bloggang.com mainmenu search


วันนี้ขี่เสือมา เล่นเอาเหงือชุ่มกว่าถึงองค์พระประธาน มาถึงเห็นแสงอาทิตย์กำลังส่องที่องค์พระพอดี แต่แดดเริ่มแรงแล้วไม่กล้าเอากล้องส่องดวงอาทิตย์ตรงๆ กลัว CCD จะเจ๊งเสียก่อน เลยเดินหามุมหลบแดด เก็บภาพมาได้ 2-3 รูป





ในบล็อกที่แล้วเดินดูนกมาถึงสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกระลึกถึงพระพุทธเจ้า เกิดความแช่มชื่น เบิกบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดี เมื่อได้ไปพบเห็น ถึงตำบลประสูติ มีพื้นที่ ประมาณ 50 ไร่ ประดิษฐาน หินสัญลักษณ์ รูปดอกบัว 7 ดอก หินสัญลักษณ์ ทั้ง 7 ก้อน แกะสลักจากหินแกรนิต มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1.50 เมตร สูง 0.80 เมตร แกะสลัก เป็นรูปดอกบัวกำลังแย้มบาน ช่วงบนแกะสลักลายนูน รูปพระพุทธบาท กลางฝ่าพระบาท สลักชื่อ แคว้นต่างๆ 7 แคว้น ที่สัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประกาศพระธรรม คำสั่งสอน รวม 7 แคว้น





เจ้าเสือภูเขาตัวเก่ง รออยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวจะมารับ อากาศตอนเช้าเย็นสบายแต่รู้สึกว่าจะหนาวเย็นกว่าทุกวัน





มองเห็นสังเวชนียสถาน ตำบลตรัสรู้ ประดิษฐานหินรูปโพธิบัลลังก์ ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธ์ เป็นรูปสามเหลี่ยม ทรงรี แกะสลักจาก หินแกรนิต จำนวน 4 ก้อน รวมกัน ขนาดฐาน ช่วงล่าง กว้าง 2.70 เมตร ยาว 3.40 เมตร สูง 1.20 เมตร แกะสลักนูนเป็นลายบัวคว่ำ และ บัวหงาย มีรัศมี ล้อมรอบ ช่วงล่าง ซึ่งเป็น ฐานปัทม์ รองรับ ส่วนบนนั้น แกะสลัก เป็น เส้นลวด ท้องไม้ ช่างแกะสลัก ได้แกะสลัก พระคาถา แล้วลงรัก ปิดทองคำเปลว มีนกกาส่งเสียงร้อง บางตัวก็บินไปมา





เดินมาริมสระน้ำ จะมองเห็นต้นพลับพลึงอยู่รายรอบสระน้ำ





เดินเข้ามาไกล้ ๆ ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตามสายลม





เดินเข้ามาไกล้ ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง Little Bhuda ตอนที่พระพุทธองค์ทรงออกผนวช เข้าป่าหาความหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรด้วยวิธีการต่างๆ เป็นเวลาถึง 4 ปี กว่าพระองค์จะทรงตรัสรู้หลักธรรม ที่เรียกว่า “อริยสัจ 4” ซึ่งหมายถึงความจริงอันประเสริฐ ที่ทุกคนสามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตน เพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์หรือช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้





ทางเดินรอบๆ จะมีการจัดสวนน้ำตกเล็กๆ มีสะพานข้ามลำธาร เวลาเดินออกกำลังกายจะมองเห็นน้ำตกอยูหลายจุด





ได้ยินเสียงนกนานาชนิดส่งเสียงร้อง แต่ยังหาตัวไม่เจอ มีพรรณไม้นานาชนิดปลูกรายล้อม ซึ่งเป็นพรรณไม้โบราณตามพุทธประวัติ เหมาะสำหรับนั่งสมาธิ หาความสงบอย่างยิ่ง





เดินมาถึงสระน้ำเห็นเจ้านกยางขาว กำลังยืนจ้องหาปลา สายลมพัดแรงจนขนปลิว นกชนิดนี้พบเห็นได้ทั่วไปรอบๆ พุทธมณฑล เลยกดมาหลายรูป





นกกระแตแต้แว้ด ก็ยืนรับลมเล่น บางตัวก็ส่งเสียงร้องคล้ายๆ ชื่อที่เราเรียกกัน




เดินข้ามสะพานมา จะมองเห็น ตำบลปฐมเทศนา ประดิษฐานหินเป็นรูปธรรมจักร และรูปแท่นที่นั่งของปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕





เดินดูบรรยากาศรอบๆ ตำบลปฐมเทศนา สงบ ร่มรื่น หาเสื่อมาสักผืน หนังสือดีๆ สักเล่ม อ่านจบแล้วนอนหลับสักตื่น





เดินอ้อมมาทางด้านหลังมีสะพานเดินข้ามคลองไปยัง ธรรมจักร ทุกตำบลมีพื้นที่ ๕๐ ไร่ อยู่ท่ามกลางสนามหญ้า สวนไม้ดอก





สระน้ำรอบๆ จะเห็นนกยางหากินอยู่โดยรอบ





เดินลัดเลาะสนามหญ้ามาตามสวนตาล มองเห็นการจัดสวนด้วยหินก้อนเล็กใหญ่วางเรียงรายอยู่





นกยางเห็นคนเดินผ่านมาเลยบินหนี พอดีล็อกโฟกัสไว้แล้วมันบินขึ้น เลยกดได้มารูปหนึ่ง





เดินมาหลายแห่ง ได้ยินแต่เสียงนกโพระดก ร้อง โฮก โป๊กๆ ๆ แต่ยังไม่เห็นตัวซักที มาถึงที่นี่ต้องหาให้เจอ พยายามมองตามเสียงร้อง
อ๋อ ...อยู่นั้นเอง โก่งคอขันจนขนคอพองออกเป็นสีแดง ปนส้ม เจ้าตัวนี้เอง ตัวเท่าๆนกเขา แต่ทำไมร้องเสียงดังนักนะ นกชนิดนี้อาศัยอยู่ทั่วไปหลังจากหาอาหารกินลูกไม้ และแมลงอิ่มแล้ว ก็จะหายอดไม้เกาะผึ่งแดด แล้วจึงตั้งต้นส่งเสียงร้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ เป็นร้อยๆครั้งต่อนาที จึงจะหยุด เสียงจะก้องดังไปทั้งป่าคนเดินป่าจะคุ้นเคยกันดี





เดินผ่านสนามหญ้าจะเห็นสวนไม้ดอก ทั้งต้นล็กและใหญ่ และพรรณไม้ต่างๆ เสียดายไม่มีชื่อบอกว่าเป็นต้นอะไร





ตำบลปรินิพพาน" ประดิษฐานหินสัญลักษณ์ รูปแท่นไสยาสน์ และ รูปแท่นที่นั่ง ของพระอานนท์ ที่ใต้ต้นสาละ แท่นไสยาสน์ มีขนาดกว้าง 1.70 เมตรยาว 6.30 เมตร สูง 1.40 เมตร ประกอบ หน้ากระดาน เส้นลวดท้องไม้ บนแท่นไสยาสน์ สลักลายผ้าทิพย์ ด้านบนนั้น แกะสลัก เป็น ลายนูน เป็นรูป ดอกบัว 3 ดอกเรียงกัน ด้านข้างแกะสลัก เป็นดอกและใบสาละร่วง ซึ่ง เปรียบเหมือน ร่วงมาจากสวรรค์ ทุกตำบลมีพื้นที่ ๕๐ ไร่ อยู่ท่ามกลางสนามหญ้า และสวนไม้ดอก





เห็นเจ้านกแซงแซวหางปลา เกาะอยู่กับกิ่งสาละที่ห้อยลงมา ที่แท่นไสยาสน์ แถวนี้จะมีนกชนิดนี้อยู่หลายตัว บางตัวก็บินโฉบหาแมลงอยู่ตามสนามหญ้า





เดินมาเรื่อยๆ ถึงตำบลปรินิพพาน เป็นตำบลสุดท้าย นกก็มีให้ดูหลายชนิด ได้เดินชมต้นไม้ใบหญ้าและยังได้เดินออกกำลังกายไปด้วย นับได้ว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่น่ามาท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้เห็นสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล สถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกระลึกถึงพระพุทธเจ้า เกิดความแช่มชื่น เบิกบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดี เมื่อได้ไปพบเห็น และยังคงอยู่คู่กับพุทธศาสนาต่อไปอีกหลายพันปี



Free TextEditor

 

Create Date :29 พฤศจิกายน 2552 Last Update :30 ตุลาคม 2557 10:07:43 น. Counter : Pageviews. Comments :23