เด็กหญิงยืนอยู่ในบุ้งกี๋ขนาดยักษ์ Big Muskie
ซึ่งในอดีตเป็นรถขุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก © Charles Barilleaux / Flickr.
Big Muskieณ ที่
Miners Memorial Parkชุมชน
McConnelsville รัฐ
Ohioใกล้กับถนนสาย State Route 78
ได้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน
ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ Ohio
ซึ่งสร้างงาน/เศรษฐกิจในภาคส่วนนี้ให้กับสหรัฐอเมริกา
จนกระทั่งประมาณ 50 ปีที่แล้ว
สวนสาธารณะขนาดเล็กแห่งนี้
มีข้าวของเพียงอย่างเดียวตั้งอยู่ตรงกลาง
คือ บุ้งกี๋ขนาดมหึมาที่ครั้งหนึ่งในอดีต
เคยติดตั้งอยู่กับของรถขุดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Big Muskie ที่ดูดูแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
เป็นรถขุดบุ้งกี๋ลากที่ดึงชั้นดินออกจากผิวโลก
เพื่อเผยให้เห็นร่องรอยชั้นถ่านหินที่ผ่านชุมชน
Morganการตักดินแต่ละครั้งของเจ้ายักษ์ใหญ่
จะกลืนกินดินและหินขนาด 170 ลูกบาศก์เมตร
เทียบเท่ารถบรรทุกน้ำมันขนาด 15 คิว 11 คัน
คิดเป็นน้ำหนักเกือบ 300 ตัน
สามารถยกดินและหินขึ้นไปบนอากาศสูงถึง 100 ฟุต
แล้วนำดินและหินไปฝากไว้ในพื้นที่ไกลออกไปราว 2 ช่วงตึก
เครื่องจักรยืนตระหง่านสูง 22 ชั้นและหนัก 12,000 ตัน
สายเคเบิลขนาดหนา 5 นิ้ว จ่ายพลังงานไฟฟ้า 13,800 โวลต์
เพียงพอที่จะใช้งานได้ถึง 27,500 หลังคาเรือน
เพราะขนาดเครื่องจักรหนักมาก
จนต้องมีการวางแผนกลไก/เครื่องจักรแบบพิเศษ
เพื่อให้เจ้ายักษ์ใหญ่นี้เคลื่อนที่ไปมาได้
Central Ohio Coal Company ได้ใช้เครื่องจักรขนาดยักษ์นี้เป็นเวลา 22 ปีระหว่าง 1969-1991
บนภูมิประเทศที่เป็นภูเขาพื้นที่ 110,000 เอเคอร์
ตลอดระยะเวลาที่ใช้งาน Big Muskie
ได้ทำการขนย้ายดินและหินออกเป็นจำนวน 2 เท่า
เมื่อเทียบกับการขุดคลองปานามา
และได้ถ่านหินสีน้ำตาล Ohio จำนวน 20 ล้านตัน
หลังจากปี 1977
Clean Air Actกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมมีผลบังคับใช้
กอปรกับค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นมีผลต่อต้นทุน
และความขัดแย้งกับชาวบ้านในท้องถิ่น
เรื่องการขุดถ่านหินที่ทำลายภูเขา/สร้างมลพิษ
Big Muskie กลายเป็นของไร้ประโยชน์
และยุติการใช้งานขุดตักดินและหินในปี 1991
หลังจากล้มเหลวในการหาผู้ซื้อเจ้ายักษ์ใหญ่นี้
ทางบริษัทถ่านหินได้รื้อเครื่องจักรออก
แล้วขายชิ้นส่วนบางส่วนเป็นเศษเหล็ก
เหลือเพียงแต่บุ้งกี๋ขนาดยักษ์ที่เคยบันทึกสถิติไว้
ซึ่งต่อมาถูกนำไปจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องจักรเหมืองถ่านหิน
ใน Miners Memorial Park ที่ McConnelsville รัฐ Ohio
© orientalizing/Flickr
© Joe Schumacher/Flickr
BIG MUSKIE IN ACTION
SILVER SPADE ON MATS FOR MILESThe Silver Spade ที่
Harrison Coal & Reclamation Historical Parkประมาณหนึ่งไมล์ทางตะวันตกของ
New Athens รัฐ Ohio
มีเศษซากของเครื่องจักรขุดดินขนาดยักษ์อีกตัวหนึ่ง
บุ้งกี๋ขนาดใหญ่และห้องโดยสารของ The Silver Spade
ตั้งอยู่ในพื้นหญ้าท่ามกลางอุปกรณ์การทำเหมืองอื่น ๆ
The Silver Spade เป็นรถขุดขนาดยักษ์ที่ใช้ในการขุดถ่านหิน
แถบทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐโอไฮโอ
ยักษ์ใหญ่ตัวนี้ทำงานตั้งแต่ปี 1965
จนกระทั่งเหมืองถ่านหินปิดในช่วงปลายศตวรรษที่ 20
The Silver Spade แม้ว่าจะไม่ใช้บุ้งกี๋ที่ใหญ่ที่สุด
เท่าที่เคยสร้างขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา
แต่ยักษ์ใหญ่นี้มีชื่อเสียงมากที่สุดในการใช้งานครั้งสุดท้าย
เครื่องจักรสูง 220 ฟุตและมีน้ำหนัก 6,400 ตัน
สามารถกลืนกินดินได้ 143 เมตริกตันด้วยการตักเพียงครั้งเดียว
แขนของยักษ์แกว่งแขนได้ 180 องศา
แล้วปล่อยให้พวกแร่ถ่านหินห่างออกไปมากกว่า 100 เมตร
พื้นที่คดเคี้ยวและซับซ้อนยักษ์ใหญ่นี้ก็สามารถวิ่งไปมาได้
ข้อสำคัญ The Silver Spade นั้นควบคุมได้ง่ายมาก
ง่ายอย่างน่าทึ่ง ด้วยคันโยกสองมือและคันเหยียบคู่
บุ้งกี๋และห้องควบคุม The Silver Spade
บนถนน Stumptown ทางตะวันตกของ New Athens รัฐ Ohio
© Roseohioresident / Wikimedia Commons
The Silver Spade
Big Brutus working near Hallowell Kansas, circa 1965-66Big BrutusBig Brutus แม้ว่าจะไม่ยักษ์ใหญ่ขนาดเดียวกับ
Big Muskie และ The Silver Spade
แต่ Big Brutus ก็เป็นยักษ์ใหญ่อีกตนหนึ่ง
ที่บุ้งกี๋ขนาดยักษ์ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน
และมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ในการขุดถ่านหิน
ในช่วงปี 1960 จนกระทั่งถึงปี 1970
ยักษ์ใหญ่ตนนี้สูง 16 ชั้นและมีน้ำหนักเกือบ 6,000 ตัน
แม้ว่าจะไม่ใช่บุ้งกี๋ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา
ปัจจุบัน Big Brutus ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งนา
ใน
West Mineral ในเขตชนบทของรัฐ
Kansasสถานที่ยักษ์ตนนี้ได้ขุดหลุมครั้งสุดท้ายในปี 1974
เพราะเจ้าของเหมืองถ่านหิน Pittsburg & Midway เลิกกิจการไป
Big Brutus ถูกย้ายไปอยู่ที่ทุ่งนาและถูกทอดทิ้ง
เพราะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากเกินไปที่จะรื้อถอนเครื่องจักร
ต่อมาชุมชนได้สร้างพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ
แสดงเครื่องจักรเหมืองถ่านหินนี้เพียงลำพัง
© Jessicarhein / Wikimedia Commons
© Anry skyhead / Wikimedia Commons
Marion 5960-M Power Shovel (Peabody Coal-River Queen Mine) "Big Digger"The Captain Marion 6360 หรือรู้จักกันดีในชื่อ The Captain
แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานอีกต่อไปแล้ว
แต่ในอดีตยักษ์ตนนี้เป็นเจ้าของสถิติใหญ่ที่สุด
ประเภทยานพาหนะทางบกทุกชนิดที่คนเราสร้างขึ้นมา
งานสร้างยักษ์ใหญ่ตนนี้เสร็จสมบูรณ์ในปี 1965
เดิมรถขุดขนาดยักษ์ทำงานให้กับ
Southwestern Illinois Coal Corporation
แต่ต่อมาบริษัทนี้ถูกซื้อไปโดย
Arch CoalThe Captain มีน้ำหนัก 12,700 ตัน
เมื่อเทียบกับ
รถขุดชนิดบุ้งกี้ลากบุ้งกี๋ของ The Captain ตักดินเพียงครั้งเดียว
จะตักดินและหินได้ถึง 300 ตัน
และใช้พลังงานไฟฟ้ามาก
พอ ๆ กับที่ใช้ในเมืองที่มีประชากร 30,000 คน
The Captain ทำงานจนกระท่งถึงปี 1991
แล้วเกิดไฟไหม้ที่บริเวณส่วนควบคุมด้านล่าง
เพราะสายไฮดรอลิกระเบิดขึ้นมา
แล้วพ่นของเหลวร้อนไปถูกแผงไฟฟ้า
จนไฟฟ้าชอร์ตเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา
ไฟไหม้ครั้งนั้นสร้างความเสียหายอย่างแรง
ทำให้ไม่มีการซ่อมแซมให้เหมือนเดิม
อีกหนึ่งปีต่อมา The Captain ก็ถูกทอดทิ้ง
Bagger 288หนึ่งในยานพาหนะบนบกที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก
และยังคงใช้งานอยู่คือ รถขุดขนาด 13,500 ตัน
ซึ่งปัจจุบันยังทำงานอยู่ที่เหมืองถ่านหินหลุมเปิด
ที่ Garzweiler ใน North-Rhine Westphalia
Bagger 288 มีฟันบุ้งกี้(เล็บขุด) 18 อัน
ที่มีบุ้งกี้ในตัวหมุนได้รอบ ๆ
เพื่อทำการขุดดินอย่างต่อเนื่อง
สามารถขุดดินได้ 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
เทียบเท่ากับการขุดสนามฟุตบอลลึก 30 เมตร
แม้ว่า Bagger 288 จะมีน้ำหนักมหาศาล
แต่ยักษ์ใหญ่ตนนี้สามารถเคลื่อนที่ไปมา
ขับบนดินกรวดหรือหญ้าได้อย่างง่ายดาย
โดยไม่สร้างรอยลึกกว่ารอยเท้ามนุษย์
เพราะมีตีนตะขาบจำนวน 12 ชุด
ที่กระจายน้ำหนักได้อย่างสม่ำเสมอบนพื้นผิวขนาดใหญ่
The Bagger 288 อยู่ในกลุ่มของยานพาหนะ
ที่มีขนาดและรูปร่างคล้ายกันเช่น
Bagger 281 Bagger 285 Bagger 287 และ Bagger 293
ซึ่งปัจจุบันยังใช้งานในเหมืองเปิดในภูมิภาค
North Rhine - Westphalia ประเทศเยอรมนี
เรียบเรียง/ที่มาhttps://bit.ly/3bVHzGB
© https://bit.ly/2KN3zYi
เรื่องเดิม. Bagger 288 รถตักขุดดินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Bagger 288, bucket wheel excavator | Extraordinary Engineering