[Issue 17] Ultimate Journey with "Mekong Cruises" - Episode III : From "Pakse" with Love ติดตามอัพเดทเรื่องราวต่างๆ ที่ : //www.facebook.com/oatenroute ![]() สะบายดีตอนจบ ว่าแล้วก็ทักทายแบบภาษาลาว ในที่สุดบันทึกการเดินทางไปลาวเมื่อต้นเดือนก่อนก็ถึงตอนสุดท้ายแล้วครับ ความเดิมที่ผมได้รางวัลจาก KTC Real Team ครั้งที่ 28 ซึ่งเป็นการผจญภัยล่องเรือตามลำน้ำโขงในพื้นที่ลาวเหนือและใต้ ใช้เวลาเดินทางแปดวันเต็มจนต้องแบ่งย่อยเป็นไตรภาค สองตอนแรกเป็นช่วงที่เดินทางแบบช้าๆ ให้เวลาค่อยไหลไป โดยจะล่องเรือลงใต้ไปกับบริษัท Mekong Cruises -- http:www.mekongcruises -- เริ่มต้นจาก แขวงบ่อแก้ว ฝั่งตรงข้ามเชียงรายเรื่อยมาจนสิ้นสุดที่ หลวงพระบาง Episode I : Slow Life in Northern Laos //pantip.com/topic/30927670 จากนั้นจึงได้ค้างสองคืนที่เมืองหลวงพระบางที่ผมฝันว่าจะไปมานานแล้ว และก็ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มปั่นจักรยานรอบเมือง ที่สำคัญได้พักโรงแรมสุดหรู Luang Say Residence -- //www.luangsayresidence.com Episode II : Sabaidee Luang Prabang //pantip.com/topic/30974455 ถ้ามีเวลาลองแวะไปตามย้อนรอยกับลิงค์ข้างบนเลยนะครับ จนตอนนี้ได้เวลาปิดกล่องกันสักที วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่มีอะไรทำก็แวะลุยลาวใต้ไปพร้อมกันดีกว่า ![]() หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็รีบไปเก็บของ เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินหลวงพระบาง ซึ่งใช้เวลาขับรถไปเพียงไม่เกิน 15 นาที (โรงแรมไปส่ง) ผมมีโอกาสได้ใช้บริการอาคารผู้โดยสารใหม่ ซึ่งย้ายมาสร้างใหม่ในบริเวณเดิม พร้อมทั้งขยายรันเวย์เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้น โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ เมษายน 53 และเสร็จเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเองครับ แบบว่าเข้าไปเดินได้กลิ่นใหม่หอมฟุ้งอยู่เชียว ภายในอาคารค่อนข้างทันสมัยมากและกว้างใหญ่จริงๆ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำก็เป็นระบบก็อกอัตโนมัติทุกอย่างเลย แอบสืบทราบมาว่าใช้งบกว่า 86 ล้านดอลลาร์ทีเดียว ![]() ประมาณสิบโมงกว่าก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง ชอบบรรยากาศเวลาที่แอร์ประกาศ หลับตาฟังเหมือนภาษาเหนือไพเราะสะเดาะหูยิ่งนักเชียว อิๆ มองไปนอกหน้าต่างจะเห็นอาคารหลังเก่า ซึ่งโดยส่วนตัวผมแอบชอบความคลาสสิคมากกว่าหลังใหม่เสียอีก ถึงแม้ว่าของใหม่จะสมบูรณ์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ![]() น่าจะเป็นไร่กาแฟหรือชาตามแนวเชิงเขานะครับ มองจากบนฟ้าลงไปเห็นเป็นเส้นโค้งเหมือนลายนิ้วมือสวยดี นี่เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่าง ![]() เครื่องที่นั่งจะเป็นใบพัดแต่ข้างในค่อนข้างใหม่มาก นั่งในห้องโดยสารนี่เงียบเชียบประหนึ่งเครื่องบินไอพ่น ![]() แต่ว่าแอบเสียดายที่หน้าต่างค่อนข้างเล็กไปนิด มองออกไปไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ครับ ลืมบอกไปว่าใช้บริการกับ Lao Airlines สายการบินแห่งชาติลาว ถ้าในประเทศนี่ผมว่าสะดวกสุดแล้วครับ สภาพเครื่องนี่ไม่ต้องกังวลเลยเพราะใหม่นิ้งอย่างที่เห็น ![]() แอบมุดมาดูข้างล่างบ้าง ที่วางขวางกว้างและสบายฝุดๆ ![]() สักครึ่งชั่วโมงผ่านไปชมวิวเพลินๆ จะเห็นเหมือนเกาะแก่งเล็กน้อยเต็มไปหมด มาหาข้อมูลเพิ่มภายหลังพบว่าจากพิกัดน่าจะเป็นเขื่อนน้ำงึม ซึ่งเป็นแหล่งผลิดไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศลาว รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำยอดนิยมด้วยครับ ผมดูแล้วมองจากบนฟ้าน่าจะสวยกว่าข้างล่าง ![]() อาหารบนเครื่องที่จัดมาให้พออิ่ม อันนี้รวมหมดไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติมครับ ![]() พ้นดอยมาก็จะเป็นที่ราบทางตอนใต้ครับ จะเห็นว่าเห็นแม่น้ำใหญ่ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าเป็นแม่น้ำโขงแน่ บางช่วงผมว่าคงบินมาบนน่านฟ้าไทยบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องบินอ้อมมากครับ สังเกตจากแม่น้ำโขงเป็นตัวกั้นเขตแดนระหว่างประเทศ ![]() ช่วงก่อนเครื่องลงจะเห็นฝนตกอยู่ไกลๆ มีเป็นที่ราบสูง Bolaven Plateau ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟอันเลื่องชื่อของประเทศ รวมไปถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกดังด้วย แต่ดูแล้วเห็นฝนตกเลยไม่ได้ไป ที่สำคัญอยู่นอกโปรแกรมเที่ยวอีกครับ คนที่รับผมจากสนามบินก็ถามว่าสนใจน้ำตกไหม (วินาทีตอนนั้นผมสนแต่ไก่ย่างอย่างเดียว) ผมดูเวลาแล้วขอเดินสำรวจเมืองไปก่อนดีกว่า ![]() ประมาณเกือบสองชั่วโมงก็บินลงสู่เมืองที่หมายทางตอนใต้ ปากเซ(Pakse) สนามบินจะค่อนข้างเล็กพอสมควรครับ พอจากเครื่องก็เดินเข้าอาคารผู้โดยสารได้เลย ป.ล. เครื่องที่จอดเป็นรุ่นเดียวกับที่พาเรามาครับ ![]() สำหรับปากเซจะเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางธุรกิจ ว่าไปแล้วก็เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจของแขวงจำปาสักเลยก็ว่าได้ สำหรับ แขวง เทียบได้กับ จังหวัด ส่วน ปากเซ นี่ก็เหมือนเป็นอำเภอนึงน่ะครับ เป็นอีกหนึ่งสถานที่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวด้วย เมืองจะมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจด้วย ![]() เมืองนี้จะมีตึกเก่าแก่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศสมากมาย แต่ส่วนมากเป็นที่น่าเสียดายว่าปล่อยให้ทิ้งร้างและทรุดโทรม ![]() ผมก็ใช้เวลาช่วงบ่ายที่เหลือเดินสำรวจ ก่อนหน้าก็กินข้าวแถมตลาดกลางเมืองน่ะครับ สั่ง กะเพราะหมูกรอบไข่ดาว สุดยอดนัก รสชาติอร่อยใช้ได้เหมือนกินบ้านเรา แต่ว่าอาหารแพงกว่าของเรานะครับ ทั้งนี้เพราะต้องนำเข้าวัตถุดิบ เช่น พวกเนื้อสัตว์ต่างๆ กลับจากลาวได้นั่งคุยกับเพื่อนสนิทเรื่องนี้ ได้ความทำนองว่าราคาแพงนี่ก็ขายนักท่องเที่ยวหรือคนมีเงิน ชาวบ้านทั่วไปซึ่งไม่ได้มีฐานะร่ำรวยก็มักกินกันเองที่บ้าน แต่ก็นั่นล่ะครับจึงไม่ค่อยได้สัมผัสอาหารลาวแท้นัก ที่เห็นเหมือนอาหารไทยและเวียดนามประยุกต์มากกว่า ถ้าข้อมูลผิดขอยกให้กับเพื่อนผมละกันครับ ฮ่าๆ ป.ล. ทะเบียนรถจากจังหวัดใกล้เคียง ![]() ตรงตามคำพยากรณ์ว่าทริปนี้อย่าหวังจะได้รูปสวย ช่วงบ่ายแก่ฝนตกอย่างแรงเลยครับ แต่ยังถือว่าโชคดีเจอรุ้งกินน้ำ เสียดายที่ไม่เจอมุมสวยๆ ให้เก็บได้เต็มวง ![]() แดดแบบนี้ชอบนัก (เจอวันนี้วันเดียวเลย) ตึกรามบ้านช่องก็ประมาณนี้ครับ ใครดู สะบายดี ทั้งสามภาคก็จะคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะถ่ายที่ปากเซนี่ล่ะ ![]() ฝนหยุดก็กลับมาห้องพักที่ Pakse Hotel -- //www.hotelpakse.com เป็นอีกวันที่ฟ้าสวยแต่ทำอะไรมากไม่ได้ อันนี้เป็นวิวจากหน้าต่างห้องพักเลย ถ้าจะถ่ายให้ดีต้องปีนออกระเบียงซึ่งดูแล้วอันตราย ว่าแล้วก็ดัน ISO และก็ถ่ายมือเปล่าเอา มารู้ทีหลังว่าบนดาดฟ้าโรงแรมเป็นร้านอาหารและจุดชมวิวอย่างดี ถ้าขึ้นไปคาดว่าน่าจะได้รูปสวยกลับมาบ้างแน่นอนครับ ![]() สำหรับผมไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรที่เมืองนี้นัก นอกจากเดินรอบตลาดและก็ซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์ซึ่งหาได้ไม่ยาก ตัดภาพมาเช้าอีกวันเลยดีกว่าครับ ตอนก่อนผมคาไว้ว่าจะคุยเรื่องป้ายทะเบียนรถ บ้านเขานี่ยังไม่มีการเปิดประมูลอย่างถูกกฎหมาย ถ้าอยากได้เบอร์สวยเลขตองทำนองนี้ก็จัดการจ่ายใต้โต๊ะ เลขเด็ดนี่บางทีหลักแสนบ้านเราเลยครับ สำหรับป้ายทะเบียนสีขาวจะเกี่ยวกับด้านธุรกิจ ส่วนสีแดงจะสำหรับตำรวจและทหาร ในขณะที่สีน้ำเงินจะเป็นราชการ ที่เห็นสีเหลืองจะเป็นเอกชนทั่วไปนั่นเอง ป.ล. ต้องขอบคุณ ไกด์ขัน ที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้และช่วยดูแลผมตลอดเวลาที่เหลือในลาวครับ ![]() จุดนัดพบก่อนขึ้นรถจะไม่ไกลจากที่พักครับ เราเดินก็ไม่ไกลนักเพราะเมื่อวานแอบสำรวจแล้ว ที่หมายเป็น ร้านกาแฟสีนุก ซึ่งเป็นร้านดังเมืองนี้เลย แต่ว่าเดินไม่ไหวเพราะกระเป๋าใบใหญ่ จะลากก็แอบเสียดายเพราะพึ่งซื้อมาไม่นานนี้เอง พื้นถนนก็ค่อนข้างไม่เรียบเท่าไหร่ พอดีมีรถตุ๊กตุ๊กลาวมาถามก็เลยตัดสินใจไป ยังไงก็ไม่วายโดนฟันครับ ระยะแค่เดินไม่ถึงห้านาทีกะเล่นผมซะแพง มาวันหลังๆ หนังเริ่มเหนียวรู้แกวไม่ยอมให้ฟันเลือดซิบ ก็เลยต่อซะครึ่งราคากันเลยทีเดียว ตอนแรกก็เหมือนเขาไม่ค่อยอยากลดให้เท่าไหร่ เผอิญมีรถมารอเสียบอีกคันก็เลยยอม ไม่อย่างนั้นผมก็ไปคันอื่นแน่นอน ![]() มอไซค์เลขสวยเลยจากเขตเมืองหลวงครับ แต่เดิมนี่ชื่อ กำแพงนครเวียงจันทน์ (พึ่งทราบเหมือนกัน) ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศลาว รวมถึงเป็นที่ตั้งของกรุงเวียงจันทน์ด้วยน่ะครับ เป็นส่วนที่แยกมาจากแขวงหรือ จังหวัดเวียงจันทน์ นั่นเอง ![]() ปลายทางวันนี้อยู่ที่น้ำตกดัง คอนพะเพ็ง ใครมาลาวใต้แล้วห้ามพลาดเด็ดขาด จากน้ำตกนี่ลงใต้ไปอีกเพียง 10 โล เท่านั้นก็จะเป็นเขมรทันที เช้านี้ตอนแรกอากาศค่อนข้างโอเคมีแดดตลอดทางที่นั่งรถ แต่ก่อนถึงที่หมายไม่ถึงสิบนาทีเมฆฝนก็ตั้งเค้า และตกหนักมากอย่างไม่ลืมหูลืมตา ![]() ฝนตกหนักและน้ำแรงมากเลย ผมว่ามาหน้าหลังฝนหรือแล้งอีกนิดจะสวยกว่า เพราะจะเห็นเกาะแก่งชัดเจน ถ้าพูดว่าเป็น Asias Niagara คงจะรู้จักกันดีครับ เป็นน้ำตกใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงหน้าน้ำจะไม่ค่อยสวยนัก เนื่องจากน้ำมากเกินไปจนไม่เห็นเกาะแก่งกลางน้ำ ช่วงสงครามโลกฝรั่งเศสพยายามจะระเบิดแก่งหินเหล่านี้ เพื่อที่จะได้เปิดเส้นทางมุ่งสู่เมืองจีน แต่ทำไม่สำเร็จเพราะความเชี่ยวของกระแสน้ำ จนทำให้เรือโดนซัดไปโดนโขดหินพังไปหลายลำ ![]() เห็นท้องฟ้าแบบนี้แล้วถอดใจเลยครับ ดูแล้วไม่มีวี่แววว่าเมื่อไหร่ฝนจะซาลงแม้แต่น้อย มากับทัวร์แบบนี้คงรอไม่ได้ล่ะ ทั้งกลุ่มเป็นชาวต่างชาติหมดเลย เหลือเพียงผมกับพ่อเป็นคนไทยหัวดำครับ รอบนี้จะมีมาจากสเปนและฝรั่งเศส ชาวสเปนกลุ่มนี้ค่อนข้างน่ารักจริงๆ ครับ ![]() สรุปว่ามาน้ำตกนี่ไม่ได้รูปเลยครับ ไก่ย่างก็ยังไม่ได้ทานอีก อันนี้พยายามเปิดให้สปีดช้าลง เพื่อจะได้เห็นว่าฝนหนักแค่ไหนน่ะครับ ![]() แม่น้ำโขงช่วงน้ำตกจะแรงมากครับ ดูแล้วน่ากลัวและก็ถ่ายรูปอะไรไม่ได้เลยในวันฝนหนักเช่นนี้ ![]() แวะชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกประมาณสิบนาที เวลาผ่านไปก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกเบาลง พวกเราจึงย้ายที่ไปเพื่อไปหม่ำมื้อเที่ยงกันบริเวณหมู่บ้านชาวประมงใกล้ๆ ![]() วิวจาก หมู่บ้านเซียงดี (Xieng Di Village) เดี๋ยวเรากินข้าวกันตรงนี้ล่ะครับ แล้วก็เสร็จก็จะขึ้นเรือหางยาวลำน้อยข้ามแม่น้ำโขง เห็นแม่น้ำเชี่ยวขนาดนี้รวมถึงฝนตกหนัก ดูแล้วแอบหวั่นๆ กลัวบ้างเหมือนกันที่จะนั่งเรือหางยาวข้ามไป โดยโปรแกรมช่วงบ่ายเราจะไป เกาะคอน (Khone Island) หรือที่เรียกกันว่า ดอนคอน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ฝรั่งเศสสร้างรางรถไฟข้ามเกาะ บนเกาะก็จะมีอาคารเก่าๆ สมัยฝรั่งเศสเหลือบ้าง แต่วันนี้เป็นอะไรที่ทุลักทุเลมากเลยครับ ฝนตกหนักจนผมไม่สามารถควักกล้องออกมาถ่ายรูป มือหนึ่งก็ถือร่มไปพร้อมกันเพราะหุบไม่ได้ อย่างมากก็ได้แต่ควักมือถือออกมาถ่ายเป็นครั้งครา ตรงนี้สภาพอากาศแย่มากจริงๆ ฝนตกจนน้ำท่วมทางทำเอาผมถอดใจที่จะเดินต่อไปดูรางรถไฟ ว่าแล้วก็เดินย้อนกลับไปนั่งกินน้ำเย็นๆ ในร่มรอกลุ่มที่เดินฝ่าน้ำขึ้นไปดูหัวรถไฟเก่า จากนั้นก็นั่งเรือฝ่าสายฝนและกระแสน้ำเชี่ยวขึ้นไปอีกประมาณสองชั่วโมง ![]() จนในที่สุดช่วงเย็นก็มาถึงเรือลำใหญ่ซะที ลำนี้ชื่อว่า เรือวัดพู (Vatphou Cruise) -- //www.vatphou.com โดยสองคืนที่เหลือนี่ผมจะนอนค้างบนเรือที่ค่อนข้างหรู ซึ่งเขานำเรือขนไม้มาปรับปรุงเป็นเรือสองชั้นพร้อมกั้นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว วันนี้จบด้วยไม่ได้รูปกลับมาเท่าไหร่ครับ เพราะแทบไม่กล้าจะควักกล้องออกมาถ่ายรูปเลย ตอนบนเกาะก็ฝนตกจนไม่ต้องหวังจะเก็บภาพอะไรกลับมาได้ ส่วนบนเรือเล็กก็ค่อนข้างแคบและกลัวกล้องจะตกน้ำ สรุปว่าวันนี้วัยรุ่นเซ็งมากครับ ก็ขอปิดท้ายวันด้วยวิวจากบนเรือใหญ่นี้เลยดีกว่า ป.ล. ภาพประกอบภายในเรือลองตามไปดูในเว็บได้ ![]() เช้าอีกวันสภาพอากาศก็ขมุกขมัวอย่างที่เห็น จะครึ้มแบบนี้ทั้งวันแต่โชคดีที่ฝนไม่ตก มาช่วงพายุเข้านี่คนชอบถ่ายรูปอย่างผมเซ็งมากครับ พอทานอาหารเช้าเสร็จเรือก็ออกเลย ริมฝั่งแม่น้ำโขงก็จะเป็นอีกแบบที่ต่างจากตอนล่องเรือทางเหนือ จะเริ่มเห็นบ้านคนแทนที่จะเป็นภูเขาเหมือนที่ผ่านมา ![]() ช่วงเช้าเราจะหยุดที่ บ้านเดือ (Ban Deua) โดยจะไปดูวิถีชีวิตชาวประมงริมน้ำโขง ซึ่งช่วงหน้าฝนเขาก็จะปลูกข้าวกัน ![]() น้องหมาลาวน่ารักทีเดียวครับ ที่เห็นนี่เหมือนเป็นเกาะขนาดใหญ่ครับ จะเป็นส่วนหนึ่งของ สี่พันดอน หรือเกาะแก่งใหญ่น้อยมากมายถึงสี่พันเกาะ ตั้งอยู่กลางลำน้ำโขงนะครับ เดี๋ยวช่วงบ่ายๆ เรือก็จะข้ามโซนเกาะนี้ไป ![]() ช่วงที่ไปนี่เขากำลังเตรียมลงกล้ากันพอดี แบบว่าเขียวได้ใจมากเลยครับ ![]() แถวนี้ก็จะเห็นวิถีชาวบ้านชัดเจน ทุ่งนาช่วงหน้าฝนนี่ก็เขียวไปหมดครับ ![]() บ้านของชาวบ้านจะเป็นถุนสูง ดูไปก็อารมณ์ประมาณบ้านแถวอยุธยา ด้านล่างก็สามารถใช้เป็นที่ทำงานหรือนอนเล่น ถ้าหน้าฝนเอาไม่อยู่ก็ปล่อยน้ำท่วมไป แค่ย้ายของไปไว้บนบ้านก็รอดแล้ว ![]() โรงเรียนประจำหมู่บ้านครับ คาดว่าช่วงนี้กำลังปิดเทอมพอดี ![]() ก็ว่าเด็กหายไปไหนหมด กำลังเกาะกลุ่มกันเล่นพอดีครับ เด็กแถวนี้น่ารักไม่ขอเงินเวลาถ่ายรูปหรือขายของ ทั้งนี้เป็นเพราะไม่ใช่หมู่บ้านที่ทัวร์ลงประจำ รู้สึกว่ามีแต่ของบริษัทผมเท่านั้นครับ เจอพวกผมก็โบกมือทักทายยิ้มแย้มอย่างที่เห็น ![]() อันนี้ก็ปลูกพืชผักสวนครัว (หอมแดง) โปรแกรมเน้นดูว่าชาวลาวเขาใช้ชีวิตชนบทกันอย่างไร ![]() สำหรับผมถ้ามีเวลาก็อยู่ได้เรื่อยๆ ทั้งวันครับ แต่ก็ต้องรีบเดินเพราะไม่อยากให้ลูกทัวร์คนอื่นรอ ![]() ช่วงบ่ายแก่เกือบเย็นเราก็ถึง หมู่บ้านโต๊ะโม๊ะ (Tomo Village) คืนนี้เราจะจอดเรือและก็นอนค้างกันที่นี่ล่ะครับ ![]() เด็กแถวนี้น่ารักและเป็นมิตรมากครับ เจอนักท่องเที่ยวก็จะคอยยกมือไหว้ตลอด ![]() ที่หมู่บ้านนี้จะมีสถานที่ลับซ่อนอยู่ครับ จะเป็นซากปราสาทขอมสมัยยุคก่อนนครวัด แบบว่าเป็นวัดขอมที่ถูกบดบังไปด้วยป่า อันนี้ต้องเดินเข้าไปแต่ไม่ไกลนัก ตามทางก็จะมีต้นไม้ใหญ่และยุงเยอะมาก ไม่น่าเชื่อฝนตกหนักเมื่อวานบริเวณโซน สี่พันดอน มาตรงนี้พื้นทางเดินแห้งสนิท จากการคุยกับชาวบ้านไม่มีฝนสักหยดครับ ถ้าตกนี่คงแย่มากเพราะทางจะแฉะมีแต่โคลนไปหมด ![]() เดินเข้ามาได้นิดเดียวก็จะเริ่มเจอซากปรักหักพัง อันนี้เป็นหินทรายแกะสลักที่ถูกตะไคร่ปกคลุมจนเขียวไปหมด ![]() อันนี้ถือเป็นน้ำจิ้มอย่างแท้จริง เพราะมีเพียงแค่ที่เห็นในรูป แต่ก็ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างขอมที่เก่าแก่มากๆ อย่างที่บอกว่าก่อนนครวัดอีกครับ ![]() เดินเหมือนอยู่ในป่าเลยครับ พอเสร็จก็พักตรงใต้หลังคาสักครู่ ถ้าฝนตกก็ยังมีที่หลบได้บ้าง ![]() ขาออกมาเหลือน้องอยู่คนเดียวครับ ตอนเดินเข้าไปผมบอกว่าจะกลับมาถ่ายรูปให้ (พอดีน้องอยากถ่ายกัน) สงสัยเข้าไปนานเกินพอออกมาเลยโดนเรียกกลับบ้านหมด ![]() ช่วงหน้าแล้งแถวนี้จะมีหาดด้วยครับ ตอนหน้าน้ำจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ บนฝั่งก็จะเป็นโคลนจนผมไม่อยากลงไปเท่าไหร่ ถ้าสภาพดีผมน่าจะได้เก็บภาพเรือแสงสุดท้ายกลับมาบ้า ![]() เห็นเมฆแบบนี้ทั้งวันถือว่าโชคดีที่ไม่เจอฝนแม้แต่น้อย ถ้าหากเป็นเหมือนก่อนนี่คงจืดสนิทเลย ช่วงนี้แม่น้ำโขงจะโล่งและกว้างมากเพราะพ้นช่วง สี่พันดอน ออกมา ![]() ช่วงคืนที่ผ่านมาได้ยินว่าฝนตกหนักมากจนหลายคนตกใจตื่น แต่ท่าทางผมคงเหนื่อยจัดจนหลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลย เช้านี้จึงได้บรรยากาศหมอกสวยๆ ลอยอยู่บนภูเขาให้เห็นอย่างนี้ ![]() ถึง วัดพู โบราณสถานอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่สุดในลาวอีกแห่ง ตรงนี้จะมีคนขับรถจากด้านหน้าไปส่งนะครับ ![]() บริเวณเชิงทางขึ้นไปยังปราสาทขอม ทางเดินก็จะมีเสาไปตลอดสองทาง ![]() ปราสาทขอมโบราณนี่ก็จะแตกต่างกันไปตามยุคสมัย อันนี้ก็จะไม่ค่อยเหมือนในบ้านเราเท่าไหร่ ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมเลยครับ มีโอกาสกลับเมืองไทยคงต้องหาเวลาไปสำรวจของบ้านเราดูบ้าง ![]() แอบสงสัยว่าคนสมัยก่อนเขาขนหินขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง รวมไปถึงงานแกะสลักต่างๆ ด้วย ![]() ภายในส่วนที่เป็นอาคารด้านล่างครับ อันนี้ผมมาเห็นภายหลังว่าเขาติดป้ายห้ามเข้า มัวแต่อยากถ่ายรูปจนเดินข้ามป้ายที่วางไว้ชัดเจนตรงประตูทางเข้า สาเหตุก็เพราะเขายังบูรณะไม่เสร็จสมบูรณ์ดี จะดูได้จากโครงไม้ที่ค้ำยันไว้ครับ เกิดมันพังเกรงว่าอาจมีอันตรายได้นั่นเอง ![]() บริเวณด้านในก็เป็นทางโล่งๆ แบบนี้ครับ กาลเวลาผ่านไปนานจนไม่มีหลังคาเหลือให้เห็น ![]() ซากหินทรายขนาดใหญ่กระจัดกระจายไปหมด ![]() เป็นทางขึ้นเนินเพื่อไปทางยอดเขา จะมีหินปูนแผ่นวางไว้ให้เดินง่ายขึ้นนะครับ เป็นทางเดินที่ชาวบ้านว่าเหมือนเป็นเกล็ดพญานาค ![]() เริ่มเป็นบันไดที่ชันขึ้นเรื่อยๆ มีปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ครับ ![]() กว่าจะถึงยอดทำเอาเหนื่อยพอควร แต่ว่ายังไม่โหดเท่ากับของนครวัดซึ่งต้องแทบจะตะกายขึ้นบันไดเลย ![]() เห็นเลยว่าขึ้นมาสูงพอสมควร แนวต้นไม้ด้านซ้ายเป็นบันไดทางขึ้น วิวแบบนี้เห็นแล้วหายเหนื่อยเลย ![]() ซูมลงไปด้านล่างครับ ![]() บ้านชาวบ้านที่มีทุ่งนาเต็มไปหมด ![]() ไกลออกไปจะเห็นแม่น้ำโขงอยู่เบื้องหน้า ![]() ตัวเทวสถานด้านบนครับ จะเห็นรูปแกะสลักอยู่รายรอบ ![]() เห็นแล้วตื่นเต้นเลยนะครัช อารมณ์ประมาณเดินในหนัง Tomb Raider ![]() ลองทำเป็นขาวดำดูบ้างเปลี่ยนบรรยากาศ ![]() ภายในจะมีพระพุทธรูปอยู่ครับ ![]() หินที่นักท่องเที่ยวและชาวลาวเอามาซ้อนกัน ตอนแรกผมนึกว่ามีแต่วัฒนธรรมชาวตะวันตกครับ แต่อันนี้ไกด์บอกว่าจะซ้อนกัน 7 ก้อน ประมาณว่าเหมือนสวรรค์เจ็ดชั้นนั่นเอง ![]() ถึงเรือก็ทานข้าวเที่ยงเป็นมื้อสุดท้ายครับ ลูกทัวร์คนอื่นจะต่อเรือหางยาว (ลำใหญ่กว่าวันก่อน) ย้อนไปปากเซ แต่ผมต้องรีบขึ้นเครื่องที่อุบลฯ เลยต้องแยกมาก่อน โดยนั่งรถจากตรงนี้จะประหยัดเวลาไปสองชั่วโมงทีเดียว ![]() จากตรงนี้ไปราวชั่วโมงก็จะไปถึงชายแดนช่องเมก แล้วต่อรถฝั่งไทยไปอีกชั่วโมงเศษก็ถึงสนามบิน ก็เลยขอจบทริปแต่เพียงเท่านี้นะครับ ขอถือโอกาสขอบคุณทุกคนที่หลงมาร่วมล่องแม่น้ำโขงของลาวเหนือและใต้ไปด้วยกัน ที่ขาดไม่ได้ก็โครงการ KTC Real Team และ Mekong Cruises - //www.mekongcruises.com - ที่สนับสนุนการเดินทางครับ ![]() ขออภัยไม่มีภาพเรือและบนเรือสวยๆ มาเลยครับ อันนี้มีโอกาสกดตอนแยกทางกลับออกมา ตอนแรกก็กะว่าจะไม่เอาลงเหมือนกันเพราะถ่ายมาไม่ค่อยถูกใจ แต่อยากบอกว่าเป็นทริปเรือที่ประทับใจและอยู่สบายฝุดๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปแก้มือในวันที่อากาศดีอีกครั้งเหมือนกัน ยังไงฝากตามข่าวกันที่ FB เพจของผมได้นะครับ (จะอัพเดทตลอด) ขออนุญาตเรียนเชิญตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ //www.facebook.com/warodomphotography //www.instagram.com/warodomphotography สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทริปนะครับ //www.ktc.co.th/ktcworld/Detail/index.htm?_contentID=UCM_CLUSTER1-060746#sthash.uZ3zbvvh ![]() ![]() ![]() |