BOTOX เมโสแฟต ทำหน้าเรียว ไม่ต้องบินไปทุบหน้าไกลถึงเกาหลี!









สวัสดีค่ะทุกคนนนนน ^^ วันนี้เมย์จะขอมารีวิว การฉีดโบท็อกซ์กรามของเมย์กัน

หลังจากที่เราเองถูกถามเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งจริงๆก็เคยรีวิวเอาไว้ในเพจและก็ตอบไปบ้างแล้ว

แต่ก็นานนนนนมากแล้ว ที่เคยเขียนไว้ ตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 2 ปีละ ที่เคยฉีดโบท็อกซ์มา

อย่าถามค่ะว่ากี่ครั้ง!!! 5555 เพราะก็หลายอยู่ เอาเป็นว่า มาลุยกันเลย ... ไปโลดค่ะ




ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับโบท็อกซ์กันก่อนเนอะ

เพราะก่อนเมย์เลือกทำโบท็อกซ์เนี๊ย ก็ศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจอยู่พักนึงเลยเหมือนกัน

เพราะเมื่อก่อน โบท็อกซ์มันก็ยังไม่บูมหรือแพร่หลายมากเท่าตอนนี้

คลินิกที่จะทำก็ต้องเลือกที่ดี ไว้ใจได้ และได้มาตรฐาน งั้นเรามาทำความเข้าใจกันเกี่ยวกับ

 โบทอกซ์กันก่อน จากที่เมย์ได้สอบถามความรู้มาจากคุณหมอนะคะ







โบท็อกซ์ คืออะไร?

"โบท็อกซ์" (BOTOX) เป็นชื่อทางการค้าหรือยี่ห้อของสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A)

ของบริษัท Allergan อเมริกา ซึ่งสารนี้เป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย

ชื่อ Clostridium botulinum โดยคุณหมอบอกว่า ยี่ห้อจากอังกฤษก็จะใช้ชื่อ Dysport 

ยี่ห้อจากเกาหลีก็มีหลายยี่ห้อเช่น Neuronox ,Botulax หรือ Nabota เป็นต้น

แต่ด้วยความที่ BOTOX เป็นยี่ห้อแรกของอเมริกาที่มีการศึกษาวิจัยมานาน

จนใช้กันอย่างแพร่หลาย คนจึงเรียกเหมารวมและติดปากชื่อยี่ห้อนี้

ซึ่งตัวเมย์เองก็เคยฉีดมาหลายยี่ห้อ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ



โบท๊อกซ์ ออกฤทธิ์ อย่างไร?

โบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกฤทธิ์ที่ส่วนปลายของเซลล์ประสาท จึงออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อ

บริเวณที่เราฉีดนั้นมีการคลายตัวจึงทำให้เกิดการลดเลือนริ้วรอยที่หดเกร็งอยู่และถ้าฉีดที่กล้ามเนื้อกราม 

ก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง จึงทำให้หน้าเรียวเล็กลงนั่นเองค่ะ 

โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 5-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ 7-14 วัน



ผลของการฉีด โบท๊อกซ์ อยู่นานเท่าใด?

ผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งตัวเลขไม่ตายตัวในแต่ละบุคคล

ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิว การแสดงสีหน้าบนใบหน้า หรือสภาวะการใช้ชีวิตประจำวัน 

จากนั้นก็ต้องทำการฉีดซ้ำซึ่งขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคล




อย่างที่บอกไปว่า ปัจจุบันการฉีดโบท็อกซ์มีความนิยมอย่างแพร่หลายมาก 

ซึ่งปริมาณในการฉีด  หรือ ราคา ก็ต่างกันไปแล้วแต่คลินิก บางคนฉีดแล้วได้ผล

บางคนไม่ได้ผล ทำไม? และเพราะอะไร

เอาเป็นว่า เมย์ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่จากประสบการณ์ 2 ปี

กับรูเข็มที่นับไม่ถ้วนนี้ 555 เมย์จะยกเอาคำถามที่คนส่วนใหญ่ถามเมย์มาตอบ 

เป็นข้อเป็นข้อไป ตามประสบการณ์ที่เมย์ได้ทำมาละกันนะคะ




1. ทำไมถึงเลือกการฉีดโบท็อกซ์มากกว่าการทำศัลยกรรมตัดกราม

ตอบ : ก่อนหน้าเราหาข้อมูลมาพอสมควร ทั้งเรื่องการตัดกรามและโบท็อกซ์

สรุปคือ การตัดกรามถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ เจ็บตัวมากกว่าและต้องใช้ระยะเวลา

ในการพักฟื้นนาน ซึ่งเราไม่มีเวลาพักนานขนาดนั้น เพราะต้องทำงาน

และราคาก็ค่อนข้างสูง ดีที่ตัดครั้งเดียวแล้วเรียวเลยแหละ 5555

แต่กับการฉีดโบท็อกซ์นั้น มันไม่ต้องใช้เวลาในการฟักฟื้น เห็นผลรวดเร็วไม่ต่างกัน

เจ็บน้อยกว่า แถมราคาก็ไม่สูงมาก (ยิ่งราคาโปรนี่ รีบวิ่งไปรอเลยค่ะ)

แต่ข้อเสียก็อาจจะต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ แค่นั้นเอง



2. โบท็อกซ์กรามต้องฉีดกี่ยูนิต ?

ตอบ : คำถามนี้มีคนถามมาบ่อยมาก (ตอบ ไปถามหมอค่ะ 5555 ล้อเล่น!)

โดยปกติที่เมย์ฉีดโบท๊อกซ์อเมริกาหรือเกาหลี ก็จะอยู่ที่ 50-70 ยูนิต ซึ่งแล้วแต่ขนาดกล้ามเนื้อ

ของแต่ละคน บางคนกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ บางคนขนาดกล้ามเนื้อเล็กกว่า 

ซึ่งคุณหมอก็จะเป็นคนประเมินให้เราเอง โดยการให้เรากัดฟันแล้วปล่อย กัดแล้วปล่อย

มันก็จะมีก้อนกล้ามเนื้อปูดๆขึ้นมาตรงกรามข้างเวลาเรากัด (ลองทำดูสิๆๆๆ อิอิ)

ซึ่งบางคนก็ขึ้นมาน้อย ก็ฉีดน้อย บางคนก็ขึ้นมาเป็นลูกเลยจ้า นั่นคือฉันเอง

ก็ฉีดไป 50-60 ยู แต่.... ปริมาณในการฉีด ก็ขึ้นอยู่กับอีกปัจจัยด้วย นั่นก็คือ

ยี่ห้อที่เราเลือก เพราะคุณหมอบอกว่ายี่ห้ออเมริกาและอังกฤษก็มีความเข้มข้นของตัวยา

แตกต่างกันในหน่วยวัดยูนิต จึงต้องใช้เทคนิคการผสมยาและจำนวนยูนิตที่แตกต่างกัน



3. ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ?

ตอบ : จริงๆ อันนี้ตอบอยากนะ ว่าอันไหนดีกว่าอันไหน

ตัวเมย์เองก็ลองฉีดมาแล้วหลากหลายยี่ห้อ 5555

ไม่ว่าเป็น ยี่ห้ออเมริกา Botox Allergan ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูงกว่าตัวอื่น

ถัดลงมาหน่อยก็เป็นพวกยี่ห้อเกาหลี Neuronox , Botulax ซึ่งราคาจะเบาลงหน่อย 

หรือจะเป็น Nabota ที่เค้าว่ากันว่า เห็นผลชัดเจนรวดเร็วในสองสัปดาห์ก็ลองมาแล้ว ส่วนตัวแล้ว 

เราว่า ถ้าเป็นของแท้ ก็ให้ผลเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกันหมดนะ อย่างที่บอก 

ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีดในแต่ละครั้ง ความเหมาะสม 

ในการฉีด และการผสมตัวยาของแต่ละคลินิกค่ะ



4. ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน?

ตอบ : ฉีดย้ำทุกๆ 4-6 เดือนค่ะ แล้วแต่คน สังเกตได้เลยนะ ว่าเมย์ย้ำคำว่าแล้วแต่คนบ่อยมาก

เพราะของพวกนี้มันจะมากำหนดตายตัวไม่ได้จริงๆ ถ้าคุณเลือกจะทำแล้ว ก็ต้องหมั่นสังเกตตัวเอง

 และดูแลตัวเองหลังการรักษาด้วย ที่บอกว่า 4-6 ก็คือ เมื่อเราฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว

 เราจะเริ่มเห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์ - 1 เดือน หลังจากนั้น ตัวยาจะยังคงอยู่และค่อยๆสลายไปเอง

แต่กราม ไม่ใช่สิ่งที่จะฉีดแล้วหายไปเลยตลอดชีวิต บ๊ายบาย ลาแล้วลาเลยไม่ใช่

กล้ามเนื้อกรามจะกลับมาอีกแน่นอน ช้าเร็วขึ้นอยู่กับการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณส่วนนั้น

ยกตัวอย่าง อย่างเมย์ ที่กรามใหญ่เพราะเป็นคนชอบกินเนื้อมาก กกกกกกกกกกกกกก

ซึ่งเนื้อเนี๊ยมันเคี้ยวยากอยู่แล้ว ทั้งเหนียวทั้งแข็ง เนื้อย่างเอย ข้าวเหนียวเอย ส้มตำเอย 555 หิว

พวกนี้ที่ว่ามา หรือจะเป็นอาหารที่ต้องใช้แรงในการเคี้ยวมากๆ  เป็นเป็นจัยหลักอย่างนึง

ที่ทำให้กล้ามเนื้อกรามเรา กลับมาเร็วค่ะ แต่ถ้าบางคน ทานอาการง่ายๆ 

เคี้ยวง่าย ใช้กล้ามเนื้อน้อย กรามก็กลับมาช้า หน้าก็เรียวอยู่ได้นานนั่นเอง



5. ทำไมบางคนฉีดแล้วลง บางคนไม่ลง

ตอบ : จริงๆแล้ว ลงไม่ลงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะ สำหรับเมย์

เพราะบางคนดูจากหน้าตัวเอง ว่าหน้าเราใหญ่ ก็เลยไม่ฉีด โบท็อกซ์

แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้าใหญ่เกิดจากลายสาเหตุนะทุกคน

บางคนหน้าใหญ่จากโครงกระดูกตัวเอง อันนี้โบท็อกซ์คงช่วยไม่ได้

บางคนหน้าใหญ่เพราะไขมันแก้มเยอะ เพราะเป็นคนเจ้าเนื้อ อันนี้ฉีดโบท็อกซ์อย่างเดียว

ก็ช่วยได้แค่ในระดับนึงเท่านั้น ฉีดให้ตายก็ไม่เล็กค่ะ ถ้าไม่ฉีดสลายไขมันออกไปด้วย 

อย่างที่บอกว่า ต้องให้คุณหมอดูให้จริงๆ บางคนมีกรามนะ ไม่เยอะมาก แต่แก้มนี่แบบเยอะเลย 

พอฉีดโบไป บอกหน้าไม่ลดๆ แต่พอให้ลองกัดฟันดู อ้าว!!! กรามไม่มีละหนิ 

ละจะมาบอกว่า ฉีดโบไม่ลง อันนี้ก็ไม่ได้ เพราะเหตุผลหลักที่หน้าไม่เล็กลงคือยังมีไขมันอยู่นั้นเอง

ส่วนคนที่ฉีดลงและเห็นผลชัดเจน อย่างเมย์ เป็นตัวอย่าง เพราะ… เมย์มีกรามที่ใหญ่มาก

และไม่ค่อยมีไขมันแก้มเลย พอฉีดกรามปุ๊ป มันเลยลงปั๊ปชัดเจนอย่างที่เห็นค่ะ





อะ … ยืดยาวมาก พยายามอธิบายสุดๆ เพื่อคนที่กำลังหาข้อมูลนะค่ะ

ตอนนี้ เรามาดูรีวิวกันดีกว่า ว่าที่เมย์ฉีดโบท็อกซ์ที่ผ่านมา เห็นผลยังไงกันบ้าง

ส่วนตัวแล้ว เมย์จะฉีดโบท็อกซ์ย้ำทุกๆ 5 เดือนนะค่ะ เป็นระยะเวลาคร่าวๆ ที่กรามจะกลับมาเต็มที่ของเมย์

 แต่รอบล่าสุดเนี๊ย ไม่ได้ฉีดกรามมาประมาณ 10 เดือนเต็มละ เพราะในครั้งแรก 

คุณหมอแนะนำเมย์ว่า อยากให้มาฉีดย้ำอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ 4-6 เดือน

 ประมาณ 4-5 ครั้ง หลังจากนั้น ก็ค่อยทิ้งระยะห่างออกไปได้เรื่อยๆ ค่ะ










เมย์ทำที่ไหน ทำมานานหรือยัง ?

อันนี้เมย์ฉีดที่ เอยา คลินิก ( AYA Clinic ) นะคะ เป็นคลินิกที่เมย์ฉีดอยู่ประจำมา 2 ปีแล้วค่ะ

คุณหมอชื่อคุณหมอฝ้าย คุณหมอจะคอยให้คำแนะนำทุกครั้งที่เมย์มาทำหน้า

อันไหนควรทำก่อน หลัง ยังไงคุณหมอแนะนำหมด เพราะรูปหน้าคนเราต่างกันเนอะ

บางคนอยากได้แบบนั้นแบบนี้ แต่มันจะเหมาะกับเราไหม หรือส่วนอื่นของใบหน้าไหม

คุณหมอจะช่วยดูความต้องการของเรา และปรับให้เข้ากับรูปหน้าเราค่ะ

 ใครสนใจก็เข้ามาปรึกษาคุณหมอที่คลินิกก่อนได้เลย ^^

คุณหมอสวยและใจดีมาก ก กก ก ก ที่สำคัญมือเบาสุดๆ อันนี้คอนเฟิร์ม อิอิ

พิกัด : ยูเนี่ยนมอล ชั้น F2 ฝั่งหน้าห้างค่ะ




มาค่ะ มาดูล่าสุด 10 เดือนที่ห่างหายจากเข็มไปนั้น + น้ำหนักขึ้นด้วย 3 โล

กรามจึงมา แก้มจึงมี ดังรูปค้าาาาาาาา






Befor : หลังไม่ได้ฉีดมา 10 เดือน + แก้มออก After : หลังครบ 1 เดือน + ฉีด Fat ลดแก้ม 1 ครั้ง

       ฉีดไปวันที่ 11 เมษายน ปัจจุบันฉันกลับมาหน้าเรียว





จะเห็นได้เลยว่า แก้มหาย กรามหดกันเลยทีเดียว 1 เดือน เป๊ะ หน้าเป๊ะตามตรงการค้า ^^

ที่เหลือก็อยู่ที่การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ นั้นก็คือ หลังฉีด 

ให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือบริหารกล้ามเนื้อกราม บ่อยๆ ประมาณ 30 นาที

เพื่อให้ตัวยากระจายตัว งดโดนความร้อนจัด พวกอบซาวน่า นวดหน้า 

หรืออะไรที่ต้องโดนความร้อนจัดๆ และงดดื่มแอลกอฮอลก่อนสัก 1-2 อาทิตย์ ค่ะ

เพื่อให้ตัวยาทำงานอย่างเต็มที่และไม่สลายไปกับความร้อนหรือแอลกอฮอล์นะค่ะ

นอกนั้นก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย ถ้าใครกลัวกรามกลับมาไวก็พยายามลด 

หรืองดการเคี้ยวอาหารแข็งๆลงก็จะช่วยได้ในระดับนึงน้า




และไหนๆจะไหนแล้ว มีหลายคนที่อาจไม่ได้รู้จักเรามาก่อนหน้า

เราจะพามาชมหน้าสวยๆของเค้าก่อนรู้จักคำว่า Botox กัน พรีชีพอีกแล้ว วววว ไปค่ะ !!!!








เห็นได้ชัดถึงกรามก้อนใหญ่บนใบหน้า 555



ปัจจุบัน โบท็อกกราม + ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc.

(คาง ไว้จะมารีวิวให้อีกทีน้า วันนี้ยาวมากละ เดี๋ยวหลับกัน 555)

ปัจจุบันเวลาทำหน้านิ่งๆ หน้าจะดูเรียวมาก แต่เวลายิ้ม ก็จะมีลูกแก้มหน่อยๆ

 อันนี้เราชอบมาก เวลาฉีดแก้มพวกนี้ก็จะบอกคุณหมอว่าเราอยากได้แบบมีแก้มลูกส้มไว้ 

ฉีดลดแค่ช่วงแก้มล่างที่มันคล้อยๆพอ จ้า
















โอเคน้าาา หวังว่าข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังอยากฉีดโบท็อกซ์ไม่มากก็น้อยนะค่ะ 

( พูดเหมือนเขียนคำนำส่งคุณครู 555) ปล. ตัวเท่าฝาบ้าน กระทู้นี้เป็นเพียงอีกหนึ่งรีวิว 

เพื่อให้คนที่สนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ให้เป็นอีกตัวเลือกในการศึกษาก่อนการตัดสินใจทำเท่านั้น

เมย์ไม่ได้มีเจตนาให้คนนิยมเสพติดความหน้าเรียว หน้าวีเชฟแต่อย่างใด

การตัดสินใจในการทำก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความชอบส่วนบุคคลเนอะ ^__^

ใครที่สวยธรรมชาติก็ดีอยู่แล้วค่ะ ใครๆก็อิจฉา แต่ถ้ามีโอกาส อยากลองทำ 

อยากปรับเปลี่ยนรูปหน้าตัวเอง ก็ขอให้เลือกศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจนะค่ะ

วันนี้ไปแล้ว ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างยืดยาวค้า ^________^




ติดตามกันได้ที่

IG : maybedong


หรือเฟสบุ๊คติดตามกันได้ที่

www.facebook.com/maybefc


ไปละจ้า จุ๊บๆ





Create Date : 21 พฤษภาคม 2559
Last Update : 21 พฤษภาคม 2559 20:04:20 น.
Counter : 1659 Pageviews.

1 comments
  
โครงหน้าเปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ สวยขึ้นเลย
โดย: เนย IP: 124.122.82.111 วันที่: 8 มิถุนายน 2559 เวลา:10:43:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maybedong.BlogGang.com

maybedong
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

บทความทั้งหมด