|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เค้กฝอยทอง

ชิฟฟ่อนเค้กฝอยทอง กว่า 7 ปี(2012) นับจากครั้งที่ฝึกทำขนมใหม่ ๆ จนถึงปัจจุบัน(2019)ก็ได้ความรู้จาก Bloggang นี่แหละ ที่ทำให้วันนี้เริ่มทำขนมได้ แม้ผลงานที่ออกมาจะไม่ได้ดี มากมาย แต่ก็พอทำให้ลูก ๆ กิน บางส่วนก็เริ่มทำขาย เป็นอาชีพเสริมได้ ต้องขอขอบคุณ ไว้ ณ ที่นี้ ถือว่าเพื่อน ๆ ในนี้เป็นครูคนแรก ของเบนซ์ก็ว่าได้ เป็นเพราะความชอบส่วนตัว ทุกวันนี้ก็เลยยังทำขนมอยู่ เริ่มแรกจากที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง วัตถุดิบต่าง ๆ ก็ไม่รู้จัก เครื่องมือ อุปกรณ์ก็ไม่มี หลังจากฝึกทำมาเรื่อย ๆ สะสมอุปกรณ์มาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เริ่มล้นตู้ ไม่รู้อะไรต่ออะไรเต็มไปหมด
เค้กฝอยทองเป็นอะไรที่ทำพังมาแล้วหลายรอบ ด้วยความที่ไม่เข้าใจสูตรบ้าง ไม่เข้าใจขั้นตอนบ้าง จนถอดใจไปหลายต่อหลายครั้ง จนล่าสุด ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีความคิดว่าอยากทำขนมลองขายดู จะได้เก็บไว้เป็นทุนซื้ออุปกรณ์การทำในครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเองทั้งหมด ก็เลยคิดถึงเค้กฝอยทองขึ้นมา เพราะมันเป็นเค้กที่หลายต่อหลายคนชอบ ก็เลยเริ่มค้นหาสูตรที่คิดว่าโอเค จนมาสรุปที่สูตรนี้ (จำไม่ได้ว่าเป็นของใคร ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้)
ส่วนผสมของแห้ง
แป้งเค้ก 150 กรัม ผงฟู 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายป่น 70 กรัม (เบนซ์ขี้เกียจเลยใช้น้ำตาลทรายสำหรับเบเกอรี่แทน) เกลือ 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมของเหลว
นมข้นจืด 100 กรัม(ถ้าไม่มีสามารถใช้นมสดรสจืดแทนได้) ไข่แดง 6 ฟอง น้ำมันพืช 120 กรัม น้ำเปล่า 50. กรัม วนิลา 1 ช้อนชา ส่วนผสมไข่ขาว ไข่ขาว 6 ฟอง น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา น้ำตาลทรายป่น 70 กรัม(ใช้น้ำตาลทรายเม็ดเล็กแทน)
ส่วนผสมไส้ ฝอยทอง 200 กรัม กรุลงในพิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข ใช้ส้อมกดเบา ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อเค้กลงไปถึงข้างล่างพิมพ์
วิธีทำ
1. วอร์มเตาอบ 160 องศาเซลเซียส (เตาแต่ละบ้านไม่เหมือนกันนะคะ ต้องทำความรู้จักกันเอง) 2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู รวมกัน ผสมส่วนของแห้งทั้งหมดรวมกัน ผสมให้เข้ากัน พักไว้ 3. ผสมส่วนของเหลว ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักไว้ 4. นำส่วนผสมของเหลวเทลงในส่วนผสมของแห้ง คนเร็ว ๆ แต่ไม่ต้องแรง ผสมให้หมดผงแป้ง ขั้นตอนนี้น้ำตาลจะยังไม่ละลายหมด ไม่เป็นไร พักไว้ 5. ตีส่วนผสมไข่ขาว เติมน้ำมะนาวลงไป ตีพอเป็นฟองหยาบ ๆ ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทราย ทีละน้อย ตีสปีดสูง (ตีจนตั้งยอด แต่ไม่ถึงกับตั้งยอดแข็ง จะผสมเข้ากันยาก) 6. นำส่วนผสมไข่ขาวที่ได้ ใส่ในส่วนผสมของเหลวที่เราพักไว้ โดยแบ่งผสม สัก 3 ครั้ง ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ใช้พายยางตะล่อมเบา ๆ ไม่งั้นไข่ขาวจะยุบตัว 7. เทเค้กลงในพิมพ์ เคาะก้นพิมพ์เบา ๆ 2-3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ 8. อบไฟล่างประมาณ 20 สังเกตุหน้าเค้กจะเริ่มแห้ง จากนั้นเปลี่ยนเป็นไฟ บน-ล่าง อีก 5 นาทีเพื่อให้หน้าขนมสีสวย และหน้าไม่แฉะ อบเสร็จ กระแทกพิมพ์ 1 ครั้ง พักบนตะแกรงให้พออุ่น ๆ ค่อยคว่ำออกจากพิมพ์ รอให้เย็นก็ค่อยตัดเป็นชิ้น
Create Date : 23 มีนาคม 2562 |
|
2 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2562 5:26:57 น. |
Counter : 3055 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
หากมีความพยายาม ความสำเร็จก็มักจะสวยงามเสมอ เส้นทางในชีวิตไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ อุปสรรคที่พบเจอ ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ต่อให้ต้องล้มสักกี่ครั้ง เราก็พร้อมที่จะ ลุกขึ้น มาพบกับเช้าวันใหม่ที่สดใส การให้กำลังใจตัวเอง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
|
|
|
|
|
|
|
|