วงจรย้อนกลับ รถเมล์พัฒนาห่วยลง



กรมการขนส่งทางบก มีแผนปฏิรูปรถเมล์ 269 เส้นทาง โดยจะมีการปรับปรุงเลขสายทุกสายที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมีการปรับเส้นทางในบางเส้นทาง เพื่อลดเส้นทางซ้ำซ้อน ล่าสุดรถเมล์เอกชนบางสาย ได้ขึ้นสายใหม่ตามแผนปฏิรูป ควบคู่ไปเลขสายเก่า

ตัวอย่างเลขสายเก่า-เลขสายใหม่ บางเส้นทาง
(เดิม) สาย 8 (ใหม่) สาย 2-38
(เดิม) สาย 18 (ใหม่) สาย 2-3
(เดิม) สาย 28 (ใหม่) สาย 4-38
(เดิม) สาย 29 (ใหม่) สาย 1-1
(เดิม) สาย 30 (ใหม่) สาย 2-4
(เดิม) สาย 39 (ใหม่) สาย 1-5

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สร้างความมึนงงให้กับคนที่ต้องโดยสารเป็นประจำ คือเห็นแล้วต้องร้องเหี้ยดังๆ เลย มันจะปรับปรุงพัฒนาภาษาบ้าอะไรวะ ทำให้จำยากกว่าเดิม ตอนนี้ยังเป็นแค่ขั้นตอนทดลองซึ่งก้ไม่ได้มีการฟังเสียงประชาชนผู้ใช้บริการเลยว่าประชาชนคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยมากน้อยแค่ไหนอย่างไร

เราขอตั้งข้อสังเกตแบบนี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการกินหัวคิว เอื้อประโยชน์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่อย่างไร มันอดคิดแบบนั้นไม่ได้ เนื่องจากหากการเปลี่ยนสายรถเมล์ลักษณะนี้สำเร็จ สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ คือ

- การเปลี่ยนเลขสายบริเวณรอบตัวรถ
- ป้ายรถเมล์ที่มีจำนวนมากก็ต้องเปลี่ยนแก้ไขตัวเลข

นโยบายนี้เป็นสิ่งที่คนคิดไม่ได้นั่ง คนนั่งไม่ได้คิด คนที่ซวยจะเป็นประชาสัมพันธ์รถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ คนขับ นายท่า เพราะจะเจอผู้โดยสารก่นด่า แต่ที่ซวยสุด คือประชาชนอย่างพวกกูไอ้หอกหัก

คนที่คิดนโยบายเปลี่ยนตัวเลขให้จำยากๆ แบบนี้อ้างว่าที่ต้องกำหนดเลขลักษณะนี้ เพราะจะได้รู้ว่ารถสายไหยวิ่งอยู่เขตไหน แล้วประชาชนอย่างกูจำเป็นขนาดไหนที่จะต้องเรื่องนี้ ความเป็นจริงมันก็แค่สะดวกพนักงานระดับผู้บริหารซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเคยนั่งรถเมล์มั้ยก็เท่านั้น มันทำให้รายงานดูสายงาม แต่สร้างความลำบากให้กับประชาชน ไร้ซึ่ง service mind อย่างแท้จริง



คงขำน่าดูหากชาวต่างชาติมาถามทาง ยังไม่รวมเคสที่เราจำสายรถเมล์ไม่ได้เพราะการเปลี่ยนเลขนะ

สาย 8 เราต้องตอบ Number two dash three eight แทนที่จะตอบแค่ Number 8 การท่องเที่ยวเราปั่นป่วนมามากพอแล้ว นี่คงเป็นช่องทางหาเงินเข้าประเทศกระมังให้พวกนักท่องเที่ยวมันหลงทางจะได้ให้แท็กซี่ฟันหัว แล้วก็เลี้ยวเข้าด่านให้โดนรีดไถแบบดาราไต้หวัน อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย คนไทยมันก็หลง เป็นแผนการกระจายรายได้ที่เยี่ยมจริงๆ

ล่าสุดขายสัมปทานรถเมล์สายที่ทำรายได้ให้องค์กรออกไป ผลที่ได้คือ รถน้อยลง ประชาชนที่ใช้บริการเดือดร้อนมากขึ้น นี่คือการปฏิรูปรถเมล์ในยุคของรัฐบาลนี้? ไม่ต่างจากการปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปประเทศเลย ทุกอย่างพังพินาศหมด ถุย สังคมเฮ็งซวย





To voter

Political Blog 101 จัดไป เป้าหมายแลนด์สไลด์ Political Blog



Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2566
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2566 12:51:31 น.
Counter : 557 Pageviews.

13 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกิ่งฟ้า, คุณRain_sk, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณ**mp5**

  
ยังจำกรณีเปลี่ยนป้ายสถานีรถไฟกลางบางซื่อได้มั้ย? ค่าเปลี่ยน 33.- ล้านบาท ยังไม่รวมป้ายย่อยๆ ตามท้องถนนที่ต้องเปลี่ยนอีกไม่รู้กี่ร้อยกี่พันป้าย รวมเป็นเงินอีกไม่รู้เท่าไหร่ นี่ก็ไม่ต่างกัน ปฏิรูปโดยการเปลี่ยนเลขสายรถ คิดดูว่าค่าเปลี่ยนป้ายที่ตัวรถ และตามป้ายรถประจำทางต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ เพราะต้องเปลี่ยนทุกป้าย กินกันสนุกเลย งบประมาณบ้านเราเยอะจนต้องกู้ แต่ยังใช้เงินงบประมาณแบบนี้

การที่เปลี่ยนลักษณะนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ผู้ใช้บริการเลย กลับกันคนที่บริหารมากกว่าที่สะดวกในการดู เพราะแยกหมวดบ้าบอที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ คนออกแบบระบบนี้ไม่ได้ใช้รถเมล์ แต่คนใช้รถเมล์ไม่มีส่วนในการออกแบบหรือแม้แต่แสดงความคิดเห็น

เรื่องการขายสัมปทานรถเมล์ มันมีหลายสาย แต่สายที่ผมเห็นบ่อยคือสาย 140 คนด่ากันเยอะมาก น่าจะกระทบมากที่สุดแล้วมั้ง เป็นหนึ่งในสายที่ได้ข่าวว่ากำไร แม้จะวิ่งรถเยอะแค่ไหนก็มีคนขึ้น แต่ก็นะ ขายให้เอกชนไป น่าจะได้ไปหลายถึงได้ยอมขายโดยไม่สนความเดือดร้อนของประชาชน

ผมนึกถึงคลิปนี้นะ ถ้าพัฒนารถให้ดีขึ้น ค่าโดยสารเหมาสมไม่สูงจนเกินไป คนก็จะมาใช้บริการมากขึ้น เงินก็ได้มากขึ้น ก็นำเงินที่ได้มาหมุนเวียนปรับปรุงได้ ทุกอย่างก็จะยิ่งดีขึ้นแล้วมันก็จะดียิ่งๆ ขึ้นเป็นวงจรพัฒนาในทางที่ดี กลับกันในปัจจุบัน ราคาแพงขนาดนี้ ความสะดวกในการใช้บริการต่ำ ถ้าคนที่ใช้รถเมล์คำนวนออกมาแล้วไม่ต่างจากออกรถ เขาก็เลือกออกรถครับ เพราะมันสะดวกกว่าเยอะ เมื่อเป็นแบบนี้คนใช้บริการน้อยลงก็ยิ่งได้รายรับน้อยลง ก็พัฒนาไม่ได้เป็นวงจรพัฒนาแบบย้อนกลับ มีแต่จะห่วยลงเรื่อยๆ

https://www.youtube.com/watch?v=4szKnodimIE

ก็ดูแล้วไม่ต่างจากการปฏิรูปตำรวจจริงๆ ตามข่าวที่ชูวิทย์แฉเลย ปฏิรูปจนตำรวจเปิดบ่อนเสียเองเลย เจริญ!!
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:21:25 น.
  
มึนเหมือนกันนน .
แต่รถสัมประทานเดิมก็ยังวิ่งคู่ขนาน
และใช้เบอร์เดิมอยู่
เช่น สาย 8 ซิ่งมหาภัย วิ่ง
แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ(ปากคลองตลาด)
ผ่านที่ทำงาน..นัองๆต้องใช้

เป็นค้น
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:40:20 น.
  
เปลี่ยนแบบข้างบน มึนครับใครจะไปรู้
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:18:44:42 น.
  
ทั้งหมดทั้งมวล
ไปแจบลงตรงเรื่องงบประมาณ
และวิสัยทัศน์ในการทำงาน

รถเมล์ในประเทศเรา
ไม่เคยพัฒนาให้ดีขึ้นเลย
ใครมาบริหารก็ขาดทุนตลอด

ถ้ามันจะไม่ดีขนาดนี้
ก็น่าจะยุบทิ้งไปเลย
ปล่อยให้เอกชนทำเต็มรูปแบบ
รับรองรอดแน่นอนครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:20:54:20 น.
  
เค้าทำไปทำไมอ่ะครับ ถามจริงๆ ......
เหมือนเหงา ไม่มีอะไรทำแล้วนึกอะไรขำๆ สนุก ๆ ป่วน ๆ ขึ้นมาได้เลยอยากลองทำ
จริงอย่างที่คุณว่านะครับ จะบอกสายรถเมล์ยังไง 1-1 งี้หรอ 1-4
การเป็นเลขตัวเดียว สองตัว สามตัว มันไม่ดีตรงไหน

ทำไงได้ครับ คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น แต่กลายเป็นคนซวย
ถ้ากลัวจะไม่ป่วน อันนี้เดี๋ยวป่วนแน่ๆ

จริงๆ แล้วก็เหมือนการเปลี่ยนชื่อสถานีกลางบางซื่อแหละครับ
ชือใหม่มัน.....ชื่ออะไรนะ
ผมคนนึงเขียนไม่ถูกแล้วหนึ่ง

จากบล๊อก
ผมว่าโอกาสเป็นเรื่องสำคัญครับ และน้องอยู่กับผม ผมรู้ว่าน้องทำได้ แต่ทำยังไงให้นายเห็นเหมือนกันว่าน้องผมเก่ง
เค้าอาจจะไม่ได้คิดมาถึงผมหรอกว่า ผมทุ่มเทไปเยอะแค่ไหนน้องมันถึงเก่งได้ แต่ช่างเถอะ แค่ให้คนที่ผมทุ่มเทสอนมาอยู่ได้ มีความก้าวหน้า อยู่กับผมไปนานๆ ไม่ต้องให้ผมสร้างคตนใหม่อีกก็พอแล้วครับ

นายไว้ใจผมแหละครับ และผมก็ดีใจที่เพราะความไว้ใจนั่นแหละที่ทำให้เค้ายอมให้โอกาสน้องผม เพราะเชื่อใจว่าผมจะเลือกคนไม่ผิด
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:24:41 น.
  
สวัสดีค่ะ มาอ่านเรื่องเปลี่ยนสายรถเมล์ ยิ่งงเหมือนกันและเห็นด้วยว่าเปลี่ยนทำไมและทำไมต้องเปลี่ยน ลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายายแก่แล้วจำได้แต่รถเคยขึ้นประจำ แล้วมาเปลี่ยนเดี๋ยวคนแก่หลงทางอีกป่วนทั้งกทม.เลยนะเนี่ย 555

คนต่างจังหวัดเข้าไปมิงงหนักไปกว่าเดิมอีกมั๊ย ความจริงถ้าจะปฏิรูปอะไรน่าจะทำให้จำง่าย เข้าใจง่ายกว่าเดิมนะคะ อ่านแล้วเข้าใจที่ต้องหงุดหงิดได้เลยค่ะ อิอิ

โหวต Political Blog

ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจที่บล็อกนะคะ การเขียนบทร้อยกรองผู้เขียนบางทีไม่ได้มีความเศร้าเสียใจอะไร แต่มีอารมณ์ที่อยากเขียนอยากบรรยายออกมาให้ได้ความไพเราะมากที่สุดและแฝงอารมณ์เศร้าให้มากที่สุด เมื่อใดที่ผู้อ่านอ่านแล้วรู้สึกคล้อยตามและมีอารมณ์เศร้าตามไปด้วยนั้นคือ ความสำเร็จในการเขียนค่ะ
ดีใจจังที่คุณอ่านแล้วเศร้าตามไปด้วยค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:34:21 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:25:56 น.
  
อืม พูดเป็นภาษาอังกฤษนี่ยากจริงๆ แหละ

โดย: หอมกร วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:8:53:52 น.
  
แต่ก่อนสมัยเข้ากรุงเทพฯ ใหม่ ผมงี้จำสายรถเมล์ได้หลายสายเลยครับ มีแผนที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ยุคปัจจุบันถ้าเปลี่ยนกันรอบนี้ น่าจะถึงขั้นงงกันทีเดียว
โดย: The Kop Civil วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:40:51 น.
  
จา่กบล๊อก

คุณเหมือนผมแหละครับ ที่คนร่วมงาน ใช่คำว่าเพื่อนยังไม่ได้เลย
แต่นั่นก็กับบางคน บางประเภท จริงๆ ผมก็เป็นกับหลายคนนะ เค้าเคลมว่าสนิทกับผม แต่เอาจริงๆ ผมไมไ่ด้สนิทด้วยเลย
มีในแผนกผมนี่แหละนี่สนิทกันแบบเพื่อนจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคนครับ บางคนผมก็ เพื่อนร่วมงาน คือเป็นเพื่อนในงาน แต่ไม่ได้ขนาดนั้นในชีวิตจริง

ผมไม่รู้ว่าประสบการณ์เพื่อนร่งมงานของคุณเป็นยังไงอ่ะ
แต่ของผมถ้าในแผนกนะ ดีมากครับ กับแผนกอื่นๆ ก็มีตีรันฟันแทงกันบ้าง ก็stealth killกันไปถ้าชอบ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:24:23 น.
  
บทกวี
คนไม่ค่อยอ่านอยู่แล้วล่ะครับ
ด้วยความยากของภาษาและการตีความ

แม้แต่หนังสือเล่มคนยังอ่านน้อยลงมกาเลยครับ
ตอนนี้ทุกคนหันไปอ่านผ่านมือถือกันหมดแล้ว

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:29:19 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:3:57:37 น.
  
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกแกงส้มนะคะ

แกงส้ม เป็นอะไรที่อร่อยมากๆทำให้ทานข้าวได้มากๆค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:24:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nosurrender.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 7115969
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

บทความทั้งหมด