...[Trick] การขึ้นรถไฟใน Tokyo (สำหรับมือใหม่) ...

การเดินทางในโตเกียวนั้น สำหรับคนที่นานๆมาญี่ปุ่นที งงแน่ครับ ...
เส้นทางรถไฟที่มากมาย หลากหลายบริษัท
แต่วิธีการจะทำให้ง่ายก็พอมี ดังนี้ครับ
1. แยกประเภทของรถไฟตามบริษัท หลักๆที่ขึ้นบ่อยๆ จะประกอบด้วย
  - Japan Railways (JR)
  - Tokyo Metro (Subway)
  - Toei Subway
  - Keio Railways
  - Tokyu Railways
  - Odakyu Railways

2. ดูเส้นทาง จากบริษัทที่จำแนกไว้ด้านบน
  2.1 Japan Railways (JR) นั้น เอาเป็นว่านักท่องเที่ยว ที่มาโตเกียวนั้น สนใจแค่2เส้นทางก็พอครับ //www.jreast.co.jp/e/routemaps/pdf/RouteMap_majorrailsub.pdf
   - เส้นวนรอบโตเกียว (Yamanote Line)
   - เส้นผ่าโตเกียว (ส่วนหนึ่งของ Chuo Line)

  2.1 Tokyo Metro (Subway) แนะนำว่าดูเป็นสีครับ
//www.tokyometro.jp/en/subwaymap/pdf/routemap_en.pdf
ซึ่งจะครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ เกือบหมด

  2.3 Toei Subway ใช้แผนที่ เดียวกับด้านบนนะครับ แต่จะมีแค่ 4 เส้น ดูตามสีเช่นกัน แหล่งท่องเที่ยวที่นอกเหลือจาก JR และ Tokyo Metro นั้น ไม่ค่อยมีครับ
เพียงแต่ Toei นั้น จะสะดวกและเร็วกว่าเล็กน้อย เพราะจะตัดเส้นทางที่อ้อมๆไป

  2.4 Keio Railways เป็นรถไฟที่จะมีสถานีซ้ำๆกับ Chuo Line อยู่บ้าง
//www.keio.co.jp/english/railwaymap/map.pdf
แหล่งช้อบปิ้งที่นอกเหนือจาก ข้างต้นก็จะเป็น
   - Shimokitazawa (มี Odakyu ผ่านด้วย)
   - Kichijoji (มี Chuo line ผ่านด้วย) , Inokashira

  2.5 Tokyu Railways เป็นเส้นสีแดงในแผนที่ JR
จะอยู่โซนตะวันตกของโตเกียว แค่เส้นเดียวก็เที่ยวได้เยอะแล้วครับ
   : Tokyu Toyoko Line มีที่ให้เดินช้อบ เช่น
    - Daikanyama
    - Nakameguro (มี Tokyo Metro ผ่านด้วย)
    - Jiyugaoka

  2.6 Odakyu Railways ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็รู้จักกันดีครับ เพราะเป็นต้นทางไปเที่ยวแถบ Hakone โดยจะไปขึ้นที่ Shinjuku ครับ

3. ประเภทของรถไฟ ปกติรถไฟของญี่ปุ่น Local นั้นจะมีแบบหลักๆ (บางบริษัทก็อาจจะมีแยกย่อยกว่านี้) คือ
  3.1 Rapid : คือรถที่จอดน้อยสถานี ซึ่งหากไม่แน่ใจอย่าขึ้นครับ เพราะมันอาจจะไม่จอดสถานีที่ต้องการ แต่หากเลยไปก็ย้อนมาได้ครับ
  3.2 Local : จอดหมด ชัวร์แต่ช้า

หากรู้จัก ข้อมูลเบื้องต้นด้านบน ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ :)

ต่อไปจะช่วยบอกเกี่ยวกับ Trick ครับ ในการทำให้ง่ายขึ้น ***

- การเรียกชื่อรถไฟ Local จะเรียกเป็นชื่อ Line ครับ (ภาษาญี่ปุ่นคือ เซน) และ ส่วนใหญ่ จะเรียนชื่อบริษัทก่อน เช่น Keio Inokashira Line แต่คนส่วนใหญ่ที่เชี่ยวชาญจะไม่ค่อยพูดชื่อบริษัทเท่าไร
- การต่อรถไฟนั้น อันดับแรก คือมองหาป้ายบริษัทครับ จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตามด้วยเส้นทางไหน และ เลือกฝั่งครับเพราะ ไปทางซ้ายกับทางขวา จะคนละชานชลา ซึ่งดูป้ายบอกสถานีจากที่ชานชลาได้
- ในเส้นทาง Yamanote line นั้น อาจมีรถของเส้นทางอื่นมาร่วมด้วยก็ได้ เช่น Saikyo Line, Shonan-Shinjuku Line ให้ดูป้ายที่ชานชลาครับ ถ้ามีสถานีที่เราต้องการไป ก็ขึ้นได้แหละครับ เช่น อยู่ Shinjuku จะไป Ikebukuro จะมีรถหลายขบวนที่ผ่าน
-  บางทีการต่อขบวนอาจจะเร็วกว่า เช่นอยู่ Shinjuku จะไป Ueno นั้น หากนั้น Yamanote Line ก็ได้ แต่ไป Chuo line แล้วไปต่อ Yamanote Line อีกนิดหน่อยก็จะเร็วกว่า ถ้าเจอขบวน Rapid ก็รีบขึ้นได้เลย
- การต่อรถไฟ คนละบริษัทกันจะเสียเวลาบ้าง เพราะบางสถานีห่างกันมากอยู่
- หากอยู่แต่ Tokyo การซื้อ บัตร Suica / Pasmo จะสะดวกมาก เพราะไม่ต้องคอยแบกเหรียญมากมาย ที่จะได้เป็นเงินทอนในการซื้อตั๋ว ซึ่งก็เสียเวลาอยู่
- การซื้อ one day pass เหมาะกับ การเดินทางหลายๆที่ โดยใช้รถไฟบริษัทเดียวกัน แต่หากจุดมุ่งหมาย มีไม่กี่ที่ ก็ไม่ควรซื้อครับ ซึ่งควรทำแผนท่องเที่ยวก่อน
- หากจะซื้อ Tokyo metro ซื้อจาก สนามบินนาริตะ เก็บไว้ใช้ได้ จะถูกกว่าเล็กน้อย

หากคิดออกจะแวะมาเพิ่มเติมครับ
อย่าลืมเวบ Hyperdia ไว้ทำแผนนะครับ

Create Date : 20 พฤษภาคม 2555 Last Update : 20 พฤษภาคม 2555 14:57:06 น. Counter : 15452 Pageviews.		9 comments
Share Tweet

	ฟลอเรนซ์ Florence, Italy สมาชิกหมายเลข 4313444 (4 ก.ค. 2568 04:50:45 น.)		วันที่ 3 เที่ยวอิตาลีเมืองรอง Bologna & Padova khimyo (8 ก.ค. 2568 14:52:49 น.)
	2 กค 68 ทริปชมซากุระ - 9 Ueno Park & Chidorigafuchi Park mcayenne94 (8 ก.ค. 2568 18:32:39 น.)		พญาครุฑ เนยสีฟ้า AI (2 ก.ค. 2568 03:10:38 น.)