bloggang.com mainmenu search

การฝึกโยคะ (Yoga) ทำได้ทุกอายุ เนื่องจากการฝึกโยคะไม่ได้เคร่งครัดว่าจะต้องปฏิบัติให้ได้เท่านั้นเท่านี้ หากควรปฏิบัติเท่าที่รู้สึกว่าสบาย ไม่อึดอัด ไม่เจ็บปวด อย่าลืมว่าคำ อาสนะ นั้นแปลว่า สบาย หากทำท่าใดแล้วไม่รู้สึกสบายจึงไม่ควรกระทำ แต่สำหรับผู้สูงอายุควรปรึกษาผู้รู้เท่านั้น เพราะมีท่าบางท่าที่ผู้สูงอายุไม่ควรกระทำ หากพลาดพลั้งอาจจะบาดเจ็บและไม่เป็นผลดี แต่โดยทั่วไปแล้วให้ค่อยๆ ฝึก อย่าเร่งรีบ ต้องยึดหลักว่าอย่าฝืนและคิดว่าต้องทำให้ได้

โยคะ

ฝึกโยคะ 

เวลา ย้ำว่าการฝึกโยคะไม่ควรเร่งรีบว่าจะต้องทำท่าได้กี่ท่าในเวลาเท่านั้นเท่านี้ แต่ควรให้เวลาในการฝึกมากพอสมควร แต่ละท่าเมื่อทำเสร็จแล้วต้องมีท่าพัก อย่าเร่งรีบในการต่อท่าโน้นท่านี้ เพื่อทำท่าให้ได้มากๆ การพักและความผ่อนคลายระหว่างการปฏิบัติสำคัญและจะทำให้การฝึกโยคะได้ผลกว่า ท่าพักที่ดีคือท่าคนตาย เป็นท่านอนหงายที่ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย หรือหากชอบท่าคว่ำก็นอนคว่ำได้ สำหรับท่าพักเป็นท่าบังคับ ต้องพักเมื่อจบท่าของอาสนะหนึ่งๆ ก่อนที่จะไปทำอาสนะต่อไปเสมอ เนื่องจากการพักเป็นการเก็บพลังเข้าไว้ในตัว ตรงนี้เองที่ทำให้โยคะต่างจากการออกกำลังกายแบบอื่น และถ้าเหนื่อยยิ่งควรจะพักจนกว่าจะหายเหนื่อยจึงเริ่มทำท่าต่อไป

ดังนั้น การฝึกโยคะควรเป็นเวลาที่ท้องว่างหลังอาหาร 1-2 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุดคือเช้าตรู่ หรือบ่ายๆ ค่อนข้างไปทางเย็น ไม่แนะนำให้ฝึกโยคะเวลา 12.00-13.00 น. เพราะเป็นเวลาที่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ การฝึกโยคะควรกระทำวันละครั้ง หรือวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

เตรียมตัว เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หรือถ้าไม่มีโอกาสอาบน้ำ แนะนำให้ทำความสะอาดร่างกายเฉพาะส่วน ได้แก่ ล้างก้น ล้างขาท่อนล่าง ล้างแขนท่อนล่าง บ้วนปาก แปรงฟัน พรมน้ำที่ตา ล้างรูจมูก ล้างใบหูและลำคอ เชื่อกันว่าการอาบน้ำและการทำความสะอาดร่างกายจะทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเย็นลง ทำให้ใจสงบลงก่อนฝึกโยคะกันจริงๆ สำหรับผู้หญิงที่มีครรภ์และประจำเดือนไม่แนะนำให้ฝึกโยคะในระหว่างนั้น

สถานที่ ควรเป็นห้องที่สะอาดไม่มีฝุ่นละออง อย่าลืมว่าโยคะเน้นถึงอากาศบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ควรฝึกโยคะนอกอาคาร หรือฝึกอยู่ในแดด เพราะอาจทำให้เย็นไปร้อนไปได้ ทั้งแสงแดดจะทำให้เหงื่อและน้ำมันตามธรรมชาติที่ออกมาแห้งหายไปหมดก่อนทันได้นวดภายหลังจากหัดทำท่าอาสนะแล้ว ในห้องควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่มีกลิ่นควัน กลิ่นเหม็นรบกวน ไม่มีควันพิษ ยาฉีดกันยุง หรือสารเคมีอื่นๆ ที่อาจสูดหายใจเข้าไปแล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ควรฝึกโยคะกับพื้นเพราะจะแข็งเกินไป อาจจะเอาเสื่อปู หรือเอาผ้าซับฟองน้ำบางๆ ปู หรือฝึกบนพรมที่มีผ้าปูอีกชั้นหนึ่ง

เสื้อผ้า ที่จริงแนะนำให้ฝึกโยคะในที่มิดชิดและสวมเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด ที่ต้องนุ่งน้อยห่มน้อยเพราะเสื้อผ้าจะซับเอาน้ำมันตามธรรมชาติที่จะออกมาระหว่างการฝึกไปหมด น้ำมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังเป็นโลชั่นธรรมชาติที่เหมาะกับเจ้าตัวมากที่สุด หากฝึกโยคะแล้วได้นวดน้ำมันกลับคืนความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังเท่ากับเป็นการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณอย่างหนึ่ง ดังนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของการแต่งกายและการนวดหลังจากฝึกอาสนะ 

** โดยทั่วไปหากฝึกในที่สาธารณะ เสื้อผ้าที่จะสวมไม่ควรรัดรึงจนเคลื่อนไหวไม่ถนัด ถอดแหวน สร้อย นาฬิกาออก เอาของออกจากกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงให้หมดด้วย เพราะของแหลมอย่างปากกาอาจทิ่มแทงเจ้าตัวขณะฝึกได้

คำแนะนำจากบัลวี ศูนย์ธรรมชาติบำบัด 
ภาพจาก //www.cafepaname.com

โยคะ

โยคะ กระต่าย

โยคะ กับ น้องต่าย

โยคะแมว

//

//webboard.yenta4.com/topic/549856
Create Date :12 พฤษภาคม 2557 Last Update :12 พฤษภาคม 2557 23:22:55 น. Counter : 4707 Pageviews. Comments :0