ผมนอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นสัปดาห์
ผมมีอาการที่พอจะดีขึ้น...จนหมอให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้ ผมก็มาพักกับบ้านพี่สาวที่ชื่อพี่น้อย
"เราจะสร้างบ้านอีกหลังให้มิคอยู่ดีไหมแม่ บ้านหลังเล็ก ๆ มิคจะได้อยู่สบาย ยังไงมิคก็คงจะไม่รอดแล้ว สร้างอยู่ในบริเวณบ้านของน้อยก็ได้ น้อยจะได้อยู่ดูแลน้อง" เสียงพี่น้อยพูดคุยกับแม่ขณะที่ผมกำลังนอนหลับอยู่ เขาคงไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกยังไง
"แต่น้องอยากไปอยู่กับตู่นะลูก ลูกก็รู้ว่ามิคมันเคยอยู่แต่บ้านหลังนั้น พอมันมาเปิดร้านทำธุรกิจของมันคนเดียวมันก็ดันมาป่วยแบบนี้"
"ให้มิคไปอยู่กับตู่ก็ได้นะแม่ ให้น้องได้หาหมอดี ๆ เดี๋ยวนี้หมอที่รักษาเก่ง ๆ ก็มีตั้งเยอะ"
"แล้วครอบครัวของตู่ล่ะ เขาจะยอมเหรอ น้องเราเป็นแบบนี้นะ แล้วเรายังมีปัญหาเรื่องแจ๊คมันมีเมียน้อยอีกไม่ใช่รึไง"พี่น้อยพูดกับพี่ตู่
"แจ๊คก็ต้องยอมล่ะ นี่น้องของตู่ บ้านก็เป็นบ้านที่ซื้อด้วยกัน ตู่ไม่สนใจแล้วล่ะพี่น้อย ยังไงมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นไปมากกว่านี้
ตู่จะเอามิคไปหาหมอที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ น้องจะต้องไม่ตาย"ทุกคนสนทนากันเหมือนกับว่าผมกำลังจะตายเร็ว ๆ นี้นี่แหละ
"หมอบอกว่ามิคอาจจะไม่รอดแล้วนะ พี่อยากให้น้องได้อยู่สบาย ๆ ก่อนตาย"
"แต่มิคต้องหายสิพี่น้อย ตู่จะดูน้องเอง"ผมฟังทุกคนพูดกันแล้วก็แอบร้องไห้ อย่างน้อยครอบครัวของผมเขาก็ยังรักผม...ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง
สองสามวันต่อมาผมถูกย้ายมาอยู่กับพี่ตู่ที่ขอนแก่น
อาการของผมเหมือนจะย่ำแย่ลง...ผมไม่ได้ยินเสียงตัวเองพูด รู้สึกตัวเองเหมือนคนหูอื้อ ผมเดินไม่ไหวแทบจะหมดเรี่ยวแรง
เวลาที่รู้สึกทรมานที่สุดคือเวลาเข้าห้องน้ำเพื่อไปฉี่ ผมไม่มีแรง...ต้องกลั้นใจแทบตาย และเริ่มมีอาการปวดศรีษะมากขึ้นเรื่อย ๆ
"พี่ตู่ แม่...มิคไม่ไหวแล้วพามิคไปโรงพยาบาลได้ไหม"ทุกคนดูจะตกใจมากที่อยู่ ๆ ผมก็มีอาการทรุดลงกระทันหัน
ไปถึงโรงพยาบาลแห่งใหม่...หมอไม่ยอมส่งผมไปตรวจเฉพาะทาง หมอให้เพียงแค่ยาระงับปวดมา
แล้วก็เอาเครื่องมืออะไรไม่รู้ส่องไปที่หูของผม แล้วบอกว่าความดันผมต่ำมาก
หมอบอกให้กลับไปเอาผลเลือดที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้งแล้วค่อยมาหาหมออีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ผมต้องกลับไปโรงพยาบาลเดิมอีกครั้งกับแม่...มันทรมานมาก ๆ
ผมก็เดินแทบจะไม่ได้อยู่แล้ว แต่ทุกคนก็ให้ผมเดินไปเอาเอกสารเอง เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้แม่ไปรับเอกสารแทนผม
กว่าจะได้เอกสารยืนยันผลเลือดและประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิมผมก็แทบจะสลบ
สัปดาห์ต่อมาผมถึงได้ถูกย้ายไปตรวจเฉพาะด้าน ผมโดนตรวจเลือดซ้ำอีกสองครั้ง โดนตรวจปอด และให้ไปพบกับจิตแพทย์
"คุณรู้ใช่ไหมคะว่าคุณเป็นอะไร" จิตแพทย์ถามกับผม
"ผมทราบครับคุณหมอ ผมเป็นเอดส์"
"แล้วคุณทราบมั๊ยคะว่าเอดส์มีกี่ระยะ"
"สามระยะมั๊งครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจ รู้แต่ว่าผมอยู่ในระยะสุดท้ายแล้วใช่ไหมครับ"ผมตอบกับหมอ วินาทีนั้นผมอยากจะร้องไห้เหลือเกิน
"อืม...เอดส์รักษาได้ค่ะ แม้จะยังรักษาแบบหายขาดยังไม่ได้ แต่เราก็สามารถควบคุมให้ดีขึ้นได้ถ้ามีการรักษาและทานยาอย่างสม่ำเสมอ
คุณสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการรักษากับทางโรงพยาบาลรึเปล่าคะ ไม่ต้องเสียเงินค่ายาเองเพราะคุณก็มีประกันสังคมกับโรงพยาบาลของเรา
อยู่แล้ว ถ้าสนใจเราจะให้คุณกรอกเอกสารและเข้าพบตรวจเฉพาะทางค่ะ"
"ครับ"ผมตอบตกลงโดยที่ไม่คิดอะไร เพราะผมไม่มั่นใจเลยว่าผมจะหายจากโรคนี้
เมื่อพบกับคุณหมอเฉพาะทางซึ่งเป็นอาจารย์หมอก็ตรวจดูแขนขาผม เอาฆ้อนมาเคาะเข่าผม หมอบอกว่าผมไม่เป็นอะไรมาก แต่มีเชื้อราในปาก และผลปอดออกมาว่าผมเป็นปอดอักเสบ จะต้องกินยารักษาปอดให้หายก่อนถึงจะได้กินยาต้าน
แล้วหมอก็ให้ยารักษาปอดกับผมพร้อมกับยาอมรักษาเชื้อราในปาก...
ช่วงเวลาแห่งการเป็นเจ้าชายเลือดผสมของผมได้ถือกำเนิดมาเต็มขั้นแล้วล่ะ
ต่อไปนี้เจ้าชายคงต้องสู้กับเจ้า HIV ไปตลอดทั้งชีวิต...ผมได้แต่ภาวนาให้มีสักวันที่ผมจะหายและไม่ต้องทรมานกับสิ่งที่ผมเป็นด้วยเถิด
มันจะเป็นโรคปอด โรครา ก็รักษาไปตามอาการ ทานยา เดี๋ยวมันก็หายเองเเหละค่ะ พี่น้องทุกคนรักคุณนะคะ ต้องเข็มเเข็งค่ะ
อ่านมาถึงตอนที่ "หมอบอกว่าผมไม่เป็นอะไรมาก" ก็สบายใจหายห่วง ขอบคุณที่นำเรื่องราวของคุณมาเป็นวิทยาทานค่ะ