Andy Murray กับเส้นทางที่ยาวไกล
สวัสดีครับแฟนๆ ราฟาทุกท่าน ช่วงนี้แฟนๆราฟาคงเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่ได้เห็นราฟาจับแรกเกตบนคอร์ดได้อีกครั้ง ถ้าย้อนไปภาพสุดท้ายที่เราเห็นราฟาตีเทนนิส คงต้องย้อนกันไปนานถึงกลางปีที่ผ่านมา และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราคงได้เห็นราฟากลับมาลงแข่งอีกครั้งในปลายเดือนธันวาคมนี้ เรื่องผลการแข่งขันในแมตซ์ที่ราฟากลับมาลงแข่งคงไม่สำคัญเท่ากับที่เราจะได้เห็นว่า การกลับมาของราฟาครั้งนี้ จะเป็นอย่างไร ร่างกายของราฟาจะฟิตเปรี๊ยะ แข็งแกร่ง เหมือนเดิมไหม๊ ...เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากๆ 

ส่วนบล็อคนี้คุณหมูทองก็ให้เกียรติเราเหมือนเคย แต่ครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวของน้องแอน เพื่อนรักราฟาอีกคน ที่ปี ๒๐๑๒ ที่ผ่านมา น้องแอนได้พิสูจน์ให้พวกเราเห็นถึงความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ ฝีไม้ ลายมือ ที่เทียบชั้นใกล้เคียงกับสามเทพ (ขอรวมโนลไปด้วย) เดี๋ยวเรามาฟังกันว่าน้องแอนทำเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ได้อย่างไร และต่อจากนี้ทิศทางการเล่นเทนนิสของแอน จะเป็นอย่างไร คอยติดตามได้จากบทวิเคราะห์ของคุณหมูทอง ซึ่งคาดว่าจะออกมาเร็วๆนี้ครับ



ราฟาลงซ้อมครั้งแรกตั้งแต่กลางปี ๒๐๑๒



น้องแอน ปลดล็อคแล้ว



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2555 0:13:50 น.
Counter : 1739 Pageviews.

15 comments
  
ก่อนรออ่านบทความดีๆจากคุณหมูทอง ขอสวัสดีปีใหม่แฟนๆราฟาทุกท่านนะค้า ขอให้สุขกายสบายใจตลอดไปนะคร้า

ขออัพเดทข่าวราฟาหน่อยนะ บางท่านอาจจะรู้กันแล้วว่าราฟาได้รับการโหวตเป็นนักเทนนิสชายที่เซ็กซี่ที่สุดสำหรับฤดูกาล 2012 (ราเฟเข้าไปโหวตให้ราฟาด้วยจร้า) ส่วนฝ่ายหญิงคือ มาเรีย ชาราโปว่า

แล้วอีกเรื่องนึง คือมีหมอดูคนนึงทำนายว่า ราฟาจะกลับมายิ่งใหญ่ในวงการเทนนิสได้อีก จะป้องกันแชมป์ French Open ได้ (สมพรปากเทิ้ด สาธุ) ในปี 2014 จะกลับมาอยู่ใน top three ได้ และอาจมีสิทธิ์ขึ้นถึงมือ 2 หรือ 1 ก็ได้

หมอดูยังบอกอีกว่า นอกจาก FO แล้ว ราฟายังสามารถชนะ GS อื่นได้ด้วย และจะได้อีกอย่างน้อย 4 GS

ในปี 2015 (อีก 2 ปีเองอะ) ร่างกายราฟาจะเริ่มถดถอย ราฟาอาจเลิกล้มความคิดในการลงแข่งโอลิมปิค และอาจรีไทร์จากวงการเทนนิสไป (เศร้าอ่า)

credit: nou.amic, vb.com
โดย: ราเฟ IP: 110.168.236.167 วันที่: 6 มกราคม 2556 เวลา:23:17:31 น.
  
เรื่องหมอดูทำนายราฟาเข้าไปอ่านได้ตามเวบนี้

//www.dnaindia.com/sport/column_octozone-rafael-nadal-will-make-a-stunning-comeback_1785645
โดย: ราเฟ IP: 110.168.236.167 วันที่: 6 มกราคม 2556 เวลา:23:20:31 น.
  
ขอบคุณคุณราเฟ ที่มาช่วยอัพเดทข้อมูลราฟา ตอนนี้ก็ต้องพึ่งหมอดูนี่แหละ สบายใจ...คิดถึงราฟาจะแย่

เรื่องถัดมาก็ต้องขอโทษแฟนๆอย่างหนักที่ปล่อยให้รอคอย เขียนไม่จบสักที แต่อยากจะบอกว่า เทนนิสที่ไม่มีราฟาเนี่ย เฉาสุดๆ ไม่อยากทำอะไรเกี่ยวกับเทนนิสเลย ดังนั้นกว่าจะปั้นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของราฟามาได้ มันก็เลยหนืดเป็นตังเม

ไม่ว่าอย่างไร เราก็ขอให้ปีงูเล็ก 2556 เป็นปีที่ดีของราฟาและแฟนๆราฟาทุกคน มีความสุข สมหวัง สุขภาพกายใจแข็งแรง สมบูรณ์
ด้วยรักจากใจ
หมูทอง

โดย: หมูทอง IP: 125.25.38.39 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:0:09:39 น.
  
Andy Murray กับเส้นทางที่ยาวไกล
23 Mar 2009 and 30 Dec 2012

หมูทองต้องขุดเอาเรื่องราวของมารีย์ที่เขียนๆไว้ตั้งแต่ปี 2009 ขึ้นมาปัดฝุ่น เนื่องจากในปีนี้ราฟาหายหน้าไปจากวงกาถึงครึ่งปี ทำให้เฟดและมารีย์ได้มีโอกาสรุ่งพุ่งแรงแซงโค้งขึ้นมา…โดยเฉพาะมารีย์ที่ต้องเดินทางบนเส้นทางที่แสนยาวไกลกว่าที่ความฝันจะเป็นจริงในปีนี้ 2012 ขอแสดงความดีใจด้วยจริงๆ หมูทองขอเล่าเรื่องราวความมานะ พยายามและรักที่จะยืนหยัดอยู่กับเทนนิสของหนุ่ม สก๊อตคนนี้ให้แฟนๆเทนนิสได้รู้จักมากขึ้น

มารีย์เกิดในกลาสโกว สก๊อตแลนด์ มีสายเลือดเป็นนักกีฬาพอควรทีเดียว ตาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ มารีย์และพี่ชายเป็นนักเทนนิสอาชีพ มารีย์มีชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์นักคุณพ่อ คุณแม่แยกทางกันตั้งแต่มารีย์อายุแค่ 9 ขวบ มารีย์กับพี่ชายเจมี่อยู่กับพ่อ เรียนหนังสือที่ Dunblane จนอายุ 15มารีย์ก็เลือกที่จะเอาดีทางเทนนิส (ไม่ใช่ฟุตบอลที่ตัวเองก็มีฝีมือเหมือนกัน) จากนั้นมารีย์ก็ย้ายไปอยู่ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปนซึ่งเป็นที่ที่มารีย์ได้เจอกับราฟาเป็นครั้งแรกตอนไปซ้อมเทนนิสคอร์ดดินที่ Sánchez-Casal Academy มารีย์เรียนหนังสือไปพร้อมๆกับเรียนเทนนิส จนมา ตอนอายุ 16 ก็พบว่าตัวเองมีปัญหาที่กระดูกหัวเข่าและเจ็บรบกวนอยู่ตลอด แต่มารีย์ก็ตัดสินใจที่จะเป็นนักเทนนิสอาชีพอย่างจริงจังเหมือนพี่ชาย

แม้ว่ามารีย์จะเกิดปีเดียวกับโนล เดือนเดียวกับโนล คือ May 1987 แต่เกิดก่อนโนลเพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น แต่เส้นทางสายอาชีพนักเทนนิสของมารีย์กับโนลแตกต่างกันพอสมควร ตอนที่โนลอายุ 20 ปี เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาในปี 2007 ทุกคนจับตามองโนลว่าเป็นเด็กมีฝีมือ แม้ว่าโนลยังห่าม…มั่น อีโก้เพียบ ยังเป็นเด็ก เป็นเพชรที่ไม่ได้เจียรนัย ในยุคนั้นไม่มีชื่อใครอื่นนอกจากสองเทพเทนนิส เฟด-ราฟา ราฟา-เฟด แต่โนลก็สร้างเรื่องฮือฮาแทรกแหวกข่าวหน้าหนึ่งวงการกีฬาได้ คือการได้เข้าชิง USO-07 กับเฟด ที่อายุห่างกัน 6 ปี แม้ว่าโนลจะแพ้เฟดแต่ทุกคนก็รู้ว่าโนลจะเป็นดาวเด่นในอนาคต และอนาคตนั้นก็ไม่นานเกินรอเลย เพราะใน GS ต่อมา โนลก็ล้มเฮียเฟดใน AO-08 รอบ SF แล้วก็ไปได้แชมป์ GS แรกของตัวเองโดยการเอาชนะซองก้าที่ล้มราฟามาเช่นกัน

…วันนั้นโนลดูยิ่งใหญ่ จนถึงขนาดครอบครัวโนลขึ้นป้ายบอกว่า “ The king is dead, the new King is born ” ประมาณว่าเฮียเฟดซึ่งถือเป็นเจ้าแห่งเทนนิสอยู่ในตอนนั้น โดนลูกชายของพวกเค้าโค่นแล้ว และนั่นคือตอนต้นปี 2008…ณ.ตอนนั้น โนลลอยฟ่องขึ้นไปเหมือนลูกบอลลูนที่ดูเด่นเป้นสง่า อหังกา แต่มันก็มันก็อยู่ไม่ได้นานเพราะในปีนั้น ปี 2008 พอเข้าฤดูกาลคอร์ดดินขื่อของโนลก็หายไปในกลีบเมฆ และจริงๆแล้วปีนี้เป็นปี Break Through ของราฟา ที่เก็บแชมป์คอร์ดดินตามปกติ รวมทั้ง FO-08 และก็มาหยุดโลกด้วยแม็ทช์สุดยอดแห่งประวัติศาสตร์วงการเทนนิสชาย WB-08 นัดชิงกับเฮียเฟด ราฟาได้แชมป์ Chanel Champion FO-WB 08 แล้วยังต่อด้วยเหรียญทองโอลิมปิคเทนนิสชายเดี่ยว และมือ 1 ของโลก....ส่วนโนลที่มาวูบวาบตอนต้นปีก็รั้งตำแหน่งมือ 3 เหมือนเดิมเมื่อปี 2007 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ในระหว่างปี 2007-08 ที่โนลโดดเด่นขึ้นมา มารีย์ก็ยังหลบใน ไม่มีใครรู้จักมากนัก และไม่สามารถแทรกตัวผ่ากระแสดาราพาดหัวข่าว ที่ยังคงเป็น เฟด-ราฟา ราฟา-เฟด โดยมีตัวสอดแทรกคือโนลได้เลย แม้ว่าตอนปลายปี 2008 มารีย์จะล้มราฟาได้เข้าชิง USO-08 (เนื่องจากราฟาหมดแรง เหนื่อยมากๆ จากการแข่งติดๆต่อเนื่องและได้แชมป์ FO-WB-Gold Olympic ต่อเนื่อง) ในนัดชิงกับเฮียเฟด..มารีย์คงตื่นสนาม ขาดประสบการณ์เลยแพ้ขาด ทำให้ไม่ติดกระแสความดังอีก ทั้งๆที่ก็ได้เข้าชิง GS ตอนอายุ 21 ปี ความจริงต้องถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง…แต่สำหรับกระแสมารีย์เรียกว่า “นิ่งสนิท”

หมูทองดูมารีย์เล่นเทนนิสมานานตั้งแต่ 2007 พร้อมๆกับโนล และจัดให้อยู่ในกลุ่มดาวรุ่งเหมือนกัน จำได้ว่าสนใจพัฒนาการเทนนิสของโนล แต่เบื่อคุณน้องมารีย์สุดๆ ในความขี้บ่น ขึ้หงุดหงิด งุ่นง่าน เหมือนคนไม่มีความสุข ความพอใจในตนเองและสถานการณ์รอบข้าง แม้ว่ามารีย์จะเป็นนักเทนนิสฝีมือดี ground stoke แน่นแต่หนูก็เป็นพวกเครื่องร้อนช้ามากๆๆๆๆๆ (ว่าราฟาช้าแล้ว แต่มารีย์นี่อึดสุดๆ) ดูเทนนิสของมารีย์แล้วอึด..อึดอัด (สุดๆ)

คาดว่าทีมงานโค้ช่ของมารีย์คงศึกษา Pattern / Style เทนนิสและการพัฒนาก้าวหน้าของราฟาพอควร แล้วนำมาปรับเกมเทนนิสของมารีย์ที่เป็นแนว Defensive Style เหมือนกัน แต่ที่มันยากคือ ราฟาเป็น Defend ที่เปลี่ยนเป็น Offend ได้อย่างไม่รู้ตัว นึกว่ารับอยู่กลายเป็นบุก ราฟาเป็นแนวเน้นชัวร์ ไม่เสี่ยงตอนไม่แน่ใจ แต่กล้าที่จะบุกเมื่อจำเป็นและได้โอกาส แต่มารีย์เน้นเกมรับอย่างเข้มข้น รอให้คู่ต่อสู้ตีเสียเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยกล้าบุก กล้าเสี่ยง…และเรื่องยากที่สุดคือการควบคุมจิตใจเวลาอยู่ในเกมการแข่งขันที่กดดัน มีแต่ความคาดหวังจากทุกคนรอบข้าง เช่น GS, Olympics
โดย: หมูทอง IP: 125.25.38.39 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:0:12:49 น.
  
(ต่อ)

จากนั้นมาในปี 2009....ส่วนตัวแปลกใจความสามารถของทีมโค้ช และที่งว่าสามารถปรับปรุงเรื่องสมาธิ ลดความขี้หงุดหงิดของมารีย์ได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนให้นู๋แอนดี้ มารีย์เพิ่มทักษะเทนนิสได้อย่างมหาศาล แต่อย่างไรก็ตามเรื่องที่เป็นภายในจิตใจ ภายในตัวเรา เป็นเรื่องเปลี่ยนยาก มันจะเผยตัวตนออกมาตอนที่เราถูกกดดัน อยู่ในสภาวะคับขัน ตัวอย่างเช่น การเล่นรอบชิง IW-09 ในวันที่ต้องเจอสถานการณ์ไม่ปกติ คือ ลมแรงมากควบคุมไม่ได้ แอนดี้ก็หลุดธาตุแท้ คือ หงุดหงิด บ่นโน่นนี่เหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมจะเห็นว่ามารีย์มีทัศนคติที่อยากเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองดีขึ้น ทำให้มองเห็นศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นนักเทนนิสชั้นนำของโลกได้ และมารีย์ควรเล่นเทนนิสได้ระดับเบียดเข้าไปแย่งชิงพื้นที่ของสองเทพ เฟด-ราฟา ได้เช่นเดียวกับโนล แฟนๆเทนนิสก็พร้อมจะเทใจให้นักเทนนิสหนุ่มชาวสก๊อตคนนี้อยู่แล้ว เพราะความมานะพยายามในการพัฒนาตัวเอง

หมูทองได้ไปอ่านความคิดและ comment ของ Mats Wilander หลังจากที่มารีย์เอาชนะ Federer ได้เป็นครั้งที่ 3 ในการแข่งขันรอบ SF ที่ Madrid, Oct 08 ซึ่งน่าสนใจดี

"Andy Murray is the next most dangerous player for Federer and Nadal because he's much smarter than Djokovic and has a bigger repertoire," Wilander said. "He's not as powerful as Djokovic and he doesn't move as well as Djokovic, but I think but he will play the game that his opponent hates. Whereas Djokovic still has that pride inside him where he's "the specimen”

" Personally Murray is more like me. I'm not "Mats Wilander, a big player..." I'm the guy that's gonna be a pain in the ass when you play me. I don't care if people recognize me or not, of course it's nice when they do, but that's not why we play tennis. Murray enjoys the problem solving."

"(Making) the name "Andy Murray" (doesn't matter as much to him) he'll play under Joe Schmo it doesn't make a difference to him. He's not trying to label himself as some image. The other three — Nadal, Federer and Djokovic — are like super heroes and Andy Murray is just tennis player ”…. Wilander said.

น้า Mats อาจจะรู้สีกว่ามารีย์วางตัวคล้ายๆกับตัวแกเอง คือเล่นเทนนิส เน้นที่ผลงานและถ้วยแชมป์ ไม่ค่อย marketing ทำแบรนด์ตัวเองเท่าไหร่...ไม่สนใจภาพพจน์นัก แกลงเล่นในนามนาย ก. นาย ข. ก็ได้ชื่อไม่สำคัญ (เว่อไปนิ๊ดดด นะน้านะ ) ไม่เหมือนพวกเฟด ราฟา โนเล่ ที่ต้องทำ Branding ไปพร้อมๆกับตีเทนนิส มารีย์สนใจในการแก้เกมเทนนิสให้ชนะ มากกว่าทำการตลาดให้ตัวเอง....แต่ชอบตรงที่วิเคราะห์ว่า มารีย์จะเล่นเกมเทนนิสที่คู่ต่อสู้เกลียด ไม่อยากเล่นด้วย ทำให้อึดอัด...(ท่าจะจริง ขนาดคนดูยังอึดอัดเลย) น้า Mats แกชอบของแกมาก...แต่ก็เหมือนเป็นรองราฟาหน่อยหนึ่ง

ถามว่าแอนดี้รู้สึกเหมือนที่น้าแม็ทว่ามาหรือเปล่า หมูทองก็ไปเอาสัมภาษณ์หลังชัยชนะเฟด เป็นครั้งที่ 6 ที่ IW, Mar 09 ( ระหว่างทางแอนดี้ชนะเฟดที่ Master Cup 08 และเมื่อต้นปีนี้ที่ Doha 09 ด้วย)

ANDY MURRAY: Well, the one thing I tried to explain to a few people, like a year or so ago, is that, you know, people say, Oh you play very defensively. You didn't hit the ball particularly hard all the time, or whatnot. You lose a lot of matches by letting guys sort of dictate the points.

But you know, trying to explain that there's more than one way of dictating points. It's not just going for big, booming serves all the time and huge forehands. If you change the pace with the ball a lot, you know, and mix it up, you know, make your guy - I'm playing the match how I want it to go.

If I started trading big groundstrokes with someone like Federer, I think he likes that. I haven't done it against him, and I don't do it against many people. That's my game style. Very rarely do I lose matches having let the other guy play his natural game.”

ช่วงท้าย่ของคำให้สัมภาษณ์ ทำให้คิดว่าน้า Mats แกเจ๋งนะ อ่านใจมารีย์ถูกว่าจะสร้างสรรเกมที่ทำให้ชาวบ้านเค้าตีเทนนิสลำบาก (หรือเบื่อที่จะตีด้วย ก็ไม่รู้) ทำให้คนอื่นอึดอัด ไม่เป็นธรรมชาติ จะไม่เล่นในเกมที่คู่ต่อสู้ชอบ...พูดง่ายนะแต่ทำยากเพราะอาวุธมันต้องครบเครื่อง แล้วก็ต้องใช้สมองเยอะ วางแผนดี ประกอบกับต้องอดทน เหนียว อึดวิ่งทน หรือจะพูดอีกที สไตส์เทนนิสของมารีย์ก็มีกลิ่นอายของสไตส์ราฟาแต่เป็นคนละ version และในปี 2009 มารีย์ได้พัฒนาเทนนิสขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังรอการพิสูจน์ผลลัพธ์ระดับถ้วยใหญ่ระดับ GS ที่มารียืยังไม่เคยได้เลย

จนเข้ามาถึงปี 2010 มารีย์ก็ยังไม่ได้แชมป์ GS สักถ้วย ความกดดันมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมารีย์เป็นความหวังเดียวของคนอังกฤษ ที่จะทำให้ UK มีชื่อนักเทนนิสระดับแชมป์ GS กับเค้าบ้าง จำได้ว่าหมูทองถึงกับต้องลงมือเขียนบทความนี้ไว้หลังจากดูแม็ทช์ของมารีย์เล่นรอบ 3 ที่ USO10...และอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ?
โดย: หมูทอง IP: 125.25.38.39 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:0:15:46 น.
  
(ต่อ)

" เหตุเกิดเมื่อคืนวันอาทิตย์..5 Sep 10 "

การแข่งขันเทนนิสแกรนสแลมสุดท้ายของปี USO10 รอบสามที่ Flushing Meadows, N.Y.ระหว่าง Andy Murray มือ 4 ของโลก กับ Stanislas Wawrinka มือ 25 ชาวสวิสเซอร์แลนด์ จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของมารีย์ความหวังสูงสุดของชาว UK/Scot ว่าจะเป็นมือ 1 ของโลกคนถัดไปและเป็นเต็งจ๋าแชมป์ USO10 ร่วมกับ Roger Federer ด้วยสกอร์ 3:1 เซ็ต 7-6 (3), 6-7 (4), 3-6, 3-6.

เหมือนว่ามารีย์จะประมาทสตานไปหน่อยในช่วงเซ็ตแรก มารีย์รู้สึกตัวช้า ว่าที่ตัวเองได้เซ็ตแรกไทร์เบรกมานั่นมันโชคช่วยด้วย มันล่อแหลมมาก มารีย์ลืมนึกไปว่าวันนี้สตานเล่นได้ดีมากๆ เพราะเซ็ตสองเริ่มมาก็ดันเบรกสตานได้อีก มารีย์รู้สึกว่าตัวเองควบคุมเกมได้ เพราะนำเซ็ตสองมาถึง 5 : 3 แล้วสมาธิมารีย์ก็หลุดกระเด็น สตานเบรกคืนได้...มันก็แค่เบรคเดียว ดังนั้นก็ต้องไปวัดกันที่ไทร์เบรก คราวนี้สตานโชคดีได้เซ็ตบ้าง หมูทองคิดว่ามารีย์คงจะรู้สึกงงๆว่าทำไมวันนี้ BH cross court & down the line ของสตานมันสวยอย่างงี้ ทำได้งัยเนี่ย…. ทั้งๆที่สตานเป็นหนึ่งในคนที่มี BH มือเดียว เจ๋งสุดๆคนหนึ่งในทัวร์ เหมือนโนเล่ เหมือนตัวมารีย์เอง ต่างกันที่มือ 3 มือ 4 ของโลกใช้ BH สองมือ

มารีย์อาจกำลังมั่นใจตัวเองว่าฟอร์มเข้าฝัก เล่นได้ดี เพิ่งซัดราฟากับเฟดมาที่ Toronto นั่นมันฟอร์มเทพเลยนะ แต่พอสถานการณ์เสมอกันที่ 1-1 เซ็ตได้ TB ไปคนละเซ็ต มารีย์เริ่มหงุดหงิดอย่างมากมาย..หงุดหงิดกับกรรมการที่ชอบจับ foot fault ตัวเอง (รวมแล้ว 4 ครั้งได้) หงุดหงิดกับคนดูที่ส่งเสียงเชียร์สตานดังลั่น...งงมั้ง อาจเป็นเพราะสตานตั้งใจเล่นเทนนิสสุดชีวิต ก้มหน้าก้มตาเล่นให้ดีที่สุดไป ไม่มีอารมณ์เสียให้ขัดใจแฟนๆ

สิ่งที่เห็นคือ พอมารีย์หงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจตัวเอง แกก็จะหลบเข้าไปใน comfort zone ของตัวเองคือการตั้งรับอย่างเดียว ไม่เล่นบุกเหมือนว้นเล่นชนะราฟา ชนะเฟด...ไม่ใช่มารีย์ไม่ตั้งใจ ไม่สู้นะ แกพยายามจะหาทางกลับมาในเกมของตัวเอง อาจจะใช่ที่สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย แต่สตานก็ไม่ร้อยเช่นกันและดูจะหนักกว่าด้วย...ตอนปลายเซ็ตสาม สภาพก็เยินด้วยกันทั้งคู่ แต่ที่มารีย์เยินกว่าคือ “ใจ” แกให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนี้

"In the third and fourth sets I said, yeah, I was struggling physically and I got frustrated with that. But I haven't been in that position for a very long time. You know, maybe I felt like my chance of doing well here was slipping away. I've worked very hard to give myself a chance of winning tournaments. You know, when I was struggling physically, I got disappointed. But, I'm sorry, that happens."

หลังจากนั้นมารีย์ก็ไล่โค้ช Miles Maclagan ที่ช่วยปรับเกมของมารีย์มาเป็นปีๆ ออกไป...คงสบายใจขึ้น แกมีโค้ชเสริมคือ Alex Corretja ที่มีประวัติคล้ายๆมารีย์คือเป็นรองแชมป์แกรนสแลม 2 ครั้ง(French Open 1998 and 2001) แล้วก็เป็นมือสูงสุดคือ มือ 2 ของโลก...ตอนนี้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ตามให้กำลังใจมารีย์ตลอดทุกแม็ทช์การแข่งขัน คือคุณแม่ Judy เธอก็คงเหมือนเจ๊เมียร์ก้าของเฟดที่รู้จักนักกีฬาของเธอดีที่สุด...งานใหญ่ของเธอในตอนนี้คืองาน “ซ่อมใจ” ของมารีย์

ถ้าเรามองดูชัยชนะครั้งนี้ของสตานที่พลิกล๊อคล้มมือ 4 ของโลกครั้งนี้ คงต้องให้เครดิตโค้ชของแกด้วย Peter Lundgren ซึ่งเคยเป็นโค้ชของเฟด ที่ทำให้เฟดมีหัวใจแห่งชัยชนะได้....ซึ่งมันแลกมาด้วยความอดทน อดกลั้น รอคอยจังหวะเวลา สุขุมมีกลยุทธในการบุกคู่ต่อสู้...ตลอดเวลา ตลอดแม็ทช์จนจบการแข่งขัน

และไม่ว่าอย่างไรก็ตามหมูทองชอบมารีย์นะ ชอบการเป็นผู้ไฝ่เรียนรู้ ตั้งใจพัฒนาตัวเอง ตอนนี้มารีย์ทำได้สำเร็จในด้านเทคนิค เกมเทนนิส.....เปรียบก็เหมือนมารีย์เป็น “เด็กเรียน” ก็เรียนเก่ง เป็นนักเทนนิสก็เป็นนักเทนนิสที่เก่งกาจ แต่การจะเป็นสุดยอดในศาสตร์อะไรก็แล้วแต่ คุณต้องเดินทางไปถึงระดับ ”การพัฒนาระดับของจิตใจ” ไม่งั้นก็ไปไม่ถึงดวงดาว ได้เป็นแค่ "พระรอง"

ในตอนนี้มารีย์ยังไม่ค้นพบความลับอันนี้ เพราะฟังจากคำตอบของแก ตอนโดนคำถามเรื่องจะได้แกรนสแลมไหม๊เนี่ย ?

"I have no idea of whether I'll win a Grand Slam or not. You know, I want to. But, you know, I mean, if I never win one, then what? If I give a hundred percent, try my best, physically work as hard as I can, practice as much as I can, then that's all I can do, you know."

อยากเข้าไปกระซิบข้างหูคุณน้องมารีย์เหลือเกินว่า อยากได้แกรนสแลมมากเหลือเกิน แล้วตั้งใจซ้อม...ซ้อมเทนนิส...ซ้อมหนัก..หนักมาก มันก็ไม่พอสำหรับการเป็นแชมป์เปี่ยนส์ ขอเป็นกำลังใจให้มารีย์ หวังว่าวันหนึ่งเธอจะค้นพบความลับของการเป็นแชมป์เปี้ยนว่าอยู่ใกล้มาก อยู่ภายในใจตัวเอง และไม่ยากถ้าน้อมใจลงฟังเสียงหัวใจตัวเอง ”
โดย: หมูทอง IP: 125.25.38.39 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:0:20:24 น.
  
ยังไม่จบนะจ๊ะ ต้องขอมาต่อตอนปี 2011-12 อีกนิ๊ดเพือ Landing ตอนมารีย์ breakthrough
ตอนนี้คนเขียนหมดแรงข้าวต้ม..
โดย: หมูทอง IP: 125.25.38.39 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:0:25:01 น.
  
คิดถึงราฟา คิดถึงราฟา รอคอยเธอมาแสนนานนนทรมานดวงใจหนักหนาาาา
โดย: อ่อน IP: 58.186.220.112 วันที่: 8 มกราคม 2556 เวลา:22:25:35 น.
  
จากเฟสบุคราฟา
ราฟาจะลงแข่งเทนนิสวันที่ 4 ก.พ. ที่ชิลี

ดีใจอะ จะได้เห็นราฟาซักที แต่ทรูจะมีถ่ายทอดมั้ยเนี่ย

ปล. เทนนิสที่ไม่มีราฟา เหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีดวงอาทิตย์
โดย: ราเฟ IP: 58.8.69.151 วันที่: 18 มกราคม 2556 เวลา:17:03:58 น.
  
(ต่อ)

จากผลงานการเล่นเทนนิสของมารีย์ที่ครองมือ 4 ของโลกจากปี 2008-2011 ถึง 4 ปีเต็มๆ ซึ่งก็ไม่ต่างจากโนลที่ครองมือ 3 ของโลกจากปี 2007-2010 เพียงแต่มารีย์มาเก่งช้ากว่าโนล 1 ปีเต็มเท่านั้น ทบทวนความจำกันนิด…
ในปี 2008 ให้ชื่อว่า “ ราฟาแซงโค้งข้ามหน้าเฮียเฟด ” ด้วยการล้มเฮียบนคอร์ดหญ้าที่เป็นคอร์ดถนัดสุด ในแม็ทช์ชิงแชมป์ WB08 ซึ่งถือเป็นแม็ทช์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เทนนิสชาย ราฟากลายเป็นพระเอก ด้วยการได้ Channel Slam FO-WB 2008 ต่อจากบียอร์น บอร์ก ที่ทำได้ถึง 3 ปีซ้อนเมื่อปี 1978-1980 หรือห่างถึง 28 ปี จากนั้นราฟาก็ยังได้เหรียญทองโอลิมปิค และแย่งมือ 1 ของโลกจากเฮียเฟดที่ถือครองมา 4 ปีต่อเนื่องอีกด้วย ปี 2008 จึงถือว่าเป็นปี Breakthrough ของราฟาจาก King of Clay เป็น King of Tennis

พอมาถึงปี 2009 ถือว่าเป็นปี “การกลับมาของเฮียเฟด” เพราะราฟาเข่าเดี้ยงแพ้โซเดอ ริ่งใน FO09 ถอนตัว WB09 ทำให้เฮียเฟดกลับมาเก็บทั้งสองสแลมนี้ไปอย่างง่ายดาย ได้ Channel Slam และ Career Slam หลังจากรอคอยแชมป์ FO เพราะติดราฟามาอย่างยาวนาน

ในปี 2010 เป็นปี “ พระเอกราฟากลับมาแล้ว” ราฟาได้ 3 GS คือ FO-WB-USO 2010 ติดกัน และเป็นเพียง 7 นักเทนนิสชายในโลกเท่านั้นที่ได้ Career Slam ต่อจากเฮียเฟด..ปีนี้ราฟาครองซีน “พระเอก” เป็นเต็มๆ และการเล่นเทนนิสของราฟาก็ดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ทุกพื้นผิว แต่โลกนี้มันก็ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่จีรังยั่งยืน เพราะในปี 2011 ที่ราฟาก็ยังคงเล่นเทนนิสได้ดีนั้น ราฟาก็มีคู่ต่อสู้ตัวเอกที่ไม่ต้องการยืนอยู่ที่ 3 อีกต่อไปแล้ว ปี 2011 จึงเป็นปี “Break Through ของโนล” ที่พิเศษสุดเนื่องจากโนลปราบราฟากับเฟดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เก็บไป 3 GS และตีเทนนิสแบบยอดเยี่ยมกระเทียมดองตลอดทั้งปีจนสถิติติดอันดับระดับเข้าไปวัดกับสถิติของป๋าแมคในปี 1984 แล้วโนลแพ้ไปเฉียดฉิว เนื่องจากโนลหมดแรงข้าวต้ม มีแผ่วตอนปลายปีเล็กน้อย

สถิติของโนล vs แมคเอ็นโรที่ต้องจดบันทึกคือ 2011 vs 1984 (ห่างกัน 27 ปี), ชนะรวดตั้งแต่ต้นปีมา 41-0 vs 42-0, ถ้วยแชมป์ทั้งปี 10 vs 13 แชมป์, W-L 70-6 vs 82-3 เป็นต้น แต่ในเทนนิสยุคศตวรรษ 21 นี้ ก็เป็นที่รู้กันว่าผลงานทั้งปีที่ยอดเยี่ยมของโนลแบบปี 2011 เป็นเรื่องเหลือเชื่อและน่าจะเกิดขึ้นได้ยากมากๆ โดยเฉพาะเกิดขึ้นในยุดที่สองเทพเทนนิสเฟด-ราฟายังเล่นเทนนิสอยู่และครองมือ 1 มือ 2 อยู่ด้วย

ดังนั้นผลงานการเล่นเทนนิสของมารีย์ที่ถือว่าดีเยี่ยมต่อเนื่องจากปลายปี 2008 ถึงปี 2011 โดยเฉพาะคอร์ดปูน (คอร์ดดินจะแย่สุด) ก็ไม่ทำให้กระแสของมารีย์ดีไปกว่าอันดับโลก คืออันดับ 4 ยังไงๆก็ดันไม่ทะลุ เฟด-ราฟา-โนล แม้ว่าสถิติ H2H จนถึงสิ้นปี 2011 กับเฮียเฟดมารีย์จะดีกว่า(8-6) แต่แพ้ราฟาเยอะ(4-13) ส่วนแข่งกับโนลน้อยมากเจอกันแค่ 10 แม็ทช์ และมารีย์ก็เป็นรองโนลเล็กน้อย(4-6) ความมั่นใจในตัวเองของมารีย์เมื่อเจอ 3 เซียนคนที่เหนือกว่าตัวเองก็คงสั่นคลอน โดยเฉพาะเวลาแข่งขันรายการใหญ่ แกรนสแลม เฟด-ราฟา-โนล ก็ไม่มีใครยอมใครและรักษามาตราฐานยิ่งกว่ามาตราฐาน ISO เส้นทางสู่ดวงดาวของมารีย์ในการได้แชมป์ GS มันจึงเป็นเส้นทางที่ยาวไกล สมบุกสมบัน หฤโหดเสียเหลือเกิน
มารีย์ต้องใช้ความมานะพยายามและกำลังใจอย่างมหาศาลผ่านนัดชิง GS ถึง 4 ครั้งแต่ก็ได้แค่ชิง ไม่ถึงดวงดาวได้แชมป์ คือ USO08, AO10, WB12 แพ้เฟด และ AO11 แพ้โนล แถมส่วนใหญ่มารีย์ก็ชอบจับฉลากมาอยู่สายเดียวกับราฟา แล้วก็มาแพ้ราฟาในนัด SF ทำให้ไม่ผ่านมาเล่นนัดชิง GS (โดยเฉพาะปี 2011 ทั้ง 3GS คือ FO-WB-USO และรวมแล้วนับถึงปี 2011มารีย์แพ้ราฟาใน GS ทั้งหมด 7 ครั้ง)…โอ้มันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดทรมาน เมื่อต้องมานั่งตอบคำถามนักข่าว ผู้คนรอบข้างว่า เมื่อไรจะคุณได้แชมป์แกรน สแลม (สักที) ?….ทุกปีๆที่เล่น WB ก็ยิ่งถูกกดดันจากสื่อมวลชนว่าเค้าน่าที่จะเป็นคนอังกฤษคนแรกที่จะได้เข้าชิง WB ต่อจาก Bunny Austin ที่ทำได้ในปี 1938 ซึ่งมันก็ 72 ปีมาแล้ว โอ้แม่เจ้า…ในใจมารีย์แกคงอยากจะสวนกลับว่า คุณก็ลองมาเล่นเองไหม๊หละ จะได้รู้ว่าการจะผ่าน 3 เซียนบนหัวตารางเนี่ยมันหินขนาดไหน คอร์ดดินจากราฟา คอร์ดหญ้าเจอเฮียเฟด คอร์ดปูนเจอโนล โอ้ย…ยิ่งกว่าผ่าน 7 ด่านมนุษย์ทองคำอีกนะ…จะบอกให้ ?

แต่มารีย์ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีให้ผู้คนเข้าใจลึกซึ้งถึงความอึดอัด หนักใจ นอกเหนือจากคุณแม่จูดี้ และคิมแฟนสาวแล้ว เพื่อนนักเทนนิสที่มีความเชื่อมั่นและให้กำลังใจมารีย์มาโดยตลอด ก็คือราฟา นั่นเอง ราฟามีความเชื่ออย่างจริงใจว่ามารีย์จะได้แชมป์ GS แน่ในอนาคต พูดตอนต้องไปเจอกันรอบ SF-WB 2010 ตอนนั้นมารีย์เป็นความหวังของอังกฤษมากมาย

“Of all the players I have played in my career, he’s probably the best who has not won a slam. If I have to say one player who I would want to win a grand slam if it’s not me, I would say it’s Andy. He is playing really well this year — he reached the final in Australia, the semi-finals in Roland Garros, now another time in the semi-finals here, so he is doing really well. He’s got very close to winning a slam.”
โดย: หมูทอง IP: 101.108.107.6 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:2:19:32 น.
  
(ต่อ)

แล้วราฟาก็ยังมาตอกย้ำความมั่นใจของตัวเองอีกครั้งที่ AO-2012 ที่ราฟาเอาชนะเฟด 3-1 เซ็ตไปเข้าชิงกับโนลที่เอาชนะมารีย์มาแบบเฉียดฉิว 3-2 เซ็ต แม็ทช์นี้ขับเคี่ยวในเกมเทนนิสกันอย่างเข้มข้น ราฟาคิดว่ามารีย์เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสมากมายที่จะเอาชนะโนลได้ มีความหวังมากขึ้นที่มารีย์จะเป็นนักเทนนิสอังกฤษคนต่อไปที่ได้แชมป์ GS หลังจากรอคอยกันมาถึง 76 ปีมันเป็นเพียงแค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ในเซ็ต 4 ที่ผิดพลาดไป

“Yesterday he lost another very good opportunity, in my opinion,” Nadal said. “To win a tournament like this and to play against a player like Djokovic, you cannot start the fourth set like this.”

“He’s playing well. He’s playing fantastic. He deserves to win a grand slam,” Nadal said. “He was unlucky at the end, but the only negative thing for me in his match is the beginning of the fourth. When the other have more doubts, you make it easier for the opponent than it should be, no? That’s my feeling.”

“For the rest, he can be number one at the end of the season. I don’t have any doubt on that. The level is there. When you are able to play five grand slams in a row playing semi-finals or finals, it’s only a mental thing.”
“The rest of the things are there…. He’s ready for everything.”

ราฟาสรุปได้ดีมันเป็นรายละเอียดเรื่องจิตใจ….มารีย์ต้องใจสู้ สู้ระดับไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น เพราะที่เหลือมีหมดแล้ว พร้อมหมดแล้วที่จะเป็นแชมป์แกรนสแลม คนฟังฟังแล้วก็ต้องถอนหายใจหนึ่งเฮือก…..แม้กระทั่ง Boris Becker ก็มีความเห็นคล้ายๆกัน

“The quality of his tennis certainly suggested to me that he is on the path towards that elusive first major title. The way he is playing, it might happen sooner than you think,”
“Yes, it was frustrating that Andy couldn’t get over the line. But he can hold his head up high after what must be the finest performance I have seen from him. He did almost everything right and the difference came down to the smallest of margins.”

ใช่แล้ว มันเหลืออีกนิดเดียว…นิดเดียวจริงๆ

ตัวมารีย์เองคิดอย่างไร หลังแพ้โนลที่ AO12 (แบบชนะได้..) มารีย์ก็รู้สึกเหมือนกันว่าช่องว่างที่ตัวเองเคยคิดว่าใหญ่ มันก็ไม่ได้ใหญ่แล้ว มันเหลืออีกนิ๊ดเดียวเช่นกัน และมารีย์ยินดีจะทำงานหนักขึ้นเพื่อก้าวข้าวผ่านพวกมือ 1,2,3 หรือก็คือการก้าวข้ามเอาชนะ โนล ราฟา เฟด ให้ได้นั่นเอง…

“I think there’s a very fine line between being number one in the world and being three or four. I think that gap, I feel tonight I closed it. My job over the next two or three months is to surpass him and the guys in front of me. So it will take a lot of hard work, and hopefully I can do it.”

และความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น…มารีย์รวบรวมสิ่งใหม่ๆที่ดีๆในปีนี้ ปี 2012 เช่น โค้ชคนใหม่ Ivan Landl ที่มารีย์จ้างมาแบบจัดเต็มเวลา และช่วยแก้ไขปัญหาสำคัญของมารีย์คือ ปัญหาภายในจิตใจ เหมือนว่าแลนเดิลสามารถไขกุญแจปัญหาใจของมารีย์ได้ มารีย์สุขุมขึ้น ใจเย็นขึ้น และไม่รนรานกดดันตัวเองตอนแต้มสำคัญ พยายามยืนหยัดอยู่ตรงนั้นจนวินาทีสุดท้าย จนแม็ทช์จบลง ซึ่งแฟนๆเทนนิสเห็นได้ชัดในการต่อสู้กับโนลในรอบก่อนชิง AO12 …หมูทองเป็นพยานได้เพราะไปดูที่สนามจริง เข้าใจบรรรยากาศของจริง ตอนแรกเห็นมารีย์เล่นเซ็ต 4 แล้วหมดหวังคิดว่าเป็นแม็ทช์เทนนิสที่เชียร์ไม่ขึ้น ขี้เกียจดูแล้ว เราอยากออกจากสนามกลับโรงแรม มารีย์คงใจเสาะเหมือนเดิม…แต่ดูๆไปไม่ใช่แฮะ มารีย์เสียศูนย์แค่ตอนต้นเซ็ต 4 แต่แกพยายามตั้งสติกลับมาสู้ใหม่ ก้าวข้าวความกลัว ความเกร็ง เหมือนจะบอกโนลว่า “ไม่ยอม” จะเอาชนะผมคุณก็ต้องเสียเหงื่อกันหน่อยหละ…เราเลยตัดสินใจดูต่อ มารีย์ได้ต่อสู้จนหยดสุดท้ายแม้ว่าจะแพ้แต่ก็ได้ผ่านขีดจำกัดบางอย่างในใจ ว่าจะยืนอยู่ตรงนั้นจนถึงที่สุด สู้จนถึงแต้มสุดท้าย Game Set Match แล้วรู้สึกว่าตัวเองได้ทำเต็มที่สุดความสามารถ ณ.วันนั้น ไม่ต้องเสียใจ เสียดายว่าควรทำโน้นทำนี่ แต่ไม่ได้ทำ…มารีย์ผ่านเรื่องยากภายในใจแล้ว เข้าใจแล้ว
โดย: หมูทอง IP: 101.108.107.6 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:2:21:56 น.
  
(ต่อ)

จนเข้ากลางปี 2012 มารีย์คงต้องขอผ่าน FO12 ไปเลยเพราะฝีมือคอร์ดดินยังห่างชั้นกับ 3 เซ๊ยนมาก โดยเฉพาะรายการ FO12 ถือเป็นสงครามมหาพิฆาศของขาใหญ่มือ 1 มือ 2 กล่าวคือ โนลกับราฟามีเรื่องคาใจจากนัดชิง AO12...ต้องเคลียร์ แถมโนลอยากได้ Career Slam ใจจะขาด, ราฟาก็อยากได้แชมป์ FO สมัยที่ 7 เพื่อไม่ต้องมีข้อคาใจกับสถิติบอร์ก นอกจากนี้ยังมีเฮียเฟด เป็นตัวสอดแทรกคอยจ้องเผื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี้ยงพล้ำจะได้เสียบอย่างนุ่มนวล…สนามนี้จะไม่ใช่สนามเป้าหมายของมารีย์ ประหนึ่งเรื่องของพระ เณรไม่เกี่ยว !!

มารีย์พุ่งเป้ามาที่ WB12…ที่เป็นตัวเองเป็นเจ้าถิ่น เสียงเชียร์กระหึ่มเร้าใจมีแต่คนอยากให้เราได้แชมป์สนามนี้ จังหวะเหมาะอีกราฟาที่อยู่สายเดียวกับเรากับเข่าเดี้ยงแพ้ตกรอบสองไปอย่างเหลือเชื่อ เปิดโอกาสให้มารีย์เข้าชิงแบบใสๆ มีความมั่นใจ FH ก็ดูดุดันขึ้น ไปเสริมกับ BH ที่ดีอยู่แล้ว เกมเทนนิสของมารีย์ก็คมขึ้น แข็งแรงขึ้น แล้วมันก็ทำให้ทุกคนก็คาดหวังกับมารีย์(อีกแล้ว) หวัง ว่ามารีย์จะเป็นชาวอังกฤษคนแรกหลังจาก Fred Perry ในปี 1936(คือห่างกัน 76 ปีเชียวนะ) ที่จะได้แชมป์ GS อีกครั้ง ความจริงในปี 1938 ก็มีนาย Bunny Austin ที่ได้เข้าชิง WB เช่นกันแต่ผิดหวังไม่ได้แชมป์ ส่วนคู่ชิงคือเฮียเฟดก็อายุปาเข้าไป 31 แล้ว ฟอร์มก็น่าจะผ่อนความแรงไปเยอะ แต่ผิดคาด ปรากฏว่าเวลาราฟาไม่อยู่เนี่ยเป็นอะไรที่เฮียเฟดชอบมากๆๆ…เฟดออกฟอร์มเทพเขี่ยโนลในรอบรองมาเข้าชิงเพื่อล่าแชมป์ WB สมัยที่ 7 ทำสถิติแชมป์สนามนี้เท่ากับพีท แซมพราส แล้วยังจะแย่งมือ 1 กลับมาจากโนลเพื่อทำสถิติแซงพีทขึ้นไปครองมือ 1 ที่ยาวนานที่สุดในโลก….(หมูทองคิดว่า เฟดกลัว เอ้ย เกรงใจอยู่คนเดียวนะ คือ ราฟา…ดังนั้นเวลาที่ราฟาเข่าเดี้ยง ถือเป็นนาทีทองของเฮียแกเลย สภาพจิตใจแข็งแกร่ง ฟอร์มเทพออกระดับจัดเต็มแบบ shop กระหน่ำซัมเมอร์เซล)

แล้วเฮียเฟดก็ทำได้จริงๆ เอาชนะมารีย์ 3-1 เซ็ต 4-6, 7-5, 6-3, 6-4 ซึ่งทำให้มารีย์ถึงกับหลั่งน้ำตาที่ทำให้ทุกคนที่เชียร์เค้าผิดหวัง…แต่ว่าถ้าเราสู้จนถึงที่สุด ถึงจะแพ้ ทุกคนก็ยังให้กำลังใจ เป็นกำลังใจให้เราสู้ต่อ

//www.youtube.com/watch?v=XL5Ls4GDm2M

"I gonna try, but it’s not gonna be easy…..Everybody always talks about the pressure of playing at Wimbledon, but it's not the people watching - they make it incredible.” said a tearful Murray in the wake of his defeat.

“There are mixed emotions. Most of them are negative. The reaction from the crowd was great. I felt like I was playing for the nation and I couldn't quite do it."

"This fortnight was a step in the right direction. I won't go back on the court until my mind is right and I am over the loss," added Murray of his future plans.

มันก็เป็นเรื่องยากในการทำใจ เพราะมีคนสนับสนุนเรา อยากให้เราได้แชมป์มากมาย เราทำไม่ได้อย่างที่ทุกคนหวัง หัวใจเราก็สลาย

Pat Cash อดีตแชมป์ WB เข้าใจมารีย์อย่างมากเพราะตัวเองมีประสบการณ์กดดันจากความคาดหวังจากมวลชน "I have been in the same position as Murray at the Australian Open. I couldn't make a speech and it's really tough. Andy played great tennis. The match was played at an unbelievably high standard. Murray will win this title. I said it might not be this year but I wouldn't put money against him next year. He is improving all the time."

แต่สิ่งที่เห็นพัฒนาการอย่างมีนัยสำคัญของมารีย์คือ ทัศนคติเชิงบวก และการมีสติคือมารีย์คิดว่า “เราทำเต็มที่ เราทำได้ดีแล้ว เพียงแต่วันนี้มีคนที่ทำได้ดีกว่าเรา เราอยู่ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆกับชัยชนะ ต้องเตรียมความพร้อม รอโอกาสหน้าที่ชัยชนะจะเป็นของเรา”

"The Olympics is a special event and I want to make sure I am ready. If I play like I did this week I have a good chance of winning a medal."

….แล้วโอกาสที่ว่านั้นก็มาถึงมารีย์จริงๆ นั้นคือการได้เหรียญทองโอลิมปิคในสนาม WB และแชมป์ USO-2012 เป็น GS แรกของตัวเอง…มารีย์คงเหมือนมะม่วงที่สุกงอมเต็มที่ ถึงเวลาก็ต้องร่วงลงจากต้น
สิ่งที่กาดอกจันเอาไว้เป็นพิเศษในแข่งขันเทนนิสในปี 2012 ก็คือ ราฟาไม่ได้อยู่ในสนามการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากเข่าเดี้ยงยาว ทำให้ลดความเครียด ลดความยากในการแข่งขันลงไปพอควร และช่วงนี้เป็นช่วงที่มารีย์เล่นเทนนิสได้ดีเยี่ยม มีความมั่นใจตัวเอง คู่ต่อสู้ที่ทำให้เราเกร็งๆ ก็ไม่อยู่ เหลือเฟดกับโนลเท่านั้นที่เป็นปัญหาและถ้าสองคนนั้นอยู่สายเดียวกันก็ยิ่งทำให้งานของมารีย์ง่ายเข้ามาหน่อย (เพราะผ่านแค่คนเดียว ก็ได้แชมป์ GS ได้ไม่ต้องผ่านด่านทดสอบความแข็งแกร่งระดับมนุษย์ทองคำ แบบโนลในปีที่แล้วคือ 2011 และตัวมารีย์เองก็แพ้ราฟาใน GS ทั้ง 3 รายการ FO, WB และ USO)…หมูทองไม่รู้จริงๆ ว่ามารีย์แบบ top form จะผ่านราฟาแบบร่างกายสมบูรณ์ได้หรือเปล่า

ในการชิงเหรียญทองโอลิมปิคที่สนามหญ้า WB นั้นก็ไม่ได้มาง่ายๆ เพราะตอนเหลือ 4 คนรอบ SF ก็เป็นคู่ เฟด-เดล และ โนล-มารีย์ แล้วก็คงไม่ต้องบอกว่าเฮียเฟด, โนล และเดลจะอยากได้เหรียญทองขนาดไหน โดยเฉพาะเฮียเฟดที่อายุ 31 เล่นโอลิมปิคมาแล้ว 4 ครั้ง(เฟดเล่นโอลิมปิคมาตั้งแต่ปี 2000 ที่ซิดนีย์ที่เริ่มรู้จักกับเจ๊เมียร์ก้า ปี 2004 ที่เอเธนส์ และปี 2008 ที่ปักกิ่ง) ถ้าไม่ได้เหรียญทองงวดนี้ก็คงยากที่จะได้ในอีก 4 ปีข้างหน้าตอนตัวเองอายุ 35 ปี…เฟดเต็มที่แน่นอน ความมั่นใจที่เพิ่งได้แชมป์ WB12 และยิ่งได้เล่นบนคอร์ดหญ้าที่ตัวเองถนัดสุด ก็ยิ่งทำให้เฟดเป็นตัวเต็งหามสำหรับเหรียญทองพิเศษสุดนี้ แล้วเฟดก็ไม่ทำให้แฟนๆเทนนิสผิดหวังในรอบรอง เฟดสู้ตายถวายชีวิตในการเอาชนะน้องเดลที่เล่นแม็ทช์แห่งชีวิต ด้วยสกอร์บาดใจ 3-6, 7-6(5), 19-17 ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง 20 นาที เป็นแม็ทช์ที่ยาวที่สุดของการเล่นเทนนิสโอลิมปิคเลยทีเดียว (อย่าลืมว่าเฟดเคยแพ้น้องเดลมาแล้วในนัดชิง USO-09 และก็เป็นแม็ทช์ 5 เซ็ตที่ดูดี๋เช่นกัน)

ส่วนโนลเจ้าของเหรียญทองแดงจากโอลิมปิคปักกิ่ง (โดนราฟาสอยร่วงในรอบรอง) ก็หมายมั่นปั้นมือมาเอาเหรียญทองในลอนดอน และโอกาสดีเปิดให้เพราะคู่ปรับตัวเอ้คือ ราฟาเจ้าของเหรียญทองจากปักกิ่งถอนตัว….โนลเป็นผู้เล่นที่ทุ่มเทสุดๆ ถ้าเป็นเพื่อชาติเซอร์เบีย โนลจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งเหรียญทองครั้งนี้ แม็ทช์รอบ SF มารีย์จึงเจองานหนักแน่นอน แต่มารีย์ก็ดับความฝันความหวังของโนล ด้วยการเอาชนะสองเซ็ตซ้อน 7-5, 7-5…เสียงโห่ร้องแสดงความดีใจของแฟนๆในสนาม WB ดั่งสนั่นราวกับว่ามารีย์ได้เหรียญทองแล้ว ทุกคนมาเพื่อเชียร์มารีย์ ต้องการให้มารีย์สมหวังจากชัยชนะ

“Yeah, it was one of the most emotional I’ve been after a match, so happy to win. You don’t see me smiling that much, normally. I haven’t stopped smiling since I came off the court.”

“All the people that obviously came to watch and have hung around outside, it’s so different to what we normally experience in tennis,” Murray said. “We normally just get the people, you know, on our team congratulating us after we’ve won a tournament.”

และมันคงเป็นโมเมนตัมจากการล้มโนลได้…มารีย์ก็มากำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะล่าเหรียญทองมาเป็นของขวัญให้คนอังกฤษที่แห่แหนเข้ามาเชียร์เค้า
คราวนี้มารีย์ไม่ทำให้แฟนๆ เทนนิสผิดหวัง เอาชนะเฟดแบบใสสะอาดไร้ข้อกังขา 3 เซ็ตซ้อน6-2, 6-1, 6-4 ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง และเฟดก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้จริงๆ มารีย์เล่นเทนนิสได้ยอดเยี่ยมในวันที่ต้องการจริงๆ
โดย: หมูทอง IP: 101.108.107.6 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:2:27:36 น.
  
(ต่อ)

ส่วนน้องเดลก็สามารถเอาชนะโนลได้ 7-5, 6-4 ซิวเหรียญทองแดงมาได้อย่างภาคภูมิ (โนลอาจจะเฉยๆกับเหรียญทองแดงที่เคยได้แล้วก็ได้)…โอลิมปิค 2012 ที่ WB ลอนดอนก็ปิดฉากลงด้วยความสมหวังประสบความสำเร็จสูงสุดของมารีย์ และถือเป็นจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้มารีย์สามารถก้าวข้ามกำแพงแห่งความเกร็ง ความกลัว ในการเข้าชิง GS ที่มารีย์ก็มีโอกาสอีกครั้งที่ USO-12 กับแชมป์เก่าอย่างโนล…และแม้ว่าต้องสู้กันถึง 5 เซ็ต มารีย์คนใหม่ก็สามารถเอาถ้วยแชมป์จากโนลมาได้ด้วยสกอร์ 7-6, 7-5, 2-6, 3-6, 6-2 และใช้เวลาเกือบ 5 ขั่วโมง มารีย์ควบคุมสติ อารมณ์ สถานการณ์ได้ดีมาก ดีกว่าโนลในวันนี้ โดยเฉพาะเซ็ตแรกซึ่งเหมือนเป็นการประกาศศึก มารีย์บอกโนลว่าวันนี้จะไม่ยอมแพ้ ด้วยการยืนหยัดแรลลี่ 54 shots และสู้สุดๆในTB จนได้เซ็ตแรก เซ็ตสองก็มีกำลังใจดี เล่นสบายใจ โนลหลุดตอนปลายเซ็ตทำให้มารีย์ขึ้นนำถึง 2-0 เซ็ต แต่โนลก็คือโนลไม่เคยยอมปล่อยให้ใครชนะได้ง่ายๆ โนลเริ่มปล่อยของ จัดหนัก ในขณะที่มารีย์เริ่มเป๋ จนแม็ทช์มาเสมอกันที่ 2-2 เซ็ต มันเป็นแม็ทช์ที่ใกล้เคียงกันมากไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรในเซ็ต 5 เซ็ตตัดสินปรากฎว่ามารีย์ทำได้ดีกว่าโนล ควบคุมสติ เล่นในเกมของตัวเอง ในขณะที่โนลเริ่มตีเสียเองมาก….มารีย์ชนะได้แชมป์ GS แรกของตัวเองไปครอง

"When I realised I had won, I was a little bit shocked, I was very relieved and I was very emotional," said Murray.

"They were incredibly tricky conditions. Novak is so strong, he fights until the end of every match and I don't know how I managed to come through in the end."

ส่วนโนลก็เสียใจเป็นธรรมดาที่แพ้ แต่ก็บอกว่าได้ทำเต็มที่แล้ว

"I'm disappointed to lose, but I gave it my all. I had a great opponent today. He deserved to win this Grand Slam more than anybody. I would like to congratulate him."

มารีย์จบผลงานการเล่นเทนนิสปี 2012 ด้วยการเป็นมืออันดับ 3 ได้เหรียญทองโอลิมปิค ลอนดอน และแชมป์ USO-12 เป็น GS แรกของตัวเองจึงถือว่าปี 2012 เป็นปี “Break Through ของมารีย์”

ส่วนในอนาคตมารีย์จะมีผลงานที่ดีต่อเนื่องบนคอร์ดปูนและคอร์ดหญ้าอย่างไร จะพัฒนาฝีมือบนคอร์ดดินได้หรือไม่ และเมื่อราฟากลับเข้ามาแข่งขันในทัวร์ มารีย์จะยังสร้างผลงานยอดเยี่ยมได้หรือไม่ ? ….เป็นเรื่องน่าติตตามอย่างใกล้ชิด ห้ามกระพริบตา !
โดย: หมูทอง IP: 101.108.107.6 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:2:30:13 น.
  
ก็จบลงอย่างทุลักทุเลหน่อยนะค่ะแฟนๆ เพราะผู้เขียนมีงานเข้าเป็นระยะๆ เขียนได้กระปิดประปรอย แต่ก็ตั้งใจจะเขียนเป็นเรือ่งสุดท้ายให้กับเทนนิสปี 2012 ปีแจ้งเกิด (จริงๆ ) ของน้องมารีย์

ส่วนปี 2013 เป็นปีน่าสนใจ เป็นปีที่มั่วๆ กันอยู่ ยังจับทางไม่ได้
* ราฟาจะกลับมาเหมือนเดิมหรือเปล่า ไหวแน่ปะ?
* เฟด 32 แล้วจะยังจ๊าบอยู่หรือเปล่า ไหวแน่ปะ ?
* โนล จะยังแรงดีเป็นปีที่ 3 หรือเปล่า ไหวแน่ปะ ?
* มารีย์ จะเป็นมือ 1 ของโลกได้เปล่า ไหวแน่ปะ ?
* จะไม่มีตัวสอดแทรกเข้ามาใน top 4 เลยหรือเนี่ย ?

น่าติดตามจริงๆ นะจะบอกให้

โดย: หมูทอง IP: 101.108.107.6 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:2:36:51 น.
  
สวัสดีแฟนๆราฟานะคับ อีกไม่กี่วันก้อจะได้เห็นราฟาแข่งแล้ว คงต้องอัพบลอคฉลอง

ปล ขอบคุณคุณหมูทองนะคับสำหรับบทความ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาอ่านนะคับ
โดย: น้อง IP: 124.120.96.98 วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:23:39:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Supersup2.BlogGang.com

sitthi_sp
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด