ต้องหาโอกาสไปบ้างแล้วครับ

  

น่าไปมากๆเลยค่ะ วันก่อนไปอัมพวาเเต่เจอคนเยอะ เลยถอยทัพ เห็นป้ายตลาดท่าคา เเต่ตอนนี้นประมาณ 6 โมงเย็น ตลาดคงวายไปเเล้วมั้งค่ะ

  

....โชคดีที่เห็นข้อมูลนะคะ ไม่ง้านมีสิทธิ์ผิดคิว เพราะไม่เคยดูข้างขึ้น ข้างแรม เลย ที่นี่แปลกดี ขอบคุณค่ะ....

ถ่ายรูปสวยค่ะ เป็นธรรมชาติดี (ปราศจากสารกันบูด photoshop อิอิ)

  

เคยสอบถามพ่อค้าแม่ค้าแล้วได้ความว่า
หลังเที่ยงไปแล้ว ตลาดจะวาย แม่ค้าเริ่มเก็บของกลับบ้าน

ดังนั้นถ้าจะไป แนะนำให้ไปในช่วงเวลาประมาณ ๙:๐๐ - ๑๒:๐๐น. ครับ

  

รูปไม่ยอมขึ้นเลยค่ะ สนใจตลาดน้ำที่นี่เหมือนกันเพราะไม่ไกลจากบ้านแม่

ไว้จะเข้ามาดูใหม่น่ะค่ะ

  

เคยไปแต่อัมพวา

อยากไปที่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ได้จังหวะซะทีเลย

  

  

น่าไปเที่ยวมากมากเลยค่ะ
รูปถ่ายก็สวย ได้บรรยากาศที่จัง
เอ... ขอแปลกใจด้วยคนว่าทำไม
เขาถึงใช้ปฏิทินแบบข้างขึ้นข้างแรม
เกี่ยวอะไรกับกระแสน้ำหรือเปล่าคะ

ขอบคุณนะคะที่นำสิ่งดีดีมาแบ่งปันกัน

  

ตลาดที่นี่เป็นตลาดนัดของชาวบ้านแท้ๆครับ แบบว่าไม่มีนักม่องเที่ยวเขาก็อยู่ได้เพราะชาวบ้านเขาก็ค้าขายกันเองอยู่แล้วครับ ตลาดที่นี่เป็นตลาดน้ำชาวบ้านจากใกล้ๆ เช่น ดอนมะโนรา บางน้อย คลองบ้านใต้ คลองเม็ง เขาก็จะพายเรือมาขายของที่นัดแห่งนี้ น่าจะมีมามากกว่า 60 ปีแล้วหละครับ

ที่รู้ก็เพราะถ้าพายเรือเลยขึ้นไปอีกนิดก็จะถึงบ้านผมแล้วหละครับ อิ อิ ขอบคุณครับที่มาแนะนำเเหล่งท่องเที่ยวแถวบ้านผมให้คนอื่นๆรู้จัก

  

อยากได้รูปตลาดน้ำท่าคาครับ เนื่องจากกรมทางหลวงชบบทสมุทรสงครามได้จัดทำป้ายแนะนำแหล่งท่องเที่ยว สายคลาดน้ำท่าคา เป็นป้ายรูปภาพตลาดน้ำท่าคา เห็นภาพที่โพสในเวปนี้ถ่ายได้สวยดีครับ จึงอยากได้รูปมาทำป้ายครับ แต่รูปที่ลงในเวปขนาดยังเล็กไปครับ ไม่ทราบว่าทางเจ้าของรูปภาพ พอจะให้รูปที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ได้รึป่าวครับ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดครับ ยังไงก็ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้านะครับ nong9572@hotmail.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมทางหลวงชนบทจังหวัดสมุทรสงคราม (ช่างอิฐ ) ปล.ยังต้องการรูปดอนหอยหลอด และหาดเจ้าสำราญ ของจังหวัดเพรชบุรี ด้ายครับ

  

เห็นจาก comment ก็ดีจัยมากๆเลยค๊ะ
ที่คนส่วนใหญ่ ยังเห็นคุณค่า และ วัฒนธรรมที่นี้
อยากให้ ทุกคน หันมาสนใจและ ไปเที่ยวที่ ตลาดน้ำท่าคา กันเยอะๆนะคะ
จะได้รุ้จักธรรมชาติที่แท้จิง และน้ำใจ ของ ชาวบ้าน ชาวสวนที่นี้
มันอาจจะเป็นตลาดน้ำที่เล็กๆ
ไม่ใหญ่เหมือน ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำดำเนิน
แต่เช้าบ้านที่นี้ ไม่เคยแปรผันหรือแปรรูป ความเป็น ชาวท่าคาเลย
เมื่อก่อนนี้ ประมาณ 20 30 ปี นั้น
มี พ่อ ค้า แม่ ค้า เยอะกว่านี้
เยอะกวาตลาดน้ำอัมพวาด้วยละมั่ง
แต่ปัญจุบัน พ่อค้า แม่ค้า เหล่านั้น
เสียชีวิตไปหมดแล้ว
ที่ ยัง เหลือ ปัจุจุบัน คนเป็นรุ่น ลูกๆ รุ่นหลานๆคงจะไม่มี ไปพายเรือแลกเปลี่ยนสิ้นค้ากันละ





ถ้าใครสนใจ เกี่ยวกับ ตลาดน้ำท่าคา ก็แอสมาได้เลยนะคะ
ยินดีและเต็มใจ ให้คำปรึกษา กับการมาเที่ยวที่นี้ คะ ^^

  

craziness_ying@hotmail.com

  

เมื่อตอนเด็กๆ ราว 45ปีผ่านมาจำได้ว่าแม่มักพาไปตลาดท่าคาซึ่งอยู่ใกล้บ้าน
พวกเราจะเรียกสั้นๆว่าไป"นัด" เพราะชาวบ้านเขาจะนัดกันมาขายของและแลกเปลี่ยนสินค้ากัน เป็น คำ แรม แต่ตอนนี้มีเสาอาทิตย์ด้วยดอนเด็กต้องนั่งตรงหัวเรือเพื่อคอยกันเรือไม่ให้กระทบกันพ่อค้าแม่ค้ามากมายเอาของในสวนมาขายมากมาย พ่อค้าในเมืองแม่กลอง นำเสื้อผ้า ข้าวสาร อาหารแห้งมาขายมากมาย หมู ไก่ เนื้อมาขาย เป็นตลาดธรรมชาติที่ใหญ่ ยาวมากที่ว่าใหญ่เพราะมีเรือหลายร้อยลำนำสินค้ามาขายและมีชาวบ้านพายเรือมาซื้อของมากมายเพราะตอนนั้นไม่มีถนนรถตัดผ่านเลยที่ว่ายาวที่สุดเพราะใช้ลำคลองท่าคาตั้งแต่หน้าวัดมณีสรรค์ถึงประตูนำท่าคายาวหลายกิโลมากตอนนี้ถนนตัดผ่านทำให้พ่อค้าและลูกค้าออกไปซื้อตามแหล่งค้าขายอื่นๆทำให้พ่อค้าแม่ค้าน้อยลงคนชื้อออกตามเส้นทางรถแต่ยังคงตลาดธรรมชาติไว้ดีใจจังตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

  

ผมเจอตลาดน้ำท่าคามานานหลายปีแล้วครับ ตอนนั้นผมจะไปเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกครับ เมื่อก่อนตลาดน้ำแห่งนี้จะเปิดตอนข้างขึ้นและข้างแรม
2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ครับ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำแห่งนี้ที่คงความเป็นธรรมชาติไว้ครับ แต่อนิจจาไม่ทราบว่าเพราะความอยากเจริญแท้ ๆ ทุกวันนี้ตลาดน้ำแห่งนี้เปลียนแปลงไปครับ ร้านค้าริมตลิ่งเดิมมีร้านเดียว ก็โดน
รื้อออกไป ตอนนี้มีร้านค้าเพียบเลย และเปิดทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ด้วย
ก๋วยเตี๋ยวเรือเดิมมีเพียงเจ้าเดียว ตอนนี้มีร่วม 10 เจ้าครับ กลายเป็นว่าเป็นตลาดน้ำเพื่อธุรกิจชัด ๆ ตลาดน้ำแห่งนี้ผมชอบไปมากครับเพราะคงธรรมชาติเอาไว้ ผมไปครั้งหลังสุดเจอกับการเปลี่ยนแปลง ผมรับไม่ได้ครับ ต่อไปนี้ผมคงไม่ไปตลาดน้ำท่าคาอีกแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นความเข้าใจผิดของ อบต.
ที่บริหารตลาดน้ำท่าคาหรือไม่ จึงทำให้ตลาดน้ำท่าคาต้องหมดมนต์ขลังในตัวเองไป ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากเลยครับ

  

เจ้าของที่มันเลวไง พอมีธุรกิจเข้ามามันกัอไล่ที่ให้ย้ายออกแม้แต่ญาติพี่น้องมันยังไม่ให้อยู่เลยเค้าอยู่มาเกือบร้อยปีแม่งยังไล่ได้
แล้วเป็นไงรู้ไหม?ก้อเหมือนความรู้สึกด้านบนไง
ตัวมันเองขายน้ำตาลปีบรวยจนเหลือใช้
ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป

  

อยากไปอ่ะ

  

สวัสดีคะทุกท่านที่เข้ามาเยี่อมชมเว็ปนี้ใครต้องการที่พักเชิญติดต่ดคุณจรูญ เจือไทยได้เลยค่ะหากไม่เจอถามเเม่ค้าพ่อค้าในตลาดท่าคาไดเลยคะติดคลองเล็กเเละสวนมะพร้าม

  

มาบอกวิธีทำยาจีดครับ เพราะที่บ้านเมื่อก่อนทำขาย เริ่มต้น นำเมล็ดพืชของต้นเรียกว่า ต้นยา มาหวานปลูกที่ท้องร่องสวน เมื่อโตขึ้น ก็เก็บใบยานั้นมา(คล้ายใบยาสูบหรือชนิดเดียวกันไม่แน่ใจ)ฉีกเอาก้านกลางออก เสร็ยแล้วน้ำใบยานั้นมาม้วนๆ ใส่รางตัวม้า (เรียกว่าม้าหั่นยา) แล้วใช้มีดใบใหญ่ และคมมากๆ หั่นออกมาเป็นเส้นเล็กๆเท่าที่จะแสดงฝีมือหั่นได้ ยิ่งเล็กยิ่งนุ่มสวย หั่นเสร็จ ในกระจาดเอาไปล้างน้ำจนหมดยางยา ยกขึ้นมาผึ่งให้เสด็จน้ำ ห่อไว้ในกะสอบข้าวแบบกระสอบป่าน สักพัก นำออกมาแผ่ตากไว้บนแผง เรียกแผงตากยา กว้างยาวประมาณ 4 x 8 ฟุต และตากแดดจนแห้ง โดยกลับไปมา 2 ข้างด้วย ตามภาพที่เห็น ปัจจุบัน ก็มีคนทำอยู่แต่น้อยมาก

  

ไปมาเหมือนกัน เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ไปพักที่วังหิ่งห้อยรีสอร์ทที่อยู่ตรงข้ามตลาดน้ำท่าคาเลย ตอนกลางคืนมีโอกาสนั่งเรือชมหิ่งห้อย บรรยากาศดีมาก สวยมาก หิ่งห้อยเยอะมาก เช้าชมตลาด มีคนเยอะมาก แม่ค้าพายเรือมาขายของก็เยอะ ของก็ราคากันเอง ใครสนใจ ลองไปเที่ยวดู ที่นี้ยังเป็นธรรมชาติมากๆ