bloggang.com mainmenu search











ชื่อภาษาไทย :   ‘เหงา เท่า วาฬ’ 
หมวดภาพยนตร์ :  ชีวิต
ผู้กำกับ:  ดาร์เรน อโรนอฟสกี
นักแสดงนำ :  เบรนแดน เฟรเซอร์,  เซดี ซิงก์,  ฮง เชา
วันที่เข้าฉาย :   16  กุมภาพันธ์  2023
ความยาว :   117 นาที









หนังที่จะแนะนำกันในวันนี้เป็นหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์ ที่เข้าฉายให้ชมกันในบ้านเรา
กับคำโปรยที่ว่าผู้ป่วยเป็นโรคอ้วนขั้นวิกฤต  และซึมเศร้าจากการสูญเสียเพื่อนคู่คิดไป
พยายามสานสัมพันธ์กับลูกสาววัย 17 ปี โดยหวังว่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะทำได้


 



 


ผู้วิจารณ์เขียนบรรยายไว้ว่า ควรค่าแก่รางวัลออสการ์ของปี เปิดแง่มุมใหม่ของการ
เผชิญหน้ากับความเหงาและโรคอ้วน พร้อมให้คะแนนไว้ถึง 10/10 กับหนังเรื่องนี้








ไม่มีอะไรให้ติและคุ้มค่าที่ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่องนี้ โอโหเล่นดปรยเสียขนาดนี้ จขบ.
ไม่แนะนำกันไว้ในบล็อกคงไม่ได้แล้ว หนังชีวิตเรื่องนี้ต้องเสียน้ำตากันอย่างแน่นอนเลยจ้า









เรื่องย่อ
ชีวิตที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอลหม่านภายในจิตใจของ ‘ชาลี’ (เบรนแดน เฟรเซอร์)
อาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่ป่วยด้วยโรคอ้วนขั้นรุนแรงหลังจากต้องสูญเสียแฟนหนุ่มไป








กับน้ำหนักตัวมากถึง 600 ปอนด์ จากภาวะการกินเกินขนาดนี้เกิดขึ้นจากการถูกทอดทิ้งและ
การจากไปของคู่รักแฟนหนุ่มของเขา ทำให้เขาตกอยู่ในช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดและทนทุกข์








หนังจับประเด็นโรคอ้วน แถมด้วยความรักของคนเพศเดียวกันมานำเสนอเข้ากับกระแสโลก
ในปัจจุบันของเราจริงๆ เพราะในสังคมมีคนทั้งสองประเภทนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ให้เห็นกันรอบตัว





 


ปัญหาที่กระหน่ำเข้ามาภายในจิตใจของชาลี ไม่เพียงแค่นำเข้าไปสู่ความเหงาที่เกินจะคาดไว้
แต่ยังพรากเวลาของชีวิตของเขาด้วย ชาลีตัดสินใจปฎิเสธการรักษาทั้งจากแพทย์และศาสนา

 





และเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออันน้อยนิดกับลูกสาววัย 17 ปี 'เอลลี่' (เซดี ซิงก์) ลูกสาว
คนเดียวของเขา การเผชิญกับช่วงสุดท้ายชีวิตของชาลีจะเป็นไปอย่างที่เขาต้องการไหม 








อยากเศร้าซึ้ง อินไปกับหนังชีวิตต่างประเทศเรื่องนี้ ว่าดีจริงอย่างที่เขาวิจารณ์กันไว้มั๊ย
ก็คงต้องไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านแล้ว แต่หนังแนวนี้รอบก็จะน้อยหน่อย









ใครจะไปคิดว่าเราสามารถอินกับความธรรมดาได้มากขนาดนี้ การได้นั่งดูหนังเรื่องนี้ คุณจะ
ไม่พบพลังวิเศษ ไม่พบฉากสุดบ้าระห่ำ มีเพียงแค่คลื่นแห่งความรู้สึกที่พร้อมจะดึงให้เราด่ำ
ดิ่งลงสู้ท้องทะเลที่ทั้งมืดหมน หดหู่ และเปลี่ยวเหงา นี่คือคำวิจารณ์ที่เขียนไว้ให้ไปชมกัน









แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่ดูเหมือนจะเป็นไปในแง่ลบ กลับเติมเต็มตัวเราได้อย่างไม่ทัน
ตั้งตัว พร้อมมอบรอยยิ้มเล็ก ๆ บนหน้าให้คนดูได้แบบคาดไม่ถึง เนื้อเรื่องของภาพยนตร์
เรื่องนี้เหมือนกับการเข้าใจถึงความธรรมดาของชีวิตเราอีกแง่หนึ่ง โอโหเขียนเสียขนาดนี้เลย








ใครจะไปคิดว่าพระเอกนักต่อสู้กับมัมมี่ของเรา จะพลิกบทบาทได้มากขนาดนี้จนเข้าชิงออสก้า
จริงอย่างนักวิจารณ์ว่าคนอ้วนบางคนเขาก็ไม่ได้อยากอ้วนแบบนั้นเสียหน่อย เพราะบางครั้ง
โรคอ้วน ก็เป็นเพราะความผิดปกติทางร่างกายชนืดหนึ่งของคนเรา  แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหนะนะ








หนังกลับเผยอีกแง่มุมของปัญหานี้ที่มาจากสุขภาพจิตใจภายใน ถือเป็นการเปิดประตู
อีกบานให้คนดูได้อย่างมากเลย เป็นอะไรที่น่าประทับใจจริง ๆ และยังทำให้สังคมเข้าใจ
ปัญหาของผู้ที่เผชิญกับปัญหาโรคอ้วนมากขึ้น อย่างที่หนังเรื่องอื่นๆ ไม่เคยตีแผ่มาก่อน








นักวิจารณ์บอกว่าอยากแนะนำให้ลองเปิดใจไปดูหนังเรื่องนี้กัน ใครพอมีเวลาก็ไปดูกันจ้า
หนังเข้าชิงรางวัลออสก้า 3 รางวัลเลยเชียวนะ รวมทั้งรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมเสียด้วย








นักวิจารณ์เขียนทิ้งท้ายไว้อย่างน่าฟังว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นวาฬขี้เหงาที่กำลังต่อสู้กับคลื่น
ลูกไหนอยู่ในปัจจุบัน ก็ขอให้คุณฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้จนเจอความสุขสงบที่มองหา
ขอบคุณเรื่องราวจาก  "entertainment.trueid.net" ภาพประกอบและเพลงจาก internet 







 
Create Date :24 กุมภาพันธ์ 2566 Last Update :24 กุมภาพันธ์ 2566 10:23:32 น. Counter : 947 Pageviews. Comments :40