"ได้โปรด! Please!" บทที่ 10 (ํYURI)

10

 

“ทำไมคุณทำแบบนั้นกับคุณพงศ์อะไรนั่น?”

พันไมล์ก้มหน้ามองวงหน้าสวยหยิ่งของรังสิมา ขณะอยู่เบาะหลังในรถเบนซ์คันงาม อีกฝ่ายนอนหลับตาพริ้มหนุนตักเธอโดยไม่ขออนุญาตสักคำ พอจะผลักไสออกก็สงสาร หลังรังสิมาดูไม่สบายมาก จึงปล่อยให้หนุนตักเลยตามเลย โดยลุงเชิดทำหน้าที่สารถีโดยมีจุดหมายแรก คือ บ้านของเธอ

“เรื่องอะไร?” สาวสวยถามกลับเสียงอ่อนล้า

ยามนี้หล่อนดูหมดสภาพ ไม่เหลือภาพลักษณ์สวยสง่าในงานประมูลเลยสักนิด ทว่าไม่ว่ารังสิมาจะอยู่ในอิริยาบถไหนก็ยังดูงดงามเสมอในสายตาหลายคน...รวมถึงพันไมล์ด้วย

“เรื่องที่คุณไม่ยอมให้ฉัน...แลกที่นั่งกับเขา”

“ไม่มีอะไรนี่” รังสิมาปรือดวงตาคู่งดงามขึ้น สวยน่ามองไม่ต่างจากดวงดาวบนท้องฟ้ามองคนถาม “ฉันไม่ชอบให้ใครมารังแกเธอ ฉันจะไม่อดทนกับเรื่องแบบนี้”

“...”

“เธอเป็นคนของฉัน ฉันรังแกได้คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์วุ่นวาย”

ฉันเป็นของคุณ...ตอนไหน?

คิ้วเรียวของสาวแว่นแทบจะชนกัน

“พูดอะไรของคุณ?”

“ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ นะไมล์” รองประธานสาวไม่พูดเปล่า จับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ พร้อมแนบกับแก้มตัวเอง ก่อนปิดเปลือกตาลง “ฉันอยากให้เธอเป็นของฉัน...ฉันไม่ได้พูดเล่น”

“...”

“ฉันรอให้เธอทำสัญญากับฉัน นานแค่ไหนก็จะรอ”

นี่มันประโยคขอแต่งงานหรือเปล่า? เหลวไหล คิดบ้าอะไรพันไมล์

สาวแว่นดุตัวเอง หน้าร้อนฉ่าราวกับเป็นไข้ ยกมือที่ว่างลูบต้นคอ ไปไม่เป็นกับถ้อยคำที่แฝงไปด้วยความหมายที่เขย่าหัวใจจนแทบระเบิด

ดาเมจนี้ของรังสิมารุนแรงเหลือเกิน ทะลุทะลวงหัวใจกันเลยทีเดียว

“ฉันพูดจริงนะ” หล่อนย้ำ แนบแก้มกับมือเรียวของเธอเหมือนหวงแหน

พันไมล์พินิจพิจารณาสาวสวยที่นอนหนุนตักตน ไม่ได้ชักมือที่โดนยึดไว้ออก เกิดแรงกระเพื่อมสั่นสะท้านสะเทือนไปถึงหัวใจ นานมากแล้วที่หัวใจช้ำรักดวงนี้ไร้คนเหลียวแล จนแทบจะปิดตายประตูใจ ไม่คิดต้อนรับใครอีก

คุณแมวหยิ่ง รู้บ้างหรือเปล่า...คุณกำลังทำให้ฉันหวั่นไหว ฉันควรจะทำอย่างไรกับคุณดี?

สาวแว่นถอนใจเบาๆ รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ที่กำลังกวักมือเชิญชวนอยู่ไหวๆ

 

หลายชั่วโมงก่อน

“ถ้างั้นผมขอแลกที่กับคุณผู้ช่วยได้ไหม? ผมอยากนั่งติดกับเค้ก”

ปฐมพงศ์แสดงเจตนาชัดเจนว่า เขาต้องการจะสนิทสนมกับรังสิมาไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้เป็นแม่ของลูก แต่เขาไม่กล้าใจร้อนผลีผลามลัดขั้นตอน

สถานะปัจจุบันของเราคลุมเครือ ยังไม่อาจใช้คำว่า ‘คนรัก’ ด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาแบะท่าเปิดทางอยู่หลายครั้ง แต่หล่อนทำเหมือนไม่รู้ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงขึ้นเตียงเสร็จสม ดีไม่ดีก็ท้องโตไปแล้ว

อย่างน้อยชายหนุ่มยังเบาใจ หลังไม่เห็นใครเป็นผู้ท้าชิงที่สูสี

“ดะ ได้ค่ะ” / “ไม่ได้ค่ะ”

สองเสียงตอบไปคนละทาง เสียงแรกมาจากพันไมล์ อีกเสียงเป็นของรังสิมา

“เธอนั่งกับฉัน” หล่อนบอกกับพันไมล์ เหลียวมองไปทางชายหนุ่มแล้วเอ่ยเสียงเรียบแฝงคำตำหนิในที “พี่พงศ์เป็นสุภาพบุรุษ คงไม่แย่งของกับผู้หญิงหรอก...ใช่ไหมคะ?”

เอ่อ...

ปฐมพงศ์อึ้งงัน เหมือนโดนไม้ฟาดแสกหน้า

“ขอโทษครับ ผมไม่ดีเอง” เขายอมรับผิดเสียงอ่อย หลังโดนดวงตาคู่นิลสวยจ้องกดดัน “ขอโทษครับคุณผู้ช่วย”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

และเหมือนมีระฆังช่วยชีวิต เมื่อเสียงพิธีกรบนเวทีประมูลได้พูดผ่านไมโครโฟนขึ้น

“ฮัลโหลเทสต์ ฮัลโหล ฮัลโหล...ขอต้อนรับท่านผู้มีเกียรติสู่การประมูลเครื่องเพชรครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี...”

“ผมกลับที่นั่งก่อน แล้วค่อยคุยกันนะครับ” ปฐมพงศ์บอกกับรังสิมา

หล่อนพยักหน้าเล็กน้อย ไม่สนใจจะมองเขาเดินจากไปด้วยซ้ำ

“แรงอ่ะแก” มาศปรียากระซิบกระซาบกับรังสิมา

“หาเรื่องเอง” รองประธานสาวเผยยิ้มร้ายบางเบา ชั่วพริบตาก็จางหาย ทว่าไม่รอดพ้นสายตาแหลมคมของเพื่อนสนิท

ร้ายจริงๆ เพื่อนฉัน...

ผู้จัดการคลับหัวเราะคิกคัก เธอรู้ใจหล่อนว่าไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษกับปฐมพงศ์ เขาเป็นหนึ่งในชายหนุ่มไม่กี่คนที่หล่อนไปไหนมาไหนด้วย ทานข้าวด้วยบ้าง ออกงานด้วยบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่า ความสัมพันธ์นี้จะผลิดอกออกผลในอนาคต

หล่อนเก็บผู้ชายคนนี้เอาไว้ด้วยเหตุผลเดียวคือ เป็นไม้กันหมา เพื่อไม่ให้คุณรุ่งนภามาวุ่นวายเรื่องคู่ครองมากนัก หลังสงครามงัดข้อของแม่ลูกยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ จนกว่ารังสิมาจะลงเอยกับใครสักคน ทว่าเจ้าหล่อนรักหวงแหนความโสดเหนียวแน่น ปัญหานี้จึงยากจะยุติในเร็ววัน

...ที่สำคัญคือ คุณรุ่งนภาไม่รู้เรื่องสเปคของลูกสาว

ฉันไม่เห็นเค้กแคร์ใครมานานแล้ว...คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ลุ้นเจ้าไมล์

วันนี้มาศปรียาเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แม้จะเป็นแค่จุดเล็กๆ ก็ตาม น้ำแข็งที่เกาะกุมหัวใจหล่อนเริ่มละลายบ้างแล้ว เพื่อนรักได้แต่หวังว่า ใครสักคนจะช่วยให้รังสิมาได้รู้จักความสุขและความรักอีกครั้ง

หวังว่าเจ้าไมล์จะไม่ใจแข็งกับเค้กนานนัก

มาศปรียาอยากเป็นแม่สื่อช่วยเพื่อนให้สมหวัง แต่ยังไม่มีแผนการดีๆ เหม่อใจลอยคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

“เบอร์สิบสวยนะคะ” รดาเปรยขึ้นลอยๆ ขณะดูแผ่นพับของเครื่องเพชรที่จะประมูลในคืนนี้ จุดประสงค์เพื่อความสนใจของคนรักให้มองตนบ้าง และได้ผล

อย่าบอกนะคะว่านั่งอยู่กับฉัน แต่ใจลอยคิดถึงผู้หญิงอื่น ฉันโกรธจริงๆ ด้วย

คนตัวเล็กคิดหวงแหนคนรัก ด้วยอีกคนเจ้าชู้เหลือเกิน แม้มาศปรียาจะทำตัวดีขึ้นมาก เอาสินสอดไปสู่ขอกับพ่อแม่ตนแล้ว และพร้อมจดทะเบียนทันทีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมประกาศใช้ แต่รดายังไม่วางใจ หลังมีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยหมายตาคนรักของตน

“ไหนคะ?” มาศปรียาเอียงหน้ามองคนรักทันที ดูตามปลายนิ้วที่อีกคนชี้ในแผ่นกระดาษ “อืม สวย รดาชอบเหรอ?”

“ค่ะ แต่ถ้าแพงมากก็ไม่เอา” คนตัวเล็กพูดจากใจจริง

“เข้าใจแล้ว” มาศปรียายิ้ม กุมมือคนรักไว้หลวมๆ แม้ปากจะบอกว่าเข้าใจ แต่ในใจไม่ยอมพลาดแน่

ในเมื่อรดาอยากได้ ก็ต้องได้

เธอเป็นพวกป๋าพร้อมเปย์หนัก เพื่อเอาใจคนรักเสมอ

 

เห็นรดาเงียบๆ เอาเข้าจริงขี้อ้อนเอาเรื่อง ไม่แปลกใจที่มาศจะรักหลงหัวทิ่ม

คิดวิจารณ์คนรักของเพื่อนในใจ ภาพมาศปรียาคุยกระหนุงกระหนิงกับรดา ชวนให้คนโสดคิดอิจฉานิดๆ จึงไม่อยากมอง เอียงหน้าไปทางพันไมล์ที่นั่งอยู่อีกข้าง เห็นเธอกำลังนั่งดูแผ่นพับเงียบๆ

“สนใจชิ้นไหน?”

พันไมล์ละสายตาจากแผ่นกระดาษขึ้นมองวงหน้าสวยหวาน

“ของแบบนี้ ฉันจะเอาไปทำอะไร”

“มันก็จริง เธอไม่จำเป็นต้องใส่ของพวกนี้...แค่นี้เธอก็ดึงดูดสายตาคนมากเกินไปแล้ว” ประโยคหลังพูดเสียงเบาลงไม่ต่างจากกระซิบ

“อะไรนะคะ?” สาวแว่นได้ยินไม่ถนัด หลังเสียงโดยรอบดังมากขึ้นมีผู้คนเข้ามาในห้องประมูลเกือบเต็ม

“เปล่า” หล่อนเฉมองไปทางเวที

“ชอบแกล้งกันจริง” เธอเอ่ยเหมือนบ่น ก้มหน้าดูแผ่นพับในมือต่อ เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในงานประมูลใหญ่ระดับประเทศ ก่อนหน้านี้เคยเข้าไปงานประมูลของมือสอง เช่น รถยนต์ กับบ้านคอนโด แม้จะเป็นการประมูลเหมือนกัน ทว่าบรรยากาศแตกต่างกันลิบลับ

ผู้คนในงานนี้ล้วนแต่งตัวดีราศีจับกันถ้วนทั่ว บางคนมีแต่ของแบรนด์เนม ใส่เครื่องประดับจัดเต็ม ราวกับจะอวดร่ำรวย แต่จะเป็นเศรษฐีเงินถุงเงินถังจริงหรือเปล่า? ...ไม่มีใครรู้

ราคาเริ่มต้นของสินค้าแต่ละชิ้นดูแล้วชวนอกสั่นขวัญกระเจิง ราคาหกหลักมีแค่สี่ห้าชิ้นแรก จากนั้นราคาเริ่มต้นแปดหลักไต่ขึ้นไปถึงเก้าหลัก ยิ่งอ่าน พันไมล์ยิ่งตาโตแทบจะเท่าไข่ห่าน หัวใจพาลจะหยุดเต้น

เงินล้านก็ว่าเยอะแล้ว ชุดสุดท้ายสตาร์ทที่ยี่สิบล้าน...แม่เจ้าโว้ย!

พันไมล์จ้องรูปชุดสร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และแหวนที่ราคาแพงหูดับตับไหม้อย่างไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้คนในห้องนี้ถึงให้คุณค่ามันมหาศาล เงินยี่สิบล้านเพียงพอจะให้เธอกับแม่อยู่ได้อย่างสบายๆ ตลอดชีวิต

ถึงได้ชุดเครื่องประดับนี้ไป พันไมล์ก็คงไม่กล้าใส่ แค่จะจับยังกลัวเลย กลัวเป็นรอย กลัวหัก กลัวโน่น กลัวนี่ ถึงเก็บใส่กล่องไว้ในบ้านก็กลัวหาย

...แค่คิดก็กลัวสารพัด กลัวจนปวดขมับ

ใครประมูลได้ไป คงต้องเอาไปฝากเก็บในเซฟที่แบงค์...มีก็เหมือนไม่มี เป็นคนรวยนี่ยุ่งชะมัด

ผิดกับกลุ่มคนในห้องประมูลนี้ ที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจ่ายเงินก้อนโต เพื่อยื้อแย่งเครื่องประดับสวยๆ เหมือนเงินแสนเงินล้านไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แค่เศษเงินจิ๊บๆ

นี่สินะโลกของคนรวย

ไม่กี่นาทีต่อมา การประมูลบนเวทีก็เปิดฉากขึ้น ชิ้นแรกตั้งราคาไว้หลักแสน แต่ไม่นานก็ทะยานไปหลักล้าน

“หนึ่งล้าน”

“หนึ่งล้านหนึ่งแสน”

“หนึ่งล้านสองแสน”

สุดท้ายเครื่องประดับชิ้นแรก ทะยานไปปิดที่หนึ่งล้านห้าแสนบาท

การประมูลแต่ละชิ้นเป็นไปอย่างดุเดือดและยาวนาน ทำเอาพันไมล์ที่เป็นแค่ผู้ชมถึงกับเหงื่อตกระคนตื่นตะลึง

แม้แต่มาศปรียาก็เสนอราคา จนได้หมายเลขสิบที่รดาเปรยอยากได้ ด้วยราคาที่กระโดดสูงมาก จนคนอื่นไม่กล้าต่อกร

ที่บ้านคนพวกนี้ มีเหมืองทองคำเป็นของตัวเองหรือไงฟะ

พันไมล์อดคิดประชดในใจไม่ได้

 

“ไม่สนใจชิ้นไหนเหรอ?” มาศปรียาถามเพื่อนสนิท หลังอีกฝ่ายนั่งนิ่ง ไม่เสนอราคาเลยสักครั้งตั้งแต่เริ่มงาน

“ยังไม่ถึง” หล่อนตอบด้วยท่าทางสบายๆ

“เบอร์ไหน?”

“...”

หรือว่า...

มาศปรียากลอกตาไปมา เบิกตากว้างเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

“อย่าบอกนะว่า แกเล็งชุดสุดท้าย”

“ไม่ได้?”

“คิดจะทำอะไร?”

“แค่แสดงพลังนิดหน่อย”

ผู้จัดการคลับ Citrus ชำเลืองไปทางพันไมล์แวบหนึ่ง เดาว่าน่าจะเกี่ยวกับสาวรุ่นน้องของตน ปกติรังสิมาไม่ใช่คนจำพวกชอบอวดร่ำอวดรวย แต่จะทำเมื่อจำเป็น หรือมีจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่าง

กะข่มขวัญนาตาลีสิไม่ว่า

“โฮะ โฮะ ไม่หน่อยล่ะมั้ง” เพื่อนรักส่งเสียงเลียนแบบซานตาครอส เห็นผ่านตาว่าราคาเริ่มต้นชิ้นสุดท้ายคือ...ยี่สิบล้านบาท และดูเหมือนว่าคืนนี้จะมีหลายคนหมายปองเครื่องเพชรชิ้นนี้อยู่

ศึกคืนนี้น่าจะเดือด เดาไม่ถูกเลยว่า...สุดท้ายจะจบที่ราคาเท่าไหร่?

รังสิมาเลือกจะสงบนิ่ง

“โชคดีเพื่อน” มาศปรียาตบไหล่เพื่อน แล้วอวยพรอย่างจริงใจ

“ขอบใจ”

 

และแล้วการประมูลเครื่องเพชรชุดสุดท้ายก็มาถึง อันประกอบด้วย ต่างหูเพชร กำไลเพชร แหวนเพชร สร้อยคอเพชร ทำเอาแขกในงานถึงกับตาลุกวาว บางคนถึงกับหลุดอุทานออกมา โดยนางแบบที่ได้รับเกียรติสวมเครื่องเพชรชุดนี้ก็คือ...นาตาลีดาราสาวสวยและนางแบบ อดีตแฟนของพันไมล์

ดาราสาวในชุดเดรสสีแดงสวยเปิดไหล่ ยืนโพสต์ท่าสวยเซ็กซี่ชวนให้หลายคนใจสั่นบนร่างมีเครื่องเพชรชุดสำคัญ วันนี้นาตาลีดูสวยสง่ากว่าวันที่เจอกันในผับมาก

รังสิมาชำเลืองมองพันไมล์นั่งอึ้งงันหลังเห็นแฟนเก่าของตน หล่อนนั่งกอดอกหรี่ตาลงเล็กน้อย วงหน้าสวยดูเย็นชากว่าปกติ มองเขม็งจ้องไปบนเวที เหมือนไม่สบอารมณ์อะไรสักอย่าง

พิธีกรชายขานราคาที่ผู้ยื่นเสนอสูงขึ้นเรื่อยๆ จากเริ่มต้นที่ยี่สิบล้านพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว ราคาเสนอสูงขั้นละหนึ่งล้านบาท

“ยี่สิบแปดล้านครับ”

“ท่านทางซ้ายมือ ยี่สิบเก้าล้านครับ”

“มีใครเสนอสูงกว่านี้ไหมครับ?”

“โอ สามสิบล้านแล้วครับ” ชายหนุ่มบนเวทีทำท่าตื่นเต้นดีใจชี้ไปยังผู้หญิงที่เสนอราคารายล่าสุด แล้วก็ไม่มีใครกล้าเสนออีก บรรยากาศเงียบสงบไป หลังราคาขึ้นมาสูงมาก “มีท่านใดเสนอสูงกว่าสามสิบล้านไหมครับ?”

“...”

พิธีกรหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ ห้องประมูลที่บัดนี้เงียบ ผู้ร่วมงานมองหน้ากันไปมา เหมือนไม่มีใครคิดสู้ราคาด้วย

“ผมนับนะครับ สามสิบล้านหนึ่ง...สามสิบล้านสอง...”

“สามสิบห้าล้าน” เสียงหนึ่งหวานเย็นตะโกนออกไป พร้อมชูป้ายในมือขึ้นสูงเหนือศีรษะ

“โอ้” เสียงอุทานดังฮือฮาขึ้นภายในห้องพิเศษ หันขวับมองต้นเสียงเป็นตาเดียวกัน

ผู้เสนอราคาคือสตรีหน้าสวยหวานที่ชื่อ...รังสิมา

อะ เอาจริง!

พันไมล์หน้าแตกตื่นยิ่งกว่าเจอสิ่งที่มองไม่เห็น หลังรังสิมานั่งเงียบเหมือนไม่สนใจประมูลชิ้นไหน คิดไม่ถึงพอเล่นจะเล่นใหญ่แบบนี้

“สามสิบห้าล้านครับ คุณผู้หญิงทางนั้นเสนอราคาสามสิบห้าล้าน จะมีท่านใดเสนอสูงกว่านี้อีกไหมครับ?” ชายหนุ่มกล่าวอย่างตื่นเต้น “ผมจะนับแล้วนะครับ สามสิบห้าล้าน นับหนึ่ง สามสิบห้าล้าน...”

 

“ก็อยากได้หรอกนะ แต่สามสิบห้าล้านแพงเกินไป” ชนากานต์ผู้ที่เสนอราคาสามสิบล้านได้แต่คิดเสียดาย หลังเล็งเครื่องเพชรชุดนี้อยู่ แต่โดนรังสิมาเสนอราคาแพงกว่า...แพงเกินงบประมาณที่ตั้งเอาไว้

“ไม่เป็นไรค่ะ ไว้ค่อยหาชุดใหม่ก็ได้” นัทชาคนรักของชนากานต์กุมมือปลอบใจ

“นั่นสินะ” ชนากานต์คลายความผิดหวังไปมาก ส่งยิ้มหวานให้คนข้างกาย แล้วพูดออดอ้อน “งั้นคืนนี้น้องนัทต้องปลอบใจพี่นะคะ ขอสักสี่รอบรวดน่าจะทำให้พี่หายเศร้าได้”

สะ สี่รอบ!...แม่เจ้า!

สถาปนิกสาวกลอกตามองบนอย่างอ่อนใจ คาดว่าคืนนี้เธอคงสลบคาอกอีกคนแน่ แต่ถึงกระนั้นนัทชาก็ตามใจคนรักเสมอ

“ดะ ได้ค่ะ”

“น่ารักไม่มีใครเกิน”

ชนากานต์ชมคนรัก นัทชาส่งเสียงฮึเบาๆ

“สามสิบห้าล้าน นับสาม...คุณผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้ประมูลได้เครื่องเพชรชุดนี้ไปครับ” พิธีกรหนุ่มประกาศพร้อมผายมือไปทางรังสิมา ทุกคนในห้องพากันฮือฮากับความใจป้ำกระเป๋าหนักของหล่อน

นั่นมันผู้หญิงที่อยู่กับไมล์วันนั้น

นาตาลีหน้าซีดเผือด หลังสบสายตากับรังสิมาชัดๆ คราวนี้ดาราสาวรู้แล้วว่า ตนไม่ควรเป็นศัตรูกับหล่อนด้วยประการทั้งปวง

สามสิบห้าล้าน! ฟุ่มเฟือยไปแล้ว!

ปฐมพงศ์คิดบ่นในใจ เหงื่อแตกเต็มหน้าผาก หลังเห็นเจ้าหล่อนซื้อเครื่องประดับราคาแสนแพงเหมือนไม่ยั้งคิด ไม่เสียดายเงิน ทำเอาเขาหนาวสะท้านกระเป๋าไปเลย หากเปรียบเทียบแล้ว ดูเหมือนว่าฐานะของรังสิมาจะร่ำรวยเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้

ปฐมพงศ์อยากให้หล่อนเห็นเขาในสายตา มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ อยากขยับไปเป็นคนรัก และอยากเป็นเจ้าของหล่อน

ผมต้องทำอย่างไร ผมถึงจะได้แต่งงานกับคุณ?

เล่นอะไรพิเรนทร์แบบนี้ นี่มันล่อเป้าชัดๆ

พันไมล์อึ้งจนคำพูด มองว่าหล่อนทำตัวโดดเด่นเกินไป ดึงดูดคนร้ายให้พุ่งเป้ามาที่รังสิมามากขึ้น จึงอดเป็นห่วงความปลอดภัยของหล่อนไม่ได้ แต่เธอไม่อยู่ในฐานะจะตักเตือนหล่อน

ฉันเป็นแค่บอดี้การ์ด พูดมากคงไม่ดี

 

หลังประมูลเสร็จ รังสิมาชวนพันไมล์เข้าไปเคลียร์ค่าเสียหายที่ห้องด้านหลัง โดยมีมาศปรียากับรดาเข้าไปด้วย ต่างคนต่างจัดการกับสินค้าของตน หล่อนเลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน

และได้เดินสวนกับดาราสาวที่หน้าจ๋อยเจื่อน หล่อนเผยรอยยิ้มผู้ชนะให้หนึ่งครั้ง ทำเอานาตาลีหน้าซีดขาว จากนั้นก็ออกมาข้างนอก

“ยอมใจคุณเพื่อนเลย กล้าจ่ายแพงขนาดนี้” มาศปรียาพูดกระเซ้าหล่อนอย่างอารมณ์ดี

“นิดหน่อย” สาวสวยหยิ่งยิ้มนิดๆ สะใจที่ได้เห็นนาตาลีหน้าเหลือนิ้วเดียว แค่นี้ก็เขี่ยดาราสาวให้ไกลไปจากวงโคจรพันไมล์ได้อย่างไม่เปลืองแรง

“วันนี้แกกับไมล์แต่งตัวอย่างสวยอย่างเท่ ขอถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยสิ อยากแชร์ว่ารู้จักคนรวย” เพื่อนหล่อนชวนขึ้น

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” พันไมล์รีบปฏิเสธ เธอเป็นพวกไม่ชอบถ่ายรูป

“เอาหน่อยเถอะไมล์ ถ่ายให้ฉันด้วย” รังสิมายื่นสมาร์ทโฟนของตนให้มาศปรียาเป็นตากล้อง

“ไมล์ยืนชิดเค้กอีกนิด ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น มองกล้องแล้วยิ้มด้วย” ตากล้องจำเป็นบอก นับหนึ่งถึงสามแล้วกดบันทึกรัวๆ สองสามครั้ง ก่อนคืนอุปกรณ์ให้เจ้าของ

“ขอบใจ” หล่อนยิ้มพอใจหลังเลื่อนดูรูปคู่ของเรา

“วันไหนแกจะเข้า Citrus? พวกสาวๆ ถามถึงแกอยู่”

“ไม่พฤหัสก็ศุกร์น่าจะว่าง”

“โอเค แล้วเจอกัน”

“อืม”

“ไปนะไมล์ ฝากเพื่อนพี่ด้วยล่ะ” มาศปรียาบอกกับสาวรุ่นน้อง

“รับทราบค่ะ” พันไมล์พูดยิ้ม ค้อมหัวเล็กน้อยให้รดา

ทำไมพวกสาวๆ ต้องถามหาคุณแมวหยิ่งด้วย?

เธอมีคำถามผุดขึ้นในใจ มองมาศปรียากับรดาที่แยกไปคนละทางกับตนและรังสิมา

 

นาตาลีลอบมองตามหลังพวกพันไมล์ที่คุยกันด้วยสายตาริษยา คิดไม่ถึงว่ารังสิมา ที่แย่งพันไมล์ไปจะเป็นถึงรองประธานใหญ่ของเดอะวัน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศ

เธอมองตามจนกระทั่งพันไมล์กับรังสิมาเดินไปลานจอดรถ ดาราสาวไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

ฉันไม่ยอมรามือง่ายๆ หรอกนะไมล์




Create Date : 27 กรกฎาคม 2567
Last Update : 27 กรกฎาคม 2567 18:11:48 น.
Counter : 188 Pageviews.

2 comments
(โหวต blog นี้) 
คีตัญชลี​ บท​ที่​ 61 ปรศุราม
(26 ก.ย. 2567 10:15:39 น.)
สุดชีวิต ปรศุราม
(23 ก.ย. 2567 11:40:07 น.)
: แสงลอดเมฆ 12 : กะว่าก๋า
(23 ก.ย. 2567 05:40:29 น.)
๏ ... ผี - ผะหมี ... ๏ นกโก๊ก
(22 ก.ย. 2567 15:18:37 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว

  
ราคาสูงนะ
โดย: Wan (สมาชิกหมายเลข 865311 ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2567 เวลา:20:12:21 น.
  
คุณเค้กจ่ายเพื่อเครื่องประดับ ไม่ใช่ค่ะ
ยอมจ่ายหนักเพื่อเอาชนะแฟนเก่ามากกว่า

โดย: นาง (นิ้วนาง-เดียนา ) วันที่: 31 กรกฎาคม 2567 เวลา:21:45:52 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nuinang.BlogGang.com

BlogGang Popular Award#20



นิ้วนาง-เดียนา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]