หนีไฟนรก / โนริโอะ ชิมามูระ


ชื่อเรื่อง : หนีไฟนรก
ผู้แต่ง : โนริโอะ  ชิมามูระ  เขียนจากคำบอกเล่าของ  เจีย  กิมลั้ง
ผู้แปล : ผุสดี  นาวาวิจิต
สำนักพิมพ์ : ผีเสื้อ
พิมพ์ : ครั้งที่ ๖ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ราคา : ๑๓๙ บาท
จำนวนหน้า : ๒๐๘ หน้า


หนังสือนี้ถือเป็นหนังสือมีค่าเล่มหนึ่งของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ
ในข้อที่ว่า  ได้บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่ง
ที่มีความเกี่ยวข้องกับชาวไทยและประเทศไทยไว้
และเป็นเรื่องราวที่ดูเหมือนจะบอกเตือนให้คนไทยทั้งหลายได้ระวังตัว
ถ้าเรื่องเช่นนั้นจะเกิดขึ้นบ้าง  หรือไม่เช่นนั้นก็ระวังไม่ให้เกิดขึ้น
จะระวังอย่างไร---จะเตรียมตัวอย่างไร?
แน่ละ  หากสภาวะดังในเรื่อง 'หนีไฟนรก' เกิดขึ้นจริง
มิใช่ทุกคนที่จะสามารถหลบลี้หนีภัยไปต่างประเทศได้
และการที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรไว้เลยนั้น  คงจะสุดแสนทรมาน
อย่าได้เชื่อว่า  การแย่งชิงอำนาจของคนในชาติจะไม่เกิดขึ้นอีก
อย่าชะล่าใจจนถึงกับปล่อยให้ทุกสิ่งในชีวิต  ในสังคม
ดำเนินไปตามยถากรรม  โดยไม่สนใจอะไรเลย
อย่าได้เชื่อว่า  เมื่อสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น
เพียงมีเงินมากมายก็สามารถหลบลี้หนีภัยไปอยู่ที่อื่นได้
หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นคู่มือเล่มหนึ่ง  ในการเอาตัวรอดยามคับขัน  สำหรับทุกคน


'หนีไฟนรก' เป็นเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับ '๔ ปี  นรกในเขมร' เพราะ 'เจีย  กิมลั้ง' คือหญิงสาวชาวเขมรที่เป็นลูกบุญธรรมของ 'ยาสึโกะ  นะอิโต' หลังจากที่สถานการณ์สงครามในกัมพูชาเริ่มมีทีท่าสงบลงและเธอได้ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น  เธอก็ได้บอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากออกมาและถูกเขียนใหม่เป็นภาษาญี่ปุ่นโดย 'โนริโอะ  ชิมามูระ'

จากลูกสาวคนโตของครอบครัวคนจีนในกัมพูชาที่มีฐานะค่อนข้างดี  ต้องพลิกผันกลายเป็นเหยื่อสงครามเมื่อกลุ่มเขมรแดงยึดอำนาจสำเร็จ  'เจีย  กิมลั้ง' พร้อมด้วยครอบครัวอีก ๑๒ ชีวิต  จำต้องระหกระเหินไปสู่ชนบทตามคำสั่งของรัฐบาล  ความหวังที่จะได้กลับคืนบ้านเกิดดูเลือนลางลงทุกที  ทว่าความโหดเหี้ยมที่เหล่าทหารเขมรแดงกระทำต่อคนเขมรด้วยกันนั้นมากยิ่งขึ้น

ยังดีที่ด้วยความฉลาดของผู้เป็นพ่อจึงประคับประคองทุกคนในครอบครัวผ่านพ้นอันตรายมาได้หลายต่อหลายครั้ง  จนเมื่อได้พบกับหญิงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งความหวังครั้งใหม่จึงได้ผลิบาน  เมื่อไฟนรกเผาแผ่นดินกัมพูชา  การหนีไปจากที่นี่คือทางรอด  แต่จะมีสักกี่คนกันที่จะทำสำเร็จโดยไม่ถูกเผาผลาญจนมอดไหม้เสียก่อน

สำหรับเล่มนี้เล่าผ่านมุมมองของคนกัมพูชาโดยกำเนิด  ความผูกพันต่อบ้านเกิดเมืองนอนหรือมุมมองความสัมพันธ์ต่อประเทศใกล้เคียงจึงอาจต่างออกไปบ้างจากเล่มก่อนหน้า  แต่ในเรื่องความทุกข์ยากที่เกิดจากสงครามนั้นหนักหนาสาหัสเช่นเดียวกันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

ผมได้รู้อะไรหลายอย่างจากการอ่านหนังสือเล่มนี้  อาทิ  มุมมองที่ชาวเขมรมีต่อประเทศเวียดนาม  ต่อประเทศไทย  หรือต่อประเทศกัมพูชาเอง  ทั้งยังได้เห็นวิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เงินไม่มีค่าใดใด  รวมถึงเห็นภาพความอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่เกิดจากคนด้วยกัน  มันคือความทุกข์ยากทรมานที่มากมายเกินจินตนาการได้  แม้ในท้ายที่สุดด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าและความพยายามอย่างสูง 'เจีย  กิมลั้ง' จะสามารถหนีไฟนรกได้สำเร็จ...หากแต่บาดแผลที่เกิดจากเปลวไฟเหล่านั้นคงมิใช่เรื่องง่ายที่จะลบเลือนให้หมดไปจากความทรงจำ

"...สีหน้าของเธออาจจะดูยิ้มแย้ม  แต่ในดวงตาทั้งคู่ที่ฉายแววปลาบปลื้มดีใจนั้นมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่  แม้เธอจะได้อยู่ในที่สุขสบาย  ไม่ต้องอพยพหลบหนีความทุกข์ยาก  ความอดอยากและแม้แต่ความตาย  เหมือนเมื่อครั้งที่อยู่ในแผ่นดินบ้านเกิด  แต่จิตใจของเธอก็ยังผูกพันอยู่กับเขมร  กระแสสำนึกยังบอกตัวเองตลอดเวลาว่าเธอเป็นชาวเขมร

นี่คือผลของสงครามที่มีต่อชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่ง  ตลอดระยะเวลายาวนานหลายปี---

แต่อีกนับแสนนับล้านคน  ยังต้องกระเสือกกระสน  ดิ้นรนเพียงให้ได้มีชีวิตรอด  ได้เห็นแสงตะวันในยามรุ่งอรุณ  มีอาหารสักมื้อหนึ่งในแต่ละวัน---ยังต้องผจญกับ 'ไฟนรก' ที่ยากจะคาดหวังได้ว่า  โอกาสจะหลุดพ้นนั้นจะอยู่ห่างไกลเพียงใด---หรือไม่มีเลย"



Create Date : 19 พฤษภาคม 2562
Last Update : 24 พฤษภาคม 2562 3:55:06 น.
Counter : 1428 Pageviews.

14 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณJinnyTent, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณmariabamboo, คุณวลีลักษณา, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณ**mp5**

  
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
ช่วงนี้คงพอมีเวลาอ่านหนังสือและอัพบล็อกบ้างแล้วนะคะ
ดีมากๆเลยค่ะ อยากให้บล็อกเก้อร์เก่าๆอย่าถึงกับทิ้งบล็อก
ไปเลย กลับมาเป็นครั้งคราวก็ยังดีค่ะ

อย่างที่ทราบแล้ว ตอนนี้พี่ก็ได้แต่อ่านหนังสือจากรีวิว
ของน้องๆ ใครเขียนก็รีบอ่านเลย

พรุ่งนี้มาใหม่นะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า IP: 114.109.128.212 วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:58:43 น.
  
สงครามโหดร้ายเสมอ แค่นึกถึงก็ไม่สนุกแล้ว
อ่านหนังสือแนวอื่นบ้างนะคะ เดี๋ยวจะเครียดเกิน 555

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:10:19:00 น.
  
หือ น้องโจอ่านหนังสือมาราธอนมาก
ยิ่งอ่านหนังสือเครียด ๆ แบบนี้ เป็นพี่หยุดยาวเลย
ใจรับไม่ค่อยไหวแล้วล่ะ หนังสือแนวนี้
อ่านแล้วเครียด ความหดหู่จู่โจม เราเผลอรับไว้ไม่รู้ตัว

บ้านเกิดเมืองนอนอะนะ เป็นใครก็คงลืมยาก
เรือนตายของใครหลายคน ก็จะยึดเอาบ้านเกิดเมืองนอนนี่แหละ
แม้จะมีเหตุการณ์ทำให้ต้องพลัดถิ่น
แม้เมืองเกิดจะโหดร้ายแค่ไหน แต่มันก็ลืมไปไม่ได้
ว่านั่น ถือ ถิ่นกำเนิดของเรา

ขึ้นชื่อว่าคน ไม่ว่าจะเป็นคนชนชาติไหน ๆ
ก็มีทั้งความดีและความโหดร้ายทั้งนั้นแหละ

แต่การที่คน ๆ หนึ่ง เจอความเลวร้ายชนิดสุด ๆ
พี่มองอะไรไปไม่ได้นอกจาก เวรกรรม ที่ทำให้เขาต้องมาพบเจออะไรแบบนั้น
ถึงจะวางใจเป็นอุเบกขาและคลายความหดหู่
ที่ติดปลายนวมถ้าอ่านหนังสือแนวนี้นะ

ดีใจที่น้องโจ กลับมาบล็อกอีกครั้ง
นำหนังสือดี ๆ มารีวิวให้กันได้รับรู้เรื่องราว
เล่มนี้พี่ไม่คุ้น พี่คุ้นเล่มแรกมากกว่า
โดย: JinnyTent วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:11:20:25 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้อง ruennara

หายไปจากบล็อก นานเลยนะจ๊ะ งานคงยุ่งมาก ดีใจนะที่
กลับมากแนะนำหนังสือที่อ่านให้ได้รู้บ้าง ครูเองแทบจะไม่ได้
อ่านหนังสือที่เป็นเล่มเลย จ้ะ

"ไฟนรก" ที่เธอรีวิว มาให้อ่าน เนื้อหาสาระ หนักเอาการ
ขออย่าได้เกิดที่เมืองไทยเลยเนาะ ครูเคยไปเที่ยวเขมร เมื่อ 3-4
ปีที่ผ่านมา ไกด์ เขมร เขาก็เล่าให้เห็นถึงความโหดร้ายของฝ่าย
เขมรแดง พาไปดูสถานที่ที่เขาฝังคนเขมรด้วยกัน ฝังทั้งเป็น
ฟังไกด์แล้วอนาถใจเหลือเกิน มนุษย์ด้วยกัน ทำไมถึงได้โหด
ร้ายมากขนาดนั้น เด็กเล็ก ก็ไม่ได้ละเว้นเลย

โหวดหมวด รีวิวหนังสือ
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:11:31:29 น.
  
ขอบคุณสำหรับบทกลอนที่ฝากไว้ที่บล็อกค่ะคุณเปลวเพลิง

อิสระภาพร่วงโรยใจโหยหา
แสงตะวันจันทราที่อยากเห็น
การจองจำกักขังนรกทั้งเป็น
สงบร่มเย็น...ปลดปลงยามสงคราม

ไม่ได้ต่อกลอนกับคุณนานมาก...


โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:05:31 น.
  
เรื่องราวที่น่าเศร้าใจคือคนที่ร่วมเชื้อชาติ หรืออยู่ในแผ่นดินเดียวกันนี้เอง
ที่เหยียบย่ำคนอื่นเพื่อขึ้นสู่อำนาจ หรืออะไรที่ตัวเองต้องเอามาก่อน
โดยยังไม่รู้จักตัวเองเลยจริง ๆ
ว่าสุดท้ายแล้วพื้นฐานของคนจริง ๆ หรือเขาเอง ที่ต้องการคืออะไร

พูดแบบ สว.ละนะคะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:17:02 น.
  
ในสภาวะอย่างนั้นถ้าเกิดขึ้นจริง คนทั่วไปคงไม่สามารถหนีได้ แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้น หากจะพูดถึงเรื่องศีลธรรม อาจเป้นเรื่องที่ตลก เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจริงศีลธรรมอาจไม่มีความหมาย ก็ขอให้บ้านเมืองเราไม่ไปถึงจุดๆ นั้น
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:34:25 น.
  
เรื่องกระบองเพชร จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
เลี้ยง ๆ ไป ศึกษาไปด้วยพอจับจุดได้ก็ไม่ยากแล้วค่ะ
มีปัญหาอะไรเสิร์ชในกูเกิลช่วยได้จ้า ... ถ้าตอบได้ก็ยินดีค่ะ

เรื่องกล้องที่ถ่ายรูปที่บล็อกก็นี่เลยค่ะ Cannon G9X
ทำหล่นไป 2 หนแล้ว ซ่อมไปหนหนึ่ง 555

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:17:30:46 น.
  
ruennara Book Blog

น่าอ่านค่ะ เนื้อหาน่าติดตามให้ข้อคิด
ไม่ได้แวะมานานเลยค่ะ สวัสดีนะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:36:22 น.
  
สงครามจะอยู่คู่กับมนุษย์ไปอีกนานแค่ไหนนะ
โดย: วลีลักษณา วันที่: 19 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:36:31 น.
  
เคยอ่าน 4 ปีนรกในเขมรค่ะคุณโจ
เวลาผ่านมาหลายปีแล้วยังรู้สึกเป็นหนังสือที่อ่านแล้วหดหู่ใจที่สุด
เงินทองหรือหน้าที่การงานช่วยอะไรไม่ได้เลย
สิ่งที่ต้องเผชิญมีแต่ความอดอยาก โรคร้ายและความตายที่ใกล้ตัว
"หนีไฟนรก" เป็นอีกเล่มที่น่าสนใจค่ะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 20 พฤษภาคม 2562 เวลา:0:26:56 น.
  
เรื่องนี้เคยอ่าน ด้วยความหดหู่กับชะตากรรมของตัวละครมากเลยครับ เป็นเล่มที่น่าสนใจมาก
โดย: สามปอยหลวง วันที่: 20 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:39:24 น.
  
ส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 20 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:57:13 น.
  
พี่กลับมาส่งกำลังใจค่ะ คุณโจ
แล้วก็อ่านรีวิวจบแล้วด้วย
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาโดยย่อ
และความคิดเห็นจากการอ่านนะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 20 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:49:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ruennara.BlogGang.com

ruennara
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]