เจียมตัว ....รู้จักตน ... บนพอเพียง รู้พอจึงอยู่เหย้า...............ยังเรือน มองฝ่าเปลวแดดเสมือน..........ดั่งเชื้อ โลมแผดแดดสาดสะเทือน......ทุกข์เร่ง...ร้อนนา ยอจิตพิศเอื้อเฟื้อ.................ฝากไม้ชายกรุง ฯ tiki_ทิกิ ณ คืนพระอาทิตย์ แรม ๗ ค่ำเดือนสี่ ปีฉลู เพลา ตีสาม กับอีก ยี่สิบห้านาที ๗ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๕๕๓ เมือง สยาม ราชอาณาจักรไทย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 03:23:45 source:- //www.pantip.com/cafe/writer/topic/W8959046/W8959046.html ตอนนี เข้าเว็บรวมพันทิป ได้แล้ว
แต่เข้า คาเฟ่ เพื่อเข้าห้องสมุด หรือ ห้องอื่น ยังไม่ได้ ![]() โดย: tiki_ทิกิ
![]() โย้วววว
เข้าถนนนักเขียนพันทิปได้แล้วค่า ดีใจจังเลย ![]() โดย: tiki_ทิกิ
![]() สวัสดีค่ะ แว้บมาอ่านกลอน
เรือนคุณย่า น่าดูชม เป็นอาศรม พักกายใจ ช่วยแก้เหงา คนเดียวดาย ให้ตะกาย พ้นจากทุกช์ร้าว แค่ให้คำมันคล้องจองก็ยากซะแล้วอะค่ะ วันหลังจะลองใหม่ ขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจนะค่ะ แต่รู้ละเวลาเราไม่ตรงกัน พี่ปรากฏหลังเที่ยงคืนเสมอ ส่วนหนู คัอกฟี้กอดลูกตั้งกะสี่ท่มแล้ว สบายดีนะค่ะ เรือนคุณย่า คงอบอุ่นน่าดู โดย: ปันฝัน
![]() |
บทความทั้งหมด
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
เป็นกลอนที่แต่งได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ
เนี่ยถ้าคุรกะทิเกิดในสมัยก่อน ผมว่าคุณกะทิต้องโดนสุนทร ๓ จับไปเป็นเมียแน่ ๆ เลยครับ ในข้อหาที่แต่งกลอนได้เก่งเกินหน้าเกินตาครับ
(โห ... มันเวอร์ไปไหมเนี่ย?)
ผมอ่านแล้วก็มาสะดุดกับบทที่ว่า
" ที่มืดดำ ค่อยกลาย คลายอึมครึม "
ผมอ่านเป็นว่า ...
" ที่มืดคล้ำ กลับกลาย คล้ายอกอึ๋ม "
จริง ๆ นะครับ
ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ
อิอิ