Review - Giorgio Armani Power Fabric Foundation สวัสดีทุกคน บล็อกนี้จะขอกลับมาพูดถึงเรื่องของรองพื้นอีกครั้ง จริงๆ ตัวนี้ได้มานานแล้วกว่าจะเอามาเขียนรีวิว แต่มาช้า ก็ยังดีกว่าไม่มา ถูกไหม 555+ บล็อกนี้ ปอจะขอพูดถึงรองพื้นตัวนี้เลย  "GIORGIO ARMANI POWER FABRIC Longwear High Cover Foundation SPF 25"  เป็นรองพื้นที่ให้การปกปิดปานกลางถึงมาก ที่เคลมว่าติดทนนาน และมีค่ากันแดด 25 เท่า (ต้องขอโทษด้วยที่ทำกล่องมันหายไป 555+) Product's claimed POWER FABRIC is a new liquid foundation that teams full coverage with a matte, lightweight second skin finish. POWER FABRIC is a concentration of oils with no greasy effect, which delivers a velvet matte finish. To achieve perfect full coverage foundation, powerful pigments were selected and then shaped to obtain extremely fine pigment particles with a quality of color beyond reproach. POWER FABRIC combines full coverage with an ultra-light formula. Upon application, the texture melts into the skin, effectively blurring imperfections with an incredibly lightweight matte veil that feels like you're not wearing make-up at all. With a SPF 25 filter, power fabric offers effective daily UVA and UVB protection up to the promise of broad-spectrum SPF protection. Because every woman is unique, POWER FABRIC foundation comes in 20 shades to suit all skin tones. The formula is adapted for each shade to deliver optimal coverage without cracking or dulling. แปลคร่าวล่ะกันนะ (ผิดถูกยังไงก็ขออภัยด้วยฮะ) POWER FABRIC เป็นรองพื้นแบบลิควิดที่ให้การปกปิดสูง ซึ่งเป็นเนื้อแมตต์และน้ำหนักบางเบาเมื่อลงที่ผิว POWER FABRIC มีส่วนผสมของออยล์เข้มข้นแต่ไม่ทำให้ผิวดูมันเยิ้ม แต่จะให้ฟินิชลุคแบบแมตต์กำมะหยี่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของรองพื้นที่ให้การปกปิดสูง จึงมีการเลือกสรรเม็ดสี และนำมาจัดวางเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นพิกเมนต์สีที่มีความละเอียดและสีไม่เปลี่ยนแปลง POWER FABRIC เป็นรองพื้นที่ปกปิดสูงแต่ให้ลุคที่บางเบา เมื่อใช้งาน เนื้อรองพื้นจะซึมซาบเข้าสู่ผิว ซึ่งจะช่วยอำพรางจุดบกพร่องต่างๆ ด้วยเนื้อที่เบา จะทำให้รู้สึกเสมือนไม่ได้แต่งหน้า และมีค่ากันแดด 25 เท่า ที่ช่วยกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีได้อย่างครอบคลุม POWER FABRIC มีด้วยกัน 20 เฉดสี ที่เหมาะกับทุกสีผิว โดยไม่หลุดลอกและหมองลง คำเคลมก็จะประมาณนี้ ซึ่งเท่าที่ดู ก็เป็นรองพื้นที่น่าสนใจมากๆ ตัวหนึ่งเลยนะ ทั้งปกปิดดี แต่ได้ลุคที่ดูบางเบาเหมือนผิวสุขภาพดี แถมยังไม่หมอง ไม่หลุดระหว่างวันอีกต่างหาก เอาล่ะๆ ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มรีวิวไปเลยล่ะกัน!! Product's reviewed แพกเกจ (Packaging) เป็นลักษณะขวดแก้วทรงกระบอกรี แก้วค่อนข้างหนา ดูแข็งแรง มีตัวหนังสือนูนออกมาเล็กน้อย ระบุแบรนด์และรุ่นไว้อย่างชัดเจน เป็นหัวปั๊ม ที่ปอชอบตัวปั๊มมันมาก เพราะควบคุมปริมาณของเนื้อรองพื้นที่ออกมาได้ดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ทำให้กะปริมาณในการใช้แต่ละครั้งได้ง่าย เบอร์ (เฉดสี) จะระบุไว้ที่ก้นขวด ปอใช้เบอร์ 6 (medium, warm) นะฮะ จะสว่างกว่าผิวปอเล็กน้อย เป็นโทนเหลือง แต่ก็มีความเป็น neutral มากกว่า warm อยู่นะ คือมันเป็นสีกลางๆ ที่ผสมระหว่างชมพูกับเหลือง ซึ่งไม่ได้ค่อนไปทางเหลืองซะทีเดียว จึงทำให้มันติดติ่งความเป็นชมพูเข้ามาด้วยพอสมควร  ในส่วนของราคา ปอไม่แน่ใจราคาเคาน์เตอร์ในคิงพาวเวอร์เหมือนกันนะฮะ แต่ราคาที่ต่างประเทศจะอยู่ที่ $64 หรือราวๆ 2,200 - 2,400 บาท แต่ปอซื้อต่อจะพี่ที่รู้จักกันมาในราคา 1,900 บาทฮะ มาในปริมาณ 30 ml. นะจ๊ะ อายุการใช้งานหลังจากเปิดใช้อยู่ได้ 12 เดือน เนื้อสัมผัสและระดับการปกปิด (Texture & Coverage) เนื้อรองพื้นไม่เหลวมาก แต่ก็ไม่ข้นถึงความเป็นครีม สัมผัสแรกเมื่อได้ลองรองพื้นตัวนี้โดยการใช้นิ้วสัมผัส คือเนื้อลื่นและเนียนมาก และเนื้อไม่หนักจริงๆ อย่างที่เคลมไว้ พอลองใช้โดยการใช้แปรง (ปอใช้กับแปรง M.A.C Oval 6) ก็เกลี่ยได้ง่ายไม่แพ้กัน แต่พอใช้กับฟองน้ำ โดยส่วนตัวปอรู้สึกว่าเกลี่ยยากกว่าการใช้นิ้วและแปรง ดังนั้นเวลาปอหยิบตัวนี้มาใช้ ส่วนมากก็จะใช้นิ้วมือหรือไม่ก็แปรง ซึ่งถ้าใช้กับนิ้ว จะได้ลุคที่ปกปิดมากกว่านิดหน่อย เมื่อลงกับผิว เนื้อรองพื้นจะแมตต์ทันที ให้ความรู้สึกเหมือนรองพื้นเนื้อแป้ง แต่ที่ชอบคือมันเกลี่ยง่ายอย่างบอก มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเป็นแป้งหรือแห้ง แม้ว่าเนื้อจะแมตต์ก็ตาม มีกลิ่นหอมกลางๆ ไม่อ่อนมาก แต่ก็ไม่ฉุน กลิ่นสไตล์น้ำหอม Armani อ่ะ เนื้อสามารถกลืนไปกับผิวและเส้นริ้วต่างๆ ได้ดี ไม่ตกร่องและก็ไม่เน้นริ้วรอย (ถ้าไม่ลงหนาเกินไป)  ส่วนในด้านของการปกปิด สำหรับปอ ปอให้ตัวนี้เป็นรองพื้นที่ปกปิดปานกลางมากกว่า มันไม่ใช่ full coverage อ่ะ คือถ้าจะให้ปกปิดดี ต้องลงทับอ่ะ ซึ่งมันก็จะหนาขึ้น คือที่บอกว่ามันไม่ตกร่องหรือเน้นเส้นริ้วก็จริง แต่ถ้ายิ่งลงทับๆ เรื่อยๆ มันเป็นธรรมดาป่ะที่มันจะเน้นให้ริ้วรอยดูชัดขึ้น ยิ่งเวลาแสดงความรู้สึกยิ่งชัด อีกอย่างเนื้อมันเป็นแมตต์ด้วย ยิ่งต้องระวังถ้าลงหนามากเกินไป ดังนั้นสำหรับปอ ตรงนี้ไม่ค่อยตรงกับที่เคลมเท่าไร มันสามารถปกปิดรอยที่สีไม่เข้มมากได้โอเคอยู่นะ แต่ถ้ารอยเข้มก็คอนซีลเลอร์เถอะ ส่วนสี เบอร์ 6 นี้ก็สว่างก็ผิวปอนิดหน่อย และออกชมพู  สังเกตรอยจางๆ ที่แขนปอ มันก็ปกปิดได้อยู่นะ (ก็แน่สิ รอยจางขนาดนั้น 555+)  ครึ่งหน้า จะสังเกตได้ว่าสีรองพื้นสว่างกว่าผิวปอนิดหน่อย และมีความชมพูเบาๆ (แต่แสงเข้าทางที่ลองรองพื้นด้วยนะ ดังนั้นปริมาณแสงเลยไม่เท่ากัน)  ฟินิชลุคที่ได้ จะไม่ใช่แมตต์ซะทีเดียว มันจะออกกึ่งๆ แมตต์ ยังมีความเงาอยู่เล็กน้อย ในตอนที่ยังไม่ได้ลงแป้งฝุ่นทับ  และมันจะดูแมตต์ขึ้น เมื่อลงแป้งฝุ่นทับ แต่จะได้ผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาและไม่โป๊ะ สังเกตว่าจะยังเห็นร่องรอยอารยธรรมหลงเหลืออยู่บ้างประปราย ไม่ได้เนียนกริบซะทีเดียว ความทนทานและการควบคุมความมัน (Lasting & Oil Control) บอกตรงๆ ว่าตอนแรกที่เห็นว่าเนื้อมันแมตต์ จึงคิดว่าจะช่วยในเรื่องของการควบคุมความมัน แต่อาจเพราะส่วนผสมที่อุดมไปด้วยออยล์เข้มข้นบลาๆ มันจึงไม่ได้ควบคุมความมันสักเท่าไร ก็นั่นล่ะ ง่ายๆ คือมัน 'ไม่คุมมัน' จ้ะ เหมือนรองพื้นตัวนี้จะเหมาะกับผิวแห้งถึงผสม ถ้าผิวมันมากๆ อาจจะต้องซับหน้าบ่อยหน่อย แต่ในเรื่องของความทน นี่ปรบมือให้นะ เพราะถึงหน้าจะมัน แต่รองพื้นยังเกาะหน้าอยู่อ่ะ หมองลงบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มากจนเป็นที่สังเกต คือผิวอาจจะไม่ได้ผ่องเท่าช่วงแรกๆ ที่ลง แต่ก็ไม่ได้ดูหมองจนโทรมหรือเหมือนกับโดนของ ซับหน้าออกมา รองพื้นที่ติดออกมาก็ไม่เยอะด้วย ในเรื่องความทนทานปอชอบมากเลยนะ และทริกเล็กๆ ที่ปออยากบอกคือ เวลาใช้ตัวนี้ ให้ลงในปริมาณที่ไม่เยอะ ไม่ต้องลงหนา ผิวจะผ่องมากๆ ผิวดูสวยมากๆ อันนี้พิสูจน์จากการที่มีหลายๆ คนทักนะ ไม่ได้มโนเอง เรื่องคราบ อย่างปอช่วงหลังๆ ใส่แว่นสายตาหรือกันแดดตลอด รองพื้นทุกตัวเป็นคราบบริเวณฐานจมูกหมด แต่ตัวนี้ เอานิ้วเกลี่ยๆ คราบก็หายไปนะ ส่วนบริเวณอื่นๆ โดยส่วนตัวปอไม่เป็นคราบนะ ยกเว้นวันไหนที่ลงหนักมือมากเกินไป จะเป็นร่องตรงรอยหนวดแมว 55555+ ลองมาดูแบบชั่วโมงต่อชั่วโมงกันเลย (ถ่ายรูปทำรีวิวอาจจะถ่ายแค่วันเดียว แต่ทำการทดสอบแบบนี้หลายครั้งนะ ทั้งที่ลองใช้อยู่บ้าน และใช้แล้วออกไปข้างนอกด้วย ผลลัพธ์ไม่ต่างกันเท่าไร แต่เวลาไปข้างนอกความมันบนผิวจะมากกว่า)  ชั่วโมงแรกกับชั่วโมงที่สองนี่คือผิวกำลังสวยเลย มีความฉ่ำเงาเกิดขึ้นเล็กน้อย สำหรับปอไม่ได้มีปัญหานะ ชอบผิวที่ดูเป็นแบบนี้อ่ะ 555 พอเข้าชั่วโมงที่สามนี่ ความมันเริ่มมาเยอะล่ะ แต่สีรองพื้นก็ยังคงคงที่นะ ไม่ได้ดูหมองลง  มาถึงสี่ชั่วโมง คือไม่ไหวล่ะ ต้องซับหน้าบ้างล่ะ ไม่งั้นจะเข้าขั้นหน้ามันเยิ้มล่ะ เลยใช้ทิชชูซับ ภาพทิชชูที่ใช้ซับแทรกอยู่ด้วย เนื้อรองพื้นติดออกมาบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เยอะมาก ไม่ได้หลุดแบบโอ้โห้! พอซับหน้าเสร็จ ผิวก็ยังกลับมาผ่องเหมือนเดิม แม้อาจจะไม่เท่าตัวแรกที่ลง  ชั่วโมงที่ห้าหลังจากการซับหน้าหนึ่งชั่วโมง รอดอยู่นะ ใกล้เคียงกับหลังใช้สองชั่วโมง แต่พอเข้าชั่วโมงที่หกและเจ็ด นี่คือไม่ไหวแล้ว คือปอผิวมันอยู่แล้วไง น้ำมันระหว่างวันยิ่งผลิตออกมาเยอะ โดยเฉพาะเมื่อซับหน้า สีรองพื้นจะเริ่มดร็อปลงนิดๆ แต่ไม่มาก ด้วยแสงที่เริ่มมืดลงด้วยเช่นกัน มันเลยทำให้ภาพดูมืดกว่า เอาจริงๆ ถ้าตัดเรื่องควบคุมความมันทิ้งไป รองพื้นตัวนี้ทนมากพอสมควรเลยทีเดียว แต่พอมาประกอบเข้ากับการควบคุมความมัน สำหรับคนผิวมันแบบปอ มันเลยทำให้หน้าดููมันมากไปหน่อย สรุป (In Conclusion) สำหรับชอบรองพื้นตัวนี้ที่ความทน ใช้แล้วหน้าผ่อง ไม่หมอง เนื้อดีและเกลี่ยง่ายมากๆ ได้ลุคผิวดูสวย เป็นธรรมชาติ และไม่หนักผิว แต่ที่ไม่ชอบก็คือ ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวมันกว่าการใช้รองพื้นตัวอื่นๆ คือทุกครั้งที่ใช้ตัวนี้ ผิวจะมันมากหลังจากผ่านไปสัก 3-4 ชั่วโมง 555+ และก็ไม่ชอบการติดติ่งชมพูในสีของรองพื้น คือถ้ามันขาวกว่าผิวปอมากกว่านี้ คือเทาเลยนะ แต่ทั้งนี้ แต่ละเฉดสีก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ในอากาศร้อนๆ อย่างเมืองไทย รองพื้นตัวนี้รอดนะ แต่ถ้าผิวมันก็อาจจะต้องซับหน้าช่วยหน่อย แต่ปัญหาเรื่องรองพื้นไหล หลุด ลอก หรือแตก เท่าที่ใช้มา (นานพอสมควรกว่ามีเขียนรีวิวนี้) ไม่มีปัญหานี้เลยนะ รองพื้นไม่ค่อยเลอะคอเสื้อเท่าไร 555+ อาจจะมีบ้าง แต่ไม่มาก เหมือนเวลาที่เอาทิชชูซับแล้วมีติดออกมาบ้างอ่ะ  ก็คงมีเท่านี้แหละมั้งสำหรับการรีวิว ก็เขียนตามที่รู้สึก แต่ก็ต้องย้ำทิ้งท้ายไว้เสมอ ว่าการรีวิวของปอก็เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่อาจจะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องเชื่อปอทุกอย่าง เพราะสภาพผิวและปัญหาผิวแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะแตกต่างไปด้วยเช่นกัน ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านกันจนจบนะจ๊ะ มีอะไรคอมเม้นต์ทิ้งไว้ได้เลย เดี๋ยวมาตอบ หรือจะเข้าไปถามในเฟซบุ๊กเพจก็ได้นะ  ไปล่ะจ้าาา บ๊ายบายยยย  จนกว่าจะพบกันใหม่ จุ๊บ (': เบอ6 ??? รีวิวมัวๆอะ งง
โดย: Kittiya IP: 183.88.79.99 วันที่: 12 ตุลาคม 2560 เวลา:9:13:00 น.
|
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [