หนีไข้หวัด2009 ในภาวะที่ไข้หวัด 2009 ระบาดหนักเช่นนี้ ผมเองนั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงครับ ทุกวันนี้พยายามหลีกเสี่ยงสุดชีวิต ย้ายห้องทำงานหนีผู้คนไปเลย แต่เหมือนกับว่าหนีเท่าไรก็หนีไม่พ้น วันนี้ไปทำงานพบว่ามีคนเป็นไข้หวัด 2 คน คนแรกคือเจ้าหน้าที่แผนก อีกคนคือหัวหน้าผมเอง คนแรกนั้นไปตรวจแต่เช้า ได้ยาต้านไวรัสมากินเรียบร้อย ตรวจเสร้จก็กลับมาที่แผนกไม่ยอมกลับบ้าน ผมก็บอกให้กลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ บอกว่ายังพอทำงานได้ เฮ้อ ทำไมไม่รู้เลย เราก็ไม่อยากให้มาแพร่เชื้อ แต่นี้ก็ไม่ยอมกลับ เดินไปเดินมาทุกห้อง ไอไปทั่ว น่ากลัวสุดๆ ผมเลยหนีเข้าห้องทำงานที่อุตสาห์ย้ายหนีผู้คนชั่วคราว พออยู่ในห้องทำงาน ผมก็ไม่ได้ใส่ N95 เพราะมันห้องของเรา คงจะปลอดภัย นั่งอ่านslide ไปเรื่อยๆ หัวหน้าดันเข้ามาแล้วมาไออย่างน่ากลัวในห้อง ผมหมดความอดทนครับ จะว่าผมโอเวอร์ก็ว่าเถอะ ผมกลับเลย ขอทำงานกลางคืนแทนช่วงนี้ จะเอาslideกลับไปอ่านที่ห้องก็ลำบากไม่มีหนังสืออ่าน กลางวันมีแต่คนแพร่เชื้อ ผมคิดว่าทำไมคนเรารู้ก็รู้ ตัวเองป่วยก็น่าจะหยุดงาน รัฐบาลเค้าประกาศกันปาวๆ ทำไมยังมาทำงานแพร่เชื้อกันอีก เจ้าหน้าที่คนแรกนี่ผมพูดได้น่ะแต่เหมือนจะไม่เข้าใจ ไม่ยอมกลับบ้าน แล้วยังมาบ่นว่าเหมือนหมอรังเกียจผมเลย ตรูไม่ได้รังเกียจแต่พี่ไม่สบายมันก็แพร่เชื้อได้ ส่วนหัวหน้าก็อีกคน ผมบอกไม่ได้แต่ก็น่าจะรู้ตัวเอง น่าจะหยุดงานไปเลย จะมาทำงานทำไม งานบริหารก็ฝากคนอื่นไปก่อนก็ได้ เซ็ง ![]() สงสัยเค้าห่วงงานมากมั้งครับ จนลืมนึกถึงคนรอบข้างไป
โดย: DoRaePEET
![]() ขอบคุณบทความดีๆ แล้วอย่าลืมใส่ ผ้าปิดจมูกกันนะคะ
โดย: Aussie angel
![]() |
บทความทั้งหมด
|
เราก้อคงต้องระมัดระวังตัวกันต่อไป