เกิดดับ
ถ้ายังคิดอยู่ไม่ใช่วิปัสสนา
 
"ถ้าเราแยกรูปแยกนามได้ นี่การเจริญปัญญาขั้นแรกสุด
เพราะฉะนั้นที่หลวงพ่อสอนพวกเราแต่เดิมว่าไม่เผลอ ไม่เพ่ง 
สอนแรกๆ เลยไม่เผลอ ไม่เพ่ง เพื่อให้มีสมาธิตั้งมั่น 
ถัดจากนั้นหลวงพ่อก็สอนให้แยกธาตุ แยกขันธ์ 
เห็นไหมร่างกายมันถูกรู้ ความรู้สึกสุข ทุกข์มันถูกรู้ 
กุศลอกุศลมันถูกรู้ 
หัดแยกมันไปเรื่อยๆ จิตมันเป็นคนรู้อยู่ 
พอแยกได้อย่างนี้จิตใจเราก็เริ่มมีปัญญามากขึ้นๆ 
ต่อไปเราก็จะเห็น สิ่งที่แยกออกไปนั้นไม่ใช่ตัวเรา 
ไม่ใช่ของเราสักอย่างเดียวเลย 
 
ทีแรกก็ยังคิดๆ เอาว่าไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา 
เช่น นั่งอยู่ เอ๊ะ มันไม่ใช่ตัวเรานั่นล่ะคิดเอา 
ตรงนี้ยังไม่ขึ้นวิปัสสนาแต่เป็นปัญญาขั้นต้นๆ 
ถัดจากการแยกรูปนามได้ ก็จะเริ่มเข้าใจเหตุเข้าใจผล 
รูปธรรมนามธรรมทั้งหลายก็ล้วนแต่มีเหตุให้เกิดขึ้นมา 
มันเห็นด้วยการสังเกตเอา แล้วก็มันก็คิดเอา 
ทุกอย่างมันไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา 
อันนี้เป็นปัญญาที่ยังเจือการคิดอยู่ ยังไม่ขึ้นวิปัสสนา 
แต่เป็นปัญญาแล้ว เป็นการเจริญปัญญาแล้ว 
แต่ยังไม่ขึ้นวิปัสสนา 
 
ตรงที่ขึ้นวิปัสสนามันเลยขั้นคิดไป มันไปถึงขั้นเห็น 
เรามีความคิดความเห็น ความคิดนั่นล่ะปิดบังความจริง
ว่าความคิดไม่ใช่ความจริง แต่เราเห็นเอา 
เราเห็นอะไร เช่น เราเห็นความโกรธผุดขึ้นมาแล้วก็ดับไป 
ความโลภผุดขึ้นมาแล้วก็ดับไป เฝ้ารู้เฝ้าดูไปเรื่อย 
ความสงบผุดขึ้นมาแล้วก็ดับไป 
ความฟุ้งซ่านผุดขึ้นมาแล้วก็ดับไป 
ตรงนี้เราเห็น เราไม่ได้คิดว่า เอ๊ะ มันจะดับไม่ดับ 
มันต้องดับเพราะตำราบอกว่าดับ อันนั้นไม่ใช่วิปัสสนา 
วิปัสสนาเห็นจริงๆ 
 
เห็นความโกรธมันผุดขึ้นมาจากกลางอกเรานี้ 
มันผุดขึ้นมา พอเรารู้แล้วมันก็ดับไป 
ความโลภมันก็ผุดขึ้นมาแล้วมันก็ดับไป 
เหมือนตาน้ำเดี๋ยวก็พุ่งๆๆ ขึ้นมาเรื่อย 
พุ่งมาแล้วก็แตกสลายๆ หรือเหมือนฟองน้ำ 
เปิดโซดาหรือเปิดน้ำอัดลม มีฟองขึ้นมาแล้วฟองก็แตก 
กิเลสหรือกุศลทั้งหลายก็ผุดขึ้นมาอย่างนี้แล้วก็แตกไปๆ
ตรงที่เห็นมันเกิดขึ้นแล้วมันก็ดับไป 
เกิดขึ้นแล้วดับไปนี่เห็นเอาไม่ได้คิดเอา 
 
อย่างเราเปิดน้ำอัดลมมีฟองผุดขึ้นมาแล้วก็แตก 
ผุดขึ้นมาแล้วก็แตก ต้องคิดไหมว่าแตกไม่แตก 
ไม่เห็นต้องคิดเลยเพราะมันเห็นเสียแล้ว 
ว่านี่ฟองมันเกิดขึ้นมาแก๊สมันดันขึ้นมา แล้วมันก็แตกหายไป 
เกิดแล้วก็ดับ ตรงนี้เรียกว่าเราเห็นแล้ว 
วิปัสสนาอยู่ในขั้นเห็น เลยขั้นคิดไปแล้ว" 
 
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
30 เมษายน 2565
 
รับฟังเพิ่มเติมได้ที่ https://youtu.be/i0UTjF5S2nM



Create Date : 28 กันยายน 2565
Last Update : 28 กันยายน 2565 8:17:47 น.
Counter : 455 Pageviews.

0 comments
วลีธรรม สมาชิกหมายเลข 7582876
(27 มิ.ย. 2568 13:34:21 น.)
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 379 :: กะว่าก๋า
(25 มิ.ย. 2568 05:15:58 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - หล่นไปในสมมุติ : กะว่าก๋า
(24 มิ.ย. 2568 04:11:57 น.)
ธรรมะ แนวบวก ปัญญา Dh
(2 ก.ค. 2568 07:05:24 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Sunet.BlogGang.com

นาฬิกาสีชมพู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]