ปู่เตอร์...เป็นชื่อที่เราทุกคนในบ้านเรียกขานน้องหมาพันธุ์ทางที่มองแล้วไม่เห็นว่าเป็นสายพันธุ์อะไรกันแน่กันอย่างติดปากเมื่อปู่เริ่มย่างเข้าสู่วัย 13 ปี ปู่เตอร์มีชื่อจริง ๆ ว่าปีเตอร์ เมื่อแรกที่มีคนเอามาให้เรานั้น ปู่เป็นน้องหมาลูกผสมปนเปกันยุ่งเหยิง ตัวสั่นระรัว ตัวเล็กบอบบาง อ่อนแอ เหมือนหมาที่พร้อมจะตายทุกเมื่อ...ตอนนั้น แม่ยังไม่คิดว่าปู่จะอยู่กับเรานานถึงขนาดนี้ตลอดเวลา 17 -18 ปีที่ปู่อยู่กับพวกเรามา ปู่ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยเรียกร้อง เป็นน้องหมาที่อยู่ด้วยแล้วสนุก ขี้เล่น อารมณ์ดี เพิ่งมีปีหลัง ๆ ที่ปู่ตามองไม่เห็นแล้ว หูไม่ได้ยินแล้วนั่นแหละ ที่ปู่เริ่มเอาแต่นอน...นอนเกือบทั้งวัน ปู่เริ่มป่วยเป็นโรคหัวใจโต แต่ปู่ก็ยังชอบเดินออกกำลังกายนาน ๆ เป็นหมาขี้ตกใจ ขี้กลัวเสียงฟ้าผ่า ฝนตกเมื่อไหร่ก็ชอบออกไปเดินตากฝน สูดกลิ่นดิน พออายุมากขึ้น ก็ขี้กลัว ตื่นเต้นง่าย ปู่เป็นหมาใจเหล็ก แม้จะถูกนังหมาพุดเดิ้ลนีนี่ลอบกัดเสมอ ๆ แต่อย่างปู่ แม้จะแก่ตาฟ้าฟาง แต่ก็กัดตอบ ให้นังหมาตัวร้ายได้แผลไปได้เสมอ ๆ อีกเหมือนกัน เขาเรียกถึงแก่แต่ก็ยังเก๋าอยู่...ตอนเราย้ายมาอยู่ที่นี่ เราทุกคนตัดสินใจไม่ทำรั้วกั้นปู่เพื่อจำกัดพี้นที่ เพราะเราอยากให้ปู่ได้อิสระอย่างเต็มที่ ปู่เป็นน้องหมาที่ไม่ชอบออกนอกบ้าน แต่ชอบอยู่ที่สนาม เราเห็นปู่กลัวบันได ไม่กล้าเดินลงไป ก็เลยคิดกันไปอย่างง่าย ๆ ว่าปู่คงไม่มีทางตกน้ำหรอกน่า ก็ปู่กลัวบันไดเสียขนาดนั้น และวันนี้ เราถูกปลุกตั้งแต่ตีสาม...น้องสาวร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรมาตามสาย "แก...ปู่หายไป" เราก็บอกให้ลองไปตามหาดู ปู่คงเดินไปไหนไม่ไกลหรอกน่า....แต่แล้วความกลัวเข้าจู่โจมในหัวใจ..."แก...หรือปู่จะตกน้ำ" น้องสาวถาม เรายังบอกว่า ไม่หรอกน่า แม้จะเริ่มวิตกเหมือนกัน...น้องสาววางหูไปเพื่อไปเกณฑ์พี่น้องคนงานก่อสร้างแถวบ้านไปช่วยตามหาปู่...บางคนปั่นจักรยานออกไปไกลถึงหน้าหมู่บ้าน เผื่อปู่หลงไปตีห้า...น้องสาวโทรมาส่งข่าวที่เราไม่ต้องการฟังที่สุด..."แก ปู่ไปแล้วนะ...." ปู่ตกน้ำ...ไม่รู้เหมือนกันว่าเดินดุ่ม ๆ ลงไปถึงท่าน้ำได้อย่างไร จ่า..หัวหน้าคนงานตัดสินใจเอากะละมังผสมปูนขนาดใหญ่ลงไปทำเป็นเรือ แล้วเอามือวักน้ำไปตามหาปู่ ร่างเล็ก ๆ สีขาว ๆ ดำ ๆ มองไกล ๆ เหมือนผ้าขี้ริ้ว ลอยไปติดอยู่ที่ท่าน้ำบ้านอื่น ห่างออกไปสี่หลัง แกหิ้วร่างไร้วิญญาณของปู่ใส่กะละมัง พายกลับมาที่บ้าน น้องสาวเล่าว่า ปู่ถูกฝังที่โคนต้นมะม่วง..."ฉันไม่ได้อยู่ดูหรอกนะ...." น้องสาวเสียใจเกินกว่าจะทนเห็นร่างเล็ก ๆ นั้นถูกวางใส่หลุมและฝังกลบ....ธุลีคืนสู่ธุลี"ปู่ไปดีแล้วแก อย่าลืมไปทำบุญให้ปู่ด้วยนะ ชาติหน้าปู่จะได้ไม่ต้องเกิดเป็นหมา จะได้ไปอยู่ในภพดี ๆ" เราบอกน้องสาวไปด้วยเสียงเรียบ ๆ ฝ่ายนั้นร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่เราไม่ได้ร้องห่มร้องไห้เลย เราวางหูโทรศัพท์ไปอย่างมึน ๆ เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ทั้ง ๆ ที่ตอนน้องสาวโทรมาปลุกตั้งแต่ตีสามเราก็ตื่นแล้ว ความรู้สึกมันด้านชา หนาวเหน็บ เจ็บปวด แต่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ร้องไห้ก็ไม่ออก เข้าใจแล้วว่าที่ฝรั่งเขาพูดกันว่า numb นั้นหมายถึงอะไร....มันหมดความรู้สึกไปเลย ปู่จากเราไปแล้วจริง ๆ หรือ ปู่เจ็บปวดทรมานมากไหม...เราไม่กล้าคิดเลย ร่างเล็ก ๆ นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้กอดปู่อีกแล้ว เสียใจที่ไม่ได้ทำรั้วกั้นปู่ และเสียใจที่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ในเวลาที่ปู่จากไป หากใครเลี้ยงน้องหมามาด้วยเป็นเวลานานจนจำแทบไม่ได้ คงจะเข้าใจความรู้สึกของเรา.... ความรู้สึกที่หมดความรู้สึก มึน ตื้น เหมือนมีคนเอากระบองมาตีกระหน่ำใส่หัว...ปู่อยู่กับเรามามากกว่าครึ่งค่อนชีวิตของเรา เวลา 17 ปีที่ผ่านมา มันนานเหลือเกิน ถ้าเป็นคนปู่ก็คงมีอายุร้อยกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ปู่ให้ความสุขกับพวกเรา ให้เสียงหัวเราะ ให้รอยยิ้ม ให้ความอบอุ่นใจ เป็นเพื่อนตายที่ดีที่สุดของเรา...เราหวังว่า เราก็ให้ปู่มีชีวิตที่ดี และมีความสุขสบายใจเช่นกันขอบคุณสำหรับเวลา 17 ปีที่มีความหมาย...ทุกเช้าเราทุกคนในบ้านจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการตามหาปู่ คอยดูว่าปู่ยังหายใจอยู่หรือเปล่า ปู่ยังอยู่ตรงนั้น นอนใต้ร่มชายคาบ้าน แล้วจากนี้ไปจะมีใครมาคอยให้ดูลมหายใจ จะมีใครมาให้คิดถึง ให้เป็นห่วง....จะมีใครมาให้รักเท่าปู่ เวลา 17 มันนานนะ ถ้าเรามีลูก...ก็เรียกว่าลูกเราโตมาพร้อมกับปู่เลยล่ะ เหมือนน้องเราที่โตมาเกือบพร้อมปู่ เพราะตอนปู่มาอยู่กับพวกเราน้องเราอายุแค่สิบสอง....ปู่จ๋า เราขอโทษนะ ขอโทษที่เราดูแลปู่ไม่ดีพอ ขอโทษที่เราไม่ได้ล้อมรั้วกั้นปู่ ถ้าเราคิดลึกอีกนิด ปู่คงอยู่กับเราไปอีกนาน และจากเราไปอย่างสงบ ไม่ใช่แบบนี้ เราขอโทษนะปู่....ลาก่อนปู่เตอร์ที่รัก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก ปู่จะอยู่ในใจของเราตลอดไป
สุขสบายดีไหมคะ ระลึกถึงเสมอนะคะ...
ได้รับ ..สราญรมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เรียกไปเมล์คุณหนูแดงไม่ได้ค่ะ
เคยเลี้ยงน้องหมา เขาตายก็จะตายตามหลายรุ่นแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่สะดวก ไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา เลยเลิกเลี้ยง ไปรักน้องหมา ของหลานๆแทนค่ะ
ครั้งนึง เรากั้นส่วนที่ว่างเป็นประตูกระจก มันใสมาก น้องหมาวิ่งชนด้วยยังไม่ชิน เขาเจ็บมาก พอถามว่า .."จี้..เจ็บไหมลูก" เขายิ้มให้อายๆค่ะ... เคยเห็นปู่เตอร์ยิ้มไหมคะ...
ยินดีเหลือเกิน ที่มีโอกาสได้คุยด้วยในวันนี้ค่ะ ฝากความรักระลึกถึง...ถึงคนข้างตัวด้วยค่ะ
พุธวารสิริสวัสดิ์-สุมนัสมโนเกษมค่ะคุณหนูแดงขา