|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แนวทางการพัฒนากล้วยไม้สกุล Doritis ตอนที่ 2 แดงอุบล
แนวทางการพัฒนากล้วยไม้สกุล Doritis ตอนที่ 2 แดงอุบล
- ใน Christenson, 2001 ได้กล่าวไว้ว่าแต่เดิมมีการแยก Doritis ออกจาก Phalaenopsis เนื่องมาจากลักษณะของ Doritis แตกต่างจาก Phalaenopsis ดังนี้
1. Doritis มีเส้าเกสรที่ยาว (long column foot) 2. Doritis มีปลายเส้าเกสรที่ยาว (long rostellum, long stipe of the pollinarium)
:- ประเด็นของ long column foot ใน Doritis ผมเห็นแย้งนะครับ เพราะใน Phalaenopsis ก็สามารถพบลักษณะ long column foot โดยเฉพาะใน subgenus Polychilos ใน section Polychilos จะพบลักษณะของ long column foot ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งได้แก่ Phal. mannii, Phal. cornu-cervi, Phal. borneensis และ Phal. pantherina และพบลักษณะ long column foot ใน Phal. spp. อื่นๆ อีกด้วย
3. Doritis มีลายเส้นที่ลากยาวมาจากฐานของปากจนถึงปลายปาก (mid lobe) คือ Doritis มีลักษณะ linear "appendages"
:- ประเด็นของ linear "appendage" ผมทั้งเห็นผ้องและเห็นแย้ง ที่เห็นผ้องเพราะใน Doritis (ม้าวิ่ง แดงอุบล ม้าบิน ม้าวิ่งแคระ) มีลายเส้นแบบนี้ทั้งหมด (แต่อาจเห็นชัดหรือไม่ชัดขึ้นกับแต่ละต้น) โดยเฉพาะในแดงอุบล จะเห็นได้ชัด และยังถ่ายทอดลักษณะแบบนี้ไปยังลูกหลานได้อีกด้วย แต่ที่เห็นแย้งเพราะเราสามารถเจอลักษณะลายเส้นแบบนี้ใน Phalaenopsis ได้เช่นเดียวกัน เช่น Phal. celebensis, Phal. lindenii
:- ส่วนที่ผมให้เป็น "X" (ไม่รู้เรียกอะไรนะครับ) อันนี้แหละผมว่า Doritis ทั้งหมด มีลักษณะ "X" เฉพาะ ซึ่งใน Phalaenopsis ทั้งหมดไม่พบลักษณะแบบนี้ (อาจจะใช้แยกความแตกต่างระหว่าง Doritis กับ Phalaenopsis ได้) เราจะสังเกตเห็นเหมือนเป็นส่วนเส้าที่ยื่นออกมา 2 อัน โดยด้านบนจะเหมือนเป็นปุ่มสีเหลือง (ลองสังเกตดูนะครับ)
4. Doritis มีก้อนเกสร 4 ก้อน
:- ประเด็นก้อนเกสร 4 ก้อนที่พบใน Doritis เป็นลักษณะเด่นของกล้วยไม้สกุล Doritis ทั้งหมด และยังสามารถถ่ายถอดไปยังลูกผสมที่มีเลือดของ Doritis อยู่ด้วยไม่มากก็น้อย แต่ใน Christenson, 2001 ระบุไว้ว่า อันนี้ไม่จริง แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าใน Phalaenopsis spp. ใดที่มีก้อนเกสร 4 ก้อนเหมือน Doritis (หากท่านผู้ใดเคยเห็น Phalaenopsis spp. ใดที่มีก้อนเกสร 4 ก้อน ช่วยบอกด้วยนะครับ)
5. Doritis เป็นพืช terrestrial habit
:- อันนี้ผมเห็นพ้องเพราะ Phalaenopsis เป็น epiphyte habit ทั้งหมด และ ระบบรากของ Doritis ก็แตกต่างจาก Phalaenopsis อย่างสิ้นเชิง รากของ Doritis ออกรอบๆ ต้น แต่ Phalaenopsis จะมีรากยาวๆ ออกมาและเกาะไปตามต้นไม้ที่อาศัยอยู่หรือห้อยลงมาทางด้านล่าง
6. ระบบการแทงช่อดอกของ Doritis เป็น erect inflorescences (ช่อดอกตั้งตรงขึ้นไปข้างบน) ส่วน Phalaenopsis เกือบทั้งหมดระบบช่อดอกจะห้อยลงด้านล่าง ยกเว้น Phal. lowii และ Phal. chibae ที่ระบบการแทงช่อดอกอาจเหมือน Doritis ที่แทงช่อดอกไปด้านบน
7. ใน Christenson, 2001 อ้างการใช้ข้อมูลทางโมเลกุลในการจัดจำแนกกล้วยไม้ในสกุล Phalaenopis โดยใช้ matK gene (เป็นวิธีหาลำดับดีเอ็นเอของ matK gene แล้วนำมาเทียบกัน แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลเพื่อหาความเหมือน ความต่างแล้วจัดกลุ่มเข้าหากัน) (Jarrell unpubl. ป่านฉะนี้คงเผยแผ่แล้วละครับ) ในเบื้องต้นพบว่า Doritis มีวิฒนาการที่ตกอยู่ตรงกลางของกล้วยไม้สกุล Phalaenopsis คืออยู่ระหว่าง sungenera Aphyllae และ Polychilos ข้างหนึ่ง กับอีกข้างใน section Phalaenopis
:- เพราะฉะนั้นด้วยเหตุผลข้างต้น Christenson, 2001 จึงให้ Doritis เป็น Phalaenopsis สะงั้น
คราวนี้มาดูลักษณะของแดงอุบลกันนะครับ ผมไม่มีภาพแดงอุบลในธรรมชาติ ขอใช้ภาพแดงอุบลที่นำมาปลูกเลี้ยงในสวนเอกชนแห่งหนึ่งแทนนะครับ
ข้อน่าสังเกตลักษณะของแดงอุบล
1. ใน Christenson, 2001 บอกพบแดงอุบลที่ประเทศไทย (แต่ไม่ได้บอกว่าเจอที่ไหน) และ Indochina ใน Masaaki, 2002 บอกเลยว่าแดงอุบล native อยู่เชียงใหม่ (ต้องหาผู้ยืนยัน) แต่ชื่อแดงอุบล มันน่าจะอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการสำรวจครั้งคุณเสือเจ้าถิ่นนำทาง (08/2007) พบว่าแหล่งธรรมชาติของแดงอุบลน่าจะอยู่ภาคอีสานในจังหวัดติดต่อกันระหว่าง อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ตามแนวชายแดนฝั่งไทย-ลาว รวมถึงแผ่นดินลาว ก็น่าพบแดงอุบลได้เช่นเดียวกัน
2. จากการสอบถามผู้รู้และผู้เจอแดงอุบลในธรรมชาติพบว่า ไม่เคยพบแดงอุบลขึ้นปะปนกับม้าวิ่งแต่อย่างใด เป็นเหตุผลหนึ่งที่บ่งบอกว่าแดงอุบลไม่ใช่ชนิดเดียวกับม้าวิ่ง
3. ชุดโครโมโซมของแดงอุบล 2n=4x=76 ส่วนการทำให้ม้าวิ่งที่มีชุดโครโมโซม 2n=2x=38 ให้เพิ่มขึ้นโดยใช้เทคนิคการใช้ cochicine treatment กับ protocorm ของม้าวิ่ง พบว่าเมื่อชุดโครโมโซมเพิ่มเป็น 2n=4x=76 ลักษณะทางกายภาพไม่เป็นแดงอุบล (เป็นที่สังเกตว่า แล้วเราสามารถพบแดงอุบลที่มีชุดโครโมโซม 2n=2x=38 หรือไม่ แล้วมันจะเป็นม้าวิ่งหรือไม่....น่าสนใจทีเดียว)
4. โทนสีของแดงอุบลเป็นสีชมพูอ่อน ชมพูเข้ม เท่านั้น ไม่เคยพบแดงอุบลที่เป็นโทนสีอ่อนในเชิงสีขาว หรือโทนสีแดงแต่อย่างใด หรือการค้นหาแดงอุบลเผือก แดงอุบลบูล ก็ยังไม่มีรายงานการค้นพบ
:- ลักษณะของแดงอุบลหากเทียบกับม้าวิ่งแล้ว จะพบว่ากลีบดอกไม่ลู่ไปด้านหลังมากนัก แต่จะหาฟอร์มของแดงอุบลที่กลมจัดในธรรมชาติค่อนข้างหายาก (แต่มีผู้พบได้บ้างในธรรมชาติและเป็นสิ่งท้าทายที่นักปรับปรุงพันธุ์แดงอุบลให้เป็นไม้ฟอร์ม ......เป็นสิ่งที่น่าท้าทายอย่างยิ่ง)
:- แดงอุบล 2 สี มีการพบได้บ้าง ยกตัวอย่างในภาพคือ ดอกบนซ้ายสุดนะครับ กลีบดอกสีหนึ่ง หู (เขี้ยว=side lobe) เป็นอีกสีหนึ่ง ส่วนการค้นหาแดงอุบล 3 สี คือ กลีบดอก หูและปากเป็นคนละสีเป็นสิ่งที่นักปรับปรุงพันธุ์ต้องการเจอและพัฒนากันต่อไป
:- ส่วนใหญ่จะพบว่าแดงอุบลจะมีลักษณะเด่น เมื่อกลีบดอกเป็นสีหนึ่ง และหาก three-lobulate structure เป็นสีอื่น หรือสีที่เข้มขึ้น จะทำให้แดงอุบลน่าสนใจเพิ่มขึ้น
:- ลักษณะ linear "appendages" ที่ปรากฏบนปากของแดงอุบลเป็นลักษณะเด่นและเห็นได้ชัด และเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้อีกด้วย
:- ยังมีลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ที่มักจะปรากฏบนกลีบดอกแดงอุบลคือ มีลายเส้นสีขาวพาดให้เห็น (ดูที่ภาพกันครับ)
5. ลักษณะของ three-lobulate structure ในแดงอุบลจะแตกต่างจากม้าวิ่งดังต่อไปนี้
:- หู (เขี้ยว = lateral lobules) ในแดงอุบลจะตึงตั้งได้ฉากพอๆ กับม้าวิ่ง แต่ส่วนที่เห็นแตกต่างคือ ส่วนของปากแดงอุบล (mid lobe) จะยกตั้งขึ้นมากกว่า เหมือนจะกระโดกขึ้น และมีลักษณะนูนให้เห็นอย่างเด่นชัด
:- ผู้รู้ ผู้สะสม ผู้คุ้นเคย เซียน และ เทพทั้งหลายจะบอกได้ว่า เนื้อหา (texture) และสีของม้าวิ่งกับแดงอุบลนั้นแตกต่างกันอยู่ เช่น นอกจากสีของม้าวิ่งจะหลากหลายมากกว่าสีของแดงอุบลแล้ว สีของม้าวิ่งยังมีความเนียน วาว และเป็นสีสดใส หากเป็นโทนสีอ่อน จะมีแสงสะท้อนออกมา หากเป็นโทนสีเข้มก็จะไม่ด้านจะสะท้อนแสงของสีออกมาเช่นเดียวกัน แต่สีของแดงอุบล เนื้อหาจะไม่หลากหลายเท่าม้าวิ่ง แล้วเป็นสีด้านๆ ไม่มันวาว (ไม่ waxy)
:- เกือบลืม ขนาดของม้าวิ่งกับแดงอุบล แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง (ดูจากภาพประกอบนะครับ) หากพบขนาดตรงกึ่งกลางๆ อาจเดาได้ว่าเป็นลูกผสมของม้าวิ่ง x แดงอุบล หรือพบแดงอุบลที่มีสีสวยงาม มีความมันวาว หรือเป็น waxy อาจจะ เป็นแดงอุบล x ม้าวิ่ง หรือมีเลือดอื่นๆ ปนอยู่
ถึงตรงนี้หากเราต้องการพัฒนากล้วยไม้แดงอุบล ต้องเริ่มจากอะไรบ้างนะครับ
1. ทำการรวบรวมพันธุ์แดงอุบล ซึ่งต้องกระทำเช่นเดียวกับม้าวิ่ง คือเลือกแดงอุบลที่เราจะพัฒนา(มีต้นเป้าหมายชัดเจน) หากนำมาจากธรรมชาติก็ให้เลือกเฉพาะต้น ไม่ถกมาทั้งหมด(คำนึงถึงการอนุรักษ์และการพัฒนาร่วมกัน)
2. คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ของแดงอุบลเช่นเดียวกับตอนที่ 1 ม้าวิ่งนะครับ (ขั้นตอนการเตรียมพ่อแม่พันธุ์ที่ดี) แต่มีข้อควรคำนึงถึงคือ ชุดโครโมโซมของแดงอุบลเป็น 2n=4x=76 หากนำไปผสมกับกล้วยไม้ชนิดอื่นที่สามารถปฏิสนธิได้ ตามหลักแล้ว เมื่อ 4x X 2n มักจะได้ชุดโครโมโซมเป็น 2n=3x=57 ซึ่งจะเป็นหมัน แต่อันนี้ไม่เป็นความจริงนัก เห็นได้จากมีผู้ทำ ม้าวิ่ง x แดงอุบล แล้วลูกที่ได้สามารถทำลูกต่อไปได้ (ไม่เป็นหมัน คือได้ลูกที่เป็น 2n หรือเป็น 4n นั่นเอง)
3. ลักษณะดอกผึ่ง หูตึง ฟอร์มดอกกลม กลีบดอกมีสีอื่นนอกเหนือไปจากสีชมพูอ่อนหรือสีชมพูเข้ม และได้ลักษณะปากสีเข้ม แดงอุบลสองสี แดงอุบลสามสี ยังคงเป็นแนวทางที่วางไว้สำหรับการพัฒนาแดงอุบล
4. ลักษณะด้อยของแดงอุบลที่ยังคงมีลายสีขาวปรากฏบนกลีบดอกยังเป็นสิ่งที่นักปรับปรุงพันธุ์แดงอุบลไม่ปรารถนามากนัก (แต่บางคนอาจชอบ....ไม่แน่ใจ)
คราวนี้มาดูภาพที่คาดว่าเป็นลูกผสมของ Doritis นะครับ
ส่วนใหญ่ที่คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นแดงอุบลแท้ หรือเป็นม้าวิ่งแท้ๆ เนื่องจากมีเหตุผลดังต่อไปนี้
:- ขนาดของดอกใหญ่กว่าม้าวิ่งมาก บางคู่ผสมมีขนาดกลางๆ ระหว่าง ม้าวิ่งกับแดงอุบล บางคู่ผสมอาจได้ขนาดเท่าแดงอุบลก็ได้ ส่วนขนาดของก้านดอกก็ใหญ่กว่าม้าวิ่งเสียด้วย
:- ฟอร์มของดอกดูมีความกลม ผึ่ง ตึง ได้รูป มากกว่าจะเป็นแดงอุบลแท้
:- กลีบดอกมีความหนากว่าแดงอุบล ยิ่งพิจารณาเนื้อหาของเนื้อสี จะพบว่าเป็นสีที่ไม่เคยเจอในแดงอุบลธรรมชาติ
:- สีของดอกมีความใสมากกว่าที่จะเป็นแดงอุบลแท้ๆ
:- ลักษณะของลายเส้นสีขาวๆ ที่มักจะพบในกลีบดอกของแดงอุบลในธรรมชาติ ยังคงปรากฏให้เห็น
:- และอื่นๆ ที่น่าสงสัย โปรดใช้การพิจารณาในการชม ผมอาจผิดก็ได้นะครับ
1. ขนาดของดอกใหญ่กว่าม้าวิ่ง แต่ขนาดของดอกไม่เท่าแดงอุบล สีแบบนี้มีในม้าวิ่ง แต่ไม่มีในแดงอุบลแน่นอน ในภาพคาดว่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
2. เหตุผลคล้ายข้อ 1 แต่ฟอร์มของกลีบดอกเริ่มกลมแล้ว เป็นที่น่าสังเกตลักษณะของ linear "appendages" ซึ่งมักปรากฏในแดงอุบลหายไป ในภาพจึงไม่น่าเป็นม้าวิ่งแท้ หรือแดงอุบลแท้ และคิดว่าอาจจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
3. สีแบบนี้ กลีบดอกมีสีชมพูอ่อน พบในแดงอุบลแท้ได้ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าสีกลีบดอกในภาพจะใสๆ (สีใสๆ น่าจะมาจากม้าวิ่ง) ซึ่งแดงอุบลแท้ๆ ถึงแม้จะเป็นสีชมพูอ่อน จะเป็นสีด้านๆ มากกว่า ภาพที่เห็นจึงน่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
4. ดูอย่างไรก็ไม่ใช่แดงอุบลแท้ มีกลีบดอกฟอร์มกลม ตึง สีกลีบดอกใสไม่ด้าน มันน่าจะมีเลือดม้าวิ่งผสมอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
5. ฟอร์มของดอกกลม ผึ่ง เป็นไม้ฟอร์มได้เลย แต่สีแบบนี้ผสมผสานระหว่างม้าวิ่งกับแดงอุบลเช่นเดียวกัน ในภาพน่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
6. ฟอร์มเป็นแดงอุบล แต่สีแบบนี้ไม่มีในแดงอุบลธรรมชาติแน่นอน คาดว่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล เช่นเดียวกัน
7. สีแบบนี้มันได้มาจากม้าวิ่ง (คาดเอาไว้) แต่ก็ไม่ใช่สีของแดงอุบลแท้ๆ ในธรรมชาติ ในภาพก็น่าจะเป็น ม้าวิ่ง x แดงอุบล
8. สุดท้ายผู้ปลูกเลี้ยงยืนยันว่าเป็นลูกผสมระหว่าง ม้าวิ่ง x แดงอุบล สวยหรือปล่าครับ
การบ้านแดงอุบล ใครจะตอบหรือให้เหตุผลได้ แต่ไม่มีเฉลยข้อสอบนะครับ :- ถ่ายจากเจเจ 2 ราคาหลักพัน เพราะมีเกรียติยศประกอบในนามแดงอุบลพันธุ์แท้
คำถามเกี่ยวกับแดงอุบลที่มักถูกพูดถึง (ขำ ขำ)
1. ทำมัยชื่อแดงอุบล :- ผมเห็นด้วยนะครับว่าต้องชื่อแดงอุบล เนื่องจากน่าจะเป็นจังหวัดแรกๆ ที่คนไทยค้นพบในจังหวัดอุบลราชธานี เหมือนๆ กับเจอรองเท้านารีเหลืองปราจีน หรือที่ค้นพบหวายเหลืองจันทรบูรณ์ในจังหวัดจันทรบุรี และอื่นๆ
2. เจอแดงอุบลยากปล่าว :- ง่ายมากที่ลานดินและจัตุจักร (อันนี้ล้อเล่น....คริคริ) จริงๆ พบทางภาคอีสาน ในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และเขตแนวชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานีและแผ่นดินลาว แต่ปัจจุบันแหล่งธรรมชาติพบได้บ้างแต่ไม่หนาแน่นเสียแล้ว
3. เจอแดงอุบลเผือกหรือปล่าว :- ยังไม่มีรายงานการค้นพบ ที่คนขายบอกแดงอุบลเผือก ไม่มีในโลกครับ เป็นลูกผสมแน่นอน
4. เจอแดงอุบลบูลหรือปล่าว :- ยังไม่มีรายงานการค้นพบเช่นเดียวกัน ใครค้นพบน่าจะรวยทีเดียว
5. แดงอุบลแท้ปล่าว :- น่าจะเป็นคำถามแรกๆ สำหรับแดงอุบลนะครับ แต่เอาไว้ข้อ 5 เพราะมันจะมีคำถามข้อ 6 ตามมา
6. สับขาหลอก :- เอาไว้ใช้อธิบายลูกผสมที่งงกับพ่อแม่มันคืออะไร กลัวคนรู้ว่ามาจากพ่อแม่อะไรได้อีกด้วย บางทีสับขาหลอกไปสับขาหลอกมา สุดท้ายจำไม่ได้ว่ามันแท้หรือลูกผสมของอะไร (เซ็งป่ะ.....)
ฯลฯ
ถึงตอนนี้ (ตอนที่ 1 และตอนที่ 2) จะเห็นได้ว่าถ้าต้องการพัฒนาม้าวิ่ง หรือแดงอุบล จะมี 2 แนวทางคือ
:- พัฒนาไม้ฟอร์มที่เป็นพันธุ์แท้ระหว่าง ม้าวิ่ง x ม้าวิ่ง หรือ แดงอุบล x แดงอุบล หรือคัดไม้ฟอร์มจากการทำลูกผสมระหว่าง ม้าวิ่ง x แดงอุบล
จบตอนที่ 2 แดงอุบล
Create Date : 02 กันยายน 2550 |
Last Update : 12 กันยายน 2550 22:40:10 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4249 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ตะวันสุริยา. IP: 58.8.166.41 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:9:24:59 น. |
|
|
|
โดย: ปราวตรี วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:11:37:19 น. |
|
|
|
โดย: บ้านค่าย IP: 202.57.155.137 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:35:02 น. |
|
|
|
โดย: ชิน IP: 182.232.65.173 วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:19:39:35 น. |
|
|
|
โดย: เรา IP: 180.183.63.23 วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:11:15:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
ไม่เคยชอบกล้วยไม้มาก่อนเลย แต่หน้าที่การงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับกล้วยไม้....เลยสนใจบ้าง แล้วมาจับกล้วยไม้สกุล Phalaenopsis เลยชอบ และได้ทำการสะสมพันธุ์แท้เพื่อทำ DNA fingerprint โดยขณะนี้ เริ่มสะสมกล้วยไม้ดินบางชนิดเพื่อการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในแง่ การปลูกเลี้ยงที่ง่ายขึ้น มีสีสรรแปลกใหม่ไปกว่าเดิมและอื่นๆ
ชอบการท่องเที่ยวเดินทางและการถ่ายภาพ
|
|
|
|
|
|
|
|