" นิทานเรื่อง ... การมองโลกในแง่ดี.... "
" นิทานเรื่อง ... การมองโลกในแง่ดี.... "



กาลครั้งหนึ่ง มีนครอยู่นครหนึ่ง และมีกษัตริย์ครองนคร
กษัตริย์ทรงโปรดปรานการท่องป่าล่าสัตว์เป็นอันมาก
กษัตริย์ทรงมีมหาดเล็กคู่ใจเป็นที่ปรึกษาอยู่คนนึง
วันหนึ่งได้เกิดกบฏขึ้นภายในพระนคร มีคนลุกฮือขึ้นจะโค่นอำนาจกษัตริย์ ซึ่งก็มีแววจะชนะซะด้วย



เมื่อกองทัพกบฏประชิดเมือง กษัตริย์ก็ได้ปรึกษากับคนสนิทเป็นการใหญ่
ซึ่งรวมไปถึงมหาดเล็กคู่ใจของเขาด้วย กษัตริย์ถามว่า



"เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้"
"ดีพะยะค่ะ"
"ดียังไง"
"สถานการณ์เวลานี้แม้จะดูไม่สู้ดีนัก แต่อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่า ใครบ้างที่จะจงรักภักดีกับเรา ใครที่คิด จะแปรพรรคไปด้านโน้น ซึ่งหากเรา
ปราบกบฏครานี้ลงได้ ท่านก็จะเหลือแต่ลูกน้องที่จงรักภักดีกับท่าน
ทำให้ไม่ต้องกังวลพระทัยอีกต่อไปพะยะค่ะ"
"อืม นั่นสินะ"
หลังจากนั้นกษัตริย์ก็มีกำลังใจเป็นอันมาก และปราบกบฏลงสำเร็จ
หลังจากนั้นไม่นานพอย่างเข้าหน้าฝน
ฝนก็ตกหนักจนท่วมลามเข้าในพระ
นครทำให้การคมนาคมติดขัด ไม่สามารถเดินทางออกนอกพระนครได้
กษัตริย์ที่ปกติจะออกป่าล่าสัตว์ก็เกิดอาการหงุดหงิด
กษัตริย์ก็ปรึกษามหาดเล็กอีกครั้ง



"เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้"
"ดีพะยะค่ะ"
"ดียังไง"
"ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ ก็ไม่เป็นไรพะยะค่ะ
เนื่องจากตอนนี้เป็นหน้าฝน อย่างไรเสียการเสด็จออกป่าก็คงไม่สนุก
เป็นแน่แท้ และเป็นการดีเสียอีกที่พอน้ำลด เกษตรกรเราก็จะได้ทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตงอกงาม และสามารถกักตุนเสบียงได้ในยามจำเป็น
พะยะค่ะ"
"อืม นั่นสินะ"



พอเสร็จสิ้นหน้าฝนและน้ำลดแล้ว
กษัตริย์ก็ทรงออกป่าล่าสัตว์ตามที่พระองค์ชอบเหมือนเดิม ซึ่งมหาดเล็ก
คนเดิมก็ติดตามไปด้วย แต่แล้ว ขณะที่พระองค์ทรงอยู่บนหลังม้า ปลอกพระขันธ์หรือมีดพกที่เหน็บเอว ได้รั่วทำให้มีดหล่น เฉือนนิ้วก้อยของ
กษัตริย์ขาดไปต่อหน้าต่อตากลายเป็นคนนิ้วด้วน กษัตริย์จึงถามมหาดเล็กเช่นเดิม



"เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้"
"ดีพะยะค่ะ"
"ดียังไง หา(ใส่อารมณ์โกรธสุดๆ))"



"ยังไงก็ดีกว่าตายพะยะค่ะ"



กษัตริย์โกรธเลือดขึ้นหน้ามาก สั่งทหารนำมหาดเล็กคนนั้นไปขังลืมในคุกขี้ไก่



และแล้ว 10 ปี ผ่านไปกษัตริย์ได้ออกล่าสัตว์เหมือนเดิม
ขณะที่มหาดเล็กก็ยังถูกลืมอยู่ในคุกขี้ไก่เหมือนเดิม ครานี้เป็นโชคร้ายของกษัตริย์เมื่อเข้าป่าไปเจอกับเผ่ากินคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าจำนวนทหารที่ติดตามไปด้วยมาก ทหารทั้งหมดจึงถูกจับและถูกต้มกินเป็นๆหมดเกลี้ยง
จนเหลือแต่กษัตริย์คนเดียวเมื่อเผ่ากินคนเตรียมจะเชือดกษัตริย์ลงหม้อ
ได้สังเกตเห็นว่ากษัตริย์ไม่มีนิ้วก้อยเท้า ซึ่งทางเผ่ากินคนได้มีความ
เชื่อถือว่าเป็นตัวกาลกินี กินเข้าไปแล้วจะเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงแก่เผ่า
จึงสั่งปล่อยตัวกษัตริย์ไปซะ



กษัตริย์ดีใจมาก เมื่อกษัตริย์ดีใจที่รอดตายกลับเมืองได้ จึงนึกถึงคำเมื่อ 10 ปีก่อนของมหาดเล็กคู่ใจ จึงลงไปที่คุกขี้ไก่และสั่งปล่อยตัวมหาดเล็กคู่ใจทันทีและทรงเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาด้วยความดีใจที่รอดชีวิตมาได้



"อืม คำเจ้าเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นจริง ยังไงนิ้วก้อยด้วนก็ยังดีกว่าตายจริงๆ"
"พะยะค่ะ"
กษัตริย์จึงถามต่อ



"แล้วอยู่ในคุกขี้ไก่เป็นไงบ้างล่ะหือ"
"ดีพะยะค่ะ"
กษัตริย์ทำหน้างง



"ดียังไง"
"ถ้ากระหม่อมไม่อยู่ในคุก ก็ทรงเสด็จตามท่านไปในวันนั้นด้วย
และคงจะโดนเผ่ากินคนกินไปแล้วพะยะค่ะ"


ป.ล. ขออภัย สำหรับแหล่งที่มา จำแหล่งต้นตอไม่ได้แล้วค่ะ
แต่มีแพร่กันไปมาก เลยลองเอามาให้อ่านกันค่า..............



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2551 17:09:32 น.
Counter : 1205 Pageviews.

1 comments
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - วิชา ภูผา ชีวิต : กะว่าก๋า
(30 มิ.ย. 2568 05:01:21 น.)
รัศมีขันธ์ ข้อมูลของขันธ์ สร้างบารมี ไม่เอาชนะ เก็บ ใช้ แก้อธรรม ปัญญา Dh
(1 ก.ค. 2568 21:05:35 น.)
กินคาวไม่กินหวานสันดาน...ไพร่ สมาชิกหมายเลข 6015765
(24 มิ.ย. 2568 03:42:47 น.)
วิ่งข้างบ้าน 15,17,18,19,21 มิ.ย.2568 สองแผ่นดิน
(24 มิ.ย. 2568 22:37:50 น.)
  
ดีจังค่ะ คิดบวกได้แบบนี้ ชีวิตคงมีความสุขขึ้นเยอะเลย
โดย: cutemd วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:40:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Reindear5.BlogGang.com

Ab Psy ReinDEAR++
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 190 คน [?]