ดักฟังนักเรียนป้อมอัศวินคุยกัน#4 : เมื่อซาตานแห่งป้อมอัศวินเป็นหวัด.....((นอกแผน)) หมายเหตุ : เขียนออกมาจนตอนกลับมาแก้อีกรอบเป็นช่วง"ไข้หวัดนก"ระบาดพอดีเลยอ่า เหอเหอเหอ อะไรมันจะเหมาะเหม็งขนาดนี้ฟร่ะ (แล้วดีตรงไหนเนี้ย??) ตอนนี้ที่จริงแต่งเสร็จเร็วแหละ ....แต่ตอนแรกกะจะเอามาลงพร้อมตอนที่ 5 เพื่อความต่อเนื่อง.....ไปๆมาๆตอน 5 มันก็ยังไม่ยอมคลอดซะที ก็เลยเอามาลงก่อนดีกั่ว..... ไม่มีอะไรแล้ว ไปอ่านเองเหอะ.... ============================== ดักฟังนักเรียนป้อมอัศวินคุยกัน#4 : เมื่อซาตานแห่งป้อมอัศวินเป็นหวัด.....((นอกแผน)) ============================== ผ่านไปกว่าสัปดาห์.....หลังจากลูคัสได้ 'กระทำการ' อันกระตุ้นต่อมโทสะของทั้งนักบวชหมอมีดและหมาป่าตัวหนึ่งจนแตกระเบิด.... คนหาเหา(อาจรวมถึง เห็บ ริ้น ไร)ใส่หัวก็ได้รับคำตัดสินบทลงโทษจากศาล...ถูกเนรเทศออกไปนอกห้อง......โดยไม่มีโอกาสได้ร้องอุทธรณ์ ฏีกาใดๆทั้งสิ้น และเนื่องจากลอเรนส์หัวเสียขนาดที่แม้แต่เจ้าชายนักการฑูตคนเก่งแห่งเจมิไนอย่างโรเวนยังเข้าหน้าไม่ติด..... พื้นโล่งทางเดินหน้าห้องจึงได้ถูกยกระดับเป็นที่ซุกหัวนอนจำเป็นของผู้คุมกฎคนสำคัญของป้อมอัศวินไปทั้งอาทิตย์..... และเมื่อ ลอเรนส์ ดอว์น เดอะคิงออฟรูม เริ่มใจเย็นลงและปลงได้ นักโทษจึงได้รับการอภัยโทษให้ซมซานกลับเข้ามาในห้อง..... เรื่องราวมันก็น่าจะจบแค่นั้นถ้าเหตุบางอย่างมันไม่เกิด.... ถ้าลูคัสไม่ได้กลับมาพร้อมใบหน้าซึ่งแดงเรื่อด้วยพิษไข้ และอุณหภูมิที่วัดได้จากปรอท ( ซึ่งหมานำเข้าอีกนั่นแหละ ) ...... 39 องศา....!!!! หมาเลยต้องมาทำหน้าที่ไม่สมหมา แถมไม่สมความตั้งใจตอนมาเพราะจากคน(หมา)หาข่าวกลับต้องมานั่งเฝ้าคนป่วยเป็นนางพยาบาล....... แต่ความลำบากของหมายังไงๆมันก็ดูจะไม่เท่ากับคน....... "กินซะ....ลูคัส" พูดอย่างสกัดกั้นอารมณ์เต็มที่ เมื่อคนที่ปรกติจับมีดต้องจำใจเปลี่ยนมาจับช้อนป้อนข้าวคนนอนซม..... "ม่ายอาววว ม่ายอยากกิน" พฤติกรรม 'งอแงเหมือนเด็ก' น่าหมั่นไส้จนคนรับหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำแทบอยากคว่ำจานลงกบาลถ้าไม่ติดว่ามันเป็นคนป่วย.... ไอ้ลูคัส....แกหายเมื่อไหร่ล่ะน่าดู!!!! กว่าจะจัดการป้อน ( ยัด ) ข้าวใส่ปากคนป่วยดื้อด้านได้สำเร็จก็ปาเข้าไปกว่า 3 ทุ่ม ให้ทั้งคนและหมาเหนื่อยจนแทบลากเลือด แต่ตัวต้นเหตุกลับได้สิทธิพิเศษถอดจิตไปเฝ้าพระอินทร์สบายใจเฉิบ.... "สรุปว่ามันเป็นอะไร..." คำถามจากลอเรนส์ที่การ์ดแข็งๆดูจะอ่อนลงหน่อยเมื่อมองเห็นคนไม่สบายเบื้องหน้า "ไข้หวัดใหญ่" คำตอบจากหมาล่าข่าวพยาบาลจำเป็นที่บัดนี้ควบตำแหน่งแพทย์อีกตำแหน่ง "โรคอะไร??" คิ้วเข้มขมวดอย่างสงสัยเมื่อชื่อที่ได้ฟังไม่คุ้นหู.... "ก็โรคชนิดนึง...มาจากแถวๆที่อยู่ของชั้น.....แต่ไม่รู้ทำไมลูคัสถึงเป็นได้" คำเปรยอย่างสงสัยจากสัตว์หน้าขนที่ลอเรนส์หรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ "ไม่ใช่ว่าเธอเอามาแพร่...." "ชั้นสบายดี...จะแพร่เชื้อได้ไง" คำตอบกลับไม่มั่นใจนัก.... หมาหันควับไปมองคนนอนซมที่นอนอยู่บนเตียงของตัวเองก่อนฉุกคิดถึงอะไรบางอย่าง... คงไม่น่ะลูคัส แต่นายมันมือบอนเหลือเกิน........ ความรู้สึกสงสัยที่เกิดขึ้นในใจมันทำให้หนาวๆร้อนๆจนต้องรีบวิ่งไป 'ตรวจสอบ' ให้แน่ชัดในห่อสัมภาระของตัวเอง..... ภาพที่ปรากฏต่อหน้า...คือกล่องเพาะเชื้อสีเทาหม่นที่ถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดในส่วนลึกสุดมีร่องรอยของการถูกงัดแงะแม้คนแอบเปิดดูจะบรรจงปิดใว้เนียนที่สุด..... ให้หมาที่มองเห็นต้องสบถอย่างหัวเสีย...... "ไอ้บ้าลูคัส!! ( พูดคำนี้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่เนี้ย...... ) มันเปิดกล่องเพาะเชื้อของชั้น!!" "กล่องเพาะเชื้อ...?" "ก็...เป็นที่เก็บเชื้อโรคที่กำลังเล่นงานคนงี่เง่าที่นอนพะงาบๆอยู่นั่นแหละ" ตอบกลับอย่างหงุดหงิด.... "โรคนี้มันร้ายแรงมากถึงขนาดคนอึดอย่างหมอนี้ยังต้องนอนซมเลยเหรอ...." "ก็พอดู....ไข้หวัดใหญ่ที่จริงเป็นโรคติดต่อ แต่นี่เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่ชั้นเพิ่งได้มา...ไม่ติดต่อ แต่ของแถมคือเชื้อมันแรงกว่าเดิม...แถมลูคัสถูกไล่ออกไปนอนนอกห้องอยู่ตั้งอาทิตย์ ภูมิคุ้มกันมันก็คงอ่อนลง...." "แล้วจะหายเมื่อไหร่...?" ถามถึงเรื่องสำคัญ "ถ้าให้หายเองก็เป็นเดือน....." คำตอบที่คนรับฟังสะดุ้งเฮือก ปรกติมันก็งี่เง่าอยู่แล้ว....ยิ่งป่วยก็ยิ่งรั้นเข้าไปอีก.... ถ้าต้องคอยดูแลหมอนี่เป็นเดือน..... เขาคงต้องป่วยแทนมัน.... "แต่ถ้าใช้ยา...3 วันก็หาย...." ต่อพลางยักคิ้วแผล่บ ให้อีกฝ่ายฟังแล้วถอนหายใจโล่งอก...ก่อนหันมาแยกเขี้ยวใส่เพราะรู้ว่าหมามันจงใจแกล้ง..... "แล้วยา.....?" "จะมาพรุ่งนี้เช้า....ที่จริงจะมาคืนนี้ด้วยซ้ำ แต่ตอนแรกเห็นลูคัสป่วย...ชั้นก็เลยคิดว่าคงจะยุ่ง...ไม่นึกว่าจะต้องมาใช้กับมัน" คำตอบที่ลอเรนส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อน คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของนักบวชแห่งป้อมอัศวิน.....ความสงสัยที่ทำให้ต้องปรายตามองเจ้าหมาตัวเดียวในห้องก่อนออกปากถามคำถามสุดท้ายของวัน.... "แล้วเธอเอาเชื้อนั่นมาด้วยทำไม....?" แล้วนั่นก็เป็นคำถามที่หมาปากไวได้แต่อ้าปากค้างก่อนหัวเราะแห้งอย่างไม่สามารถให้คำตอบได้...... ++++++++++ เช้าวันต่อมา เหยี่ยวสีน้ำตาลดำตัวนึงก็บินร่อนจากฟากฟ้าเข้ามาในห้อง....ที่ขาของมันมีห่อผ้าสีขาวขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกผูกไว้อย่างดิบดี หมาค่อยๆเอื้อมขาหน้าไปแกะห่อผ้า....แต่คงจะใช้เวลามากไปนิด ( ก็มันเป็นขาหมานี่หว่า...แต่คิดดูซิว่าเหยี่ยวมันจะไปเข้าใจอะไร... ) เจ้าเหยี่ยวที่ดูอารมณ์จะไม่โสภาจึงเริ่มใช่จงอยปากจิก 'ลูกค้า' เบื้องหน้าอย่างหงุดหงิด "เฮ้...เจ็บน่ะ อย่าจิกเซ่!!" คำบ่นจากหมาที่ทำได้แต่เป็นเป้านิ่งเพราะมือมันดันไม่ว่าง และเมื่อหมามันเตรียมจะฝากรอยเล็บขย้ำคอเจ้าตัวร้ายหลังแกะห่อผ้าจนหลุดออกจากขาเหยี่ยวสำเร็จ มันก็เชิดหน้าหนีพลางสะบัดปีกให้อย่างน่าหมั่นไส้ก่อนเผ่นออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว.... "น่าจับไปถอนขนย่างไฟ...." คำพูดจากคนเห็นเหตุการณ์อย่างลอเรนส์....ที่เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นที่สุด "คราวหน้าจะไม่ใช้บริการมันอีกเลยให้ตายเหอะ เป็นแค่เหยี่ยวส่งของยังมาทำหยิ่ง" บ่นอุบอิบพลางลากสิ่งที่เพิ่งถูกส่งมามาวางไว้กลางห้องเพื่อให้เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนได้เห็นถนัดชัดตา ก่อนมืออันไม่ค่อยสันทัดงานของหมาจะถูกใช้อีกครั้งเพื่อเปิดดูของในห่อผ้า.... และไม่นานนัก ( หมามันเริ่มใช้ขาหน้าเก่ง ) สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าก็ถูกเผยออก...ให้กล่องสีขาวที่บรรจุของแปลกประหลาด 4 ชิ้น ปรากฎขึ้นสู่สายตาของนักบวชแห่งแอเรียส..... ลอเรนส์ค่อยๆปรายสายตามองของต่างๆอย่างพิจารณา.... อย่างแรกวางอยู่ซ้ายสุด...เป็นขวดเล็กสีชา ของข้างในเป็นผงที่เขาไม่แน่ใจว่าสีอะไร... อย่างที่สองเป็นเหมือนหลอด....หลอดแบบแปลกๆที่มีก้านอะไรสักอย่างอยู่ด้วย ตัวหลอดใส...มีเลขสีดำเป็นขีดๆ ที่ปลายด้านหนึ่งเหมือนเป็นเข็มที่ทำจากโลหะ อย่างที่สามเป็นขวด...เหมือนแบบแรกนั่นแหละ แต่ของข้างในเป็นของเหลว อย่างที่สามเป็นถุงอะไรสักอย่าง สีใส....มองเห็นเม็ดกลมสีขาว 3-4 เม็ดบรรจุอยู่ภายใน.... "ไอ้นี่...." พูดพลางชี้มือ(ขาหน้า)ไปที่หลอดรูปร่างแปลกประหลาด "หลอดฉีดยา" "แล้วนี่ก็....ยาที่ใช้ฉีด" มือชี้ไปยังขวดที่บรรจุของเหลวประกอบคำอธิบาย..... ลอเรนส์พยักหน้าเป็นเชิงบอกอีกฝ่ายว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่มันพูด.... "แล้วไง" "แล้วไงอะไร...?" ตีหน้างงแล้วถามกลับ "ถ้านี่มันเป็นยาที่เธอว่า....เธอก็ทำไปอย่างที่เธอรู้ว่ามันควรจะทำนั่นแหละ" เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจแล้วลุกเดินไปหยิบหนังสือมานอนอ่านบนเตียงตัวเอง พฤติกรรมที่แสดงเจตนาชัดเจน... 'แกจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าสะเออะมายุ่งกับชั้น.....' แต่งานที่อยู่ตรงหน้ามันก็ไม่ใช่งานสำหรับหมาเหมือนกัน.... ทั้งเปิดขวด แกะปลอกเข็ม ดูดยาใส่หลอด แล้วยังต้องเอาไปฉีดให้กับไอ้คนป่วยที่น่าจับโยนทิ้งให้ไปตายนอกหน้าต่างให้รู้แล้วรู้รอด..... ถึงหมามันจะแสนรู้แค่ไหน....สำหรับงานละเอียดอย่างนี้....มันก็ยังยากเกินไป วิธีที่จะทำให้สามารถปฏิบัติตามรายการทั้งหมดได้มันก็มีหรอก..... แต่ไม่อยากทำนี่หว่า..... เปรยสายตาไปยังคนขี้เก๊กเจ้าอารมณ์บ่นเตียงก่อนนึกขอโทษขอโพยมันในใจ.... แต่ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว (ถึงแม้จะถูกลากลงมาก็เหอะ) ก็ช่วยๆพายๆกันหน่อยล่ะกันเนอะ..... "ลอเรนส์ ลงมาช่วยกันหน่อยน่า....ไอ้พวกเนี้ย...บอกตรงๆชั้นทำเองไม่ได้" ออดอ้อนก่อนเป็นอันดับแรกถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางได้ผล แต่ทดลองก่อนก็ไม่มีอะไรเสียหาย..... ปฏิกริยาที่ตอบกลับมาก็คือไร้ปฏิกริยา..... "น่าๆ ลอเรนส์ มาช่วยกัน" พูดไม่พูดปล่าว คราวนี้ขาหมามันก็พาดไปบนแขนคนถูกอ้อนก่อนเขย่าอย่างถือดี ให้ผู้ถูกกระทำปรายสายตาอาฆาตมาให้ แต่คนเคยชินมันก็ยังคงฉีกยิ้มส่งให้อย่างหน้าชื่นตาบาน..... "ไม่!!" ตอบกลับด้วยเสียงเฉียบขาด "ปัญหาใครก่อ ก็ควรจะรู้จักแก้" "ตามใจๆ ชั้นไม่รู้หรอกน่ะว่านายอยากฝึกเพิ่มจุดเดือดหรืออยากทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนที่แสนดีให้ลูคัสโดยการนั่งพยาบาลมันสักเดือน...แต่ขอให้ความพยายามมันสัมฤทธิ์ผลล่ะกัน" คำย้อนกลับพร้อมสีหน้าที่หมามันเสแสร้งตีให้ดูว่าพยายามเอาใจช่วยเต็มที่.... ให้คนถูกขู่ได้แต่กัดฟันกรอดก่อนต้องจำใจยอมลุกขึ้นมาทำงานที่ ( ถูกยัดเยียดให้ ) ต้องทำ..... แล้วหมากวนประสาทมันก็ชนะพนันอีกตามเคย...... ++++++++++ "เข้าใจแล้วใช่มั้ย? ดูเส้นเลือด...จิ้มเข็มลงไปเบาๆ อย่าแทงจนทะลุแขนล่ะ" คำพูดที่หมามันนั่งกรอกหูอยู่เกือบชั่วโมงด้วยความกลัวว่าเขาจะใช้งานนี้บังหน้าเป็นหนทางลัดกำจัดคนกวนบาทา มันน่าจะทำเองให้รู้แล้วรู้รอด ในเมื่อมันรู้ดีนัก.... "ชั้นรู้แล้ว....และถ้าเธอไม่รู้....จะบอกให้ว่าเข็มนี่มันไม่ยาวพอทะลุแขนคนได้ แต่มันอาจจะทะลุปากหมาบางตัวได้ถ้ามันยังไม่หยุดพล่าม" นั่นแหละมันถึงได้หุบปาก.... และหยิบกระดาษกับปากกาออกมาใช้แทน.....-_-## ตัวอักษรหวัดๆลายมือหมาแสดงข้อความสีน้ำเงินตวัดบนกระดาษสีขาวให้ใจความว่า "งั้นก็รีบจัดการเถอะ" ภาพที่นักบวชแห่งป้อมอัศวินเห็นแล้วต้องกุมขมับก่อนคิดว่าควรจะรีบทำงานให้จบก่อนที่การต่อกรกับหมาตรงหน้าจะทำให้เขาเป็นบ้า...... "อรุณสวัสดิ์ลอรี่ แอล" เสียงทักทายอย่างอารมณ์ดีดังมาจากคนที่อยู่บนเตียงเป็นสัญญาณบอกว่ามันตื่นขึ้นมาแล้ว ดูๆไปก็ยังคงกวนประสาทไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ถ้าไม่นับว่าเสียงมันแหบลงไปจนน่าสงสาร "ตื่นก็ดีแล้ว...เพราะพวกเราไม่นิยมทำร้ายคนกำลังหลับ" คำทักทายยิ้มแย้มจากหมาผู้มีน้ำใจนักกีฬาที่คนป่วยตีหน้าฉงนสงสัยก่อนหันมาขอคำตอบจากอีกคนที่ดูจะพูดรู้เรื่องกว่า... "ชั้นจะฉีดยาให้นาย" เฉลยด้วยน้ำเสียงเนือยๆ หากแต่ปฏิกริยาของคนตรงหน้ากลับเป็นอะไรที่เขาคาดๆไม่ถึง...... ดวงหน้าที่เคยแดงก่ำด้วยพิษไข้ซีดเผือดลงจนน่ากลัว มือโบกปฏิเสธเป็นระวิง ขณะที่ปากละล่ำละลักพูดเป็นอยู่คำเดียว "ม่ายๆๆๆๆๆๆๆๆ " ข่าวใหญ่พิเศษพาดหัวประจำสัปดาห์..... ลูคัส ซาโดเรีย ผู้คุมกฏคนเก่ง.....ซาตานแห่งป้อมอัศวิน.... กลัวเข็มฉีดยา..... รู้เข้าถึงไหนอายเข้าถึงนั้น..... "ไม่อาวน้าลอรี่.....ชั้นจะนอนเฉยๆทำตัวดีๆ อย่าเอาไอ้นั่นเข้ามาใกล้ช้านน้าาาาา T-T " คำเว้าวอนอย่างน่าสมเพชจากคนป่วยที่น่าสงสาร หากแต่นักบวชที่ใจดำยิ่งกว่าซาตานก็ยังคงตีหน้าเฉยก่อนจัดเตรียมของตามที่หมาบอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว "ชั้นจะไม่เรียกนายว่าลอรี่อีกก็ด้ายน้า....อย่าเอาไอ้หลอดนั่นมาใกล้ๆชั้นเลยน้า....." การเจรจายังคงไร้ผลเมื่ออีกฝ่ายยังคงทำหน้าไม่สนใจ..... "นะน้า......ลอเรนส์น่ะ" "เงียบ!! แล้วนอนอยู่เฉยๆ.....อย่าคิดว่าชั้นจะปล่อยนายให้นอนกวนประสาทชั้นอีกเดือน แค่เมื่อวานวันเดียวชั้นก็จะจับไข้แทนอยู่แล้ว" ตวาดกลับพร้อมส่งสายตาปรามดุเดือดก่อนจะหันไปหยิบเข็มมาใส่กับตัวหลอด...... สถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตของ ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ ซอเซอร์เรอร์ ออฟ ทริสทอร์........... เมื่อนายไม่ฟังคำขอร้อง ชั้นก็ขอลา........ คนป่วยที่เคยไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะขยับตัวลุก แต่เพื่อเอาชีวิตรอดตอนนี้ก็กระโดดเหยงออกจากเตียงก่อนค่อยๆย่องอย่างเงียบกริบไปทางประตู....... แต่ทว่า.....คนมันเกิดจะซวยมันก็ต้องซวยนั่นแหละ ^^ ฟรึ่บ...!! ของสิ่งหนึ่งถูกโยนมาจากหมาที่บัดนี้ส่งสายตาเจ้าเล่ห์รู้ทัน.....ไม่ต่างกับที่เขาชอบใช้บ่อยๆ มันเป็นบ่วงเชือกขนาดที่พันธนาการซาตานแห่งป้อมอัศวินได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวเป็นที่สุด.......!!! "ขอบใจ แอลเมท" เสียงเย็นยะเยือกดังมาจากลอเรนส์ที่บัดนี้ "เตรียมการ" เสร็จเรียบร้อยแล้ว...... เข็มฉีดยาสะท้อนวิบวับกับเงาแดดอยู่ในมือนักบวชผู้กำราบซาตาน.... เสียงร้องฟังไม่ได้ศัพท์จึงดังขึ้นจากคนชอบแกล้งที่บัดนี้เป็นฝ่ายถูกรังแก......ก่อนที่เสียงการออกกำลังกายจากกีฬาชักกะเย่อกับวิ่งไล่จับจะดั่งลั่นไปทั่วทั้งชั้น........ =================== 13-26 /5-6/04 Author's note : บทนี้เราก็ยังคงไม่ได้ออกไปไหนอยู่ดี....ใครใช้ให้ลูคัสดันมาป่วยล่ะ ชริๆ ( ก็แกแต่งมาอย่างงั้นเองง่ะ จะโทษใคร... ) แต่ก็ทำให้เราได้รู้ความลับอะไรบางอย่างของเขาละเน้อ.....หุหุหุ หลังจากการเปิดเผย ( ใส่ไฟ/นั่งเทียน ) ถึง "ความเค็ม" ของพี่แก..คราวนี้ก็มาถึงเรื่อง "เข็มฉีดยา" นี่อีก..... เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ลูคี่เป็นคนที่ถูกเรายำมากที่สุด ยำจนเละไม่เหลือชิ้นดีซะแหล่ว เหอเหอ ((สาวกลูคัสอย่ามาฆ่าชั้นเลย)) แกล้งลูคัสเป็นอะไรที่หนุกดี (พอๆกับแกล้งลอรี่น่ะแหละ) ชอบอยู่กับสองคนนี้เพราะดูจะทำให้เรามีอะไรทำอย่าง 'หนุกหนาน' ไปได้เรื่อยๆ...(รวมถึงการเอื่อยเฉื่อยและงานไม่เดินด้วย :p) ลอยละล่องมานาน....คราวหน้าเราจะพาไปดูฉากหวานๆ ( แบบมีการจัดฉากนิดหน่อย ) ที่ไม่หลุดออกนอกแผนเหมือนคราวนี้..... ((แต่หลังจากคราวหน้าเราอาจโดนสาวกใครบางคนหมายหัวจนถูกลอบสังหารได้.....งานนี้คงต้องไปติดสินบนใครบางคนแถวๆซาเรสก่อนดีกั่ว )) แกตายแน่ไอ้นักเขียน
โดย: นู๋ซ่าจอมซน IP: 61.47.119.187 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:19:37:22 น.
เยี่ยมมากสะใจ
ชอบแกล้งคนอื่นเขาดีนัก ลูคัสเอ๋ย โดย: 555+ IP: 203.172.49.208 วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:05:14 น.
สะใจจิงๆอ่ะ หมั่นไส้มานานแล้ว
แกล้งคนอื่นดีนัก ชอบมั่กๆเลยอ่ะ อิๆ โดย: หัวขโมย IP: 202.151.183.162 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:57:55 น.
น่าร้ากกกกกกกก
โดย: Rozenzaki IP: 61.19.196.133 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:09:47 น.
แหะๆน่าร๊ากกกกดีจ้งแต่เราชอบห้ายแกล้งลอรี่...เฟี้ยว~~~ฉึก!!!...โอ๊ยขอโต๊ดค๊าบพี่ลอเรนซ์ต่อๆชอบให้ลอ...ร...(เอื๊อก)ลอเรนซ์มากกว่าเพาะน่ารักดี
โดย: คนน่ารักของลอรี่+ลูคี่ IP: 58.8.175.155 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:17:24:03 น.
|
บทความทั้งหมด
|