La Mer <Part II> Creme De La Mer รีวิวมาตั้งนาน กว่าจะมาถึงต้นตำรับครีมสาหร่ายนาซ่าราคาแพงตัวนี้ สิ่งที่เหมือนกันของ Creme De La Mer, The Moisturizing Lotion, The Oil Absorbing Lotion และ The Moisturizing Gel Cream คือ "น้ำสาหร่ายหมัก" หรือ "Miracle Broth" ซึ่งเป็นจุดขายหลักหนึ่งเดียวของผลิตภัณฑ์ 4 ตัวนี้ โดยกระผมได้อธิบายไว้เรื่องนี้เอาไว้แต่ต้นแล้วในหมายเหตุ หากคุณเชื่อว่าน้ำบ่มสาหร่ายวิเศษนี้มันสามารถช่วยลดริ้วรอย หรือรักษาแผลเป็น แผลไหม้ของสารเคมีได้จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าลาแมร์อีกแล้วขอรับ หากคุณไม่ได้เชื่อว่ามันวิเศษอย่างที่โฆษณา สารสกัดของสาหร่ายก็ยังมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ที่ดี ช่วยต้านอาการระคายเคืองได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสารช่วยอุ้มน้ำ และบางทีก็ใช้เป็นตัวทำให้ส่วนผสมข้นขึ้น แต่สารสกัดจากสาหร่ายที่ขายเป็น Cosmetic Grade ซึ่งมีคุณสมบัติเหล่านี้เหมือนกันนั้นไม่ได้แพง แปลกใหม่หรือหายากแต่อย่างไร และใช้กันอย่างกว้างทั่วไปในวงการเครื่องสำอาง สิ่งที่ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ตัวนี้มีเหมือนกันอีกก็คือมีส่วนผสมของ Citrus Aurantifolia (Lime) Extract และ Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oi ที่ทำให้ผิวระคายเคืองได้ และใส่ในปริมาณที่เยอะทีเดียว นี่เป็นจุดที่บอกได้ว่านักวิทยาศาสตร์นาซ่า ไม่ได้รู้ไปดีเรื่องผิวและเครื่องสำอางไปกว่านักเคมีและแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างไร เพราะปัจจุบันนี้คนที่เรียนทางด้านนี้มาโดยตรงก็รู้กันอยู่แล้วว่าสารสองตัวนี้ก่อผลเสียมากกว่าผลดีกับผิว นอกจากนี้ทั้งหมดยังส่วนผสมของแร่ธาตุที่หลายตัวไม่คุณสมบัติใด ๆ เมื่อทาลงไปบนผิว และมีแค่เพียงบางตัวทีอาจจะมีประโยชน์ช่วยเรื่องแอนติออกซิแดนท์และช่วยบำรุงผิวได้บ้าง สำหรับวิตามินจำนวนน้อยก็ไม่อยู่ในความเข้มข้นที่จะแสดงประสิทธิภาพได้ สิ่งที่แตกต่างกันคือ "เนื้อของผลิตภัณฑ์ " (Base) ซึ่งเหมาะสมไปในแต่ละสภาพผิว โดย Creme De La Mer เป็นครีมต้นตำรับ และส่วนผสมของมันก็บ่งบอกถึงความโบราณได้เป็นอย่างดี เพราะเบสครีมประกอบไปด้วย Mineral Oil Vaseline Glycerin สารทำให้ส่วนผสมข้นและ wax อีกเพียบ ที่ต้องวอร์มครีมก่อนก็เพราะจะได้ให้ความร้อนมันทำให้สารพวกนี้อ่อนลงแค่นั้นเอง ซึ่งคุณจะไม่สูตรผสม ( formular) แบบนี้ในครีมสมัยใหม่ทั่วไป เพราะมันทำหน้าทีหลัก ๆ ได้แค่ช่วยเคลือบผิวเอาไว้เก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ แต่ไม่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นมากเท่าที่ควร เจอที่อากาศแห้งมาก ๆ หน้าก็แตกกระจายเหมือนกันแหล่ะขอรับ และสำหรับคนที่ซื้อมาเพราะว่ามันเป็นครีม Anti-Aging ก็ต้องเข้าไว้ว่า คนที่มีริ้วรอยจากผิวแห้งกร้าน ไม่จำเป็นต้องมีส่วนผสมวิเศษอะไรหรอกขอรับ โดนแค่เนื้อครีมหนัก ๆ ตัวนี้เข้าไปริ้วรอยมันก็จางแล้ว หลายสิบปีก่อนในยุคสมัยที่คอมพิวเตอร์ยังมีหน่วยความจำไม่ถึง 1 kb และใคร ๆ ก็เชื่อว่าไข่ขาวไม่มีคุณค่าทางอาหาร ครีมตัวนี้อาจจะเป็นครีมมหัศจรรย์แห่งยุคสมัย แต่ตอนนี้มันยุคสมัยไหนแล้วล่ะขอรับ ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทำให้ครีมมีเนื้อสัมผัสสุดสบายผิว มีส่วนผสมอีกหลากหลายที่พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์จริงไม่อิงปาฏิหาริย์ ซี่งสินค้าที่มีคุณสมบัติเหล่านี้หลาย ๆ ตัวก็มีราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย สรุปแล้ว Creme De La Mer ก็คือครีมโบราณเนื้อหนัก(มาก ๆ) ที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ (สาหร่าย) และแร่ธาตุไร้ประโยชน์กับวิตามินจำนวนน้อยนิด พ่วงมาด้วยสารสกัดที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้มาเป็นของแถม ถ้านั่นยังฟังดูไม่แย่พอ...สารกันเสียที่ใส่ในครีมกระปุกนี้อยู่ในรูปของ Methylchloroisothiazolinone และ Methylisothiazolinone ซึ่งเป็นสารกันเสียที่ตัวผู้ผลิตสารเองแนะนำให้ใส่ในผลิตภัณฑ์ประเภทต้องล้างออก อย่างแชมพู หรือครีมนวดผม (//www.rhpersonalcare.com/kathon.html) Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Mineral Oil (Paraffinum Liquidum), Petrolatum, Glycerin, Isohexadecane, Citrus Aurantifolia (Lime) Extract, Microcrystalline Wax, Lanolin Alcohol, Sesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oil, Magnesium Sulfate, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Paraffin, Tocopheryl Succinate, Niacin, Beta-Carotene, Decyl Oleate, Aluminum Distearate, Octyldodecanol, Citric Acid, Cyanocobalamin, Magnesium Stearate, Panthenol, Limonene, Geraniol, Linalool, Hydroxycitronellal, Citronellol, Benzyl Salicylate, Citral, Methylchloroisothiazolinone, Methylisothiazolinone, Alcohol Denat., Fragrance The Moisturizing Gel Cream เบสเจลครีมตัวนี้มีเนื้อเนียนละเอียดดีนะขอรับ ปูเป้คงจะ love love มันมากกว่านี้ถ้าไม่มีส่วนผสมของสารสกัดมะนาวแล้วก็ยูคาลิปตัส ความเห็นอื่น ๆ ก็เหมือนกันกับ Creme De La Mer ขอรับ Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Cyclopentasiloxane, Butylene Glycol, Citrus Aurantifolia (Lime) Extract, Glycerin, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/Vp Copolymer, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Sesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Eucalyptol, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Tocopheryl Succinate, Niacin, Aloe Barbadensis Leaf Water, Palmitoyl Oligopeptide, Dimethicone, Sucrose, Trehalose, Sorbitol, Sodium Hyaluronate, Oleth-10, Caffeine, Tocopheryl Acetate, Glyceryl Polymethacrylate, Hydrogenated Lecithin, Peg-8, Disodium Edta, Phenoxyethanol, Potassium Sorbate, Limonene, Hydroxycitronellal, Linalool, Geraniol, Citronellol, Fragrance The Moisturizing Lotion เบสโลชั่นนี้มีสูตรผสมที่ทันสมัยกว่า เหมาะกับผิวผสมที่หนักมาทางแห้งหน่อยขอรับ นอกนั้นก็เหมือนกับ Creme De La Mer เกือบทุกอย่างขอรับทั้งข้อดีข้อเสีย Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Cyclopentasiloxane, Glyceryl Distearate, Butylene Glycol, Phenyl Trimethicone, Ethylhexyl Hydroxystearate, Petrolatum, Glyceryl Dilaurate, Steareth-10, Butyrospermum Parkii (Shea Butter), Dimethicone, Polysilicone-11, Cholesterol, Citrus Aurantifolia (Lime) Extract, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Eucalyptol, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Tocopheryl Succinate, Niacin, C13-14 Isoparaffin, Sodium Hyaluronate, Hibiscus Abelmoschuus Extract, Squalane, Tocopheryl Acetate, Linoleic Acid, Polyacrylamide, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Beta-Carotene, Hyaluronic Acid, Cyanocobalamin, Cetyl Alcohol, Polyquaternium-24, Isocetyl Stearoyl Stearate, Laureth-7, Fragrance, Methylparaben, Propylparaben, Potassium Sorbate, Limonene, Geraniol, Citral, Linalool, Hydroxycitronellal, Citronellol, Benzyl Benzoate, Benzyl Salicylate, Disodium Edta, Trisodium Edta, Bht, Phenoxyethanol The Oil Absorbing Lotion เป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เบาที่สุดในบรรดาเวอร์ชั่นต่าง ๆ ของ Creme De La Mer แต่สำหรับคนผิวมันแล้วนั้น สารช่วยดูดซับความมันก็มีไม่มากพอขอรับ ยังไงก็ต้องมาซับหน้าบ่อย ๆ หรือต้องใช้แป้งฝุ่นที่คุมความมันได้ดีจริง ๆ ปัดทับ แล้วคนที่เป็นสิวหรือผิวอุดตันได้ง่ายก็ระวังเจอปัญหาไว้หน่อยก็ดีนะขอรับ จุดเด่นจุดด้อยนอกนั้นก็เหมือนกับ Creme De La Mer ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนนี้ Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Butylene Glycol, Squalane, Propylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate, Glyceryl Stearate Se, Hydrogenated Lecithin, Methyl Methacrylate Crosspolymer, Octyldodecyl Neopentanoate, Citrus Aurantifolia (Lime) Extract, Laminaria Saccharina Extract, Sucrose, Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oil, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Nylon-12, Niacin, Beta-Carotene, Dimethicone, Polyacrylamide, C13-14 Isoparaffin, Cyanocobalamin, Laureth-7, Potassium Stearate, Fragrance, Limonene, Geraniol, Linalool, Hydroxycitronellal, Citronellol, Benzyl Salicylate, Citral, Disodium Edta, Bht, Sorbic Acid, Chlorphenesin, Phenoxyethanol The Eye Balm กระผมอ่านส่วนผสมแล้วหยุดคิดกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้นานทีเดียว... ไอ้กระดูกอ่อนของปลา (Fish cartilage) กับ แร่สีเขียว (Malachite) นี่มันใส่เพราะประโยชน์การใดรึขอรับ??? ใครรู้ช่วยบอกกระผมเอาบุญปูเป้ที เสาะแสวงหาจนทะลุ Google และ yahoo แล้วยังเอกสารฉบับใดที่บ่งชี้ถึงประโยชน์ของมันเมื่อทาลงบนผิว ส่วนผสมที่เป็นปัญหาก็ยังคงเป็น Eucalyptus Oil อีกเช่นเดิม แต่คราวนี้เพิ่ม Wild Mint มาเพิ่มพลังระคายเคือง จริง ๆ แล้วถ้าไม่มีไอ้สองตัวข้างบนนี่ก็ถือว่าเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้งที่ดีทีเดียวนะขอรับ แต่ดันบอกว่าเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับรอบดวงตา ก็เอาไฟแดงไปกินซะอย่างไม่ต้องสงสัย Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Butylene Glycol, Butyrospermum Parkii (Shea Butter), Fish (Pisces) Cartilage Extract, Polyethylene, Hydrogenated Polyisobutene, Cyclopentasiloxane, Cetyl Esters, Cetearyl Alcohol, Malachite, Isostearyl Neopentanoate, Polybutene, Sucrose, Silica, Tocotrienols, Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract, Centella Asiatica (Hydrocotyl) Extract, Sesamum Indicum (Sesame) Seeds, Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oil, Medicago Sativa (Alfalfa) Seeds, Pyrus Malus (Apple) Fruit Extract, Helianthus Annuus (Sunflower) Seeds, Prunus Dulcis (Powdered Almonds), Sodium, Potassium, Copper, Calcium, Magnesium And Zinc Gluconate, Caffeine, Sodium Hyaluronate, Linoleic Acid, Cholesteryl/Behenyl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Methyl Glucose Sesquistearate, Cholesterol, Dimethicone, Ocimum Basilicum (Basil), Mentha Arvensis (Wild Mint), Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Glyceryl Distearate, Cetearyl Glucoside, Steareth-10, Carbomer, Aminomethyl Propanol, Limonene, Linalool, Benzyl Salicylate, Disodium Edta, Bht, Sodium Dehydroacetate, Phenoxyethanol, Methylparaben, Green 5, Titanium Dioxide, Yellow 5, Blue 1 The Eye Concentrate กระผมขอบอกสั้น ๆ ว่า เปลี่ยนแพคเกจ!!! (เพื่อเก็บรักษาสารบำรุงหลาย ๆ ตัวให้เสถียรตลอดการใช้งาน) ....เอาน้ำมันยูคาลิปตัสออก!!! (สารตัวเดียวที่มีปัญหาอาจทำให้ระค่ายเคือง) แล้วเอาไฟเขียวพร้อมมงกุฏไปเลยคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ เพราะนอกจากนั้นแล้วส่วนผสมหลาย ๆ ตัวนี่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว!!!! (แต่ก็มีหลายตัวที่ไม่มีประโยชน์) จำเป็นต้องให้ไฟเหลืองตามกฏระเบียบเคร่งครัดของกระผมนะขอรับ เพราะน้ำมันยูคาลิปตัวแท้ ๆ เลย น่าเสียดายจริง ๆ นะขอรับ Ingredients: Seaweed (Algae) Extract, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Yeast Extract, Dimethicone, Caprylic/Capric Triglyceride, Saccharomyces/Xylinum Black Tea Ferment, Vinyl Dimethicone/Methicone Silsesquioxane Crosspolymer, Caprylic/Capric/Myristic/Stearic Triglyceride, Hydrogenated Vegetable Oil, Polysilicone-11, Sea Salt (Maris Sal), Saccharomyces/Copper Ferment, Helichrysum Arenarium (Everlasting) Extract, Algae Extract, Gelidium Cartilagineum Extract, Tourmaline, Polygonum Fagopyrum Seed Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Sesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oil, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Tocopheryl Succinate, Niacin,, Hematite, Corallina Officinalis Extract, Isomerized Linoleic Acid, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Acetyl Hexapeptide-8, Whey Protein, Hesperidin Methyl Chalcone, Linoleic Acid, Caffeine, Cholesterol, Tetraacetylphytosphingosine, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul's Wort) Extract, Artemia Extract, Butylene Glycol, Crithmum Maritimum Extract, Biotin, Acetyl Carnitine Hcl, Acetyl Glucosamine, Steareth-20, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Nylon-12, Avena Sativa (Oat) Kernel Extract, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Extract, Glycine Soja (Soybean) Protein, Isononyl Isononanoate, Sea Whip Extract, Sodium Citrate, Cetyl Peg/Ppg-10/1 Dimethicone, Phytosphingosine, Hydrogenated Polyisobutene, Retinyl Palmitate, Propylene Glycol Dioctanoate, Sucrose, Glycosaminoglycans, Dipeptide-2, Dimethicone Crosspolymer, Triethoxycaprylylsilane, Trimethylsiloxysilicate, Isododecane, Peg/Ppg-18/18 Dimethicone, Silica, Hydroxyethylcellulose, Alumina, Fragrance, Phenoxyethanol, Potassium Sorbate, Titanium Dioxide, Mica The SPF 18 Fluid ปูเป้กุมขมับด้วยความกลุ้มใจเมื่อได้อ่านคำโฆษณานี่บ่งบอกถึงความบ้าคลั่งของวงการเครื่องสำอางชิ้นนี้ "The SPF 18 Fluid captures beneficial light while diverting potentially damaging light." The SPF 18 Fluid จะดูดซับแสง(อาทิตย์)ที่มีประโยชน์และเบี่ยงแสง(อาทิตย์)ที่ทำร้ายผิวออกไป "Gemstones absorb light energy, transforming it into beneficial green light to enhance anti-oxidant activity" อัญมณีจะคอยดูดซัพลังงานแสงและเปลี่ยนมันเป็นแสงสีเขียวเพื่อเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ถ้าเชื่อว่ามันทำได้จริง... ก็ไม่ต้องอ่านต่อแล้วล่ะขอรับ เพราะคุณคงก้าวล้ำจุดที่ปูเป้จะเอื้อมถึงแล้ว... จากส่วนผสมแล้วก็เป็นครีมกันแดดธรรมดานี่แหล่ะขอรับ ที่มี Avobenzone เป็นตัวกรองรังสี UVA และเหมาะกับคนที่มีผิวผสมไปทางแห้ง สำหรับส่วนผสมของแร่ธาตุอัญมณีบ้าบอที่สรรหามาใส่เพื่อให้ดูดซับแสงแล้วแปลงเป็นพลังวิเศษเพื่อพิพักษ์ผิวนี่กระผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายแทนความรู้สึกได้ ขออนุโลมให้ไฟเขียวนะขอรับ แต่ย้ำไว้หน่อยว่าส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ท้าย ๆ ก็อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้กับคนที่ผิวแพ้ง่ายจริง ๆ ก่อนจะเสียเงินเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ มีคำถามง่าย ๆ 1 ข้อ "มีจำเป็นต้องทาครีมกันแดดราคาแพงขนาดนี้เลยรึขอรับ?" Active Ingredients : Octinoxate (7.5%), Homosalate (3.5%), Avobenzone (3%) Other Ingredients : Water Purified, Cyclopentasiloxane, Pentylene Glycol, C12-15 Alkyl Benzoate, Acrylates Copolymer, Hydrogenated Lecithin, Octyldodecyl Neopentanoate, Malachite, Tourmaline, Laminaria Ochroleuca Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Flour Lipids, Chondrus Crispus (Carrageenan) Extract, Linoleic Acid, Crithmum Maritimum Extract, Synthetic Wax, Polyacrylamide, Choleth-24, Ceteth-24, Pvp/Hexadecene Copolymer, Cholesterol, Dipropylene Glycol Dibenzoate, Caprylic/Capric Triglyceride, C13-14 Isoparaffin, Butylene Glycol, Laureth-7, Ppg-15 Stearyl Ether Benzoate, Fragrance, Limonene, Geraniol, Linalool, Hydroxycitronellal, Citronellol, Benzyl Salicylate, Citral, Disodium Edta, Bht, Phenoxyethanol, Methylparaben, Butylparaben, Isopropylparaben, Isobutylparaben The Radiant Facial เป็นชุดของมาสค์ที่แยกเป็นสองส่วน คือ The Radiant Primer ที่เขาบอกให้ใช้ก่อนเพื่อเตรียมผิว และปะทับด้วย The Radiant Mask ทิชชู่มาสค์ที่แยกเป็นส่วนบน และส่วนล่าง ส่วนของ The Radiant Primer นั้นเป็นอะไรที่ไร้สาระ และไม่จำเป็นสุด ๆ เพราะมันมีส่วนผสมเดียวกับ The Radiant Mask นี่จึงเป็นเพียงแค่กลยุทธทางการตลาดที่ทำให้คุณรู้สึกว่าสินค้าตัวนี้น่ะมันพิเศษ!!! แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ส่วนผสมของมาสค์ตัวนี้ไม่มีอะไรมากนอกจาก น้ำวิเศษ และ แอลกอฮอล์!!! <---- (แค่นี้ก็ไฟแดงแล้ว) ที่เหลือก็เป็นยีสต์ สารช่วยอุ้มน้ำ และสารสกัดอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์เป็นหลัก บ้างก็ช่วยต้านอาการระคายเคือง แร่ทูมาลีนไร้ประโยชน์แล้วก็ สารทำให้ข้นขึ้น น้ำหอม สารกันเสีย คิดว่านี่คือสิ่งที่ควรคู่กับเงินหลักหมื่นที่เสียไปรึเปล่าล่ะขอรับ? รอดไฟแดงไปได้ก็แปลกแล้วล่ะขอรับ Ingredients: Declustered Water (+), Declustered Water (-), Alcohol Denat., Yeast Extract, Methyl Gluceth-20, Glycerin, Alcaligenes Polysaccharides, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Extract, Caffeine, Saccharomyces Lysate Extract, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul's Wort) Extract, Hydrolyzed Ulva Lactuca Extract, Pisum Sativum (Pea) Extract, Enteromorpha Compressa Extract, Tourmaline, Glycine Soja (Soybean) Protein, Azurite, Algae Extract, Chlorella Vulgaris Extract, Artemia Extract, Glycosaminoglycans, Acetyl Glucosamine, Sea Salt, Arginine, Chamomilla Recutita (Matricaria), Citrus Aurantifolia (Lime) Extract, Pullulan, Anthemis Nobilis (Chamomile), Hydrolyzed Wheat Protein, Corallina Officinalis Extract, Methyldihydrojasmonate, Jojoba Wax Peg-120 Esters, Sorbitol, Ppg-5-Ceteth-20, Xanthan Gum, Polysorbate 20, Linalool, Butylene Glycol, Citric Acid, Phenoxyethanol, Sodium Benzoate The Refining Facial ส่วนผสมบอกว่ามันเป็นสครับกึ่งมาสค์ที่ช่วยดูดซับความมันธรรมดา ๆ ซึ่งคงจะปลอดภัยที่จะใช้หากปราศจาก Spearmint และ Lemon ที่ทำให้ซ้ำเติมผิวที่ผ่านการขัดให้ระคายเคืองหนักกว่าเดิม ต่อให้คิดว่ามินท์และเลมอนมันดีกับผิว แต่จำเป็นต้องใช้ผงเพรชและอัญมณีบดละเอียดอื่น ๆ เพื่อขัดหน้าเลยรึขอรับ? เกินความจำเป็นไปหน่อยรึเปล่า? Ingredients: Declustered Water (+), Kaolin, Calcium Carbonate, Butylene Glycol, Isododecane, Stearic Acid, Lauryl Methacrylate/Glycol Dimethacrylate Crosspolymer, Cetyl Alcohol, Bentonite, Dimethicone, Acrylates Copolymer, Maris Sal (Sea Salt), Quartz, Humic Acids, Cellulose, Macrocystis Pyrifera (Kelp) Protein, Diamond Powder, Tourmaline, Hydrolyzed Wheat Protein, Chlorella Vulgaris Extract, Mentha Viridis (Spearmint), Citrus Limonum (Lemon) California, Hydrogenated Lecithin, Peg-100 Stearate, Polyethylene Naphthalate, Magnesium Aluminum Silicate, Methyldihydrojasmonate, Sodium Lactate, Methylcellulose, Citrus Grandis (Grapefruit California), Oleth-3 Phosphate, Xanthan Gum, Sorbitan Stearate, Glyceryl Stearate, Potassium Stearate, Limonene, Disodium Edta, Sorbic Acid, Phenoxyethanol, Titanium Dioxide, Guanine, Yellow 5, Green 5 The Lip Balm ส่วนผสมในนี้ก็หาได้ใน Lip balm ที่มีส่วนผสมดี ๆ ทั่วไปนะขอรับ แต่สิ่งที่พิเศษในนี้คือ อัญมณีและแร่ธาตุ ที่ไม่ค่อยได้เห็นเครื่องสำอางอื่น ๆ เขาใส่กัน (เพราะมันไม่มีประโยชน์) สองสิ่งที่ควรเอาออกไปจากบาล์มตัวนี้คือ Eucalyptus และ Menthol (Menthyl Pca) ซึ่งทำให้ปากคุณลอกหนักกว่าเดิม กระผมใช้แล้วถูกใจกับ Avovado Lip Balm ของ Skinfood มากกว่าเยอะเลย Ingredients: Petrolatum, Octyldodecanol, Microcrystalline Wax, Octyldodecyl Stearoyl Stearate, Bis-Diglyceryl Polyacyladipate-2, Polyglyceryl-10 Pentaoleate, Phenyl Trimethicone, Aloe Barbadensis Leaf Extract, Seaweed Extract, Malachite, Algae Extract, Tourmaline, Sesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Eucalyptus Globulus (Eucalyptus) Leaf Oil, Sesamum Indicum (Sesame) Seed, Medicago Sativa (Alfalfa) Seed Powder, Helianthus Annuus (Sunflower) Seedcake, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Meal, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Tocopheryl Succinate, Niacin, Fish (Pisces) Protein, Ricinus Communis (Castor) Seed Oil, Phytosphingosine, Trehalose, Polybutene, Tocopheryl Acetate, Cholesterol, Glyceryl Distearate, Water, Glycerin, Menthyl Pca, Oleic Acid, Palmitic Acid, Sodium Saccharin, Sorbitan Sesquioleate, Calcium Carbonate, Sodium Bicarbonate, Fragrance, Benzyl Benzoate, Limonene, Bht, Propylparaben, Blue 1 Lake, Yellow 5 Lake เฮ้อ...กว่าจะหมด เป็นแบรนด์ที่รีวิวส่วนผสมแล้วเบื่อใช้ได้ เพราะจะเจอส่วนผสมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ (อารมณืเดียวกะตอนรีวิว SK-II) นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ฟังดูหรูหราราคาแพงแต่ "ไร้สาระ" "ไม่มีประโยชน์" และ "เกินความจำเป็น" ซะมากกว่า แต่อย่างไรก็ดีนี่ก็เป็นเพียงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจนะขอรับ ก็เอาไปคิดและตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้กันเอาเอง ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือเห็นด้วยกับกระผมไปซะทั้งหมดนะขอรับ รีวิวเมือไหร่ จะมาเกาะขอบจออ่านคนแรกเลยค่ะ อิอิ
โดย: yr_naughty_annie วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:57:21 น.
เกาะขอบคนที่สองค่า
ว่าแต่คุณปูเป้ไม่รีวิว clinique ต่อแล้วเหรอคะ แอบรออยู่ง่ะ แหะๆ โดย: kisekimeru IP: 203.97.83.162 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:46:23 น.
มานั่งรออ่านคนที่ 3 เลย
ติดมาด อ่านแล่ว อ่านอีก โดย: กี้ IP: 58.8.249.211 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:09:04 น.
คนที่ 4
แหะๆ โดย: ผ้าไหมไทย IP: 117.47.165.142 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:36:00 น.
ปูเสื่อนอนรอ เหมือนซื้อบัตรconcert กะดั้ย
ชอบอ่านค่ะ เป็นคนชอบอ่านส่วนประกอบเหมือนกัน แต่ขี้เกียจค้นคว้าเอง ทึ่งในความตั้งใจของน้องมั่กค่ะ โดย: pukpik IP: 124.121.82.112 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:19:26 น.
สู้ๆๆๆๆๆจ้ามาเชียร์อีกคนคะ
โดย: นู๋เค้ก IP: 125.26.34.120 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:42:56 น.
มาต่อคิวรอ
โดย: bluestormy IP: 58.8.203.99 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:55:43 น.
เคยได้ยินว่าครีมลาแมร์ช่วยเรื่องหน้าแห้ง แต่ไม่ช่วยเรื่องเติมน้ำให้ผิว พอมาอ่านรีวิวคุณปูเป้ก็เข้าใจแล้วค่ะ
โดย: kisekimeru วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:40:45 น.
ต่อคิวด้วยอีกคนจ้า ว่าแต่รีวิวต่อไปเป็นอะไรคะ อยากรู้เร็วๆ
โดย: เก๋ IP: 58.9.1.192 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:32:39 น.
เพิ่งไปถอยลิบมา เมื่อต้นเดือนเองง่ะ
น้องรีวิว ช้าไปนิสสสสสสสสสสสสสส ไม่น่าเลย พอดีอ่านรีวิว คนอื่นเค้าบอกว่าดีสุดสุด เลยดั้นด้นไปหามา ...แต่ทาแล้วก้อเฉยๆๆๆ เคยใช้ครีมลาแมร์ สิวกระจายยยย ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Cosme decorte ก้อยังไม่รู้สึกถึงความวิเศษเลยค่ะ ยังไงน้องช่วย รีวิว ด้วยน้า ขอให้ ชาตินี้ ชาติหน้า น้องปูเป้จงมีหน้าใสแบบนี้ น้า เพี้ยง โดย: pukpik IP: 124.121.83.63 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:36:33 น.
ชอบๆ คุณปูเป้รีวิวมั่กๆค่ะ กะว่าว่างๆปุ๊บจะไปซื้อหนังสือคุณพอลล่า มาอ่านมั่ง
ตอนนี้บังคับคุณแฟนใช้ Clear Skin Set ของ Paula อยู่สั่งให้ไปส่งบ้านคุณแฟนที่อเมริกา แล้วก้อสั่งของตัวอย่างเต็มเลย เพราะกลัวว่าจะแพ้พวก BHA, AHA อิๆขอทดลองก่อนได้ผลยังงัยจะส่งผลมาบอกนะค่ะ อีกอย่างคิดว่าคงต้องขนสมองเด็ยวิทยา มาใช้เต็มที่แน่ๆต่อไปกับการเลือกครีม แต่ถ้าคุ้มกับความพยายามก้อโอเค อิๆ ที่สำคัญ เราว่ากฏหมายเมืองไทยยังอ่อนไปเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ นะค่ะ เพราะเวลาเราซื้อของแม้กระทั่งในเว๊บต่างๆของอเมริกาเนี่ยเค้าจะลงรายละเอียดส่วนผสมหมดเลย บ้านเรานี่แทบหาไม่ได้เลย บทจะไปขอดูที่เคาท์เตอร์ก้อจะถูก BA จิกกิน โดย: แมวเหมียวเปรี้ยวจี๊ด IP: 146.23.250.105 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:09:27 น.
อย่าเชื่อมาก ถ้าไม่ได้ลองใช้เองก็ไม่รู้หรอกว่าดีหรือไม่ดี เหมาะกับเราหรือไม่ บางตัวที่ว่าดี๊ดีบางคนใช้แล้วก็ห่วย ไอ้ที่บางคนว่าห่วยแต่บางคนใช้แล้วก็ดี๊ดีนะ
:P โดย: แค่ความเห็น IP: 202.3.71.10 วันที่: 23 กันยายน 2551 เวลา:16:35:54 น.
เคยใช้ The Eye Concentrate
ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเลยคะ คงเข็ดไปอีกนาน กะของแพงๆ โดย: อายะจัง IP: 58.64.90.144 วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:9:09:52 น.
ใช้ตัว lip balm เหมือนกันค่ะ...
เพิ่งไปถอยมาได้ไม่นาน... เห็นเพื่อนๆเค้าใช้กันก้อเกิดอาการจิตป่วน อยากได้มั่ง... สรุปคือ คุณภาพไม่เทพสมราคาอย่างที่ชาวบ้านล้านตลาดเค้าร่ำรือกันเลยค่ะ... ตรงกันข้ามเลยเราใช้แล้วรู้สึกปากแห้งกว่าเดิมแถมลอกด้วย... พอไปถามๆ กับเพื่อนๆเค้าก้อบอกเค้าใช้โอเค ปกตินะ... เลยหลงคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์ประหลาด ผิดปกติอยุ่คนเดียวมาซะตั้งนาน... เพิ่งจะมาฟ้าสดใสตาสว่างก้อตอนอ่าน blog นี้นี่แหละค่ะ... ในที่สุดก้อประจักแล้ว ว่าชั้นหนะปกติ... ไอ้ผลิตภันนี้ต่างหากที่มันเห่ย... แค้นมาก ตลับแรก ตลับเดียว และตลับสุดท้าย ขอลาจากเลยค่ะ... ps. ขอขอบคุณคุณปูเป้มากนะคะ ที่เอาความรู้เหล่านี้มาเขียนให้อ่านกัน...ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความรู้เรื่อง ingredient พวกนี้เลยค่ะ... เค้าโฆษณาว่ายังไง ใครเค้าใช้แล้วว่าดีก้อแห่แหนเอาเงินไปถลุงตามจนหมด...อยากจะบอกว่าสิ่งที่คุณปุเป้ทำ เป็นประโยชน์ต่อคนหลายๆคนมาก...ยังไงก็ช่วยแ่บ่งปันสิ่งดีๆเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆนะคะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ โดย: Kaoeisz IP: 58.8.232.24 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:14:41 น.
เอ่อ คือว่าคือเพิ่งไปถอยเดอครีมมาวันนี้เอง แง แง ไม่ได้อ่านบล็อกนี้ก่อนอ่ะ
เสียดายตังค์ขึ้นมาทันทีเลยอ่ะ โดย: iamnunok วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:23:22:32 น.
โอ้วววว เข้ามาเจอบล๊อคคุณปูเป้วันนี้ ชอบจังเลยค่าาาาาาา
โฮ้ววว เกือบไปถอยลาแมร์มาแล้วเชียวค่ะ ขอบคุณค่ะ สำหรับฟามรู้ดีๆๆๆ โดย: POEI IP: 118.172.229.194 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:29:56 น.
ก๊ากกกกก....ชั้นละขำครีมละเมอ
โดย: แฟนานุแฟน IP: 118.172.197.105 วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:18:28:42 น.
แชร์ข้อมูลด้วยคนนะคะ
(เมื่อกี้พิมย้าวยาวเเต่โพสคอมแฮงๆไปซะงั้น TT) Eye Concentrate เคยไปลองตอนมันออกมาใหม่ๆ พอลองเสร็จรีบส่องกระจก ไหงรู้สึกว่าตามันช้ำกว่าเดิมแฮะ เหมือนแพนด้าเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม้นวดสีเงินนั่นรึเปล่า ใช้ครั้งเเรกไม่ค่อยประทับใจ (แถมกลิ่นมันเหม็นด้วยอะค่ะ เเต่ไม่มีกลิ่นคือดีเเล้วใช่มั้ยคะ) เลยคิดไปเองว่า Eye Balm ใช้ดีกว่า แต่พออ่านรีวิวจบ...........แป่วววว.....ได้ไฟแดงซะงั้น 555 เราใช้แบรนด์นี้มาหลายปีเเล้วค่ะ ตั้งเเต่พารากอนเพิ่งเปิด ใช้หลายตัวเหมือนกัน เรียกว่าใช้ครบเซตเลยก็ได้มั้ง หน้าก็........................เหมือนเดิมนะคะ 555 อาจจะเป็นเพราะนิสัยขี้เกียจ ไม่ค่อยล้างหน้าด้วยมั้งคะ ใช้ยี่ห้อไหนก็รู้สึกเหมือนเดิมหมด (ยกเว้น Concentrate ที่คิดว่าใช้เเล้วดีนะคะ เอาไว้ทาสิว หรือจริงๆเเล้วไม่ควรคะ???) เรื่องแพกเกจเครื่องสำอางนี่สงสัยมานานเเล้วค่ะว่าทำไมบริษัทเค้าไม่คิดถึงตอนใช้เลย อย่าง Eye Balm ตัว sample ดีกว่าอีกเพราะเป็นหลอด ใช้ง่าย อยากให้เค้าทำขายเหมือนหลอด sample เลยด้วยซ้ำ ปริมาณน้อยๆก็พอเพราะมันหมดอายุเร็วมากด้วย ใช้แบบกระปุกยังไม่ทันหมดเลย หมดอายุไปเเล้วซะงั้น :( ตอนนี้สลับมาใช้ Juice Beauty แล้วค่ะ เพราะชิงโชคได้มา :D แถมเจอโฆษณาเข้าไปอีก ดูเเล้วน่าใช้มากๆ ว่าจะไปโพสขอให้คุณปูเป้รีวิวบ้าง เเต่หา Review Request ไม่เจอ หรือว่าช่วงนี้ปิดรับรึเปล่าคะ??? ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :D โดย: Big Bear IP: 124.122.174.72 วันที่: 20 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:47:10 น.
สมัยยี่สิบนิดๆ เคยถอยยี่ห้อนี้มาด้วยความรู้น้อยว่าตัวเองโดนหลอกอย่างจัง ผลคือจากที่หวังว่า miracle จะเกิดกับหน้าที่ยับจากการสิวบุก กลับไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง มิหนำซ้ำสิวก็ยังบุกต่อไป หลังหยุดใช้และเวลาผ่านไปเกิดเสียดายของแถมอื่นๆจากครีมที่ซื้อมาแพงที่สุดในชีวิตยี่ห้อนี้ เลยขุด sample มาใช้ ผลคือ หน้าที่เสียเงินรักษากับหมอไปจนดีขึ้นแล้วกลับแย่ๆๆๆๆๆๆ แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เลยเลิกเด็ดขาด มารู้ทีหลังว่าพวกสาหร่ายนี่ตัวอุดตันชั้นยอด แล้วยี่ห้อนี้มันก็ไม่ได้วิเศษเอาซะเลย ขอบคุณ blogger อย่าง PuPe และ Phoebe มากๆค่ะ
โดย: Superstar IP: 58.64.92.154 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:21:54:08 น.
ครีมยี่ห้อนี้ เค้าทำขึ้นมาเพื่อคนโซนยุโรป ที่มีผิวบอบบางไว้ต่อแสงหรือปะติกิริยาเคมี แล้วก็จะมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อใช้ในสภาพอากาศ เย็น และ ความชื้นต่ำ แต่คนไทยก็ยังไม่วาย อยากลองใช้ แต่พอใช้แล้วไม่เห็นผลก็มาประโคมรีวิวเค้าเสียๆหายๆ เราอยู่อังกิดและก็รู้จักยี่ห้อนี่ดีพอควร เอาเป็นว่าที่นี่กับที่ไทย ความนิยมและผลลัำพธ์แตกต่างกันมาก
โดย: fiat IP: 86.147.112.194 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:15:10:03 น.
อ้อ เกือบลืม ครีมยี่ห้อนี้ ผลิตที่อังกิด ทุกคนน่าจะรู้ว่า เครื่องสำอางค์หรือผลิตพันดูแลผิว ที่มาจากยุโรป จะแตกต่างกับของที่มาจาก เอเชีย เพราะว่า ปริมานของสารสกัดหรืออะไรก็ตามที่ใส่ลงไปในครีม จะมีปริมานเกิน 5% แต่ของเอเชีย จะอยู่ที่ประมาน 0.8 - 2 % นั้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ครีมนั้นราคาแพงมหันต์ ส่วนได้ผลไม่ได้ผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
โดย: fiat IP: 86.147.112.194 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:15:19:00 น.
คุณครับ สูตรเหมือนกันทั่วโลกครับสำหรับยี่ห้อนี้ ถ้าไม่รู้อย่าทำเป็นรู้สิครับ
โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:20:57:32 น.
อ้อ เราเห็นหน้าคนรีวิวละ สงสัยจะเป็นหน้าม้าให้พวกแบรนด์ที่ราคาถูกๆ เพราะเห็นรีวิวแต่ดีๆทั้งนั้น ส่วนแบรนดังๆแพงๆเขาคงไม่จ้างละสิ ก็เลยมาเทสาดเทเสียใส่เขา สักวันเหอะเขาจะสั่งปิดเวป ที่จิงหน้าก็ใสนะ แต่ไม่รู้ว่ามีการโฟโต้รีทัช เปล่า ถึงจะหนังหน้าดีแต่ถ้า ตา จมูก ปาก คิว ไม่เอื้ออำนวยก็ยากอะที่จะดูดีได้
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว คงไม่ว่ากันนะเพราะคุนยังไปรีวิวเขาแบบตรงๆเลย งั้นเราก็ขอริวิวคุนแบบตรงๆละกัน โดย: fiat IP: 109.145.46.251 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:18:17:20 น.
เอ่อ คุณคนที่อยู่อังกฤษน่ะค่ะ สะกดคำว่าอังกฤษยังไม่ถูกเลยค่ะ.......
โดย: ploy IP: 124.122.254.164 วันที่: 25 มิถุนายน 2554 เวลา:17:38:47 น.
อีกนิดนะคะ คุณFiat ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกใจก็ไม่ต้องอ่านสิคะ
เข้ามาบ้านคนอื่น แล้วยังมาด่าเจ้าของบ้านอีก ไปอยู่ถึง "เมืองผู้ดีอังกฤษ" .....เขาไม่สอนมารยาทเบื้องต้นบ้างเหรอคะ โดย: ploy IP: 124.122.254.164 วันที่: 25 มิถุนายน 2554 เวลา:18:01:50 น.
พอดีเห็นคุณปูเป้ให้ไฟแดง eye blam แต่ทำไมคุณปูเป้ยังใช้itemตัวนี้ละค่ะ พอดีเห็นที่ในวีดีโอตัวใหม่อะค่ะ แค่สงสัยค่ะ เพราะส่วนตัวคิดว่า ไฟแดง คือ หมายความว่า อย่าซื้อเลยเสียดายเงิน หรือ ว่าดูแบบรวมๆค่ะ พอดีสงสัยนิดหน่อยค่ะ
โดย: igg IP: 86.145.222.140 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:15:36:09 น.
ดีไม่ดี ไม่รู้ คงขึ้นกะหน้าแต่ละคนมากกว่าอะ แต่สำหรับเรา เราชอบมากอะใช้ดีมากมาย เราแพ้ง่ายมาก แต่ตัวนี้ไม่แพ้ ติดอย่างเดียว แพงจ้า
โดย: อยากบอก IP: 180.183.108.84 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:22:12:42 น.
ถึงคุณ fiat
ไม่เข้าใจว่า จะสื่ออะไร "เคยเห็นหน้าคนรีวิวแล้ว ที่จริงก็หน้าใส ไม่รู้รีทัชหรือป่าว" คุณจะบอกอะไร สรุปคุณเคยเห็นหน้าจริงปะ? เค้าจะดูดีหรือไม่ดีแล้วเกี่ยวไรกับคุณ? ก่อนจะไปว่าเค้า กลับบ้านไปศัลยกรรมหน้าให้มันเหมือนคนก่อนเหอะ ที่บอกว่าทำให้คนแทบยุโยป แล้วมาขายไทยเพื่อ? แล้วอีกอย่าง พิมก็มั่ว อยู่อังกฤษ มากจนพิมภาษาคนไม่รู้เรื่องเลยสินะ แล้วถ้าใช้แล้วดีจริง ความเข้มข้นสูง (สูงจนหน้าแหก) ผมยังไม่เห็นใครที่ใช้ครีม"ละเมอ" แม้กระทั่งดาราแทปยุโรป ผิวดีกว่าดาราฝั่งเอเชียสักคนเดียว (โดยไม่พึ่งมีดหมออะนะ) เก็บตังที่จะซื้อครีม "ละเมอ" ไปซื้อปลามากินมั่งเหอะ อย่ากินแต่ขี้ สมองจะได้พัฒนามั่ง ไม่ใช่มีแต่ขยะ โดย: PaNaCeA IP: 124.121.165.145 วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:19:42:04 น.
จริงๆแล้ว เบื้องหลังการทำครีมลาแมร์นั้น ใช้ขี้เป็นส่วนผสมหลัก
โดย: PaNaCeA IP: 124.121.165.145 วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:19:44:59 น.
จริงๆแล้ว เบื้องหลังการทำครีมลาแมร์นั้น ใช้ขี้เป็นส่วนผสมหลัก
โดย: PaNaCeA IP: 124.121.165.145 วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:19:47:39 น.
คนที่อยู่อังกฤษเค้าพึ่งหัดใช้อินเตอร์เน็ตครับ.....ถ้าใช้มานานก็น่าจะเห็นคุณปูเป้ตามคอลัมน์ในนิตยาสารหรือภาพถ่ายตามงานเปิดตัวเครื่องสำอางต่างๆ...แต่คุณfiatพึ่งได้ผัวฝรั่งก็เลยอยากลอกคราบ...เลยอยากแสดงตัวว่าเป็น..มาดาม(หมาดำ)..อยู่บ้านนอกสงสัยชื่อ"เพลี้ย"
โดย: Muramaru IP: 126.68.188.239 วันที่: 2 ตุลาคม 2555 เวลา:21:56:06 น.
|
บทความทั้งหมด |