ค.บรรไดวางหลังโลง เขาใช้ไม้ไผ่ขัดผูกเป็นขั้นเหมือนบรรไดขนาดส่วนยาวและกว้างเท่ากับปากโลง ส่วนขั้นนั้น ได้พบคำอธิบายของผู้เขียนบางฉบับว่า มี ๓ ขั้น เปรียบเทียบไว้ว่าเป็นปัญหาธรรม คือหมายความว่า ภพ ทั้ง ๓ แต่ตามที่ได้เคยเห็นปรากฏแก่ตาที่เขาทำกันก็ดี และบางตำราก็ดี มี ๔ ขั้น ยังมีคำกล่าวกันอยู่ว่า "สี่ขั้นบันไดผี ขั้นคี่บันไดคน" ดังนี้
ตามที่พากันทำไม้ไผ่เป็น ๔ ขั้น เรียกว่าบันไดผีนี้นิยมกันว่า เพื่อให้ผู้ตายพาดขึ้นไปไหว้พระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตามที่ได้ถือกรวยดอกไม้ธูปเทียนไว้แล้วนั้น แต่ในท้ายตำนานพระโกศและหีบศพบรรดาศักดิ์ ซึ่งเป็นหนังสือของขอพระสมุด มีอธิบายว่า เมื่อครั้งใช้หีบบรรจุศพซึ่งยังไม่มีฝานั้น ใช้ผ้าคลุมแทน ถ้าเป็นผ้าชนิดที่หนาหนักก็ตกท้องช้างเลยหลุดลงไปเสียในหีบ จึงต้องผูกไม้เป็นคานพาดปากหีบรับผ้าไว้กันไม่ให้ตกลงไป
ในมหากาลเถรว่า บันไดสามชั้นนั้นเปรียบเหมือนภพทั้งสาม คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ อันภพทั้งสามนี้สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเวียนเกิดเวียนตายอยู่ไม่รู้ขาด ดุจคนขึ้นและลงบรรได ฉะนั้น ต่อเมื่อได้วาสนาและบารมีแก่กล้าเต็มเปี่ยมดีแล้ว จนได้บรรลุมรรคผลและนิพพานนั้นแหละจึงพ้นจากภพทั้งสามนี้ได้
ส่วนบรรไดสี่ขั้นนั้นยังไม่ได้พบที่มา น่าจะหมายถึงอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นทางหรือบรรไดให้หลุดพ้นจากภพทั้งสามนั้น
แวะมาเยี่ยมโลงอีกครั้งค่ะ..
ยังไม่จบหรอค่ะ..ฮิๆ
มีประโยชน์ดีนะค่ะ
แต่บางทีเกิดฉุกเฉินก็ลืมคิดถึงไปเลยค่ะ
เดือนนี้เป็นเดือนที่ดีดีของอ้อมแอ้มค่ะ
เลยจะมาชวนทำสิ่งดีดีในชีวิตค่ะ
ขอให้มีความสุข-ความเจริญตลอดไปนะค่ะ