จากวังสู่กระทรวง ==> Museum of Siam
จากวังสู่กระทรวง เมื่อสัก 10 ปีที่ผ่านมา ถ้าใครที่เคยผ่านไปผ่านมาแถวท่าเตียนจะพบกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่สนามบินน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แอบโปรโมท) ส่วนสถานที่ทำการเดิมนั้นในปัจจุบันนี้ คือ Museum of Siam เป็นพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ในกทม.อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ

บริเวณกระทรวงพาณิชย์เดิมนั้น เป็นพื้นที่วังเก่าของ 2 กรมหลวง (กรมหลวงอดิศรอุดมเดช กรมหลวงบดินทร์ไพศาลโสภณ)และ 1 กรมหมื่น (กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ) โดยสื่อมวลชนสมัยก่อนเรียกว่า กระทรวงท่าเตียน เพราะสถานที่ตั้งของกระทรวงพาณิชย์อยู่บริเวณท่าเตียนนั่นเอง และได้ใช้ทำการมาเป็นเวลากว่า 80 ปี (พ.ศ. 2463-พ.ศ.2543)

การที่ได้ไปในสถานที่เก่าๆ ที่ซึ่งคนที่ร่วมงานในปัจจุบันเค้าทำงานอยู่นั้น มันชวนให้นึกย้อนถึงอดีต อยากรูจังว่าในอดีตคนที่เค้าเคยอยู่กันที่นี่เค้าจะทำงานกันอย่างไร เพราะดูแล้วสถานที่มันแคบมาก เค้าจะอยู่กันอย่างไร แล้วชั้นไหน ห้องไหน คือที่ทำงานของสำนักเรา อยากรู้ ๆ อย่างนี้ต้องตามไปดู



/

     พอเข้าไปในบริเวณก็พบกับการแสดง เป็นกิจกรรมของ สสส. มีการแสดงของชาวพื้นเมืองในแต่ละภาค ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พรรคใหญ่ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ทริปฉายเดี่ยวก็อย่างนี้ทุกทีหล่ะ



     จุดแรกที่เข้าไปภายในอาคารสิ่งที่พบ คือ ประชาสัมพันธ์ จะคอยแจกสูจิบัตรงาน แผนผังแต่ละห้อง ซึ่งส่วนที่ 1 ก็คือ ตึกเก่าเล่าเรื่อง เป็นการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของกระทรวงพาณิชย์ และมีข้าวของเครื่องใช้โบราณสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจัดแสดง



     บริเวณที่เป็นส่วนประชาสัมพันธ์ของงาน แอบถามน้องเจ้าหน้าที่ว่า ไม่เก็บค่าเข้าอย่างนี้แล้วนำค่าใช้จ่ายมาจากที่ไหน น้องเค้าบอกว่า ได้รับการสนับสนุจากสสวท. กระทรวงวิทฯ ประมาณ นั้น อย่างนี้ต้องตบมือให้ //ตบมือ



     ห้องถัดไป คือ ห้องเบิกโรง เคยได้ยินว่า ทีมงานที่สร้างจูราสิคพาร์ค เป็นผู้สร้างระบบแสง สี เสียง ภายในห้องนี้ ว้าวดูอลังการงานสร้างเหลือเกิน เมื่อถึงเวลาจะเป็นหนังฉายให้เราดูเกี่ยวกับการตามหาความเป็นไทย (ไม่รู้ตอนนี้ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า) ความยาวของหนังประมาณ 15-20 นาที



     ออกจากห้องเบิกโรง ก็ไปต่อที่ห้อง ... จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าภายในห้องนั้นจะจำลองบรรยากาศงานประเพณีสมัยก่อนให้ชม ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศของงานวัด เวทีมวยราชดำเนิน ศาลาเฉลิมไทย ฯลฯ



     ไปตามหาความเป็นไทยต่อที่ชั้นที่ 3 แต่ระหว่างบันไดขึ้นนั้นพบป้ายสัญลักษณ์ที่แปลกประหลาด เค้าเรียกว่า คนกบแดง //งึมงัม แปลกดี ระหว่างทางขึ้น เหลือบไปเห็นหน้าต่างที่นี่ มันทำให้นึกถึงอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ ดูแล้วมันเหงาได้ใจ เก็บไว้ดูเพื่อสร้างความเหงาให้กับตัวเองเป็นอีก 2 เท่า





     ดูภาพแบบแนวตั้งกันบ้าง ได้จังหวะที่เค้ากำลังกระโดพอดี อยากถ่ายภาพแนวนี้มานานแล้ว แต่ไม่ค่อยมีโอกาส


     ทางเข้าสู่ตึกเก่าเล่าเรื่อง


     เสียดายที่ไหวไปนิด ที่เห็นนั้นคือพิ้นกระจก ด้านล่างเป็นคามไม้เก่าของอาคาร ประมาณนี้หล่ะ จำไม่ค่อยได้ แบบว่าความจำสั้น







     บรรยากาศจำลองกรุงเทพสมัยก่อน







     ถึงแล้วชั้นที่ 3 เปิดตำนานสุวรรณภูมิ เป็นการอธิบายถึงดินแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิว่ามีอาณาเขตเพียงใด มีหลักฐานอะไรบ้างที่ขุดค้นพบ นอกจากนี้

ยังมีเกมส์ให้เล่น ที่นี่เค้าเข้าใจทำเหลือเกิน ถ้าเป็นพิพธภัณฑ์ทั่วไป ไม่มีอะไรจูงใจ ทุกอย่างต้องอ่านเองตามป้าย ซึ่งก็ขาดแรงจูงใจในการอ่าน แต่ที่นี่

เข้าใจคิด นำคอมพิวเตอร์มาใช้ใหเป็นประโยชน์ ขอตบมือให้ 10 ที







     ห้องเปิดตำนานสุวรรณภูมิ ถ้าจำไม่ผิดลูกปัดสุริยเทพที่เคยมีข่างเมื่อปีที่แล้ว ก็จะอยู่ภายในห้องนี้ด้วย หุๆ นอกจากของเก่าๆ แล้ว ภายในส่วนนี้ยังได้อธิบายถึงวิถีการดำเนินชีวิตก่อนที่จะอาณาจักรสุโขทัยเกิดขึ้นซะอีก









     อีกห้องหนึ่งที่ชอบเป็นพิเศษ คือ ห้องพุทธบูชา เป็นห้องที่มือ แต่สงบ มีเสียงคนอ่านธรรมะให้ฟัง และกลางห้องจะเป็นเก้าอี้ตัวใหญ่ๆ ให้นั่ง แล้วมีแสงไฟที่ฉายเป็นดอกบัวออกมา และก็มีธรรมะข้อที่เป็นหัวใจสำคัญของพุทธศาสนาให้อ่าน (อิทัปปัจจยตา คือ ปฏฺจจสมุปบาท สิ่งทั้งหมายเป็นปัจจัยอาศัยกันและกัน ซึ่งได้ยกตัวอย่างของบทเพลงที่เกี่ยวกับฝนฝห้ฟังว่า "ฝนเอยทำไมจึงตก จำเป็นต้องตกเพราะว่ามันร้อง กบเอยทำไม่จึงร้อง จำเป็นต้องร้อง เพราะว่าท้องมันปวด" อะไรประมาณนี้หล่ะ) ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยกันและกัน อืม รีบออกจากห้องนี้ดีกว่า ขืนอยู่นานกว่านี้กลัวจะบรรลุ 555














































Create Date : 04 ตุลาคม 2552
Last Update : 11 ตุลาคม 2552 8:05:14 น.
Counter : 1322 Pageviews.

1 comments
  
ภาพสวยมากเลยครับ มิวเซี่ยมสยาม อยู่ใกล้ ๆนี่เองว่าง ๆ จะไปอยู่่เหมือนกันครับ
โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:6:50:57 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Little-lek.BlogGang.com

Little_Lek
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]