ZERO to ONE by Peter Thiel
  ช่วงนี้พยายามหาหนังสือที่เกี่ยวกับ Startup มาอ่าน
เนื่องจากอยากให้ลูกศิษย์รุ่นใหม่ ได้เป็น Startup ในอนาคต
แต่ไอ้ตัวเราเองก็ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน
ดีก็แต่ว่ามหาลัยใส่วิชา"การทำธุรกิจ"ลงเป็นวิชาบังคับให้ทุกสาขาวิชาได้เรียนกัน
เมื่อก่อนก็ไม่เคยสนใจว่าเค้าสอนอะไรยังไง
ได้แต่อุดหนุนลูกศิษย์บ้าง...อะไรบ้าง

แต่ปีนี้จะลองให้ลูกศิษย์เขียนแผนการตลาดสำหรับโครงงานของตัวเอง
แล้วให้อาจารย์ที่สอนวิชาแผนธุรกิจได้วิจารณ์-ประเมิน
น่าจะได้ไอเดียดีๆ ในการเป็น Startup ต่อไป

ส่วนตัวเราเลยพยายามหาแนวคิดอื่นๆ ที่จะช่วยให้ลูกศิษย์สามารถ spin off ให้เป็น Startup ได้จริง
เลยเสาะหาหนังสือที่เกี่ยวกับ Startup มาอ่าน
เห็นคุณ A-academy แจกหนังสือเล่มนี้เป็นรางวัล
ก็เลยสนใจซื้อมาอ่านดู

จึงพบว่า หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ผู้ก่อตั้ง PayPal และนักลงทุนคนแรกของ Facebook
(บังเอิญได้ดูหนัง the Social Network อีกรอบพอดี เลยได้รู้ว่าเขาเป็นใคร)

หนังสือเริ่มต้นด้วยคำถาม
"มีเรื่องอะไรบ้างที่สำคัญและเป็นความจริง
แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วยกับคุณ"

ที่จะฟูมฟักความคิดของเราให้ก่อร่างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเปลี่ยนโลกได้

-ผลิตภัณฑ์ของคุณจะประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน ก็ต่อเมื่อมันทำให้เกิดการผูกขาดทางการค้า (Google ผูกขาด Search Engine)
-การผูกขาดทางการค้า ควรเริ่มจากการผูกขาดกับตลาดเล็กๆก่อน แล้วจึงขยายใหญ่ (Facebook เริ่มจาก Harvard ที่เดียวก่อน)
-ผลิตภัณฑ์ของคุณจะผูกขาดทางการค้าได้ ต้องดีกว่าคนอื่น 10 เท่า (Google Search Engine)
-การแข่งขันในตลาด นำไปสู่ความพินาศ แต่การผูกขาดที่สร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เกิดการพลิกโลก
-บริษัทที่ดีจะได้กำไรดีกว่าบริษัทที่เหลือรวมกัน ดังนั้น ถ้าคุณเป็นนักลงทุน จงลงทุนกับบริษัทที่ดี ไม่กี่บริษัท ดีกว่าลงทุนไปทั่วๆ
-จงเลือกผู้ร่วมก่อตั้งที่รู้จักกันมานาน มีทิศทางเดียวกัน และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่ออนาคตระยะยาว
-ควรมีคณะกรรมการบริษัทไม่เกิน 3-5 คนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง (อย่าจ้างพนักงานชั่วคราว ที่ปรึกษา หรือให้ทำงานที่บ้าน เพราะจะทำให้เกิดทิศทางที่ไม่สอดคล้องกัน ความไม่ทุ่มเท และเกิดความขัดแย้งได้ง่าย)
-ควรให้ผลประโยชน์กับทีมงานโดยที่ผูกกับความสำเร็จของบริษัท เช่น หุ้น (ไม่ใช่เงินเดือน)
-ทีมงานต้องมีสัมพันธ์ที่แนบแน่น
-เมื่อจะรับคนเข้าทำงาน ให้ถามว่า "ทำไมบริษัทจึงเหมาะกับเขามากๆ"
-มอบหมายงานที่ต่างกันให้แต่ละคนในทีมงาน จะได้ไม่มีการแข่งขันกัน
-สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทุ่มเท
-การขาย มีตั้งแต่ การขายแบบซับซ้อนให้กับเจ้าของกิจการ การขายแบบประกบตัว การตลาดและการโฆษณา และการตลาดแบบไวรัล เลือกวิธีขายที่ดีที่สุดกับผลิตภัณฑ์ของคุณเพียงแบบเดียว

คำถาม 7 ข้อที่บริษัทเปิดใหม่ต้องตอบ
  1. คุณสร้างเทคโนโลยีที่สั่นสะเทือนวงการหรือไม่ (ดีกว่าคนอื่น 10 เท่า)
  2. ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
  3. เริ่มต้นด้วยการยึดครองตลาดขนาดเล็กหรือไม่
  4. มีทีมงานที่เหมาะสมหรือไม่ (วิศวกรและนักขาย)
  5. มีวิธีส่งมอบ(ขาย)ให้ถึงมือลูกค้าที่เหมาะสมหรือไม่
  6. รักษาตลาดได้ในอีก 10-20ปีหรือไม่
  7. คุณมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นหรือไม่

สุดท้าย Peter Thiel ทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
"อย่าทึกทักเอาเองว่าอนาคตจะดีกว่าปัจจุบัน

...เราต้องลงมือสร้างมันตั้งแต่วันนี้"




Create Date : 09 สิงหาคม 2558
Last Update : 9 สิงหาคม 2558 10:04:05 น.
Counter : 3132 Pageviews.

0 comments
บันทึกการอ่าน 01/2025 สมาชิกหมายเลข 1576366
(1 ก.พ. 2568 17:22:55 น.)
4. หนามรัก : มธุรส สามปอยหลวง
(31 ม.ค. 2568 15:42:13 น.)
รีวิวภาพยนตร์ "Kraven the Hunter" เครเว่น เดอะ ฮันเตอร์ นายแว่นขยันเที่ยว
(22 ม.ค. 2568 00:22:07 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ...ชีวิต : กะว่าก๋า
(17 ม.ค. 2568 05:32:52 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rubber-ducky.BlogGang.com

rubber ducky
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]