ บางอย่างในอดีตได้หรือไม่ ?

A : ถ้าว่ากันตามทฤษฏีแล้ว ความทรงจำเกี่ยวกับประสบการณ์ใดก็ตามไม่สามารถทำให้ลบเลือนหรือลืมไปได้ด้วยเทคนิค NLP หรือ Hypnosis (สะกดจิตใดก็ตาม) เพราะเมื่อสมองของเราได้รับรู้กับเหตุการณ์ใดก็ตามมันจะสร้างเส้นใยประสาทความจำ(ซินแน็ป)ขึ้นมาสำหรับบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นเอาไว้ ตราบใดก็ตามที่เส้นใยประสาทส่วนความจำนี้ไม่ได้เสียหาย (เช่นเสื่อสภาพ เป็นโรค ติดเชื้อ หรือ ถูกกระทบกระเทือน) ความจำนั้นก็จะไม่มีวันลืมหายไปจากสมองเราค่ะ

แต่ในทางปฏิบัตินั้นเราสามารถทำให้ระบบประสาทของเรายอมรับ ให้อภัย หรือวางเฉยต่อประสบการณ์นั้นได้ ซึ่งเทคนิค NLP ก็ดี หรือเทคนิค Hypnosis ก็ดีที่เขาว่ากันว่าสามารถทำให้ลืมความทรงจำหรือลืมประสบการณ์ในอดีตได้ความจริงแล้วก็คือการทำให้ยอมรับ ให้อภัย หรือวางเฉยต่อประสบการณ์นั้นทั้งสิ้นครับ (ไม่ได้ทำให้ลืมประสบการณ์นั้นไปจริงๆ) 

สำหรับวิธีการนั้นสามารถทำได้หลายวิธีการด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น

+ การฝึกกล่าวให้อภัยและขอบคุณต่อเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นบ่อยๆ (Context Reframing ทัศนคติของเราเสีย) เพราะเราเปลี่ยนเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้แต่เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อมันได้


+ การฝึกจินตนาการย้อนกลับนั่งมองจินตนาการนั้นในลักษณะที่เป็น Disassociate (ผู้สังเกตุการณ์) แล้วแก้ไข Sub-Modality ของภาพหรือเสียงประสบการณ์ที่กำลังมองเห็น เช่นแก้ไขภาพความทรงจำเป็นสีขาวดำมัวๆ เล็กๆ จนในที่สุดก็จางหายไป ฝึกทำบ่อยๆ ทุกวันประสบการณ์ที่เป็น ResourceFul ตัวนั้นก็จะถูกลดความสำคัญลงไปเอง


+ การฝึกเชื่อโยงอารมณ์โดยการสลับอารมณ์ (Swish Pattern) เช่นพอนึกถึงประสบการณ์เก่าๆที่อยากลืมก็ให้สลับไปภาพเป็นประสบการณ์อื่นที่สร้างสรรค์กว่าแทน (ตอนเปลี่ยนอย่าลืมทำอะไรที่มัน Extrem ซักหน่อยจะได้กระตุ้นการสร้าง Resourceful ใหม่ของเรา)


+ หรือไม่ก็สละเวลา (และค่าใช้จ่ายเล็กน้อย) เข้ารับคำปรึกษาเพื่อวิเคราะห์หาปมปัญหาที่แท้จริงในเชิงบุคลิกภาพและรับการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) จากนักจิตวิทยาผู้เชื่ยวชาญค่ะ ....อันนี้ง่ายที่สุด




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 8:48:22 น.
Counter : 3207 Pageviews.  

1  2  3  4  5  
 
 

dear143
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




สาวตัวน้อย ๆ นักบำบัดด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกเพื่อรักษาอาการป่วยโรคกาย โรคใจ ปวดหัวเรื้อรัง ไมเกรน เครียด หมกมุ่น ฟุ้งซ่าน อาการกลัว (phobia) ลดความอ้วน แก้ไขพฤติกรรม อกหักรักคุด ลืมแฟนไม่ได้ รักใครไม่เป็น การแ้ก้ไขที่จิตใต้สำนึกช่วยคุณได้ สอบถามไ้ด้ค่ะ hypno_therapist@hotmail.com
[Add dear143's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com