ร้อน...

อากาศร้อน...

ต้องใช้บัวหิมะ....555

เอ๊ย!!!  ไม่ใช่ ถ้าเป็นแผลไฟไหม้ หรือโดนน้ำร้อนลวกแนะนำให้ใช้บัวหิมะนะคะ

ของเขาดีจริงๆ แต่ไม่ใช่บัวหิมะที่เห็นเขาเลี้ยงๆกัน ใส่นมนะ

บัวหิมะที่เป็นครีมนะ

เพราะว่าวันก่อนพิ้งค์ไปกินอาหารปิ้งๆย่างๆ มา

ด้วยความซุ่มซ่าม (ประจำ) แขนไปโดนกับเตาย่างเข้า

โชคดีที่โดนแค่ถากๆๆ แต่ก็เล่นเอาผิวปวดแสบๆ ร้อนๆอยู่เหมือนกัน

ก่อนที่จะถึงบ้านผิวเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แสบด้วย

พอกลับถึงบ้านรีบปาดครีมบัวหิมะกิน เอ๊ย ไม่ใช่ (แต่ครีมดูน่ากินจริงๆนะ 555)ปาดลงบนแผล

เย็นชื่นใจดีมาก

ปกติเวลาเราโดนอะไรร้อนๆ ผิวหนังเราจะเริ่มผุพองใช่ไหม

พอใช้บัวหิมะ นอกจากแผลเราจะไม่พองแล้ว

ยังไม่มีอาการเจ็บแผลและปวดแสบปวดร้อนด้วย

ตอนนี้เหลือแค่รอยขีดๆ แถมแผลเรียบไม่พองด้วย เย้ๆ ดีใจจัง

นึกว่าจะเป็นแผลเป็นซะแล้ว ตอนนี้รอดูก่อนว่ารอยขีดจะหายไปเมื่อไหร่

แต่ของเขาดีจริงๆนะ เลยมาบอกต่อ

จริงๆเจ้าครีมตัวนี้เราซื้อมาจากจีน ตอนซื้อมาก็ซื้อเพราะเห็นเขาซื้อกัน

เห็นมีคนบอกว่าดีด้วย เอามาทาหน้าก็ได้ หน้าเด้ง หน้าใส ก็ว่ากันไป

(แต่เคยเอามาทาหน้าแล้วนะ นอนไม่หลับทั้งคืนเลย เพราะมันเย็นมาก...ขอเตือนอย่าทาเด็ดขาดนะ เพราะเราเคยพิเรนท์ เอามาทาแล้ว แฮ่ๆๆๆ )

ตอนหลังมาอ่านสพรรคุณ อ๋อ มันใช้สำหรับเวลาเป็นแผลน้ำร้อนลวก ด้วย แหมมิน่าเย็นซะ

ตอนแรกนึกเสียดาย กระปุกก็ใหญ่ แล้วเราจะไปโดนอะไรที่ไหนลวกได้

ในที่สุด ด้วยความซุ่มซ่ามของเราเอง ก็ต้องมาใช้เจ้าครีมนี้จนได้

แต่ข้อดีอีกอย่างครีมนี้เก็บได้ 5 ปีนะคะ ถ้าเก็บในตู้เย็น

แต่ถ้าตั้งไว้ข้างนอก รู้สึกจะได้แค่ 3 ปี

ตอนนี้ก็หวังว่าอาจจะโดนแผลน้ำร้อนลวกอีกในภายหน้า 555

เผื่อจะได้ใช้เจ้าครีมนี้อีก กระปุกก็ใหญ่เหลือเกิ๊น

แต่คงไม่พิเรนท์เอามาทาหน้าอีกหรอกคะ

มันเย็นไป

แต่ถ้าเมษานี้ร้อนมากๆ อาจเอามาทาเล่นก็ได้นะ 555