นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) มีรายงานจากสถานทูตไทยจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังเรื่องการฝากหิ้วซื้อของเข้าประเทศ หลังเกิดกรณีร้ายแรงกับชายไทยคนหนึ่ง ที่ถูกพบว่าลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ และต้องถูกจำคุกอยู่ในต่างประเทศ

ตามรายงานระบุว่า เพจเฟซบุ๊ก "สถานเอกอัครราชทูตไทย 〆 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น" ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังเรื่องการหิ้วของฝากเข้าประเทศ โดยยกกรณีที่เกิดขึ้นจริงกับชายไทยคนหนึ่ง ซึ่งถูกเพื่อนต่างชาติหลอกให้ถือกระเป๋าเข้าประเทศญี่ปุ่น

"ประสบการณ์ที่สถานทูตฯ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ของคนไทย คงเป็นเรื่องของ "บี" (นามสมมติ) ซึ่งสถานทูตฯ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำ บีเป็นชายหนุ่มทำงานมั่นคงอยู่ที่กรุงเทพฯ เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง และยังชอบเที่ยว ผับ บาร์ ทำให้ได้เจอและรู้จักเพื่อนชาวต่างชาติมากมาย

บีเล่าว่า เขามีแพลนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ในตอนนั้นมีเพื่อนคนต่างชาติแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฝากกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ไปให้คนชาติเดียวกันที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยบอกเพียงแต่ว่าเมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้วจะมีคนมารับกระเป๋าเอง ด้วยความไว้ใจ และไม่ได้เอะใจ บีจึงยอมเอากระเป๋าใบนั้นเดินทางมาที่ญี่ปุ่นด้วย

แต่เมื่อถึงสนามบินที่ญี่ปุ่นตำรวจขอตรวจค้นกระเป๋า พบว่าเป็นยาเสพติดที่ถูกเย็บซุกซ่อนเอาไว้ภายใน บีเล่าทั้งน้ำตาอีกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นยาเสพติด และทั้งที่ยืนยันกับตำรวจเท่าไหร่ว่า ไม่ใช่ของตัวเอง แต่หลักฐานก็ทำให้บี ไม่สามารถปฏิเสธได้อีก

บีจึงฝากสถานทูตฯ มาบอกคนไทยว่า ถ้าจะเดินทางไปต่างประเทศ ทางที่ดีอย่ารับฝากของจากคนอื่น ถ้าจะรับก็ควรจะเช็คให้แน่ใจก่อน มิเช่นนั้น ก็อาจจะเจอแบบตนเองก็เป็นได้ กฎหมายก็คือกฎหมาย ทำผิดก็ต้องถูกตัดสิน แม้จะถูกหลอกลวงหรืออ้างว่าถูกหลอกลวง แต่หากถูกจับแล้วล่ะก็ ผลลัพธ์นั้น "เท่ากัน"