Street Hypnotherapist นักสะกดจิตบำบัดข้างถนน ^^
 

Stage Show

การสะกดจิตแบบ Stage Show นั้นเป็นการแสดง ดังนั้นหัวใจของการสะกดจิตแบบ Stage Show จึงต่างไปจากการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) อยู่พอสมควร 

การสะกดจิตแบบ Stage Show จะไม่เน้นหรือไม่ให้ความสำคัญว่าผู้รับการสะกดจิตจะเข้าสู่ภวังค์หรือไม่ (แทบจะไม่สนเลยด้วยซ้ำ) หากแต่จะให้ความสำคัญไปที่ “การยอมรับคำสั่ง” ของผู้รับการสะกดจิตมากที่สุด 

ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จุดสำคัญของมันจะอยู่ที่การ Pre Talk นั่นเอง

ถ้าคุณนึกไม่ออกว่า “การยอมรับคำสั่ง” ของ Stage Show เป็นอย่างไร ขอให้นึกถึงตอนที่เพื่อบ้านของคุณเอาขนมที่เขาทำมาให้คุณชิม ความจริงแล้วขนมรสชาติแย่มาก แต่อย่างไรเสียคุณก็ต้องยิ้มแล้วชมไปว่าอร่อย ทั้งๆ ที่ความจริองแล้วเขาไม่ได้บังคับให้คุณชมขนมเขาซักหน่อย

คุณเพียงแต่ตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง (สังคม มารยาท จริยธรรม การต้องการได้รับการบอมรับ การหลีเลี่ยงปัญหากระทบกระทั่ง บลาๆๆ) ซึ่งมันได้ทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะ

นั่นแหละครับคือทั้งหมดของ Stage Show ล่ะ




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 8:46:34 น.
Counter : 502 Pageviews.  

Hypnosis and Neuro Science

ถ้ามองในมุมมองของประสาทวิทยา (Neuro Science) เมื่อสมองของเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มันจะสร้างสารสื่อประสาทหรือนิวรอนขึ้นมาบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ เมื่อสมองของเราทำงานมันจะเรียกข้อมูลต่างๆ กลับมาใช้ใหม่จากบรรดานิวรอนนับล้านๆ ตัวที่เราได้สะสมเอาไว้ (ดังนั้นเราจึงไม่สามารถทำอะไรก็ตามที่เรายังไม่เคยรู้ได้) 

ถ้าเราได้เรียนรู้เรื่องนั้นซ้ำๆ หรือมีการใช้งานข้อมูลเรื่องนั้นบ่อยๆนิวรอนที่บรรจุข้อมูลนั้นเอาไว้ก็จะเจริญเติบโตขึ้นตามจำนวนครั้งที่มันถูกใช้งานหรือได้รับการบันทึกซ้ำ

ในที่สุดเมื่อนิวรอนตัวนั้นเจริญเติบโตจนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติ ทำงานอย่างรวดเร็ว ก่อนและเหนื่อนิวรอนตัวอื่นๆ

นั่นคือจุดที่เกิดสิ่งที่เรียกว่าจิตใต้สำนึก

สำหรับกระบวนการ Hypnosis มันว่าด้วยเรื่องของการสร้างนิวรอนตัวหนึ่งขึ้นมา และเลี้ยงมันให้โตที่สุดด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยผ่านเงื่อนไขกระบวนการต่างๆ ที่เราทำในระหว่างทำ Hypnosis ค่ะ




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 8:43:09 น.
Counter : 390 Pageviews.  

การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ (Hypnobirth)

Hypnobirth หรือ การสะกดจิตบำบัดเพื่อลดความเจ็บปวดจากการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการสะกดจิตบำบัดที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือคุณแม่ทั้งหลายให้สามารถคลอดลูกเองโดยวิธีธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องตื่นกลัวหรือเจ็บปวดแต่อย่างใด โปรแกรม hypnobirth ถูกออกแบบมาเพื่อมอบคำแนะนำให้กับจิตใต้สำนึกของเหล่าคุณแม่ให้เชื่อมั่นในวิถีของธรรมชาติ เมื่อความเชื่อมั่นเกิดขึ้นร่างกายและจิตใจก็จะสามารถผ่อนคลายได้แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เจ้าตัวน้อยกำลังจะออกมาสู่โลกใบนี้ โปรแกรมนี้สามารถช่วยให้คุณแม่คลอดลูกตามวิธีธรรมชาติได้ด้วยความภาคภูมิใจ สงบ ผ่อนคลาย อบอุ่น และสามารถควบคุมตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พวกเธอได้ดื่มด่ำกับรางวัลที่ธรรมชาติได้มอบให้อย่างเต็มที่ จดจำช่วงเวลาที่แสนจะน่าประทับใจได้ในทุก ๆ วินาทีโดยไม่ต้องผ่านการกรีดร้องอย่างเจ็บปวดอีกต่อไป


ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา การทำ hypnobirth หรือการสะกดจิตบำบัดเพื่อคลอดลูกกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คุณแม่ทั้งหลายที่ประเทศอังกฤษ แม้กระทั่งเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัลเองก็ใช้โปรแกรม hypnobirth เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอดเช่นกัน
แม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirth นี้ จะสามารถคลอดลูกเองแบบธรรมชาติโดยเจ็บปวดน้อยที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับความปวดใด ๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่หลาย ๆ คนแทบจะไม่มีความเจ็บปวดเลยด้วยซ้ำ โปรแกรมนี้ช่วยให้พวกเธอสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเธอ (และร่างกายของเธอ) กำลังจะต้องเจอ  พวกเธอจะสามารถเอาชนะความหวาดกลัว ความวิตกกังวลต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง  สิ่งเหล่านี้จึงช่วยให้บรรดาคุณแม่ ๆ ที่ใช้โปรแกรม hypnobirthสามารถผ่านประสบการณ์อันสวยงามที่สุดที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างมาให้กับพวกเธออย่างสงบ ผ่อนคลาย และปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโปรแกรม hypnobirth ไม่ได้อยู่ที่การทำให้คุณแม่สามารถคลอดลูกเองโดยไม่ต้องเจ็บปวด แต่ความน่าทึ่งของมันอยู่ที่ลูกน้อยของพวกเธอต่างหาก เมื่อการคลอดเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับคุณแม่ นั่นก็หมายถึงมันย่อมเป็นการคลอดที่แสนสงบ อ่อนโยน และปลอดจากยาสำหรับเจ้าตัวน้อยของพวกเธอเช่นกัน  การคลอดเป็นประสบการณ์แรกของทารกทุก ๆ คน และประสบการณ์แรกนี้ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของพวกเขาในอนาคต เมื่อการคลอดเป็นไปอย่างสงบ มันจึงทำให้เหล่าทารกมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย สงบ พัฒนาการไว หลับง่าย และโตเร็ว
โปรแกรมนี้ได้พิสูจน์ตัวเองหลายต่อหลายครั้งแล้วว่ามันสามารถช่วยให้คุณแม่ทั้งหลายสามารถมีประสบการณ์คลอดตามธรรมชาติได้อย่างสงบ เหมาะสม และยอดเยี่ยมที่สุด




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 8:42:13 น.
Counter : 724 Pageviews.  

ทางเลือกสำหรับการรักษาอาการ Phobia

การสะกดจิตบำบัดไม่ได้เป็นการบำบัดรักษาอาการ phobia วิธีเดียวที่มีอยู่บนโลกนี้ อันนี้เป็นเรื่องจริงแท้และแน่นอน แม้แต่ NLP ยังบอกว่าทุก ๆ เหตุการณ์ควรมีทางเลือก แต่มนุษย์ควรที่จะเลือกทางเลือกที่ตรงใจตัวเองที่สุด

การใช้วิธี systematic desentizated (พฤติกรรมบำบัด) ร่วมกับการใช้เวชบำบัด (กินยา) นั้นเป็นวิธีหนึ่ง ได้ผลกับการรักษาอาการ Phobia เหมือนกัน แต่ว่าจะต้องใช้เวลาในการบำบัดรักษาค่อนข้างมาก แถมการกินยาจำพวก fluoxetine หรือยาที่เกี่ยวกับอาการ anxiety นั้น จะทำให้คนไข้ได้รับผลข้างเคียงก็คือเกิดอาการง่วงซึม และไม่มีแรง และหากกินยาเป้นระยะเวลานานก็จะไม่ดีต่อร่างกายของตนเอง (นี่ยังไม่นับรวมถึงกรณีที่ว่า จิตแพทย์มักจะจ่ายยาให้กินอย่างเดียว ไม่ได้ส่งต่อให้กับนักจิตวิทยาคลีนิคในการปรับพฤติกรรม ทำให้อาการ phobia ไม่สามารถหายขาดได้อีกนะ)

วิธีการสะกดจิตบำบัดนั้น เป็นวิธีที่ได้ผ่านการพิสูจน์สำหรับการรักษาอาการ Phobia แล้วว่าเป็นวิธีการที่ "นุ่มนวลที่สุด" และ "ได้ผลไวที่สุด" (แต่ตอนนี้ถูกขโมยแชมป์ไปโดยวิธี NLP Phobia Cure เรียบร้อยแล้ว) เพราะคนไข้ไม่จำเป็นต้องเผชิญกับสิ่งเร้าที่เขากลัวโดยตรง (ไม่ทำร้ายจิตใจ) และไม่จำเป็นต้องกินยา (ไม่มีสารเคมีสะสม) และไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน(ไม่ท้อไปเสียก่อน)

การสะกดจิตบำบัดหรือ NLP เพื่อรักษาอาการ Phobia นั้นเป็นเพียงแค่การปรับสภาวะอารมณ์ของบุคคลยามที่ต้องเจอกับสิ่งเร้าที่เขากลัวในจินตนาการ โดยปรับให้รู้สึกถึงความสบายใจ และมั่นใจกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นพร้อมกับความรู้สึกปกติ ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง สำหรับบางกรณีอาจจะแค่ครั้งเดียวด้วยซ้ำไป คนไข้ก็สามารถเผชิญกับสิ่งเร้าที่เขากลัวได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจแต่อย่างใด




 

Create Date : 15 มีนาคม 2555    
Last Update : 15 มีนาคม 2555 23:16:13 น.
Counter : 1389 Pageviews.  

การสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy)

มนุษย์ใช้เวลาทั้งชีวิตในการสะสมสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ มนุษย์แต่ละคน ย่อมมีมุมมองที่ได้รับรู้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป นั่นทำให้เกิดความหลากหลายทางความรู้สึกนึกคิด จิตใจ ทัศนะคติ ตลอดจนบุคลิกภาพในตัวของมนุษย์แต่ละคน การผ่านประสบกาณ์เรียนรู้ที่ดีที่เป็นบวกย่อมนำไปสู่ความรู้สึกนึกคิด จิตใจ ทัศนะคติ ตลอดจนบุคลิกภาพที่เป็นทางบวก ในขณะที่การผ่านประสบกาณ์เรียนรู้ที่ไม่ดีที่เป็นลบย่อมนำไปสู่ความรู้สึกนึกคิด จิตใจ ทัศนะคติ ตลอดจนบุคลิกภาพที่เป็นทางลบอันจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาบุคลิกภาพ ปัญหาสังคม หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพกายก็ตาม

เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วเราย่อมต้องแสวงหาวิธีในการแก้ปัญหา และวิธีการแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านความรู้สึกนึกคิด สภาพอารมณ์ ตลอดจนบุคลิกภาพที่ไม่ดีก็คือ

การ “สะกดจิตบำบัด”

จิต (Mind) ของมนุษย์ก็คือผลจากการประมวลของสมองระระบบประสาท เมื่อมีข้อมูลถูกป้อนเข้าสู่ระบบประสาทและสมองโดยผ่านระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 (อันได้แก่การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น รสชาติ แล้วผิวสัมผัส) ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปประมวลผลเปรียบเทียบกับข้อมูลเก่า (ประสบการณ์) ที่มีอยู่ ได้ผลอย่างไรส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปตามระบบประสาททั่วร่างกายก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าพฤติกรรม และอีกส่วนหนึ่งนั้นจะถูกเก็บเข้าไว้ในระบบความจำกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์เพื่อใช้ประมวลผลในครั้งต่อๆไป

ในทางจิตวิทยานั้นเรามักจะแบ่งจิตของมนุษย์ออกเป็นสองส่วนด้วยกัน นั่นก็คือจิตสำนึก (Conscious Mind) และจิตใต้สำนึก (Subconscious Mind)

จิตสำนึกก็คือจิตส่วนใหญ่ที่มนุษย์ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน การที่มนุษย์มีความรู้สึกสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี มีตรรกะเหตุผลต่างๆ ล้วนแล้วเป็นผลจากการทำงานของจิตในส่วนนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ก็ยังมีจิตอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ลึกลงไปเรียกว่าจิตใต้สำนึก โดยจิตใต้สำนึกนี้จะทำหน้าเที่ยวเกี่ยวข้องกับสภาพอารมณ์ และสัญชาติตญาณต่างๆ โดยปรกติกแล้วจิตสำนึกจะเป็นตัวควบคุมจิตใต้สำนึกเอาไว้ไม่ให้มันมีผลกับพฤติกรรมของเรามากเกินไปจนเราไม่สามารถอยู่ในสังคมได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าจิตใต้สำนึกนั้นทำงานแบบกลไกอัตโนมัติแบบปราศจากเหตุผล แต่ในบางครั้งจิตสำนึกก็ไม่สามารถควบคุมจิตใต้สำนึกได้ (เนื่องจากจิตใต้สำนึกเกิดทำงานอย่างเต็มที่) ซึ่งในที่สุดแล้วปรากฏการนี้จะนำไปสู่ปัญาหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอารมณ์หรือการแสดงออกบุคลิกภาพ

การสะกดจิต (Hypnosis) ก็คือเทคนิคหนึ่งที่ว่าทักษะทางด้านภาษาศาสตร์ (linguistics) และเทคนิคทางด้านจิตวิทยา (Psychology) ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวเพื่อสร้างการเรียนรู้ใหม่หรือประการณ์ใหม่ให้กับจิตในระดับของจิตใต้สำนึก

และการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) ก็คือการนำเอาเทคนิคการสะกดจิตมาใช้ในการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยหรือผิดปรกติของข้อมูลในระดับของจิตใต้สำนึก ซึ่งถือว่ารากเง้าที่แท้จริงของปัญหาสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในแง่ของสภาพอารณ์หรือบุคลิกภาพก็ตาม


การสะกดจิตบำบัดไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่ถูกใช้แพร่หลายในยุโรปมาเป็นเวลานานแล้ว โดยนายแพทย์ชาวสก๊อตแลนที่ชื่อว่าเจมส์ เบรด(1795-1860) ได้นำเอาข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าแนวการบำบัดรักษาของลัทธิเมสเมอร์มาอธิบายเหตุผลกลไกด้วยวิชาจิตวิทยาสมัยใหม่จนเกิดเป็นเทคนิคการบัดทางจิตวิทยาที่ชื่อ Hypnosis หรือการสะกดจิตจากนั้นก็แพร่หลายในหมู่แพทย์และนักจิตวิทยาในยุโรปและอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับในประเทศไทยการสะกดจิตบำบัดยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่อยู่มากถึงแม้ว่าในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มยุโรป ออสเตเรีย หรือญี่ปุ่น ต่างรู้จักและให้รับการยอมรับต่อการสะกดจิตบำบัดนี้เป็นอย่างดีว่าเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมอันหนึ่งที่จะช่วยบำบัดรักษาปัญาหาสุขภาพจิตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าในอนาคตการสะกดจิตบำบัดในประเทศไทยจะได้รับการเผยแพร่และได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างจากอารยะประเทศ

พูนศักดิ์ ธนพันธ์พานิช C.Ht, NLP




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 13 พฤษภาคม 2554 13:58:12 น.
Counter : 2629 Pageviews.  

1  2  3  4  5  
 
 

dear143
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




สาวตัวน้อย ๆ นักบำบัดด้วยการสั่งจิตใต้สำนึกเพื่อรักษาอาการป่วยโรคกาย โรคใจ ปวดหัวเรื้อรัง ไมเกรน เครียด หมกมุ่น ฟุ้งซ่าน อาการกลัว (phobia) ลดความอ้วน แก้ไขพฤติกรรม อกหักรักคุด ลืมแฟนไม่ได้ รักใครไม่เป็น การแ้ก้ไขที่จิตใต้สำนึกช่วยคุณได้ สอบถามไ้ด้ค่ะ hypno_therapist@hotmail.com
[Add dear143's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com